เกริ่นก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สวัสดีครับ พี่พี่น้องน้อง ห้องการ์ตูน
วันนี้ผมจะมารีวิวการตามรอยไปแรลลี่ ในงานคุมาโมโต้โปรเจค X วันพีซ ที่วางแผนและไปมาเรียบร้อย
โดยในช่วงหลังผมได้มีโอกาสเขียนงานตามรอยการ์ตูนในญี่ปุ่น ลงให้กับ MARUMURA
จึงไม่ได้มาเขียนลงพันทิปก่อนเหมือนอย่างเคย  ซึ่ง MARUMURA ก็อนุญาตให้ นำบทความที่ตีพิมพ์กับทางเขา
สามารถเขียนลงที่อื่นได้ด้วย เนื้อหารีวิว จึงจะเป็น อิชั้น ตามคาแรคเตอร์นะครับ ไม่ต้องแปลกใจ

ในส่วนของเนื้อหา จะตัดทอนออกบางส่วน อาทิ เทคนิคการเดินทาง และรูปจะน้อยกว่าต้นฉบับ นะครับ
ทางผมจะลงลิ๊งค์ต้นฉบับไว้ท้ายรีวิวนะครับ สำหรับท่านที่ต้องการอ่านตัวเต็มทั้ง 2 ตอน  โดยการเดินทางครั้งนี้
ผมออกเงินเองทุกบาทครับ ไปด้วยความอยากส่วนตัวเลย


.
.
.
.
.

บทความนี้ค่อนข้างพิเศษ เนื่องจากการตามรอยแรลลี่วันพีซ งานนี้จัดขึ้นที่จังหวัดคุมาโมโต้ ในภูมิภาคคิวชู
และตลอดการแข่งขันมีคนไทยเพียง 2 คนเท่านั้นที่ไปแข่ง และอิชั้นได้เป็นคนไทยคนแรกที่ไปลงแข่งขัน
(มารู้ตอนจนท.เอาของที่ระลึกพิเศษมาให้ เนื่องจากเป็นคนไทยคนแรกที่ไปแข่ง)

การเดินทางตามรอยครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดคุมาโมโต้ ในภูมิภาคคิวชู
ที่มีความรุนแรงกว่า 7.3 ริคเตอร์ ได้สร้างความเสียหายต่อเมือง การท่องเที่ยว และชีวิตผู้คนกว่า 120 คน
รวมถึงอีกผู้อยู่อาศัยอีกนับไม่ถ้วนที่ต้องไร้ที่อยู่


รวมถึงสัญลักษณ์ของเมืองอย่าง ปราสาท Kumamoto ซึ่งอยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15
อันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดก็ได้รับความเสียหายไปด้วย

ด้วยเหตุการณ์นี้ ทำให้อาจารย์ Oda Eiichiro ผู้วาด One Piece ออกมาสนับสนุนการบูรณะเมือง
นั่นเพราะจังหวัดคุมาโมโต้ เป็นบ้านเกิดของอ.โอดะ และเพื่อตอบแทนบ้านเกิด อาจารย์ Oda จึงทำ Project
เพื่อช่วยเหลือจังหวัด ในชื่อว่า “One Piece Kumamoto Recovery Project” ขึ้นมา
ซึ่งมีผู้สนใจจำนวนมากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ


โดยรายละเอียดของ Project มีดังต่อไปนี้

1. ผู้ที่บริจาคเงินมากกว่า 10,000 เยนให้ปราสาท Kumamoto ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2016
จนถึง 31 มีนาคม 2017 จะได้รับของรางวัลพิเศษจาก One Piece ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน

2. ผู้ที่บริจาคเกิน 10,000 เยนให้กับเมือง Machika-Cho ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
จากแผ่นดินไหวในจังหวัด Kumamoto จะได้รับของรางวัลซึ่งวาดขึ้นเป็นพิเศษจากอาจารย์ Oda

3. รายได้จากสินค้า One Piece x Kumamon ซึ่งจัดทำโดย Showa Note จะนำไปบริจาคช่วยเหลือจังหวัด Kumamoto ทั้งหมด
ซึ่งตรงนี้จะมีการออกแบบคาแรคเตอร์ของวันพีซ ออกมาพิเศษดังนี้ สรุปคือ สินค้าที่มีตัวละครแบบนี้ จะนำรายได้ไปช่วยแผ่นดินไหวนั่นเอง


4. จะมีการรวบรวม Stamp Rally ในเมือง Kami amakusa ซึ่งผู้ชนะจะได้รับของรางวัลพิเศษจาก One Piece ที่หาที่ไหนไม่ได้

5. รถไฟสาย Kumagawa และ Minami Aso จะเปลี่ยนเป็นรถไฟ One Piece จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2017 นี้

พออิชั้นอ่านจบก็นั่งประเมิน ข้อ 1 -2 อันนี้ง่าย แค่ไปบริจาคแล้วจะได้ของวันพีซที่แรร์ที่สุด หาซื้อไม่ได้

ข้อ 3 อันนี้ไม่ยากเพราะเช็คแล้ว สินค้าจะมีขายในร้านที่ระบุ รวมไปถึงร้านของ JUMP ซึ่งหาซื้อไม่ยาก
เราแค่ซื้อตามที่ต้องการ รายได้จากการขายก็ได้ช่วยเมืองคุมาโมโต้เช่นกัน ส่วนข้อ 5 อันนี้ไม่มีอะไร มีแต่รถไฟวันพีซ ไม่มีกิจกรรมอื่นๆ

ดังนั้นไฮไลท์เลยมาอยู่ที่ ข้อ 4 ซึ่งภายหลังใช้ชื่อว่างาน Kami-Amakusa Tokoton Tano SEA Sightseeing Stamp Rally
โดยใช้โปสเตอร์ ลูฟี่ จินเบ และ ชิราโฮชิ เป็นหลัก งานนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่ในการตามรอยเนื่องด้วยประสบการณ์ก็ยังน้อย
การสื่อสารภาษาญี่ปุ่นก็สนทนาแทบไม่ได้ ตัวจังหวัดคุมาโมโต้ ก็ไม่มีความรู้เลย รู้จักแต่คุมะมงเท่านั้น แถมภูมิภาคคิวชู
ก็ยังไม่เคยไป มีเพียงประสบการณ์เดินทางต่างประเทศที่พอมีอยู่บ้าง ทำให้การเตรียมข้อมูลต้องละเอียดมากๆ ไม่งั้นแย่แน่

เลยลองหลับตานึกภาพ แล้วลองลิสปัญหาออกมาทีละข้อ เพื่อประเมินภาพรวม

1. เรากำลังจะไปร่วมแข่งแรลลี่ นอกตัวเมืองของจังหวัดคุมาโมโต้ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรายังไม่เคยไปแถบคิวชูเลยด้วยซ้ำ
2. ต้องขับรถ เราขับรถเป็น แต่ยังไม่มีใบขับขี่ต่างประเทศ และยังไม่ทราบกฎจราจรที่นั่นแม้แต่นิดเดียว
3. รายละเอียดงานมีน้อยมาก ข่าวส่วนใหญ่ที่ออกมาในแบบภาษาไทย มีแต่รายละเอียดเหมือนๆกัน แบบก๊อปๆกันมา ทำให้หาเชิงลึกไม่ได้เลย
4. ต้องไปเมืองที่เพิ่งมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่ถึง 2 ปีดี (คิดดีแล้วเหรอ?)
5. การเดินทางภายในจังหวัดอาจไม่สะดวกด้วย ผลกระทบจากแผ่นดินไหว
6. การสื่อสารภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ การเดินทางอาจจะต้องถาม และอาจสื่อสารไม่รู้เรื่อง
7. เส้นทางที่ไป มีอุปสรรคพอสมควร มีจุดยากๆเช่น ต้องจอดรถ นั่งเรือข้ามเกาะไป และขับขึ้นภูเขาสูงที่ตั้งหอดูดาว
8. ระยะเวลาในการเดินทาง ค่อนข้างนาน แต่ละจุดไกลกว่าที่คิด

พอประเมินถึงปัญหาเบื้องต้นได้ครบ อิชั้นก็เริ่มทำการแก้ไขปัญหาทันที

ข้อ 1, 3 ตั้งกระทู้ถามในพันทิปเลยตรงๆ เผื่อมีความช่วยเหลือด้านข้อมูล https://ppantip.com/topic/35895200

ข้อ 2. แก้ปัญหาได้ด้วย การไปขอทำใบขับขี่ต่างประเทศ จ่ายเพียง 505 บาท ไม่ต้องสอบ ไปปุ๊บยื่นปั๊บ จ่ายปุ๊บ จบเลย อีซี่มากๆ

ข้อ 4 ทำอะไรไม่ได้ ทำได้คือ ซื้อประกันการเดินทางให้ครอบคลุม และขอให้ไม่มีแผ่นดินไหว

ข้อ 5-7 เป็นปัญหาที่แก้ตรงๆ ไม่ได้ ใช้ความอยากไป อยากทำ อยากช่วยแทน
ข้อ 8 เนื่องจากยื่นใบลาออกจากงานประจำ ไปแล้ว และได้รับการอนุมัติ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องเวลา (ลาออกเพราะวันพีซมา 2 รอบแล้วนะ ขยันจริงๆ อิชั้นเนี่ย)

และในเวลาไม่นานหลังจากตั้งกระทู้ถามไปได้มีล็อกอินชื่อ UrnoK มาตอบให้แบบละเอียดจนน่าทึ่ง เลยต้องขอติดต่อไปสอบถามเพิ่มเติม
ซึ่งล็อกอินท่านนี้ได้ตอบมาแบบละเอียดจนทึ่ง เนื่องจากเธอเคยไปตามรอยโบสถ์ในแถบคุมาโมโต้มาก่อน
และสถานที่วางตราประทับเป็นโบสถ์หลายจุด ทำให้เธอให้ข้อมูลที่ละเอียดกับอิชั้นได้เยอะมาก ต้องขอขอบคุณไว้ตรงนี้เลย

เอาล่ะ เมื่อข้อมูลมาแล้วก็วางแผน สถานที่ที่ต้องไปเก็บตราประทับประกอบไปด้วย

1. Shiro Amakusa Memorial Hall หรือ ศาลากลางอามาคุสะชิโร่
2. Spa Thalasso Amakusa สปาทาลัสโซ่ เป็นสถานตากอากาศที่สวย วิวดี
3. Yu Island (Harbor shop) เกาะยู (ซึ่งเข้าใจว่า ไปแค่ท่าเรือ แต่อิชั้นคิดผิด !!!)
4. Amakusa Visitors’ Center ศูนย์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยว แถบ อามาคุสะ
5. Himedo Regional Promotion Center ศูนย์วัฒนธรรม ฮิเมโดะ
6. Mui Observatory หอดูดาว

ในส่วนของข้อมูลแบบภาษาอังกฤษและไทย ข้อมูลน้อยมาก ต้องอาศัยข้อมูลเพิ่มเติมในทวีตเตอร์ของคนญี่ปุ่น
แล้วฝากให้คุณ Urnok ช่วยแปลให้ ทริปนี้วางการเดินทางไว้ 15 วัน รวมกับการตามรอยอื่นๆ ด้วย โดยเลือกพักที่จังหวัดฟุกุโอกะ
เนื่องจากพักสะดวกกว่า และใช้เป็นฐานในการท่องเที่ยวแถบคิวชูได้ ด้วยรถไฟความเร็วสูง

ตัดมาที่การเดินทางเมื่อไปถึงวันแรก มีงานแสดงวันพีซตอนพิเศษ ในชื่องาน WATER SPECIACLE
ที่มีไฮไลท์อยู่ที่ การฉายวันพีซบนจอน้ำพุ โดยใช้ละอองของน้ำในการฉายภาพที่ CANAL CITY ฮากาตะ



สำหรับรอบการแสดงจะเริ่มตอนค่ำ เพราะต้องแสดงเวลากลางคืนเท่านั้น โดยมีแสดงวันละ 3 รอบ
บางวันหยุดจะมี 4 รอบ โดยเราเลือกรอบ 2 ทุ่มกลางๆ เผื่อพลาดไปสาย




และที่ท่านเห็นนี้ คือ “จอ” แปลกดีใช่ไหมล่ะ คือ จอจะเกิดจากกระจกใสที่เราเห็นและน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาแล้วละอองน้ำ
ที่ตกลงมาจะทำหน้าที่เป็นจอร่วมกับระบบ แสง สี เสียง นั่นเอง

อิชั้นไม่ได้ถ่ายตอนฉายมา เพราะเอากล้องถ่ายคลิปไว้แทน

ภาพจริงๆ ตอนดู คือมันจะได้ความ 3D หน่อยๆ ผ่านภาพที่ฉายบนละออกน้ำ ประทับใจมาก

อันนี้อลังการมาก ประทับใจที่สุด หลังจากดูจบแล้ว ยังหาเวลากลับมาดูซ้ำอีกรอบ เพราะมันอลังการมาก
โดยเฉพาะฉากพิก้าร่างยักษ์กำลังจะโจมตีโซโล

คือด้านเสียงก็กระหึ่มและเซอร์ราวด์มาก ละอองน้ำที่ฉีดขึ้นไปสูงๆ ทำให้ภาพของพิก้ามันใหญ่โตมากๆ
และซีนที่ค่อยๆ ขยับเข้ามาโจมตี พอคนดูแหงนมองคือ มันใหญ่มากๆ อลังการสุดๆ

พอดูจบก็ไปร้าน JUMP ต่อ เพราะเรารู้ว่ามีสินค้า ONE PIECE X KUMAMON อยู่ ซึ่งก็มีพอสมควร
มีภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นกำกับไว้ว่า รายได้ช่วยเมืองคุมาโมโต้


ป้ายด้านหลังจะระบุไว้ชัดเจน







นอกจากสินค้าวันพีซที่ร่วมบริจาคยอดจำหน่ายแล้ว ตามร้านสะดวกซื้อ ชาวเขียว ข้าวปั้น ขนมปัง
ที่ร่วมนำรายได้บริจาคร่วมด้วย เลยซื้อไว้ทานตอนเช้าเกือบทุกวันเลย

วันต่อมายังวนเวียนในเมืองก่อน ภารกิจประจำทุกการเดินทางก็เดินหาร้านมืองสอง
และร้านของกินทั่วไป พอเดินมาถึงสถานีเทนจิน เจอเด็กๆ ยืนรับบริจาคกันอยู่

เราก็ไม่รู้อะไร ยืนดูน้องๆ เขาตะโกนขอรับบริจาคแบบญี่ปุ่น ระบบเหมือนบ้านเรา แต่จะมี อ.แอบยืนข้างหลังด้วย 2 คน
คงมาดูแลเด็กและให้ข้อมูล

เราเดินเข้าไปถ่ายรูปเฉยๆ เด็กคนนึงชี้มาที่พวงกุญแจ คุมะมงแฟรงกี้ ที่เพิ่งซื้อเมื่อวานและห้อยอยู่กะกระเป๋า
แล้วเด็กน้อยก็ชี้กลับมาที่กล่อง เลยเดินเข้าไปถามว่า “โดเนท ฟอร์ คุมาโมโต้ ?”



เด็กน้อย ตอบว่า “ไฮ่” พร้อมเพื่อน 2-3 คน แล้วเรียก “เซ็นเซย์” ครูเลยเดินมาพูดภาษาอังกฤษปนญี่ปุ่นว่า
เป็นการรับบริจาคช่วยคุมาโมโต้ เป็นกิจกรรมที่ทำในเมืองฟุกุโอกะ เพื่อส่งไปช่วยเมืองคุมาโมโต้

ก็เลยได้บริจาคช่วยไป แม้ไม่ได้ของวันพีซเป็นของตอบแทน แต่ได้เห็นเด็กๆ ตั้งใจรับบริจาคพร้อมกับของที่ระลึกที่เด็กๆ
ทำเองไว้แจกคนบริจาคแล้วประทับใจ

.
.
.
เอาล่ะ เริ่มต้นทริปแรลลี่ ตรงนี้ละ

เราเริ่มการเดินทางจาก เมืองฐานฟุกุโอกะ เดินทางด้วยการนั่งรถไฟชินคันเซน
อิชั้นซื้อ JR Northern Kyushu pass เอาไว้ ซึ่งเดินทางจากฟุกุโอกะไป คุมาโมโต้ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงไวมากๆ

ชินคันเซน เป็น 1 ในรถไฟในฝันสำหรับนักเดินทางในญี่ปุ่น ด้วยชื่อเสียงที่มีมายาวนานถึงความเร็ว สะดวกสบายและตรงเวลา และทำให้การเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งอิชั้นก็ชอบมาก นอกจากรถไฟจะใหม่ ทันสมัย ดูดี วิ่งไวแล้ว ยังมีสิ่งนี้อยู่ที่ทุกที่นั่งเพื่อ
ให้คนตาบอดสามารถหาตำแหน่งที่นั่งได้ด้วยตัวเอง ดีมากๆ

-พื้นที่หมด ต่อด้านล่างจ้า-