สวัสดี ตั้งใจตั้งกระทู้เพื่อมาเล่าประสบการณ์ ในการทำงานในร้านเสื้อผ้านะ
ก่อนอื่นเลย เราน่ะ เพิ่งทำงานที่ร้านเสื้อผ้าที่นี่ได้ไม่นานมากน่ะหรอก แต่ก็เห็นคนเข้าๆออกๆจนชินตา
บ่อยครั้งที่เราชอบเสิร์ชหาคีย์เวิร์ด "พนักงาน xxxx" เพื่อแอบดูว่าพนักงานในร้านโดนลูกค้าไปบ่นหรือป่าว
ซึ่งแน่นอนว่ามีเยอะเหมือนกัน เวลาอ่านๆดู อยากจะลองเล่าให้ฟังน่ะครับ ว่าตั้งแต่ทำงานที่นี่มาน่ะ เราเจออะไรมาบ้าง
1.ลูกมักจะบ่นว่า พนักงาน Fitthing room หน้าบึ้ง หน้าเป็นตูด
ตอบ : ใช่เลย 555555
ไม่ใช่ว่าการยืน Fitthing room มันเคร่งเครียดอะไรนะ แต่มันน่าเบื่อมากๆ กับการที่ต้องคอยพับผ้า หนีบผ้าตลอดเวลา ลูกค้าลองสิบชิ้น แต่ไม่ซื่อเลยซักชิ้น หรือเหตุการณ์อื่นๆยกตัวอย่างเช่น
ลูกค้า A ถือสินค้ามา 4ชิ้น พนักงานก็ให้ป้ายหมายเลข4ไป (ป้ายหมายเลขระบุจำนสนสินค้าที่ลูกค้านำไปลองใน Fitthing Room) หากลูกค้าใส่ตัวที่นำมาลอง ไม่ได้ แทนลูกค้าจะแจ้งหรือถามพนักงาน ในsizeที่ตนอยากได้ แต่กลับกลายเป็นว่า ลูกค้าน่ะ ชอบเดินใส่แค่ชุดชั้นใน ไปหยิบเองบ้าง หรือบางทีก็ฝากให้คนที่มาด้วยกันหยิบให้ แล้วก็ก็ไม่แจ้งพนักงานบ้าง สุดท้ายแบบพอเอาของออกมาจากห้อง Fitthing room จำนวนสินค้ามันก็ไม่ตรงจำนวนป้าย คือแล้วก็ต้องมาตรวจกระเป๋า บลาๆๆ เสียเวลามากๆ
หรือบางที มาลองๆ เสร็จแล้วไม่ถูกใจ ก็ทิ้งไว้ในห้องลองมันนั้นแหละ เดินตัวปลิวออกไปสะดื้อๆ ทิ้งให้พนักงานตาดำๆ มาไล่เก็บกวาด แทนที่ลูกค้าคิวต่อไปจะได้ใช้ห้องเลย กลับต้องมาเสียเวลารอเก็บกวาดซากจากคนก่อนหน้า
และที่น่าเบื่อมากกกก ที่สุดของ Fitthing room คือ ถ้าร้านไหนแยกแผนกชัดเจน ว่าอันไหนของผู้หญิง / ผู้ชาย กฎที่มีแน่ๆคือ ห้ามเพศตรงข้ามเข้าห้องลองนั้นๆ เช่น ผู้หญิงห้ามเข้าห้องลองของคุณผู้ชาย หรือคุณผู้ชายห้ามเข้าห้องลองคุณผู้หญิง
แต่ก็นั้นแหละครับ พอเราเอ่ยคำว่า "จะเป็นอะไรไหมครับ/คะ ถ้าจะให้คุณผู้หญิงรอข้างนอก" ก็กลายเป็นลูกค้าไม่พอใจแล้ว
แต่มันก็มีทีเด็ดกว่านั้น คือพวกที่สามี ภารยาตัวติดหนึบหนับ ตัวออกห่างกันไม่ได้เนี่ย ชอบเข้าไปในห้องลองพร้อมกันสองคน แล้วคือแบบ พูดก็แล้ว อะไรก็แล้ว มันน่าเบื่อมากก แบบ โอ้ย มันจะตายหรอแค่ออกมายืนรอตรงทางเข้า แล้วคนข้างในนี่ใส่เสร็จก็เปิดม่านออกมาโชว์ตัวให้ดูเนี่ย
แล้วฝากบอกไว้นะ มันมีจริงๆ ผู้ชายที่เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงมาใช้บริการ Fitthing ผู้ชาย
ฝั่งแผนกผู้หญิง ผู้ชายจะไม่ค่อยเข้าไปนะ เหมือนผู้ชาย เขามี mint set ว่า fitthing room ผู้หญิง = ห้องน้ำผู้หญิง เพราะฉนั้นน่ะ ผู้ชายห้ามเข้า
1.1 ลองเสื้อผ้าเสร็จ แล้วอย่าเอาไม้แขวนทิ้งไว้ในห้องลองล่ะ ถืออะไรเข้าไป ก็เอาออกมาให้หมด ให้ครบทุกชิ้น
2.พนักงานพูดจาห้วนๆ หรือ บริการไม่เต็มที่ รอของนาน ฯ
ตอบ จะพยายามห้วนให้น้อยที่สุด เราเชื่องานบริการทุกรอบก่อนเข้างานจะมีการบรีฟ ว่าแต่ละวันต้องทำอะไร บลาๆ รวมถึง Servise mind ด้วยแหละ
บางทีมีเหตุการณ์แบบ เรากำลังเดินไปหยิบสินค้าให้ลูกค้า A ที่ ในระหว่างที่เรากำลังเดินไป มันก็จะมีลูกค้าB,C,D เรียกให้ไปเช็คของบ้างแหละ หาตัวนั้น ตัวนี้ อันนี้จากในเน็ต จากนั้นนี่ สารพัด แต่พอเราบอกว่าไป ลูกค้าติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านอื่นก่อนนะคะ/ครับ ลูกค้าก็แบบเอาละ เริ่มมีน้ำโห ใจจริงอยากกราบขออภัยยย แต่เราก็ติดลูกค้าท่านอื่นมาก่อน หรือมีหน้าที่อย่างอื่นที่ต้องไปทำจริงๆ
3.ถ้าลูกค้าจะขอสินค้าตัวใหม่ เช่นว่าตัวที่ยังไม่มีใครลอง จะโอเคไหม
ตอบ.จริงๆเราแนะนำให้ทุกคน ขอให้พนักงานร้านเสื้อผ้าหยิบตัวใหม่/ชิ้นใหม่จากStock ถ้ามี
เพราะ ร้านเราเป็นร้านสาขาที่แขกอินเดีย แขกๆ เยอะมาก และวีรกรรมของพวกนังเป็นที่สยดสยองที่สุด เช่น พวกนางมักมีกลิ่นตัวเป็นอันที่รู้ดี เมื่อเขาหยิบเสื้อผ้าไปลองสวมใส่ แน่นอนว่ามันย่อมมีกลิ่นติด และทางร้านเราต้องส่งซัก (ก็พนักงานนี่แหละ ซักมือกันเอง) ทำให้เสียโอกาสการขายดี และ ไม่พอ บ่อยมากที่เจอรอยเปื้อนเป็นคราบรองเท้า ใช่ค่ะ พวกนังเหยียบ
คือพวกแขก ไม่รู้ทำไม ชอบถอดเสื้อผ้ากองกับพื้น ละก็ย่ำไปมา น่ารังเกียจมาก คือ ไม่มีมารยาทหรือไง ของขายก็ควรจะวางบนเก้าอี้ให้ห้อง หรือแขวนก็ได้ จริงปะ
เพราะฉนั้นเราสนับสนุนและยินดี หากลูกค้ารีเควสของชิ้นใหม่
เอาเข้าจริงๆเราก็แอบมีเนือยๆบ้าง เวลาลูกค้าขอชิ้นใหม่ใน Stock นะ แบบมันก็ไม่ได้มีตำหนิหรืออะไร แต่เราเข้าใจดีนะ ว่าใครๆก็อยากได้ของใหม่เอี่ยม
แต่ถ้าบอกว่าไม่มี ก็คือไม่มีนะ คือบางที เราเพิ่งเช็คให้ลูกค้าท่านก่อนไป แบบเออจำได้ละ ว่าitemนี้หมดแล้ว ถ้าคนต่อไปเราจะตอบได้เลยว่า อ๋อ หมดแล้วครับ/ค่ะ แต่ลูกค้าบางคนเขาจะรู้สึกแบบ โกหกปะ ไม่อยากไปหยิบให้ตรูใช่มะ ด้ายยยย ตรูไปให้พนักงานคนอื่นเช็คให้ก็ได้
3.1 เสริมจากข้อ 3 อยากให้ลูกค้าปิดผ้าม่านห้องตัวเองให้มิดชิด มันมีเทคนิคอยู่นะ ให้ดึงม่านตรงกลางให้ตึงออกไปด้านข้าง พอม่านด้านข้างมันร่นๆ ก็เอามือลูบจากบน ลงล่าง ให้มันชิบขอบพนัง พนักงานก็ไม่ได้โอเคที่เห็นอะไรต่อมิอะไรนะฮะ
3.2 คุณผู้ชายอย่าใส่แต่ Underwear ออกมาเดินข้างนอกกกกก!!!!!
3.3 ถ้าอยากได้ตัวใหม่ ,เปลี่ยนไปลอง Size ใหม่ ก็แจ้งพนักงานหน้า Fitthing room เขาจะรีเควสของให้พนักงานท่านอื่นเอามาให้เอง ลูกค้าแค่รอเฉยๆ
4.อยากขอร้องถึงลูกค้า เวลาชำระเงินที่ Counter
ลูกค้าถ้าชำระด้วยบัตร อย่าเพิ่งแย่งชิงปากกาที่ใช้เซ็นชื่อ ไปถือก่อนนะ แคชเชียร์ที่ร้านเราจะต้องใช้ปากกาวงรอบยอดสุทธิของบิลนั้นๆก่อน เพื่อเป็นการให้ลูกค้าตรวจดูด้วย ว่ายอดชำระ กับยอดที่กดออกมาเครื่องรูดบัตรน่ะมันตรงกันไหม เผื่อรูดขาด รูดเกินไรงี้
แล้วก็ระหว่างรอพนักงานคิดเงิน อย่าเอาบัตรเคาะเค้าเตอร์เล้ยยยย อันนี้ถือว่าขอแล้วกัน 🙏
แล้วก็เวลาไม่อยากรับถุง หรือถ้าได้ถุงใหญ่/ถุงเล็ก ซ้อนถุง หรือ ซื้อหลายชิ้นแต่อยากแยกถุงหลายๆใบ ก็รีบบอกแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่มาบอกเอาตอนปิดปากถุงไปแล้ว คือ บางทีก็นะ....🤣
5.เมื่อไหร่จะ Sale ล่ะน้อง?
ตอบ "มันก็ Sale เวลาเดิมของทุกปีแหละข่ะ !!! "
บริษัทห้ามบอกลูกค้า เข้าใจตรงกันนะ ไม่ใช่ว่าห้ามถาม แต่ถามมาก็บอกไม่ได้อยู่ดี
6.อย่ามารื้อกองผ้าตอนร้านปิด
อันนี้ถืว่าขอละกัน กราบได้กราบแล้ว
คือการผับผ้าตอนร้านปิดมันไม่ได้ แป๊บๆ เสร็จนะ ผ้าตั้งกี่กอง ฮือๆๆ เรียง Size สะดิบดี อีก5นาทีร้านปิด มีใครไม่รู้มารื้อเอา Size XL ไปลองทาบตัว แถมยังขยุ้มวางที่เดิมอีก จะร้องไห้
เอาจริงๆ เรายอมรับตรงๆ ว่า servise mind เราไม่ได้ถึงจุดที่จะมา Servise ลูกค้าที่เลือกเสื้อผ้าตอน 5นาที หรือครึ่งชั้วโมงสุดท้าย
คือแบบ เราต้องสปีดตัวเองมากๆ ในการผับผ้าก่อนปิดร้าน การผับผ้าที่ต้องยืนก้มหลัง ติดต่อกันนานๆ ทรมานมากๆ จริงๆ ถ้าลูกค้าจะเอาสินค้าตัวนั้นจริงๆ แต่ไม่อยากรื้อให้กองมันล้มเสียหมด ก็แจ้งพนักงานดีกว่านะ ฮือๆๆๆๆ เดี๋ยวนุหยิบให้เอง กองจะได้ไม่เสีย
6.1 เสริม ร้านเสื้อผ้าไม่รู้ร้านอื่นเป็นไหม แต่ร้านเรา เขาเรียงไซส์ xs > s > m > L > xl > xxl เพื่อความสวยงาม และการสะดวกในการหาไซต์ให้ลูกค้า ครั้งหน้า ลองดูนะครับ ถ้าจะหา size m ลองหาตัวหลังจาก size s นะ
จริงๆ เรายังมีเรื่องอื่นอีกเยอะจะเล่า
แต่เอาแค่นี้
สรุป ทุกอาชีพมีความเหนื่อย และมีความกดดัน ที่แตกต่างกันออกไป เพียงแต่การทำงานด้านการขายของ การบริการ ต้องมี Servise mind เยอะ ลูกค้าบางท่านอาจจะคิดว่า ทำไมน้องบริการไม่ดี พูดจาห้วนตึง ไม่น่ารัก แต่หวังว่าถ้าลูกค้าได้มาอ่านกระทู้นี้ อาจจะเข้าใจคนทำงานสายอาชีพบริการมากขึ้นนะครับ/ค่ะ 😊
ความในใจของพนักงานร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ถึงคุณลูกค้า
ก่อนอื่นเลย เราน่ะ เพิ่งทำงานที่ร้านเสื้อผ้าที่นี่ได้ไม่นานมากน่ะหรอก แต่ก็เห็นคนเข้าๆออกๆจนชินตา
บ่อยครั้งที่เราชอบเสิร์ชหาคีย์เวิร์ด "พนักงาน xxxx" เพื่อแอบดูว่าพนักงานในร้านโดนลูกค้าไปบ่นหรือป่าว
ซึ่งแน่นอนว่ามีเยอะเหมือนกัน เวลาอ่านๆดู อยากจะลองเล่าให้ฟังน่ะครับ ว่าตั้งแต่ทำงานที่นี่มาน่ะ เราเจออะไรมาบ้าง
1.ลูกมักจะบ่นว่า พนักงาน Fitthing room หน้าบึ้ง หน้าเป็นตูด
ตอบ : ใช่เลย 555555
ไม่ใช่ว่าการยืน Fitthing room มันเคร่งเครียดอะไรนะ แต่มันน่าเบื่อมากๆ กับการที่ต้องคอยพับผ้า หนีบผ้าตลอดเวลา ลูกค้าลองสิบชิ้น แต่ไม่ซื่อเลยซักชิ้น หรือเหตุการณ์อื่นๆยกตัวอย่างเช่น
ลูกค้า A ถือสินค้ามา 4ชิ้น พนักงานก็ให้ป้ายหมายเลข4ไป (ป้ายหมายเลขระบุจำนสนสินค้าที่ลูกค้านำไปลองใน Fitthing Room) หากลูกค้าใส่ตัวที่นำมาลอง ไม่ได้ แทนลูกค้าจะแจ้งหรือถามพนักงาน ในsizeที่ตนอยากได้ แต่กลับกลายเป็นว่า ลูกค้าน่ะ ชอบเดินใส่แค่ชุดชั้นใน ไปหยิบเองบ้าง หรือบางทีก็ฝากให้คนที่มาด้วยกันหยิบให้ แล้วก็ก็ไม่แจ้งพนักงานบ้าง สุดท้ายแบบพอเอาของออกมาจากห้อง Fitthing room จำนวนสินค้ามันก็ไม่ตรงจำนวนป้าย คือแล้วก็ต้องมาตรวจกระเป๋า บลาๆๆ เสียเวลามากๆ
หรือบางที มาลองๆ เสร็จแล้วไม่ถูกใจ ก็ทิ้งไว้ในห้องลองมันนั้นแหละ เดินตัวปลิวออกไปสะดื้อๆ ทิ้งให้พนักงานตาดำๆ มาไล่เก็บกวาด แทนที่ลูกค้าคิวต่อไปจะได้ใช้ห้องเลย กลับต้องมาเสียเวลารอเก็บกวาดซากจากคนก่อนหน้า
และที่น่าเบื่อมากกกก ที่สุดของ Fitthing room คือ ถ้าร้านไหนแยกแผนกชัดเจน ว่าอันไหนของผู้หญิง / ผู้ชาย กฎที่มีแน่ๆคือ ห้ามเพศตรงข้ามเข้าห้องลองนั้นๆ เช่น ผู้หญิงห้ามเข้าห้องลองของคุณผู้ชาย หรือคุณผู้ชายห้ามเข้าห้องลองคุณผู้หญิง
แต่ก็นั้นแหละครับ พอเราเอ่ยคำว่า "จะเป็นอะไรไหมครับ/คะ ถ้าจะให้คุณผู้หญิงรอข้างนอก" ก็กลายเป็นลูกค้าไม่พอใจแล้ว
แต่มันก็มีทีเด็ดกว่านั้น คือพวกที่สามี ภารยาตัวติดหนึบหนับ ตัวออกห่างกันไม่ได้เนี่ย ชอบเข้าไปในห้องลองพร้อมกันสองคน แล้วคือแบบ พูดก็แล้ว อะไรก็แล้ว มันน่าเบื่อมากก แบบ โอ้ย มันจะตายหรอแค่ออกมายืนรอตรงทางเข้า แล้วคนข้างในนี่ใส่เสร็จก็เปิดม่านออกมาโชว์ตัวให้ดูเนี่ย
แล้วฝากบอกไว้นะ มันมีจริงๆ ผู้ชายที่เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงมาใช้บริการ Fitthing ผู้ชาย
ฝั่งแผนกผู้หญิง ผู้ชายจะไม่ค่อยเข้าไปนะ เหมือนผู้ชาย เขามี mint set ว่า fitthing room ผู้หญิง = ห้องน้ำผู้หญิง เพราะฉนั้นน่ะ ผู้ชายห้ามเข้า
1.1 ลองเสื้อผ้าเสร็จ แล้วอย่าเอาไม้แขวนทิ้งไว้ในห้องลองล่ะ ถืออะไรเข้าไป ก็เอาออกมาให้หมด ให้ครบทุกชิ้น
2.พนักงานพูดจาห้วนๆ หรือ บริการไม่เต็มที่ รอของนาน ฯ
ตอบ จะพยายามห้วนให้น้อยที่สุด เราเชื่องานบริการทุกรอบก่อนเข้างานจะมีการบรีฟ ว่าแต่ละวันต้องทำอะไร บลาๆ รวมถึง Servise mind ด้วยแหละ
บางทีมีเหตุการณ์แบบ เรากำลังเดินไปหยิบสินค้าให้ลูกค้า A ที่ ในระหว่างที่เรากำลังเดินไป มันก็จะมีลูกค้าB,C,D เรียกให้ไปเช็คของบ้างแหละ หาตัวนั้น ตัวนี้ อันนี้จากในเน็ต จากนั้นนี่ สารพัด แต่พอเราบอกว่าไป ลูกค้าติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านอื่นก่อนนะคะ/ครับ ลูกค้าก็แบบเอาละ เริ่มมีน้ำโห ใจจริงอยากกราบขออภัยยย แต่เราก็ติดลูกค้าท่านอื่นมาก่อน หรือมีหน้าที่อย่างอื่นที่ต้องไปทำจริงๆ
3.ถ้าลูกค้าจะขอสินค้าตัวใหม่ เช่นว่าตัวที่ยังไม่มีใครลอง จะโอเคไหม
ตอบ.จริงๆเราแนะนำให้ทุกคน ขอให้พนักงานร้านเสื้อผ้าหยิบตัวใหม่/ชิ้นใหม่จากStock ถ้ามี
เพราะ ร้านเราเป็นร้านสาขาที่แขกอินเดีย แขกๆ เยอะมาก และวีรกรรมของพวกนังเป็นที่สยดสยองที่สุด เช่น พวกนางมักมีกลิ่นตัวเป็นอันที่รู้ดี เมื่อเขาหยิบเสื้อผ้าไปลองสวมใส่ แน่นอนว่ามันย่อมมีกลิ่นติด และทางร้านเราต้องส่งซัก (ก็พนักงานนี่แหละ ซักมือกันเอง) ทำให้เสียโอกาสการขายดี และ ไม่พอ บ่อยมากที่เจอรอยเปื้อนเป็นคราบรองเท้า ใช่ค่ะ พวกนังเหยียบ
คือพวกแขก ไม่รู้ทำไม ชอบถอดเสื้อผ้ากองกับพื้น ละก็ย่ำไปมา น่ารังเกียจมาก คือ ไม่มีมารยาทหรือไง ของขายก็ควรจะวางบนเก้าอี้ให้ห้อง หรือแขวนก็ได้ จริงปะ
เพราะฉนั้นเราสนับสนุนและยินดี หากลูกค้ารีเควสของชิ้นใหม่
เอาเข้าจริงๆเราก็แอบมีเนือยๆบ้าง เวลาลูกค้าขอชิ้นใหม่ใน Stock นะ แบบมันก็ไม่ได้มีตำหนิหรืออะไร แต่เราเข้าใจดีนะ ว่าใครๆก็อยากได้ของใหม่เอี่ยม
แต่ถ้าบอกว่าไม่มี ก็คือไม่มีนะ คือบางที เราเพิ่งเช็คให้ลูกค้าท่านก่อนไป แบบเออจำได้ละ ว่าitemนี้หมดแล้ว ถ้าคนต่อไปเราจะตอบได้เลยว่า อ๋อ หมดแล้วครับ/ค่ะ แต่ลูกค้าบางคนเขาจะรู้สึกแบบ โกหกปะ ไม่อยากไปหยิบให้ตรูใช่มะ ด้ายยยย ตรูไปให้พนักงานคนอื่นเช็คให้ก็ได้
3.1 เสริมจากข้อ 3 อยากให้ลูกค้าปิดผ้าม่านห้องตัวเองให้มิดชิด มันมีเทคนิคอยู่นะ ให้ดึงม่านตรงกลางให้ตึงออกไปด้านข้าง พอม่านด้านข้างมันร่นๆ ก็เอามือลูบจากบน ลงล่าง ให้มันชิบขอบพนัง พนักงานก็ไม่ได้โอเคที่เห็นอะไรต่อมิอะไรนะฮะ
3.2 คุณผู้ชายอย่าใส่แต่ Underwear ออกมาเดินข้างนอกกกกก!!!!!
3.3 ถ้าอยากได้ตัวใหม่ ,เปลี่ยนไปลอง Size ใหม่ ก็แจ้งพนักงานหน้า Fitthing room เขาจะรีเควสของให้พนักงานท่านอื่นเอามาให้เอง ลูกค้าแค่รอเฉยๆ
4.อยากขอร้องถึงลูกค้า เวลาชำระเงินที่ Counter
ลูกค้าถ้าชำระด้วยบัตร อย่าเพิ่งแย่งชิงปากกาที่ใช้เซ็นชื่อ ไปถือก่อนนะ แคชเชียร์ที่ร้านเราจะต้องใช้ปากกาวงรอบยอดสุทธิของบิลนั้นๆก่อน เพื่อเป็นการให้ลูกค้าตรวจดูด้วย ว่ายอดชำระ กับยอดที่กดออกมาเครื่องรูดบัตรน่ะมันตรงกันไหม เผื่อรูดขาด รูดเกินไรงี้
แล้วก็ระหว่างรอพนักงานคิดเงิน อย่าเอาบัตรเคาะเค้าเตอร์เล้ยยยย อันนี้ถือว่าขอแล้วกัน 🙏
แล้วก็เวลาไม่อยากรับถุง หรือถ้าได้ถุงใหญ่/ถุงเล็ก ซ้อนถุง หรือ ซื้อหลายชิ้นแต่อยากแยกถุงหลายๆใบ ก็รีบบอกแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่มาบอกเอาตอนปิดปากถุงไปแล้ว คือ บางทีก็นะ....🤣
5.เมื่อไหร่จะ Sale ล่ะน้อง?
ตอบ "มันก็ Sale เวลาเดิมของทุกปีแหละข่ะ !!! "
บริษัทห้ามบอกลูกค้า เข้าใจตรงกันนะ ไม่ใช่ว่าห้ามถาม แต่ถามมาก็บอกไม่ได้อยู่ดี
6.อย่ามารื้อกองผ้าตอนร้านปิด
อันนี้ถืว่าขอละกัน กราบได้กราบแล้ว
คือการผับผ้าตอนร้านปิดมันไม่ได้ แป๊บๆ เสร็จนะ ผ้าตั้งกี่กอง ฮือๆๆ เรียง Size สะดิบดี อีก5นาทีร้านปิด มีใครไม่รู้มารื้อเอา Size XL ไปลองทาบตัว แถมยังขยุ้มวางที่เดิมอีก จะร้องไห้
เอาจริงๆ เรายอมรับตรงๆ ว่า servise mind เราไม่ได้ถึงจุดที่จะมา Servise ลูกค้าที่เลือกเสื้อผ้าตอน 5นาที หรือครึ่งชั้วโมงสุดท้าย
คือแบบ เราต้องสปีดตัวเองมากๆ ในการผับผ้าก่อนปิดร้าน การผับผ้าที่ต้องยืนก้มหลัง ติดต่อกันนานๆ ทรมานมากๆ จริงๆ ถ้าลูกค้าจะเอาสินค้าตัวนั้นจริงๆ แต่ไม่อยากรื้อให้กองมันล้มเสียหมด ก็แจ้งพนักงานดีกว่านะ ฮือๆๆๆๆ เดี๋ยวนุหยิบให้เอง กองจะได้ไม่เสีย
6.1 เสริม ร้านเสื้อผ้าไม่รู้ร้านอื่นเป็นไหม แต่ร้านเรา เขาเรียงไซส์ xs > s > m > L > xl > xxl เพื่อความสวยงาม และการสะดวกในการหาไซต์ให้ลูกค้า ครั้งหน้า ลองดูนะครับ ถ้าจะหา size m ลองหาตัวหลังจาก size s นะ
จริงๆ เรายังมีเรื่องอื่นอีกเยอะจะเล่า
แต่เอาแค่นี้
สรุป ทุกอาชีพมีความเหนื่อย และมีความกดดัน ที่แตกต่างกันออกไป เพียงแต่การทำงานด้านการขายของ การบริการ ต้องมี Servise mind เยอะ ลูกค้าบางท่านอาจจะคิดว่า ทำไมน้องบริการไม่ดี พูดจาห้วนตึง ไม่น่ารัก แต่หวังว่าถ้าลูกค้าได้มาอ่านกระทู้นี้ อาจจะเข้าใจคนทำงานสายอาชีพบริการมากขึ้นนะครับ/ค่ะ 😊