บทความ "ความฝันอันสูงสุด น้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลเมื่อได้พบพระพักตร์ พ่อแห่งแผ่นดิน"



บทความ "ความฝันอันสูงสุด
น้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลเมื่อได้พบพระพักตร์ พ่อแห่งแผ่นดิน” ที่ผมเคยเขียนส่ง และได้ลงในนิตยสารคู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 969 และขอนำมาลงอีกครั้งในนี้

ผมเองก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง (เชื้อสายจีนด้วย) ที่ตั้งแต่เกิดและเติบโตมาก็รู้ว่าประเทศเรามีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และผมเองก็จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างมากด้วย

ตั้งแต่จำความได้ ผมก็เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ ในหลวง ของเรารวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ตามข่าวในพระราชสำนัก ในตอนนั้นในหลวงก็เริ่มมีพระชนมายุมากแล้ว แต่ก็ยังมีพระพลานามัยที่แข็งแรง ยังพอจะเสด็จไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามที่ต่าง ๆ ได้อยู่ แม้ตามถิ่นทุรกันดารจะเสด็จไม่ได้แล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังได้เห็นภาพข่าว หรือภาพจากหนังสือต่าง ๆ ที่เป็นภาพเก่าเมื่อครั้งในหลวงเสด็จออกไปเยี่ยมเยียนราษฎรตามที่ต่าง ๆ

ความฝันอันสูงสุดของผมคือการที่ได้เห็นในหลวงพระองค์จริง ซึ่งผมคิดว่ามันคงยากมาก เพราะทรงมีพระชนมายุมากแล้ว ไม่ได้เสด็จออกปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากเหมือนเช่นแต่ก่อน แต่แล้ววันหนึ่ง ความฝันอันสูงสุดของผมก็เป็นจริง

วันนั้นเป็นวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2555 ในหลวงทรงมีกำหนดการจะเสด็จไปเปิดพระราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 8 ที่เชิงสะพานพระราม 8 จริง ๆ กำหนดการจะเสด็จประมาณ 5-6 โมงเย็นโน่นเลย แต่ผมกับแม่ก็ไปรอกันที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่ประมาณเที่ยง แน่นอนว่าตอนที่ผมไปนี่คนเต็มกันหมดแล้ว โดยเฉพาะตรงบริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติ ที่เราเห็นในข่าวในพระราชสำนักบ่อย ๆ เวลาที่ในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จออกมา สุดท้ายผมกับแม่ก็ไปได้ทำเลบริเวณอาคารศรีสังวาลย์

จริง ๆ ผมเป็นคนไม่ชอบการรออะไรนาน ๆ โดยที่ไม่มีอะไรให้ทำฆ่าเวลาด้วย แต่วันนั้นด้วยความที่อยากชื่นชมพระบารมี ทำให้ผมสามารถที่จะอดทนอยู่รอได้ รวมไปถึงพสกนิกรอีกหลายคนที่รอที่จะเฝ้าชมพระบารมีเช่นเดียวกัน

เวลาล่วงเลยผ่านไปจนใกล้จะได้เวลาเสด็จก็ดันมีฝนตกลงมา และตกหนักด้วย ถึงกระนั้นฝนก็ไม่ได้ชะล้างความจงรักภักดีของพสกนิกรให้น้อยลงไป ทุกคนรวมไปถึงผมก็ยังคงรออยู่แบบนั้นโดยไม่หวั่นว่าจะเปียกฝน จนฝนเริ่มซาลงไปได้สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงคนโห่ร้องทรงพระเจริญกันขึ้นมา ก็นึกว่าในหลวงเสด็จแล้ว แต่ไม่ใช่ เป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีที่เสด็จมาเพื่อจะมารับเสด็จในหลวงไปยังบริเวณพระราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 8 ด้วยกัน

จนเวลาผ่านไปได้อีกสักพัก ผมก็ได้ยินเสียงโห่ร้องอีกครั้ง คิดว่าในหลวงคงเสด็จแล้วแน่ ๆ ผมและคนอื่น ๆ จึงจับจ้องไปยังมุมที่รถยนต์พระที่นั่งจะเคลื่อนออกมา แล้วผมก็เห็นรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนออกมาช้า ๆ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมาก ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะ 20 ปีที่ผมได้เกิดมาอยู่บนแผ่นดินนี้ ผมไม่เคยได้เห็นพระพักตร์ของพระเจ้าแผ่นดินเลยสักครั้ง และนี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมจะมีโอกาสนั้น

รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนมาเรื่อย ๆ จนผ่านหน้าผม และผมก็ได้เห็นพระเจ้าแผ่นดิน พระผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจแห่งคนไทยทั้งปวงประทับอยู่ในนั้น ถึงแม้ว่าแสงภายในรถจะค่อนข้างสลัว แต่ก็เห็นได้ชัดว่าคือพระองค์ ทรงโบกพระหัตถ์ให้แก่พสกนิกร ตอนนั้นเองน้ำตาแห่งความปลื้มปีติของลูกผู้ชายอย่างผมมันได้ไหลออกมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่ผมได้เห็นพระองค์ท่าน แต่มันจะตราตรึงในจิตใจของผมตลอดไป นับว่าความฝันอันสูงสุดของผมได้เป็นจริงแล้วในวันนั้น

มาบัดนี้ แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยไปแล้ว แต่ภาพความทรงจำในวันนั้น รวมไปถึงพระราชกรณียกิจ พระมหากรุณาธิคุณต่าง ๆ ที่ได้ทรงทำไว้ จะอยู่ในใจของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป

เครดิตภาพ : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=42363
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่