คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
จากที่ส่วนตัวทำวิจัยการเล่านิทาน ก็พบความแตกต่างระหว่างเด็กได้ฟังกับไม่ได้ฟังนิทานน่ะ
และเด็กที่ดูนิทานแบบอนิเมชั่นก็มีความคิดสร้างสรรค์สูงกว่าดูจากหนังสือภาพนิ่ง แต่ว่ามีข้อควรกังวลเหมือนกันนะ
คือ พฤติกรรมระหว่างฟังนิทานของเด็ก 2 กลุ่มนี้ไม่เหมือนกันเลย
เด็กที่ดูจากสื่อควรต้องระวังในเรื่องเวลาในการใช้สื่อ เนื้อหาที่รับชม และไม่ควรให้ดูลำพังน่ะ
ไม่ได้สำคัญแค่ว่า เล่านิทานไปเฉยๆ แต่ต้องกระตุ้นให้เด็กคิดร่วมด้วย ถึงจะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้น่ะ
และเด็กที่ดูนิทานแบบอนิเมชั่นก็มีความคิดสร้างสรรค์สูงกว่าดูจากหนังสือภาพนิ่ง แต่ว่ามีข้อควรกังวลเหมือนกันนะ
คือ พฤติกรรมระหว่างฟังนิทานของเด็ก 2 กลุ่มนี้ไม่เหมือนกันเลย
เด็กที่ดูจากสื่อควรต้องระวังในเรื่องเวลาในการใช้สื่อ เนื้อหาที่รับชม และไม่ควรให้ดูลำพังน่ะ
ไม่ได้สำคัญแค่ว่า เล่านิทานไปเฉยๆ แต่ต้องกระตุ้นให้เด็กคิดร่วมด้วย ถึงจะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้น่ะ
แสดงความคิดเห็น
การที่เด็กยุคหลังเติบโตมา แบบที่ไม่มีการฟังการเล่านิทานให้ฟังจากคนยุคก่อน ทำให้ถูกปิดกั้นจินตนาการไหมครับ
เพราะยุคนั้นคนพากันเดินเข้าห้องสมุด อ่านหนังสือด้วยสุ้มเสียงในหัวที่เป็นเอกเทศ ไม่เหมือนกับการที่ล้อมวงกันฟังใครคนหนึ่งเล่านิทาน
พอเปรียบเทียบกับยุคสมัยนี้ ที่เราต่างมีโลกส่วนตัวของตัวเอง อ่าน ติดตามข่าว สร้างสังคมบนโซเชียลมีเดีย รวดเร็ว จนกลายเป็นเสพติด
อย่างนี้มันทำให้เรากลายเป็นคน lack of imagination อะไรเทือกนั้นไหมครับ