หากใครกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุดที่ไม่ไกลจากตัวเมืองกรุงเทพมากนัก ยังมีตลาดน้ำเรือนไม้โบราณอายุมากกว่า 108 ปีที่จะทำให้คุณประทับใจในการไปเยือนตลาดแห่งนี้ พร้อมทั้งดื่มด่ำกับบรรยากาศติดริมน้ำ ถ่ายรูปสวยๆ กินอาหารอร่อยๆ ไม่แพ้ตลาดน้ำไหนกับตลาดที่มีชื่อว่า “ตลาดน้ำคลองหลวงแพ่ง”
ตลาดน้ำคลองหลวงแพ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดย้อนยุคที่เป็นนิยมมากในสมัยก่อน แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก เพราะเริ่มกลับมาฟื้นฟู แต่ก็ยังมีเสน่ห์ของความเป็นตลาดเก่าแก่ ที่ยังคงวิถีของชุมชนคนริมน้ำซ่อนอยู่โดยตลาดหลวงแพ่งนั้นตั้งอยู่ริมคลองประเวศน์บุรีรมย์ อยู่เลยตลาดหัวตะเข้ไปไม่ไกลมากนัก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนตลาดจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตไปในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเฉพาะบริเวณตลาดโรงกระดาน 33 ห้องที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลวงแพ่ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งเหนือและฝั่งใต้ โดยฝั่งทางด้านทิศเหนือนั้นมีห้องแถว 33 ห้อง เรียกตลาดโรงกระดาน 33 ห้อง ส่วนทางทิศใต้นั้นมีห้องแถว 100 ห้องบรรยากาศการค้าขายจึงดูเหมือนว่าจะมีความคึกคักมากกว่า
โดยวันนี้พวกเรามีโอกาสได้มาที่ตลาดแห่งนี้ และร้านไหนที่ล่ำลือกันว่า “อร่อยและเด็ด” เราจะพาเพื่อนๆไปกินกัน เมื่อมาถึงที่ตลาดแล้ว แวบแรกที่พวกเราเห็น ถึงกับต้องร้อง ว่า “โห..” ดังๆ บรรยากาศได้กลิ่นไอความเก่าแก่ที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่เขาจริงๆ และอีกอย่างแสงที่ส่องรอดผ่านเรือนไม้เก่าๆ ยิ่งทำให้ตลาดดูสวยงามแปลกไปกว่าตลาดอื่นๆที่เคยไปมา
พอเดินผ่านประตูเข้าไปถึงร้านแรกที่เราเจอเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ชื่อว่า “ร้านก๋วยเตี๋ยวเตี่ย” จะมีคุณป้าน่ารักสองคนกล่าว “สวัสดี… พร้อมกับถามว่าลูกๆจะกินอะไรมาหรือยัง ?”
ความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวเตี่ย คือมีราคาที่ถูก แถมร้านยังคงราคาชามละ 20 บาท พิเศษ 30 เมื่อเทียบกับปริมาณและราคาอาหารในปัจจุบันนั้นถือว่าถูกมากๆ ทางร้านมีทั้งก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ต้มยำโบราณ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ ฯลฯ ถ้าไปชิมแนะนำว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
(กลิ่นมะนาวสดหอมมาก เส้นนุ่ม คงความเป็นก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณจริงๆ)
กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จของคู่กันที่จะพลาดไม่ได้เลยของหวานของร้าน คือ ขนมถ้วย และน้ำแข็งใส ที่หวานอร่อยเย็นชื่นใจ
(น้ำแข็งใสหวานมาก หวานน้อย หรืออยากจะใส่นมเยอะๆบอกป้าเขาได้เลย)
หลังอิ่มท้องจากร้านก๋วยเตี๋ยวเตี่ย เดินเลี้ยวซ้ายเข้ามาอีกประมาณ 150 เมตร สุดซอยเราจะพบกับร้านมาดามทรวง เป็นร้านขายของที่ระลึกประเภทไม้ และที่สำคัญยังแอบมีขนมโบราณอร่อยๆ (ปลากริมไข่เต่า) และน้ำสมุนไพรตะไคร้ใบเตย มาให้เรียกน้ำย่อยอีกด้วย
( ปลากริมไข่เต่าโรยถั่วเขียวทอด เนื้อแป้งนุ่มลิ้น ราดด้วยหัวกะทิไม่หวานไม่เค็มจนเกินไป อร่อยกรมกร่อม )
( น้ำสมุนไพรตะไคร้ใบเตยหอม ใส่มากับขันโบราณน่ารักๆ )
คุณป้าเจ้าของร้านมาดามทรวงเดินเข้ามากระซิปบอกพวกเราว่า ข้างๆร้านนั้นยังมีร้านส้มตำรสเด็ดชื่อว่าร้าน เจ้รัตน์ตำระเบิด ที่ป้าเจ้าของร้านไปแข็งขันตำส้มตำแล้วได้รับรางวัลมามากมาย โดยเมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือตำหัวปลี เป็นสูตรพิเศษนับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับการกินส้มตำของพวกเราจริงๆ
(ส้มตำหัวปลี เสริฟคู่กับใบพลู รสชาติหัวปลีออกมันๆ กรอบๆ นับว่าอร่อยกว่าส้มตำทั่วไปไม่น้อย)
นั่งดื่มด่ำบรรยากาศอยู่ที่ร้านมาดามทรวงให้อาหารย่อยกันสักพัก พวกเราก็เลยลองเดินย้อนกลับมาตรงร้าก๋วยเตี๋ยวเราได้เห็นอะไรมากมาย เป็นกิจกรรมสนุกๆของคนชุมชนตลาดหลวงแพ่งตลอดทางที่เราเดินผ่าน
( อยากจะร้องเพลงคาราโอเกะ,ต่อยมวยทะเล หรือดูคุณตาคุณยายนั่งจีบกันก็ได้จร้า )
ไม่นานนักพวกเราก็เริ่มหิวกันอีกแล้ว เลยมองหาอาหารใกล้ๆ จนมาเจอร้านอาหารเหนือแห่งหนึ่ง “ชื่อร้านลูกแก้ว” ร้านนี้ขายอาหารภาคเหนือหลายอย่าง เช่น แกงฮังเล ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย เป็นต้น แต่หน้าตาอาหารที่ยั่วยวนให้ลองชิมมากที่สุดก็คงจะเป็นข้าวซอยไก่ เส้นแบน เหนียวนุ่ม พร้อมกับน้ำแกงข้าวซอยที่เข้มข้น หอม มัน น่ากินมากๆ เราเลยสั่งมากินกันจนจุก และก็อร่อยสมกับหน้าตาอาหารเลยจริงๆ
( ข้าวซอยมาพร้อมกับน่องไก่ชิ้นใหญ่ๆคับชาม รสชาติเข้มข้นอร่อยอย่าบอกใคร...)
ร้านสุดท้ายที่เราจะพาไปชิมเป็นร้านขนมอยู่ติดกับร้านลูกแก้ว ชื่อว่าร้าน “DUDUBLABLA Café’ เมื่อพูดถึงบรรยากาศ เราให้คะแนนเต็ม 10 เลยแหละ เนื่องจากร้านนี้อยู่ริมคลอง อากาศเย็นสบาย ร่วมกับการตกแต่งร้านที่สวยน่ารัก เหมาะกับการถ่ายรูปและนั่งคุยชิลๆ ทำตัวslowlife ไปได้ทั้งวัน
มาเข้าเรื่องอาหารและเครื่องดื่มกันดีกว่า อาหารและเครื่องดื่มราคาไม่แรงมาก 45-80 บาทโดยประมาณ มีเมนูข้าวนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่เป็นเมนูสำหรับทานเล่น โดยที่เด่นๆของทางร้านเป็นเมนูโรตี มีหลากหลายหน้าให้เลือก เช่น โรตีชีส โรตีช๊อคโกแลต และ โรตีมะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีขนมปังชุมแป้งทอดหน้ากุ้งรสชาติอร่อยมาก (ยิ่งกินร้อนๆนะ โอโห้....เด็ด!)
( โรตีมะม่วง ทานคู่กับมะม่วงปั่นเข้ากันสุดๆ )
เป็นร้านที่อยากแนะนำให้ไปจริงๆ ใครที่ชอบบรรยากาศ ชอบความชิล ความชิค หาที่ถ่ายรูปเก๋ๆ อยากให้ลองไป แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง
และนอกจากอาหารต่างๆแล้วนั้น ข้ามมาอีกฝั่งคลองในตลาดหลวงแพ่งยังมีสินค้าอื่นๆ ทั้งมีแผงอาหาร ขนม นมเนย แผงเล็กแผงน้อย หรือร้านที่ไม่ค่อยเห็นตามตลาดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดผมโบราณ รวมไปถึงกิจกรรมการล่องเรือ ที่รับรองว่าคุณต้องตื่นตาตื่นใจจนเผลอจับจ่ายใช้สอยไปแบบลืมตัว อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจกันไปแน่นอน
( ร้านขนมไทย จากอีกฝั่งคลองของตลาดฯ )
ตลาดหลวงแพ่ง ตั้งอยู่ริมคลองประเวศน์บุรีรมย์ ซอยหลวงแพ่ง 5 ถนนหลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง เขตติดต่อจังหวัด กทม ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ หากต้องการมาเที่ยวที่ตลาด ได้ทางรถยนต์มี 2 เส้นทาง คือ ทางหลวงสาย 304 ฉะเชิงเทรา - มีนบุรี ถึงหลัก ก.ม. 59 เลี้ยวซ้ายเข้าตำบล และเส้นทางสายฉะเชิงเทรา - อ่อนนุช ถึงสะพานข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต สามารถเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟฉะเชิงเทรา ถึงสถานีรถไฟคลองหลวงแพ่ง และสามารถเดินทางด้วยเรือส่วนตัว หรือเรือรับจ้าง
[CR] ครึ่งวันกินแหลกที่ "ตลาดหลวงแพ่ง 108 ปี"
ตลาดน้ำคลองหลวงแพ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดย้อนยุคที่เป็นนิยมมากในสมัยก่อน แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก เพราะเริ่มกลับมาฟื้นฟู แต่ก็ยังมีเสน่ห์ของความเป็นตลาดเก่าแก่ ที่ยังคงวิถีของชุมชนคนริมน้ำซ่อนอยู่โดยตลาดหลวงแพ่งนั้นตั้งอยู่ริมคลองประเวศน์บุรีรมย์ อยู่เลยตลาดหัวตะเข้ไปไม่ไกลมากนัก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนตลาดจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตไปในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเฉพาะบริเวณตลาดโรงกระดาน 33 ห้องที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลวงแพ่ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งเหนือและฝั่งใต้ โดยฝั่งทางด้านทิศเหนือนั้นมีห้องแถว 33 ห้อง เรียกตลาดโรงกระดาน 33 ห้อง ส่วนทางทิศใต้นั้นมีห้องแถว 100 ห้องบรรยากาศการค้าขายจึงดูเหมือนว่าจะมีความคึกคักมากกว่า
โดยวันนี้พวกเรามีโอกาสได้มาที่ตลาดแห่งนี้ และร้านไหนที่ล่ำลือกันว่า “อร่อยและเด็ด” เราจะพาเพื่อนๆไปกินกัน เมื่อมาถึงที่ตลาดแล้ว แวบแรกที่พวกเราเห็น ถึงกับต้องร้อง ว่า “โห..” ดังๆ บรรยากาศได้กลิ่นไอความเก่าแก่ที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่เขาจริงๆ และอีกอย่างแสงที่ส่องรอดผ่านเรือนไม้เก่าๆ ยิ่งทำให้ตลาดดูสวยงามแปลกไปกว่าตลาดอื่นๆที่เคยไปมา
พอเดินผ่านประตูเข้าไปถึงร้านแรกที่เราเจอเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ชื่อว่า “ร้านก๋วยเตี๋ยวเตี่ย” จะมีคุณป้าน่ารักสองคนกล่าว “สวัสดี… พร้อมกับถามว่าลูกๆจะกินอะไรมาหรือยัง ?”
ความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวเตี่ย คือมีราคาที่ถูก แถมร้านยังคงราคาชามละ 20 บาท พิเศษ 30 เมื่อเทียบกับปริมาณและราคาอาหารในปัจจุบันนั้นถือว่าถูกมากๆ ทางร้านมีทั้งก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ต้มยำโบราณ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ ฯลฯ ถ้าไปชิมแนะนำว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จของคู่กันที่จะพลาดไม่ได้เลยของหวานของร้าน คือ ขนมถ้วย และน้ำแข็งใส ที่หวานอร่อยเย็นชื่นใจ
หลังอิ่มท้องจากร้านก๋วยเตี๋ยวเตี่ย เดินเลี้ยวซ้ายเข้ามาอีกประมาณ 150 เมตร สุดซอยเราจะพบกับร้านมาดามทรวง เป็นร้านขายของที่ระลึกประเภทไม้ และที่สำคัญยังแอบมีขนมโบราณอร่อยๆ (ปลากริมไข่เต่า) และน้ำสมุนไพรตะไคร้ใบเตย มาให้เรียกน้ำย่อยอีกด้วย
คุณป้าเจ้าของร้านมาดามทรวงเดินเข้ามากระซิปบอกพวกเราว่า ข้างๆร้านนั้นยังมีร้านส้มตำรสเด็ดชื่อว่าร้าน เจ้รัตน์ตำระเบิด ที่ป้าเจ้าของร้านไปแข็งขันตำส้มตำแล้วได้รับรางวัลมามากมาย โดยเมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือตำหัวปลี เป็นสูตรพิเศษนับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับการกินส้มตำของพวกเราจริงๆ
นั่งดื่มด่ำบรรยากาศอยู่ที่ร้านมาดามทรวงให้อาหารย่อยกันสักพัก พวกเราก็เลยลองเดินย้อนกลับมาตรงร้าก๋วยเตี๋ยวเราได้เห็นอะไรมากมาย เป็นกิจกรรมสนุกๆของคนชุมชนตลาดหลวงแพ่งตลอดทางที่เราเดินผ่าน
ไม่นานนักพวกเราก็เริ่มหิวกันอีกแล้ว เลยมองหาอาหารใกล้ๆ จนมาเจอร้านอาหารเหนือแห่งหนึ่ง “ชื่อร้านลูกแก้ว” ร้านนี้ขายอาหารภาคเหนือหลายอย่าง เช่น แกงฮังเล ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย เป็นต้น แต่หน้าตาอาหารที่ยั่วยวนให้ลองชิมมากที่สุดก็คงจะเป็นข้าวซอยไก่ เส้นแบน เหนียวนุ่ม พร้อมกับน้ำแกงข้าวซอยที่เข้มข้น หอม มัน น่ากินมากๆ เราเลยสั่งมากินกันจนจุก และก็อร่อยสมกับหน้าตาอาหารเลยจริงๆ
ร้านสุดท้ายที่เราจะพาไปชิมเป็นร้านขนมอยู่ติดกับร้านลูกแก้ว ชื่อว่าร้าน “DUDUBLABLA Café’ เมื่อพูดถึงบรรยากาศ เราให้คะแนนเต็ม 10 เลยแหละ เนื่องจากร้านนี้อยู่ริมคลอง อากาศเย็นสบาย ร่วมกับการตกแต่งร้านที่สวยน่ารัก เหมาะกับการถ่ายรูปและนั่งคุยชิลๆ ทำตัวslowlife ไปได้ทั้งวัน
มาเข้าเรื่องอาหารและเครื่องดื่มกันดีกว่า อาหารและเครื่องดื่มราคาไม่แรงมาก 45-80 บาทโดยประมาณ มีเมนูข้าวนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่เป็นเมนูสำหรับทานเล่น โดยที่เด่นๆของทางร้านเป็นเมนูโรตี มีหลากหลายหน้าให้เลือก เช่น โรตีชีส โรตีช๊อคโกแลต และ โรตีมะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีขนมปังชุมแป้งทอดหน้ากุ้งรสชาติอร่อยมาก (ยิ่งกินร้อนๆนะ โอโห้....เด็ด!)
เป็นร้านที่อยากแนะนำให้ไปจริงๆ ใครที่ชอบบรรยากาศ ชอบความชิล ความชิค หาที่ถ่ายรูปเก๋ๆ อยากให้ลองไป แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง
และนอกจากอาหารต่างๆแล้วนั้น ข้ามมาอีกฝั่งคลองในตลาดหลวงแพ่งยังมีสินค้าอื่นๆ ทั้งมีแผงอาหาร ขนม นมเนย แผงเล็กแผงน้อย หรือร้านที่ไม่ค่อยเห็นตามตลาดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดผมโบราณ รวมไปถึงกิจกรรมการล่องเรือ ที่รับรองว่าคุณต้องตื่นตาตื่นใจจนเผลอจับจ่ายใช้สอยไปแบบลืมตัว อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจกันไปแน่นอน
ตลาดหลวงแพ่ง ตั้งอยู่ริมคลองประเวศน์บุรีรมย์ ซอยหลวงแพ่ง 5 ถนนหลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง เขตติดต่อจังหวัด กทม ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ หากต้องการมาเที่ยวที่ตลาด ได้ทางรถยนต์มี 2 เส้นทาง คือ ทางหลวงสาย 304 ฉะเชิงเทรา - มีนบุรี ถึงหลัก ก.ม. 59 เลี้ยวซ้ายเข้าตำบล และเส้นทางสายฉะเชิงเทรา - อ่อนนุช ถึงสะพานข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต สามารถเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟฉะเชิงเทรา ถึงสถานีรถไฟคลองหลวงแพ่ง และสามารถเดินทางด้วยเรือส่วนตัว หรือเรือรับจ้าง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น