แฟนเราเป็นครอบครัวเชื้อสายจีน เค้าเป็นลูกคนเล็กของบ้าน และเป็นลูกชายคนเดียว ตลอดเวลาที่เราได้เข้าไปทำความรู้จักกับบ้านเค้า ทุกคนโอเคหมด ต่างจากที่แฟนเคยบอกว่าแม่ชอบด่า ชอบโมโหร้าย
จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แฟนโทรมาบอกเราว่าจะย้ายออกจากบ้านแล้วนะ ขอเล่าก่อนว่า ก่อนหน้านี้แฟนเราอยู่บ้านกับพ่อแม่ จนกระทั่งมีเรา เค้าเลยซื้อบ้านทิ้งไว้ กะไปอยู่ด้วยกันกับเราตอนเราเรียนจบ(แฟนเราแก่กว่าเราสองสามปี และทำงานแล้ว) พูดง่ายๆคือเค้ามีบ้านเปล่าๆอีกหลังนึงเป็นของตัวเอง
ตอนได้ฟังว่าเค้าจะย้ายไปบ้านนั้นเราก็รู้สึกไม่โอเค เพราะบ้านนั้นบ้านเปล่าจริงๆ มีแค่แอร์ตัวเดียว ต่อให้เค้าย้ายของจากห้องตัวเองไป ก็มีแค่ตู้ เตียง กับทีวี เราไม่อยากให้เค้าลำบาก เค้าเลยสารภาพว่าทะเลาะกับแม่อีกแล้ว แม่ขึ้น
กรู คอยหาเรื่องทะเลาะกับเค้ามาตลอด
ส่วนหนึ่ง แฟนเราคิดว่าแม่คงป่วยเป็นซึมเศร้า แต่แม่ไม่ยอมเชื่อ ไม่รู้ตัว เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาพ่อของแฟนป่วยหนัก อาการพึ่งจะดีขึ้น แม่คงมีความเครียดสะสม แล้วมาลงที่ลูกๆแทน แฟนเราบอกว่าพี่สาวทั้งสองคนเค้าก็เป็นซึมเศร้า เพราะโดนแม่คอยว่าคอยจับผิดทุกวัน ถ้าเค้าอยู่บ้านนั้นต่อ อีกไม่นานเค้าก็คงทนไม่ไหวแน่ๆ
แฟนบอกว่าขอใช้ข้ออ้างในการย้ายออกว่าอยากไปดูบ้าน ว่ามีตรงไหนที่ต้องซ่อมต้องดูแลมั้ย เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในประกัน แต่ที่ย้ายปุบปับอยากจะขออ้างว่าเพราะแม่ของเราไปดูฤกษ์ให้ ย้ายช่วงนี้เหมาะที่สุด
ใจเราไม่อยากให้แฟนใช้ข้ออ้างนั้น เพราะเรารู้สึกมาตลอดว่าการที่มีเราทำให้แฟนเราเค้าเริ่มห่างจากพ่อแม่รึเปล่า ยิ่งย้ายออกเร็วแบบแทบไม่บอกล่วงหน้า ยิ่งเหมือนทางฝั่งเรารู้เห็นเป็นใจให้แฟนย้ายออกจากบ้านเร็วๆ แต่อีกใจเราก็สงสารแฟน ปกติเค้ารักพ่อมาก สนิทกับพ่อที่สุด ยอมเดินทางสองสามชั่วโมงไปทำงานทุกวันเพราะอยากอยู่บ้านกับพ่อ ถ้าเค้ายอมตัดใจแยกบ้านมาแบบนี้ เค้าคงถึงที่สุดแล้วจริงๆ
ตอนนี้เราไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี แฟนขอให้เราตามน้ำไปว่าที่ย้ายออกเพราะแม่เราดูฤกษ์ให้ แต่เราเองก็ไม่อยากโกหก และอยากให้แม่กับแฟนเราคุยปรับความเข้าใจกันมากกว่า แต่โอกาสก็ดูจะมีน้อย เพราะแฟนก็หัวดื้อ ส่วนแม่แฟนก็โมโหร้ายและไม่ยอมให้อภัยอะไรง่ายๆ เราเลยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีค่ะ
กลัวแม่แฟนเกลียด แต่ก็สงสารแฟนค่ะ ทำยังไงดี
จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แฟนโทรมาบอกเราว่าจะย้ายออกจากบ้านแล้วนะ ขอเล่าก่อนว่า ก่อนหน้านี้แฟนเราอยู่บ้านกับพ่อแม่ จนกระทั่งมีเรา เค้าเลยซื้อบ้านทิ้งไว้ กะไปอยู่ด้วยกันกับเราตอนเราเรียนจบ(แฟนเราแก่กว่าเราสองสามปี และทำงานแล้ว) พูดง่ายๆคือเค้ามีบ้านเปล่าๆอีกหลังนึงเป็นของตัวเอง
ตอนได้ฟังว่าเค้าจะย้ายไปบ้านนั้นเราก็รู้สึกไม่โอเค เพราะบ้านนั้นบ้านเปล่าจริงๆ มีแค่แอร์ตัวเดียว ต่อให้เค้าย้ายของจากห้องตัวเองไป ก็มีแค่ตู้ เตียง กับทีวี เราไม่อยากให้เค้าลำบาก เค้าเลยสารภาพว่าทะเลาะกับแม่อีกแล้ว แม่ขึ้นกรู คอยหาเรื่องทะเลาะกับเค้ามาตลอด
ส่วนหนึ่ง แฟนเราคิดว่าแม่คงป่วยเป็นซึมเศร้า แต่แม่ไม่ยอมเชื่อ ไม่รู้ตัว เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาพ่อของแฟนป่วยหนัก อาการพึ่งจะดีขึ้น แม่คงมีความเครียดสะสม แล้วมาลงที่ลูกๆแทน แฟนเราบอกว่าพี่สาวทั้งสองคนเค้าก็เป็นซึมเศร้า เพราะโดนแม่คอยว่าคอยจับผิดทุกวัน ถ้าเค้าอยู่บ้านนั้นต่อ อีกไม่นานเค้าก็คงทนไม่ไหวแน่ๆ
แฟนบอกว่าขอใช้ข้ออ้างในการย้ายออกว่าอยากไปดูบ้าน ว่ามีตรงไหนที่ต้องซ่อมต้องดูแลมั้ย เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในประกัน แต่ที่ย้ายปุบปับอยากจะขออ้างว่าเพราะแม่ของเราไปดูฤกษ์ให้ ย้ายช่วงนี้เหมาะที่สุด
ใจเราไม่อยากให้แฟนใช้ข้ออ้างนั้น เพราะเรารู้สึกมาตลอดว่าการที่มีเราทำให้แฟนเราเค้าเริ่มห่างจากพ่อแม่รึเปล่า ยิ่งย้ายออกเร็วแบบแทบไม่บอกล่วงหน้า ยิ่งเหมือนทางฝั่งเรารู้เห็นเป็นใจให้แฟนย้ายออกจากบ้านเร็วๆ แต่อีกใจเราก็สงสารแฟน ปกติเค้ารักพ่อมาก สนิทกับพ่อที่สุด ยอมเดินทางสองสามชั่วโมงไปทำงานทุกวันเพราะอยากอยู่บ้านกับพ่อ ถ้าเค้ายอมตัดใจแยกบ้านมาแบบนี้ เค้าคงถึงที่สุดแล้วจริงๆ
ตอนนี้เราไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี แฟนขอให้เราตามน้ำไปว่าที่ย้ายออกเพราะแม่เราดูฤกษ์ให้ แต่เราเองก็ไม่อยากโกหก และอยากให้แม่กับแฟนเราคุยปรับความเข้าใจกันมากกว่า แต่โอกาสก็ดูจะมีน้อย เพราะแฟนก็หัวดื้อ ส่วนแม่แฟนก็โมโหร้ายและไม่ยอมให้อภัยอะไรง่ายๆ เราเลยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีค่ะ