Love me, Love your health!! ภูมิแพ้ไม่ได้หายด้วยยา แต่หายด้วยความรักต่างหาก

สวัสดีครับคุณผู้อ่าน กระทู้นี้ผมจะมาแชร์เรื่องราวการดูแลคุณแฟนที่ขี้ดื้อของผม ที่ช่วยกันหาวิธีช่วยกันดูแลกันและกันจนหายจากอาการภูมิแพ้ที่เป็นมานานครับ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านพันทิปนะครับ


ขออนุญาตเริ่มต้นแบบนี้นะครับ ผมคบกับแฟนมาปีนี้เข้าปีที่ 5 แล้ว แต่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน ผมและแฟนทำงานกันคนละที่ ชีวิตผมกับแฟนก็เรื่อยๆ ครับ ตอนแรกๆ ที่คบกัน แบบพบปะกันตามสถานที่ต่างๆ ห้าง โรงหนัง ร้านอาหารก็ปกติครับ เค้าเป็นคุณแฟนที่น่ารักมากคนนึง (แต่ก็ดื้อไม่เบา) จนวันที่เราตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแบบที่ทางบ้านของผมและแฟนรับรู้ ผมเริ่มสังเกตอาการของแฟนหลายๆอย่าง เช่นป่วยง่าย พอตกกลางคืนจะเริ่มมีอาการฟึดฟัด หายใจไม่ออกอยู่เสมอ บางทีไม่มีน้ำมูกแต่ก็หายใจไม่ออกอะครับ แถมคืนไหนหนักๆก็มีกรนด้วย เหมือนจมูกตันๆ เห็นแบบนี้ผมก็ไม่สบายใจแล้ว

ผมก็จะชอบบ่นๆเค้าบอกจะสูดทำไมนักหนาน้ำมูกอ่ะ ตัวกรนดังเค้านอนไม่หลับ ประมาณนี้ จริงๆไม่ได้รำคาญหรือรังเกียจอะไรหรอกครับ แค่อยากให้เค้าไปรักษาให้หายซักที อยากให้เค้าแข็งแรงครับ ก็คือเป็นห่วงเค้านั่นแหละ ผมก็รบเร้าให้เค้าไปหาคุณหมอ เข้าคอร์สรักษาให้มันหายจริงๆไปเลย แต่แฟนคนนี้ของผมอย่างที่บอกครับ ดื้อใช่ย่อย หลังๆผมเคยเลิกรบเร้าเค้าในเรื่องนี้ไปเลย แล้วก็เลิกพูดเรื่องนี้กันไปหลายวัน

จนกระทั่งเรามานั่งจับเข่าคุยกันครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน จับมือเค้าแล้วบอกว่า

“ตัว เค้าอยากให้ตัวหายจริงๆนะ เพราะเวลาเห็นตัวหายใจไม่ออกแล้วเค้าไม่สบายใจ ถ้าตัวเป็นอะไรมาเค้าจะทำไง เค้าเป็นห่วง เรามาช่วยกันรักษามันกันดีมั้ย ขนาด ณเดชยังหายจากภูมิแพ้เลย ใครๆ ก็ทำได้แน่ๆ เชื่อเค้า”

ผมพูดประมาณนี้กับเค้า ด้วยน้ำเสียงจริงจัง หลังจากที่การทำเป็นงอนแฟนหลายวันแล้วไม่ได้ผล
ไม่รู้ว่าเค้าเห็นความตั้งใจของผม หรือรำคาญความวุ่นวายของผมกันแน่
แต่ในที่สุดก็ยอมครับ เค้ายอมทำตามวิธีการต่างๆที่ผมเตรียมหาข้อมูลไว้

ขั้นแรกเริ่มจากตัวต้นเหตุก่อนเลย ก็คือ “ไรฝุ่น” ครับ
ไรฝุ่นไม่ใช่แค่ฝุ่น แต่เป็นแมลงขนาดเล็กมากๆที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มันจะแฝงตัวอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน เสื้อผ้า ห้องนอน โซฟา ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม มันจะกินเศษผิวหนังกับรังแคของคนเราแล้วก็อึ๊ทิ้งไว้ เจ้าอึ๊ของไรฝุ่นเนี่ยจะฟุ้งกระจายไปทั่วแล้วก็เข้าไปในระบบทางเดินหายใจของเรา ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ต่างๆ เราเลยต้องเริ่มจากการสละผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่มผืนเก่าทิ้งไปให้หมด เพราะที่ใช้อยู่เป็นผ้าแบบหนาๆเก็บไรฝุ่นได้ดีนักแหละ แถมมานับๆดูเราก็ทำงานกันจนไม่มีเวลาที่จะเปลี่ยนมันบ่อยเท่าที่ควร เลยถือโอกาสไปสวีทกับแฟนที่ห้างฯไปเดินเลือกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ใหม่หมด เสียเงินไปหลายอยู่ครับ ซื้อไปบ่นไปแต่เอาจริงๆแล้วรอบนี้ผมไม่เสียดายเลยซักนิด (น่าแปลก555)


ผ้าปูที่นอน หมอนแบบที่กันไรฝุ่นได้ดี จะเป็นคอตตอน 100% ประมาณนี้นะครับ ดูง่ายๆจะมีสัญลักษณ์ป้องกันไรฝุ่นบอกอยู่ครับ สัญลักษณ์อาจะไม่เหมือนกันเป๊ะแต่ก็จะประมาณนี้


เราช่วยกันทำความสะอาดแล้วก็จัดห้องนอนใหม่ ทำให้ห้องโล่งขึ้น เอาพรมเช็ดเท้าไปไว้หน้าห้องนอนแทน ตุ๊กตาที่แฟนชอบกอด ก็เอาไปไว้ที่อื่นให้หมด หลังจากนั้นรู้เลยว่าแฟนชอบมากอดแขนตอนนอน คิดถึงสมัยที่คบกันใหม่ๆ เลยครับรู้งี้เอาตุ๊กตาไปทิ้งตั้งนานละ

ผมกับแฟนจัดเวรทำความสะอาดผ้าปูที่นอนกันไว้ สลับกัน ทุกๆสุปดาห์จะต้องซัก 1 ครั้ง ถ้าผมซัก แฟนต้องปู ถ้าผมปู แฟนต้องซัก แบ่งเวรกันชัดเจน

ก่อนนอนก็จะฉีดสเปรย์ที่เป็นน้ำมันยูคาลิปตัสในห้องทุกคืน ความตั้งใจแรกแค่เอาไว้ฉีดให้ห้องหอมๆ กับลดกลิ่นอับๆในรถ แต่พอเริ่มมาหาข้อมูลเรื่องการรักษาภูมิแพ้ก็เห็นเค้าใช้สเปรย์ตัวนี้กันเยอะ ผมก็เพิ่งรู้เนี่ยแหละว่ามันช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย ด้วยตัวเทคโนโลยี Activ Polar มันจะช่วยทำลายผนังเซลล์ของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ และไรฝุ่นในอากาศในห้องได้ด้วย ได้ทั้งกลิ่นหอมสบายโล่งจมูกมาก และยังช่วยฆ่าเชื้อโรค 2in1 เลยทีเดียว เหมาะกับเรามากๆ จะไม่เหมือนกับสเปรย์ปรับอากาศพวกเกรดหรืออะไรที่มีแต่กลิ่นหอมอย่างเดียว  ก็ฉีดในห้องทิ้งไว้แปปนึง แล้วค่อยเข้าไปนอนกันครับ กลิ่นเป็นแบบยูคาลิปตัส หอมๆเย็นๆ โล่งจมูกดี ฉีดแล้วหลับสบายขึ้นด้วย อาการแพ้ฝุ่น หายใจไม่ออกตอนกลางคืนก็ดีขึ้นเยอะ


หลังจากนี้ เลยตกลงกันว่า ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆเราจะต้องนอนกันก่อน 21.30 น. ให้ได้ โชคดีที่ช่วงนั้นกลางคืนไม่มีละครที่แฟนติดตามเลย ก็เลยได้ช่วงเวลากลับคืนมา เราเข้านอนกันบนเตียงประมาณ 3 ทุ่มทุกคืน แรกๆก็ตาแข็งเลยเถิดกันไปถึงสี่ทุ่มกว่าจะหลับลงเพราะยังไม่ชิน แต่ไม่นานทั้งผมและคุณแฟนก็พยายามข่มตานอนก่อน 21.30 น. จนสำเร็จ และกลายเป็นกิจวัตรไปเลย


เรื่องต่อมาเป็นเรื่องที่ผมชวนเค้ามานานมาก ตั้งแต่สมัยคบกันแรกๆ ตอนที่น้ำต้มผักมันยังหวานเจี๊ยบ คือการชวนเค้าออกกำลังกาย แฟนผมเคยมีประสบการณ์อุบัติเหตุจากการพยายามออกกำลังกายเพื่อรักษาโรคภูมิแพ้นี่แหละครับ ทำเอาเค้าเข็ดมานานเลย จนผมบอกให้เค้าไปลองดูอีกครั้ง รอบนี้เค้าจะปลอดภัยแน่ๆ เพราะมีผมอยู่ข้างๆ เค้าบอกว่าไม่อยากวิ่ง กลัวปวดเข่า กลัวน่องใหญ่ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่เถอะครับ ผมอยากให้แฟนไปออกกำลังกาย ถ้าเค้าไม่อยากวิ่ง งั้นเปลี่ยนเป็นการเดินก็ได้ ผมเลยโหลดแอพ STEPAPP มาเพื่อบอกแฟนว่า ใน 1 วัน เราจะต้องเดินรอบหมู่บ้าน หรือทำอะไรก็ได้ ให้ได้ 8,000 ก้าว ก็รู้แหละว่าเค้าไม่สบอารมณ์กับเกมส์นี้เท่าไหร่ แต่ก็ยอมทำ 5555


ข้อต่อมา เป็นเรื่องที่แฟนผมแทบจะล้มเลิกความตั้งไปจนหมดสิ้นครับ เพราะแฟนผมคนนี้เป็นคนไม่ชอบกินผักที่เป็นผลๆครับ เค้าชอบทานแต่ที่เป็นใบๆ ใช่ครับ ผมกำลังจะเริ่มชวนแฟนมากินผัก ผลไม้ดูบ้าง แต่รอบนี้ผมกวนใจเค้าเกือบเดือนกว่าๆก็ยังไม่ยอมกิน จนผมต้องขอร้อง โดยเอาเรื่องของความรักมาตื๊อเค้าอีกครั้งว่า ที่บังคับ ให้กินสลัดนี่ไม่ได้อยากแกล้งให้กินอะไรที่ไม่ชอบ แต่เพราะรักจริงๆ อยากให้กินจริงๆเพราะมันมีประโยชน์ จะได้แข็งแรงขึ้น จะได้หายไง เค้ารู้ว่ารอบนี้ผมเสียน้ำตาให้กับสลัดที่เค้ามองข้ามมันไป ผมจำได้ว่าแฟนเดินมาหาผมที่ในครัว แล้วบอกว่าก็ได้ ยอมกินก็ได้ แต่ต้องมีแต่เป็นใบเท่านั้นนะ

เอาวะ อย่างน้อยเค้าก็กิน ผมยอมอ่อนข้อให้เค้าไป เพราะไม่รู้จะอยากชนะไปทำไม แค่เค้าเริ่มกินผักทีละนิด ต่อไปก็คงกินได้มากขึ้นแหละ ผมหวังไว้อย่างนั้น
จริงๆหลังจากนั้นเขาก็เริ่มกินผักเรื่อยๆ และเริ่มกินได้หลากหลายมากขึ้น
แม้จะเป็นมื้อเดียวในหนึ่งวัน ก็ยังดีครับ อันนี้เป็นเมนูผักแต่ละวันที่ผมเตรียมไว้ให้เค้า
กินหมดบ้างไม่หมดบ้าง แต่ก็กินเก่งขึ้นทุกวันครับ


ข้อสุดท้ายที่เราทำกันตลอด คือการกลับมาทบทวนสิ่งที่เรา 2 คนกำลังพยายามทำกันครับ ว่ามีตรงไหนที่พลาดกันไปบ้าง เช่น มีสัปดาห์ไหนที่เรานอนเกิน 3 ทุ่มครึ่งบ้าง มีกี่วันที่เดินไม่ครบ 8,000 ก้าว กี่มื้อที่ไม่ได้ทานสลัดอะไรแบบนี้ ก็ลิสต์ออกมากันเป็นสัปดาห์ๆ แล้วก็บอกแฟนว่าไม่เป็นไร ถึงยังทำไม่สำเร็จ อย่างน้อยเราสองคนก็ได้ลงมือทำแล้ว ผมรู้ว่าแฟนผมพยายามแล้ว จนเป็นแบบนี้มา 4 เดือน แฟนผมแอดวานซ์ไปถึงไปเล่นเครื่องออกกำลังในในสวนของหมู่บ้านเองเริ่มซื้อผักมาแช่ตู้เย็นไว้เอง เย็นมาเลิกจากงานก็ทำสลัดเตรียมไว้ให้โดยไม่ต้องบังคับเค้าแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะผมทำไม่อร่อยถูกใจรึป่าว -*-

ผมสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเค้าทุกวัน ช่วงหลังมานี้อาการที่เคยมีก่อนหน้านี้เริ่มไม่มีแล้ว อย่างตอนกลางคืนเวลานอนก็ไม่กรนแล้ว เพราะระบบทางเดินหายใจดีขึ้น ไม่มีอาการคัดจมูกฟึดฟัดหรือจามชุดใหญ่ๆแบบคอมโบเซ็ตให้ได้ยินเท่าไหร่แล้ว ผมเคยลองโทรไปถามเพื่อนที่ทำงานของแฟน ว่าระหว่างวันเค้ายังมีอาการภูมิแพ้บ้างหรือเปล่า เช่นตอนนำเสนองานแฟนหายใจฟึดฟัดให้เสียบุคลิกหรือเปล่า เพื่อนของแฟนก็บอกว่า เพิ่งสังเกตตอนผมถามเนี่ยแหละ ว่าเค้าไม่ค่อยมีอาการฟึดฟัด สั่งน้ำมูกตลอดเวลาแล้ว ผมนี่ยิ้มออกเลยครับ

หลังจากที่เริ่มกลับมาดูแลสุขภาพกันทั้งผม ทั้งแฟน 4 เดือนเนี่ยผมกับแฟนได้อะไรบ้าง
อย่างแรกเลยครับ ผมได้แฟนที่ไม่ขี้โรคของผมกลับมาแล้วครับ อาการภูมิแพ้ที่เคยมีมานานตอนนี้แทบไม่เห็นแล้ว นี่คือสิ่งที่ผมต้องการที่สุดเลย ไม่ใช่เพราะความรำคาญอย่างที่ผมเคยบ่นเคยบอกเค้า แต่เพราะผมอยากให้เค้าอยู่กับผมได้นานๆ
อย่างที่สองคือแฟนผมน้ำหนักตัวลดลงไปตั้ง 2 กิโล เป็น 2 กิโลที่เขาลดของทอดลดของไม่มีประโยชน์ กับกินสลัดในมื้อเย็นรวมถึงการออกกำลังกายด้วย
อย่างที่สาม คือ บุคลิกภาพของแฟนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นครับ แฟนสามารถนำเสนองาน หรือเข้าห้องประชุมได้โดยที่ไม่ต้องพกยาพ่นทิชชู่ กระเป๋าใบโตไว้ทิ้งทิชชู่แล้ว

ที่หัวข้อว่าLove me, Love your health คือสิ่งที่ผมคิดว่าจริงที่สุดเลยนะครับ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่เมื่อเวลาที่เรารักใครแล้ว ผมก็อยากจะดูแลเค้าให้ดีที่สุด อยากจะหาทุกอย่างที่ดีที่สุดไว้ให้เขา คำว่ายุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมที่พ่อแม่บอกว่าเลี้ยงดูผมมาแบบนั้น จนวันนึงที่ผมโตขึ้นเราก็อยากจะทำแบบนั้นกับพ่อกับแม่เหมือนกัน และเมื่อผมทำให้พ่อแม่แล้ว ก็เอามาทำกับคนที่ผมรักที่สุดอีกคนนึงด้วย อะไรที่ใครบอกว่าดี ขนมที่ว่าอร่อย ที่ทำให้เธอมีความสุขได้ผมก็จะทำให้ตลอด และสิ่งสำคัญที่สุดก็ไม่พ้นเรื่องสุขภาพ ผมรักเค้าผมก็อยากให้คนที่ผมรัก เค้ารักและก็ดูแลสุขภาพของเค้าด้วยเหมือนกัน แต่วิธีการของผมมันอาจจะไม่ได้ทำให้เค้าแฮปปี้เท่าไหร่ ผมอาจจะเปลี่ยนแปลงเค้าเกือบทุกอย่างให้ทำในสิ่งที่เค้าไม่ชอบ
แต่ผลที่ได้มาคือโรคภูมิแพ้ของเค้าที่ผมเป็นห่วงที่สุดหายได้แล้วจริงๆ


สำหรับเพื่อนที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือมีคนที่รักเป็นโรคภูมิแพ้อยู่นะ ผมอยากลองให้นำวิธีของผมกับแฟนลองไปใช้ดู ค่อยๆ ปรับให้เข้ากับชีวิตของแต่ละคน ให้กำลังใจกัน ดูแลกันเดี๋ยววันนึงจะประสบความสำเร็จเหมือนผมและแฟนครับ สวัสดีครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่