สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูวัย 36 ปี ยกเป็นหนึ่งในวันที่สมบูรณ์แบบที่สุด หลังเฝ้าเสาอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการ ช่วยให้ ทีมชาติไทย เปิดบ้านชนะ ทีมชาติตรินิแดด แอนด์ โตเบโก 1-0 ในเกมกระชับมิตร ระดับ FIFA International ‘A’ Match ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 14 ตุลาคม 2561
มือกาววัย 36 ปี อยู่ในสนามประมาณ 15 นาที ก่อนที่ ช้างศึก ได้ประตูชัยช่วงครึ่งหลังจาก ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดยที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า
"ดีใจมากครับ เป็นวันที่ยิ่งใหญ่อีกวันหนึ่งในช่วงชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นชัยชนะ และวันที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับผม”
"บรรยากาศที่ถูกเปลี่ยนตัวออกมา มันตื้นตันและเป็นอารมณ์ที่เหมือนแบบเราตื่นจากความฝัน เราฝันดีมาตลอด 14 ปี เป็นฝันที่เราใฝ่หามาตลอด ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้หันหลังให้แล้วและตื่น แต่ซีวิตมันต้องเดินต่อไป และอยู่กับความจริง"
"ต้องขอบคุณน้องๆ ทีมชาติไทย เพราะพวกเขาเป็นผู้ที่เสียสละ แบกรับความกดดัน ความคาดหวังจากสโมสรและมาทีมชาติ ซึ่งมันเปรียบเทียบไม่ได้ ความเหนื่อยล้าและอุปสรรคที่พวกเขาต้องเจอในอนาคต หลังจากนี้ผมอยากเป็นกำลังใจกับแก่พวกเขา"
"อยากจะบอกว่าทุกครั้งที่เหนื่อยหรือเจออุปสรรค อยากให้คิดถึงเสมอว่าธงที่หน้าอกเรามันคือความภาคภูมิใจ ซึ่งมันสำคัญและแสดงให้เห็นว่า ทุกคนที่เข้ามาติดทีมชาติ มันมีความพิเศษ มันแตกต่างจากนักฟุตบอลธรรมดา "
"ต่อจากนี้ผมก็ยังเล่นฟุตบอลให้กับสโมสร ส่วนในนามทีมชาติผมก็คือแฟนบอลคนหนึ่งไปแล้ว และพร้อมที่จะสนับสนุนพวกเขาทุกเวลา ก็รอดูความฝันของพวกเขา และวงการฟุตบอลไทยผมอยากให้พวกเขาทำให้สำเร็จ"
"หากมีโอกาส แน่นอนผมพร้อมกลับมาเสมอ ถ้าประสบการณ์และความสามารถที่ผมมี สามารถถ่ายทอด และเป็นประโยชน์ให้วงการฟุตบอลไทยได้บ้าง ผมก็ยินดีที่จะช่วยเหลือฟุตบอลไทย" สินทวีชัย ที่ยุติการรับใช้ ช้างศึก 79 นัด ปิดท้าย
ที่มา FA Thailand
เป็นนักเตะที่ผมเห็นเล่นทีมชาติมายาวนานมากคนนึง
อาจจะมีดีบ้าง แย่บ้าง แต่ทุกแมตซ์ที่ผู้ชายคนนี้ลงไปเล่น เขาทุ่มเทเต็มร้อยทุกนัด
จากผู้ชายที่โดนด่าเละเทะ ตอนที่เล่นทีมชาติไทยใหม่ๆ
จนตอนนี้ เขาได้กลายเป็นตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติไทยคนนึงไปแลัว
จากนี้ขอให้ สินทวีชัย โชคดีกับเส้นทางกับอนาคตต่อไปครับ
สินทวีชัย : เป็นหนึ่งในวันที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับผม
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูวัย 36 ปี ยกเป็นหนึ่งในวันที่สมบูรณ์แบบที่สุด หลังเฝ้าเสาอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการ ช่วยให้ ทีมชาติไทย เปิดบ้านชนะ ทีมชาติตรินิแดด แอนด์ โตเบโก 1-0 ในเกมกระชับมิตร ระดับ FIFA International ‘A’ Match ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 14 ตุลาคม 2561
มือกาววัย 36 ปี อยู่ในสนามประมาณ 15 นาที ก่อนที่ ช้างศึก ได้ประตูชัยช่วงครึ่งหลังจาก ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดยที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า
"ดีใจมากครับ เป็นวันที่ยิ่งใหญ่อีกวันหนึ่งในช่วงชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นชัยชนะ และวันที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับผม”
"บรรยากาศที่ถูกเปลี่ยนตัวออกมา มันตื้นตันและเป็นอารมณ์ที่เหมือนแบบเราตื่นจากความฝัน เราฝันดีมาตลอด 14 ปี เป็นฝันที่เราใฝ่หามาตลอด ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้หันหลังให้แล้วและตื่น แต่ซีวิตมันต้องเดินต่อไป และอยู่กับความจริง"
"ต้องขอบคุณน้องๆ ทีมชาติไทย เพราะพวกเขาเป็นผู้ที่เสียสละ แบกรับความกดดัน ความคาดหวังจากสโมสรและมาทีมชาติ ซึ่งมันเปรียบเทียบไม่ได้ ความเหนื่อยล้าและอุปสรรคที่พวกเขาต้องเจอในอนาคต หลังจากนี้ผมอยากเป็นกำลังใจกับแก่พวกเขา"
"อยากจะบอกว่าทุกครั้งที่เหนื่อยหรือเจออุปสรรค อยากให้คิดถึงเสมอว่าธงที่หน้าอกเรามันคือความภาคภูมิใจ ซึ่งมันสำคัญและแสดงให้เห็นว่า ทุกคนที่เข้ามาติดทีมชาติ มันมีความพิเศษ มันแตกต่างจากนักฟุตบอลธรรมดา "
"ต่อจากนี้ผมก็ยังเล่นฟุตบอลให้กับสโมสร ส่วนในนามทีมชาติผมก็คือแฟนบอลคนหนึ่งไปแล้ว และพร้อมที่จะสนับสนุนพวกเขาทุกเวลา ก็รอดูความฝันของพวกเขา และวงการฟุตบอลไทยผมอยากให้พวกเขาทำให้สำเร็จ"
"หากมีโอกาส แน่นอนผมพร้อมกลับมาเสมอ ถ้าประสบการณ์และความสามารถที่ผมมี สามารถถ่ายทอด และเป็นประโยชน์ให้วงการฟุตบอลไทยได้บ้าง ผมก็ยินดีที่จะช่วยเหลือฟุตบอลไทย" สินทวีชัย ที่ยุติการรับใช้ ช้างศึก 79 นัด ปิดท้าย
ที่มา FA Thailand
เป็นนักเตะที่ผมเห็นเล่นทีมชาติมายาวนานมากคนนึง
อาจจะมีดีบ้าง แย่บ้าง แต่ทุกแมตซ์ที่ผู้ชายคนนี้ลงไปเล่น เขาทุ่มเทเต็มร้อยทุกนัด
จากผู้ชายที่โดนด่าเละเทะ ตอนที่เล่นทีมชาติไทยใหม่ๆ
จนตอนนี้ เขาได้กลายเป็นตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติไทยคนนึงไปแลัว
จากนี้ขอให้ สินทวีชัย โชคดีกับเส้นทางกับอนาคตต่อไปครับ