ได้มีโอกาศไปพบพระป่าองค์หนึ่งโดยบังเอิญครับ ความมหัสจรรย์ที่ผมได้ได้เจอคือ
1 ท่านบอกวัน เวลา ได้แป๊ะๆหมดเลย หมอดูยังไม่ขนาดนี้เลยครับ เช่นวันที่ 3 คือวันที่ 3 จริงๆ
2 ท่านบอกได้ว่า ใคร อะไร ยังไง ที่ไหน อย่างไรได้ด้วยเช่นกัน เพราะ พ่อ กับ แม่ ผมก็เป็นในแบบที่ท่านพูดครับ
และสิ่งที่มหัสจรรย์ที่สุดคือ ท่านรู้วาระจิตทุกคนที่ไปพบท่านครับ
3 ผมปรารถนาอยู่เรื่องนึง ไม่เคยได้ และไม่คิดว่าจะได้ และผมอยากได้มาก ถามท่านว่าจะได้ความปรารถนี้ไหม ท่านตอบเลยว่าได้ (ผมไม่เชื่อ) ถามว่าได้ปีนี้เลยไหม ท่านบอกอย่าสงสัย .....ผมเงียบ และคนที่พาผมไปบอก ถ้าท่านบอกว่าได้คือได้ แต่ต้องทำตามที่ท่านบอก ผมบอกถ้าได้ ผมจะกลับมาถวายสังทานและทำบุญกับท่าน
4 หลังจากนั้น 3วัน ผมได้จริงๆ โคตร มหัสจรรย์มากๆอะ แต่ผมต้องทำบุญ และอฐิฐาน ตามที่ท่านบอกนะครับ ผมลองกลับมาทำดูและได้ความปรารถนานั้นมาจริงๆ แต่ก็ไม่เชื่อครับ คิดว่า บังเอิญ
5 พาเพื่อนสนิทลางานไปกราบท่านเพราะเพื่อนชีวิตแย่ๆมาก อยากให้ท่านช่วย
6 เพื่อนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็ลางานไปวันนั้นเลย จำได้ว่า ออกรถกันตั้งแต่ ตี 3 (กับเรื่องงานยังไม่ทุ่มทุนสร้างขนาดนี้)
7 เมื่อเพื่อนไปกราบ ท่านก็บอกทุกอย่าง (ขอข้ามรายละเอียดนะครับ เพราะเยอะและยาวมาก )เพื่อนตกใจ และเชื่ออย่างสนิทใจมากๆ ท่านให้ไปทำบุญ และบอกวิธีการทำบุญของพ่อและแม่ของเพื่อนผม
8 หลังจากกลับมาไม่นาน เพื่อนชีวิตดีขึ้นตามลำดับ
9 ผมเริ่มพาเพื่อนๆคนสนิท ไปอีก 3 คน และทุกคนเมื่อกลับมาไม่นาน ก็พา พ่อ และ แม่ไปหาท่าน และทุกคนดีขึ้นหมด เช่นธุรกิจกำไรขึ้น 1 เท่าตัว
ของที่จะจากไปก็กลับมาก หนี้สินที่ไม่มีจะจ่าย ก็มีเงินมีงานเข้ามา อย่างไม่รู้ตัว และไม่รู้ด้วยว่า มาได้ยังไง งง มะ อยู่ๆก็มีคนเสนอโน่น นี่ให้ทำ และอื่นๆ
10 ผมนึกในใจว่าท่านเก่งขนาดนี้ มหัสจรรย์ขนาดนี้ ท่านสำเร็จอรหันต์แล้วรึยังวะ อยากให้ท่านบอกจัง เพื่อความชัดเจน
11 ผมกับไปกราบท่าน ตามที่สัญญาไว้ว่าจะไปทำบุญและถวานสังฆทาน (แต่ก็ยังไม่ได้ถวายไปกราบ สนทนาธรรมกับท่าน) เมื่อผมสมความปรารถนา
จากข้อ 10 เหมือนท่านรู้ ว่าผมสงสัยว่าท่านใช่ อรหันต์ไหม ก็สนทนาธรรมกับท่านอยู่พักใหญ่( สนทนาธรรมเรื่องทุกข์ที่ผมประสบอยู่ ) และท่านพูดมาประโยคนึงว่า โยมมาเจอไม่ใช่เพราะบังเอิญนะ วาสนาพาให้โยมต้องมาเจอ เพราะถ้าชาตินี้โยมไม่มาเจอ ชาติหน้า ภพใหม่ โยมจะไม่ได้เจออีกแล้ว เหมือนท่านไม่ได้บอกตรงๆ แต่จากประโยคนี้ พอจะเดาได้ไหมครับว่า ท่านได้บอกจากที่ใจผมคิดไปแล้วว่า ท่านได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์แล้ว (ครึ่งนึงตอนไปปฏิธรรม จำได้ว่า เคยทำบุญหล่อพระ คนอื่นอาจจะอฐิฐานให้ตัวเองรวย ให้ตัวเองสมความปรารถนาใช่ไหมครับ แต่วันนั้นจำได้เลยว่า ผมขอให้ผมได้พบพระอรหันต์ ได้ทำบุญกับพระผู้เป็นอรหันต์)
12 ผมนับถือท่านเป็นอาจารย์ ทุกข์ใจทีไรจะไปหาท่าน สนทนาด้วย ท่านสอนใช้คำแบบง่ายๆ ไม่เหมือนคนอื่น และเราก็สุขใจทุกครั้ที่กลับมา จนวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป คำสอนที่ท่านสอน อยู่ในใจตลอด จำได้ตลอด และเอามาปรับใช้ในชีวิต ทุกวันนี้ผมเปลี่ยนไปเยอะมากจากที่เจอท่าน จำได้เลยว่าครั้งแรกที่เจอท่าน ท่านสอนให้มองในแง่ positive thinking เพราะปกติเป็นคนขี้ระแยง ไว้ค่อยไว้ใจคน เหมือนท่านปรับแนวคิด ปรับมุมมองให้ใหม่ก่อน เป็นการปูพื้น (ซึ่งไม่ขอเล่ารายละเอียดครับเพราะยาว)
13 ทุกวันนี้ท่านยังคงอยู่ในวัดป่าแบบเงียบๆ และท่านไม่ให้ผมไปบอกใคร เรื่องหลายๆเรื่องท่านบอกให้ผมรู้แค่คนเดียว และผมก็ไม่บอกเรื่องนี้กับเพื่อนคนไหนอีกเลย และอีกหลายๆเรื่องผมก็ไม่ได้บอกใคร
14 ผมกลายเป็นคนบ้าทำบุญอยู่พักนึง ชอบไปไหว้พระ ปิดทอง วัดไหนเก๋ วัดไหนดีไปเซลฟรี่หมด
15 ผมถามท่านว่า ผมทำแบบนีได้บุญเยอะไหม ท่านบอกจะให้ ตอบ จริงๆไหม ผมบอก บอกเลยครับ ผมรับได้ 555 ท่านบอกว่า สิ่งที่โยมเที่ยวไปไหว้ ไปทำ เทียบกับ โยมป้อนข้าวพ่อกับแแม่โยม 1 ครั้งไม่ได้เลย และท่านก็สอนเรื่องการทำบุญที่ถูกต้อง ผมเพิ่งรู้ว่าการ ดูแลพ่อแม่แค่เรื่องเล็กน้อย เป็นบุญที่ประเสร็ฐมากๆ
บุญเปรียบเสมือนน้ำในโอ่ง มีน้ำมากก็ใช้น้ำได้มาก ได้รับผลจากการมีน้ำมาก แต่บุญและบาป วันนึงก็จะถูกใช้จนหมดไปได้ แต่การเข้าใจว่าสิ่งๆนั้นเป็นเช่นนั้น ธรรมชาติแบบนี้เป็นแบบนั้น ธรรมชาติแบบนั้นก็เป็นแบบนั้น เราจะไม่ทุกข์ ทุกวันนี้ทุกข์น้อยมากครับ เพราะได้ฝึกที่จะมอง ส่ิงของ มองคน มองสิ่งต่างๆตามธรรมชาติในแบบที่มันเป็น ไม่ได้มองไปในแบบที่เราอยากจะให้มันเป็น แต่ก็ยังทุกข์อยู่ครับ ยังคงต้องอาศัยการสนทนาธรรมจากอาจาย์เพื่อเยียวยาจิตใจในครั้งที่เป็นทุกข์ ทุกวันนี้เข้าใจทุกข์ครับ แต่บังทำใจไม่ได้ แต่ทุกข์แบบมีสติ ไม่แหกปากโวยวาย ไม่ทำร้ายผู้อื่น หนักสุดคือ ตำหนิ แต่ไม่แหกปากด่า เหมือนเมื่อก่อน เห็นว่านี่ทุกข์กำลังเกิด เหมือนได้มองตัวเอง แต่ก็มีบางครั้งที่อดไม่ได้ครับ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ อยากเล่า และแชร์ให้เพื่อนๆ ทราบว่า บุญ และพระดีๆยังมีอยู่จริงครับ
คุณเชื่อเรื่อง ฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ และบุญไหมครับ (เรื่องที่เจอกับตัวและอยากแชร์)
1 ท่านบอกวัน เวลา ได้แป๊ะๆหมดเลย หมอดูยังไม่ขนาดนี้เลยครับ เช่นวันที่ 3 คือวันที่ 3 จริงๆ
2 ท่านบอกได้ว่า ใคร อะไร ยังไง ที่ไหน อย่างไรได้ด้วยเช่นกัน เพราะ พ่อ กับ แม่ ผมก็เป็นในแบบที่ท่านพูดครับ
และสิ่งที่มหัสจรรย์ที่สุดคือ ท่านรู้วาระจิตทุกคนที่ไปพบท่านครับ
3 ผมปรารถนาอยู่เรื่องนึง ไม่เคยได้ และไม่คิดว่าจะได้ และผมอยากได้มาก ถามท่านว่าจะได้ความปรารถนี้ไหม ท่านตอบเลยว่าได้ (ผมไม่เชื่อ) ถามว่าได้ปีนี้เลยไหม ท่านบอกอย่าสงสัย .....ผมเงียบ และคนที่พาผมไปบอก ถ้าท่านบอกว่าได้คือได้ แต่ต้องทำตามที่ท่านบอก ผมบอกถ้าได้ ผมจะกลับมาถวายสังทานและทำบุญกับท่าน
4 หลังจากนั้น 3วัน ผมได้จริงๆ โคตร มหัสจรรย์มากๆอะ แต่ผมต้องทำบุญ และอฐิฐาน ตามที่ท่านบอกนะครับ ผมลองกลับมาทำดูและได้ความปรารถนานั้นมาจริงๆ แต่ก็ไม่เชื่อครับ คิดว่า บังเอิญ
5 พาเพื่อนสนิทลางานไปกราบท่านเพราะเพื่อนชีวิตแย่ๆมาก อยากให้ท่านช่วย
6 เพื่อนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็ลางานไปวันนั้นเลย จำได้ว่า ออกรถกันตั้งแต่ ตี 3 (กับเรื่องงานยังไม่ทุ่มทุนสร้างขนาดนี้)
7 เมื่อเพื่อนไปกราบ ท่านก็บอกทุกอย่าง (ขอข้ามรายละเอียดนะครับ เพราะเยอะและยาวมาก )เพื่อนตกใจ และเชื่ออย่างสนิทใจมากๆ ท่านให้ไปทำบุญ และบอกวิธีการทำบุญของพ่อและแม่ของเพื่อนผม
8 หลังจากกลับมาไม่นาน เพื่อนชีวิตดีขึ้นตามลำดับ
9 ผมเริ่มพาเพื่อนๆคนสนิท ไปอีก 3 คน และทุกคนเมื่อกลับมาไม่นาน ก็พา พ่อ และ แม่ไปหาท่าน และทุกคนดีขึ้นหมด เช่นธุรกิจกำไรขึ้น 1 เท่าตัว
ของที่จะจากไปก็กลับมาก หนี้สินที่ไม่มีจะจ่าย ก็มีเงินมีงานเข้ามา อย่างไม่รู้ตัว และไม่รู้ด้วยว่า มาได้ยังไง งง มะ อยู่ๆก็มีคนเสนอโน่น นี่ให้ทำ และอื่นๆ
10 ผมนึกในใจว่าท่านเก่งขนาดนี้ มหัสจรรย์ขนาดนี้ ท่านสำเร็จอรหันต์แล้วรึยังวะ อยากให้ท่านบอกจัง เพื่อความชัดเจน
11 ผมกับไปกราบท่าน ตามที่สัญญาไว้ว่าจะไปทำบุญและถวานสังฆทาน (แต่ก็ยังไม่ได้ถวายไปกราบ สนทนาธรรมกับท่าน) เมื่อผมสมความปรารถนา
จากข้อ 10 เหมือนท่านรู้ ว่าผมสงสัยว่าท่านใช่ อรหันต์ไหม ก็สนทนาธรรมกับท่านอยู่พักใหญ่( สนทนาธรรมเรื่องทุกข์ที่ผมประสบอยู่ ) และท่านพูดมาประโยคนึงว่า โยมมาเจอไม่ใช่เพราะบังเอิญนะ วาสนาพาให้โยมต้องมาเจอ เพราะถ้าชาตินี้โยมไม่มาเจอ ชาติหน้า ภพใหม่ โยมจะไม่ได้เจออีกแล้ว เหมือนท่านไม่ได้บอกตรงๆ แต่จากประโยคนี้ พอจะเดาได้ไหมครับว่า ท่านได้บอกจากที่ใจผมคิดไปแล้วว่า ท่านได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์แล้ว (ครึ่งนึงตอนไปปฏิธรรม จำได้ว่า เคยทำบุญหล่อพระ คนอื่นอาจจะอฐิฐานให้ตัวเองรวย ให้ตัวเองสมความปรารถนาใช่ไหมครับ แต่วันนั้นจำได้เลยว่า ผมขอให้ผมได้พบพระอรหันต์ ได้ทำบุญกับพระผู้เป็นอรหันต์)
12 ผมนับถือท่านเป็นอาจารย์ ทุกข์ใจทีไรจะไปหาท่าน สนทนาด้วย ท่านสอนใช้คำแบบง่ายๆ ไม่เหมือนคนอื่น และเราก็สุขใจทุกครั้ที่กลับมา จนวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป คำสอนที่ท่านสอน อยู่ในใจตลอด จำได้ตลอด และเอามาปรับใช้ในชีวิต ทุกวันนี้ผมเปลี่ยนไปเยอะมากจากที่เจอท่าน จำได้เลยว่าครั้งแรกที่เจอท่าน ท่านสอนให้มองในแง่ positive thinking เพราะปกติเป็นคนขี้ระแยง ไว้ค่อยไว้ใจคน เหมือนท่านปรับแนวคิด ปรับมุมมองให้ใหม่ก่อน เป็นการปูพื้น (ซึ่งไม่ขอเล่ารายละเอียดครับเพราะยาว)
13 ทุกวันนี้ท่านยังคงอยู่ในวัดป่าแบบเงียบๆ และท่านไม่ให้ผมไปบอกใคร เรื่องหลายๆเรื่องท่านบอกให้ผมรู้แค่คนเดียว และผมก็ไม่บอกเรื่องนี้กับเพื่อนคนไหนอีกเลย และอีกหลายๆเรื่องผมก็ไม่ได้บอกใคร
14 ผมกลายเป็นคนบ้าทำบุญอยู่พักนึง ชอบไปไหว้พระ ปิดทอง วัดไหนเก๋ วัดไหนดีไปเซลฟรี่หมด
15 ผมถามท่านว่า ผมทำแบบนีได้บุญเยอะไหม ท่านบอกจะให้ ตอบ จริงๆไหม ผมบอก บอกเลยครับ ผมรับได้ 555 ท่านบอกว่า สิ่งที่โยมเที่ยวไปไหว้ ไปทำ เทียบกับ โยมป้อนข้าวพ่อกับแแม่โยม 1 ครั้งไม่ได้เลย และท่านก็สอนเรื่องการทำบุญที่ถูกต้อง ผมเพิ่งรู้ว่าการ ดูแลพ่อแม่แค่เรื่องเล็กน้อย เป็นบุญที่ประเสร็ฐมากๆ
บุญเปรียบเสมือนน้ำในโอ่ง มีน้ำมากก็ใช้น้ำได้มาก ได้รับผลจากการมีน้ำมาก แต่บุญและบาป วันนึงก็จะถูกใช้จนหมดไปได้ แต่การเข้าใจว่าสิ่งๆนั้นเป็นเช่นนั้น ธรรมชาติแบบนี้เป็นแบบนั้น ธรรมชาติแบบนั้นก็เป็นแบบนั้น เราจะไม่ทุกข์ ทุกวันนี้ทุกข์น้อยมากครับ เพราะได้ฝึกที่จะมอง ส่ิงของ มองคน มองสิ่งต่างๆตามธรรมชาติในแบบที่มันเป็น ไม่ได้มองไปในแบบที่เราอยากจะให้มันเป็น แต่ก็ยังทุกข์อยู่ครับ ยังคงต้องอาศัยการสนทนาธรรมจากอาจาย์เพื่อเยียวยาจิตใจในครั้งที่เป็นทุกข์ ทุกวันนี้เข้าใจทุกข์ครับ แต่บังทำใจไม่ได้ แต่ทุกข์แบบมีสติ ไม่แหกปากโวยวาย ไม่ทำร้ายผู้อื่น หนักสุดคือ ตำหนิ แต่ไม่แหกปากด่า เหมือนเมื่อก่อน เห็นว่านี่ทุกข์กำลังเกิด เหมือนได้มองตัวเอง แต่ก็มีบางครั้งที่อดไม่ได้ครับ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ อยากเล่า และแชร์ให้เพื่อนๆ ทราบว่า บุญ และพระดีๆยังมีอยู่จริงครับ