ส่วนตัวแล้ว เป็นคนสายตาสั้น+เอียง เคยตัดแว่นครั้งล่าสุดเมื่อประมาณสมัยเริ่มทำงานใหม่ๆ ถ้าย้อนไปก็ประมาณ 11-12 ปีได้ (บ่งบอกอายุว่าเริ่มแก่ 55) ซึ่งตอนนั้นสายตาเราค่อนข้างเอียง ไม่สั้นนะ แต่เอียง จึงทำให้การมองเห็นนั้นออกจะเบลอๆ นิดหน่อย ก็เลยไปตัดแว่นที่ร้านสีฟ้า ซึ่งสมัยนั้นมีร้านที่เชื่อถือได้ไม่มากนัก จึงเลือกร้านสีฟ้า ซื้อกรอบข้างนอกไปให้ร้านตัดให้ แว่นสายตาธรรมดา ราคา 800-900 บาทได้ (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งก็ใช้มาเรื่อยๆ แต่จะใส่ตอนที่มองคอมฯ เท่านั้น  จนเวลาผ่านมาเนิ่นนาน นานมาก 12 ปี ได้ฤกษ์ตัดแว่นใหม่ เหตุเกิดจาก เราต้องไปเรียนขับรถจร้า ถ้าระดับสายตาแบบนี้ น่าจะเรียนไม่ผ่านแน่ๆ จึงเป็นเหตุให้ต้องตัดแว่นสายตาใหม่อีกครั้ง

          ครั้งนี้เราทำการบ้านจร้า ทั้งร้านสีฟ้า และร้านทั่วๆ ไป ตามตึกแถว ซึ่งโจทย์ของเราคือ ไม่อยากไปตัดไกลบ้าน เพราะคงไม่สะดวกไปรับ / ราคาเป็นกันเอง / ตัดออกมาแล้วใช้งานได้จริง (เออ ก็ต้องใช้ได้จริงทุกร้านแหละเนอะ) และที่สำคัญเรื่องการบริการ ความใส่ใจลูกค้าต้องมา

          เราจึงเริ่มค้นหาร้านตัดแว่นในระแวกบ้าน จากการนับร้าน มีอยู่ประมาณ 4 ร้าน (ไม่รวมสาขาย่อย) ซึ่งเราก็ทำการหาข้อมูล ทั้งร้านสีฟ้า / ธงฟ้า / เอื้ออาทร โดยการสอบถามจากเพื่อนๆ ที่เคยตัดบางคนว่าดี บางคนว่าไม่ดี บางร้านจัดโปร 1 แถม 1 ทำออกมาก็ไม่ดี รวมถึงหาข้อมูลในอากู๋บ้าง จนเราไปเจออยู่กระทู้นึง แนะนะร้านนี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/32745761

          เราก็เห้ย อยู่แถวบ้านเหมือนกันนี่หว่า และจากการไล่อ่าน comment ดู ก็คิดว่าน่าจะโอเคอยู่นะ จึงตัดสินใจว่า ร้านนี้แหละ / ซึ่งร้าน People Vision มีสาขาทั้งหมด 3 สาขา ซึ่งประกอบไปด้วย
          1. สาขาปากเกร็ด (สาขาหลัก)
          2. สาขาลาดปลาเค้า 76
          3. สาขาเสนานิคมวังหิน
          ซึ่งร้านที่เราเลือกไปก็คือสาขาปากเกร็ดนั่นเองค่ะ โดยร้าน People Vision จะอยู่ริมถนนแจ้งวัฒนะ ขาเข้าท่าน้ำปากเกร็ด อยู่ติดกับร้านทอง และร้านทำผม หากมารถโดยสารสาธารณะ ต้องลงที่ป้ายธนาคารออมสิน แล้วเดินย้อนขึ้นมาทางธนาคารกสิกรค่ะ หากขี่มอไซด์มา สามารถขับขึ้นฟุตบาทเพื่อจอดหน้าร้านได้ หากมารถยนต์ส่วนตัว ต้องเข้าไปจอดใต้สะพานพระราม 4 (เสียค่าจอดรายชั่วโมงนะคะ)
ภาพหน้าร้านค่ะ

          เสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายถาพภายในร้านกลับมาให้ดูกัน เอาเป็นว่า ขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังละกันนะคะ
          เมื่อเราเปิดประตูเดินเข้าร้านไป มีพี่คนนึง ยิ้มแป้นรีบเดินมาต้อนรับอย่างเร็วเลยค่ะ (ลืมถามชื่อพี่เขามา) เราเดินเข้าร้านไป 3 คน พี่เขาถามอย่างไวว่า ใครตัดคับ เราก็ยกมือ หนูเองคร้าาาา แล้วพี่เขาก็พูดต่อว่า มาๆ เช็คสายตากันหน่อย / ก็วัดสายตาปกติเหมือนร้านทั่วๆ ไป แต่ค่าสายตารอบนี้ เอียงมากกว่าเดิมจร้า แถมด้วยสั้นอีกนิดหน่อย พอพี่อีกคนวัดค่าสายตาให้เราเสร็จก็ให้เราลองแว่นที่ใส่เลนส์ตามค่าสายตาเรา แล้วให้เราลองเดินเลยค่ะ พี่ที่ออกมาต้อนรับก็จะถามตลอด เป็นยังไง ชัดขึ้นไหม ยิ่งพอพี่เขาเห็นค่าสายตา พี่เขาก็บอก ผมขอนะ ขอให้ใส่แว่นตลอด 555 เราก็ลองเดินจนเราพอใจ พี่คนแรกก็พาเราไปเลือกแว่น อ่อ ลืมบอก งานนี้เราตั้งใจมาเลือกแว่นของทางร้านเลยค่ะ ซึ่งแว่นของทางร้านก็มีหลายแบบ (ลืมถ่ายรูปมาให้ดู) ทั้งแบบทรงกลมที่กำลังฮิตๆ กัน แบบแทรนเกาหลีประมาณนั้น แบบเหลี่ยมก็มี เราก็ลองเลือกๆ ดูจนเราพอใจ พี่เขาก็แจ้งเราว่า กรอบแว่น ทางร้านประกันให้ 1 ปี หากมีปัญหา สามารถกลับมาที่ร้านได้เลย รับประกันแน่นอน (ว๊าวววว ดีมากเลย) ราคาแว่นที่เราเลือกก็จะอยู่ที่ 600 บาทค่ะ (แล้วแต่รุ่นด้วยนะคะ)

          ซึ่งพอเราเลือกแว่นแล้ว พี่คนแรกจะแนะนำเรื่องเลนส์แว่นค่ะ ซึ่งถ้าเป็นเลนส์มัลติโค๊ด จะอยู่ที่ 1,500 บาท ถ้าเพิ่มเลนส์ออโต้ เข้าไปจะอยู่ที่ 3,000 บาท ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของเราคือ การใส่ทำงานหน้าคอม และการใส่เพื่อใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป ซึ่งจริงๆ ใจเราอยากให้ตัดแสง UV ด้วยนะ เพียงแต่ว่า เราไม่ชินเวลาที่ใส่แว่นกันแดดเท่านั้นเอง จึงเลือกเป็นเลนส์มัลติโค๊ดอย่างเดียว // อ่อ สำหรับคนที่สายตาสั้นมากๆ อย่างเช่นแฟนเรา สั้น 600 แอบถามราคาของเลนส์บางพิเศษ (ประมาณ 1.6) ราคาอยู่ที่ 3,500 บาท ซึ่งเรามองว่าถูกกว่าหลายๆ ร้านนะคะ

          รวมๆ แล้ว ค่าเสียหายจากการตัดแว่นของเราครั้งนี้อยู่ที่
          - เลนส์ 1,500 บาท
          - กรอบแว่น 600 บาท
          พี่เขาใจดี ให้เราจ่ายแค่ 2,000 บาทถ้วน
          
          ยังค่ะ ยังไม่จบ จ่ายเงินเสร็จแล้ว พี่เขายังแนะนำเรื่องการใส่แว่นอีกด้วย ได้แว่นไป ให้ใส่ครั้งแรกตอนตื่นนอน และให้ลองใส่ทั้งวัน เพื่อให้สายตาคุ้นชินกับแว่นอันใหม่ และพี่เขายังอ้อนวอน 555 ให้เราใส่แว่นตลอดเวลา เป็นห่วงเรื่องการข้ามถนนอีกต่างหาก หากไม่ได้ใส่แว่น (แอบใจดีไปอีกค่ะ) ซึ่งวันที่เราเข้าไปตัดแว่นที่ร้านเป็นวันเสาร์ ช่างตัดแว่นจึงหยุด จะได้แว่นอีกทีก็วันจันทร์เลย ซึ่งปกติแล้วถ้าไปวันธรรมดา ก็สามารถรอรับได้เลยค่ะ (ถ้าช่างอยู่นะ)
          ในส่วนของการรับแว่น เราให้แฟนไปรับให้ค่ะ เพราะเป็นทางผ่านกลับบ้านพอดี แว่นที่ได้มาก็หน้าตาประมาณนี้ค่ะ แท่นๆๆๆ

          เป็นไงบ้าง แว่นสวยเลยใช่ไหม สิ่งที่เราได้มาก็ กล่องใส่แว่นกับผ้าเช็ดแว่นเหมือนร้านทั่วๆ ไปมีให้ค่ะ แว่นใสกริบเลย น้ำหนักเบา ไม่หนักและจากการทดลองใส่มา 2 วัน บอกตรงๆ ว่ายังไม่ชินกับการมองเห็นอะไรชัดๆ เท่าไหร่ เหมือนทุกสิ่งอย่างมันใกล้ตัวไปหมดเลยค่ะ 555 (อย่างว่า ห่างหายจากการตัดแว่นมาหลายสิบปี สายตาก็ต้องเปลี่ยนไปแหละเนอะ)

          สุดท้ายนี้ หากใครกำลังมองหาร้านตัดแว่น ที่ราคาไม่แรง แนะนำดี ปรึกษาได้ บริการหลังการขายดีๆ ลองสอบถามกับพี่ๆ เขาได้นะคะ เรายอมรับว่า เราประทับใจตั้งแต่ตอนเปิดประตูเข้าร้านแล้วค่ะ หวังว่ากระทู้แรกของเรานี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ

เราแนบรูปนามบัตรสาขาปากเกร็ดไว้ให้นะคะ