หลังจากที่ได้ลงกระทู้แชร์ประสบการณ์ขับรถมือใหม่ไปแล้วมีคนทักกันเกรียวกราวว่าเป็นที่สายตาไม่ดีหรือเปล่า?? ถึงขับรถชนบ่อย บอกเลยว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ เชื่อฟังชาวพันทิปมากเว่อ เห็นคำแนะนำว่าให้ไปเช็คสายตาใหม่อาจจะมีส่วนจริง ก็เลยถามเพื่อนว่า มีร้านแว่นดีๆแนะนำบ้างมั้ย เอาแบบที่ใกล้ๆสยาม เราไปแถวนั้นบ่อย เผื่อมีอะไรต้องซ่อมต้องแก้ จะได้ไปไม่ลำบาก เพื่อนเลยแนะนำร้าน “Clear Vision”อยู่ตรงทางเชื่อมมาบุญครอง ตึก A LA ART
ก่อนจะมารีวิวก็ได้ติดตามเพื่อนที่ไปตัดของนางก่อนที่จะไปตัดของตัวเอง แล้วรู้สึกว่า เออ ร้านดีจริง แตกต่างจากที่เคยตัดมา (ประสบการณ์ใส่แว่นตั้งแต่ประถม) เด่วจะมาบอกว่า ไอ้ที่บอกว่าดีอ่ะ ดีตรงไหนบ้าง
เดินขึ้นสะพานลอยหน้าตลาดพาเพลินตรงสยามมาได้เลย เดินมาเรื่อยๆ เข้าตึก A la Art ร้านอยู่ใกล้ร้านชานม Mr.T
ข้อดีที่1 ขั้นตอนวัดสายตาละเอียดยิบ (เข้าร้านทุ่มนึง ออกจากร้านสองทุ่ม)
พอเดินเข้ามาในร้านปุบ พี่เค้าก็ให้เลือกกรอบก่อน ในร้านก็มีกรอบเยอะพอสมควร
มีทั้งแว่นธรรมดาและแว่นกันแดด
ฝั่งซ้ายมือเป็นกรอบราคาปกติ ฝั่งขวาที่เห็นลิบๆคือโซนที่เหมาะสมกับฐานะเรา
โซน 899.-แบบชัดๆ
โซนที่เหมาะกับเราคือ โซนนี้ค่ะ 899.- ราคาโอเค พอซื้อไหว ส่วนตรงอื่นก็มีราคาหลักพันค่ะ แต่ส่วนตัวเราว่า 899.-ก็ใช้ได้นะ ไม่ได้ล้าสมัย ก็ลองๆทาบไป เพื่อนก็ช่วยเลือก พี่เค้าก็พยายามช่วย 5555 แต่เลือกไม่ถูกใจเรา เพราะพี่ที่มาดูแลเค้าเป็นผู้ชายด้วยแหละ ถ้าจะไปตัดพาเพื่อนสาวไปด้วย นางจะรู้เทรนด์และกล้าพูดมากกว่า ว่าทรงไหนได้ ทรงไหนไม่โอ พี่เค้าขายของคงไม่กล้าบอกลูกค้าหรอกว่า อันนี้ใส่แล้วหน้าบานมากเลยครับ โอโหยย ทรงนี้ค่อดแก่
แต่พี่เค้าก็บอกว่าจริงๆแว่นเก่าเราที่ใส่น่ะ เหมาะกับเราแล้ว เพราะคนหน้ากลมแบบเรา ควรเลือกแว่นออกเหลี่ยมๆหน่อย (ทรงกลมนี่ใส่ไม่ได้เลย เหมือนผู้เฒ่าเต่า) แล้วก็ควรเลือกทรงใหญ่ๆหน่อยเพราะจะได้ดึงความสนใจจากกรอบหน้า
อันนี้เราลงรูปให้ดูว่าแว่นเก่าเราใส่แบบนี้มาตลอด5ปีได้แล้ว มันเบื่อแล้วอ่ะ
ขาแว่นก็ลอกเพราะใส่อาบน้ำด้วย (ตามวิถีคนสายตาสั้น)
จนมาลงตัวที่แว่นขอบเงินแบบสาวเกาหลีเค้าใส่กัน เพื่อนบอกว่าอันนี้แหละแก หน้าไบร์ทขึ้น ขาวขึ้น แต่ขอบจะบางกว่าแว่นเดิมหน่อย ก็อยากแฟชั่นอ่ะ หน้าบานก็บานสิ
พอเลือกกรอบได้ ก็เข้าสู่โหมดวัดค่าสายตา...
ขอบอกเลยว่าไม่เคยวัดสายตาที่ไหนนานขนาดนี้ เอาตามขั้นตอนปกติที่เคยไปวัดมา ก็จะมีเข้าเครื่องวัดค่าสายตาหยาบๆที่ให้จ้องบอลลูนอ่ะค่ะ ที่นี่ก็จ้องเหมือนกัน
วัดค่าสายตาแบบคร่าวๆ (ขออนุญาตพี่เค้าแล้วว่าขอลงแบบเห็นหน้าได้)
ได้ค่ามาตามนี้
แต่เราอ่านไม่เป็นนะ แต่พี่เค้าบอกว่าค่าสายตาเปลี่ยนจากแว่นเดิมเยอะเลย คือเอียงกว่าเดิม 100 พี่เค้ายังทักเลยว่า “เราติดเพ่งใช้มั้ย เพราะใช้สายตาข้างเดียวมาตลอด อีกข้างสายตามันเปลี่ยนไปแล้ว” ไม่พูดเปล่า ก็หยิบแผ่นปิดตา มาปิดตาทีละข้างให้เราลองอ่านผ่านแว่นเก่า ว่าเห็นชัดมั้ย อ่านออกแค่ไหน บอกเลยว่า อ่านไม่ออกจริงๆ ก็เลยตัดสินใจว่าตัดเลยค่ะ เอาเลย (แว่นเก่าก็ตัดร้านแถวสยามเหมือนกันนะ เพิ่งตัดได้แค่ปีเดียวเอง สายตาเปลี่ยนไวมาก)
พอวัดแบบหยาบเสร็จ ก็ไปที่เครื่องที่เค้าจะเปลี่ยนเลนส์ค่าสายตาผ่านเครื่องนี้
แล้วให้เราอ่านตัวเลข ขั้นตอนนี้แหละที่พี่เค้าละเอียดกว่าชาวบ้านเค้ามากกก เปลี่ยนจนรู้สึกว่าจะอ้วก ปล่อยหนูไปที T^T ละเอียดชนิดที่ว่า พี่เค้าเปลี่ยนเลนส์แล้วเราก็ไม่รู้สึกว่าต่าง แต่คือพี่เค้าเปลี่ยนให้มันต่างแล้ว แต่เราดูไม่ออกเอง วัดทั้งความเอียง ความเข้มสี การบาลานซ์ค่าสายตาสองข้าง
พี่คนหล่อ: รู้สึกว่าเส้นดำชัดกี่เส้นครับ
พี่คนหล่อ: รู้สึกว่าสีแดงกับสีเขียวอันไหนชัดกว่ากันครับ
พี่คนหล่อ: อ่านแถวที่4ครับ (แถวที่4รอบที่108แล้ว ท่องจำได้ขึ้นใจแล้ว 5555)
555555555 โอ๊ยยย ไม่รู้อ่ะ มันก็แดง ก็เขียว ก็ชัดทั้งคู่ พี่ไม่ยอมปล่อยเราออกไปจนกว่าพี่แกจะพอใจ บางทีเปลี่ยนเลนส์แล้วตัวเลขเบลอ แต่ก็ยังสามารถจำเลขบรรทัดนั้นบอกพี่เค้าได้แล้วอ่ะ
อย่าคิดว่าแค่มองเห็นเลขแล้วจะจบนะคะ พี่เค้ามีความบาลานซ์สายตาทั้ง 2 ข้างด้วย เพื่อให้เราใส่แว่นได้อย่างราบรื่น ไม่ให้เรารู้สึกว่าเวียนหัว
ตรงช่วงนี้แหละ ที่จะได้คุยกะพี่คนหล่อเป็นนานสองนาน นานจนเราบับ พอยังอ่ะพี่ยังไงดี มาตั้งแต่ยังไม่หิวจนหิวข้าวแล้วT^T
หลังจากพี่เค้าพอใจแล้ว เราก็จะได้มายืนลองใส่แว่นตาเดิน เพื่อดูว่าพื้นลอยไปไหม มองไกลๆแล้วรู้สึกยังไง คือมันก็มีเวียนหัวบ้างแหละ ตามประสาคนเปลี่ยนแว่นใหม่
ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอ่ะ คนบ้ารัยหน้าใสเป็นกระจกเลย (ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ชั้นจะเก็บไว้ดูเอง แฮร่)
แต่อย่าคิดว่าจะจบง่ายๆ
.
.
พี่คนหล่อขอวัดตาดำด้วย โอ๊ยยย ไม่เคยไปร้านแว่นไหนแล้วต้องวัดตาดำเลย เลยถามว่าทำไมต้องวัดด้วยคะ =.,=? พี่เค้าบอกว่าเวลาเรามองผ่านเลนส์ ตาดำเราจะอยู่ตรงส่วนไหนของเลนส์ ก็มีผลต่อการมองด้วย งงป่ะ 555555 อธิบายแล้วทำไมงง จำมาได้แค่นี้ ใครไปตัดก็ลองถามพี่เค้าดูนะคะ สมองเราเมมน้อย พี่เค้าอธิบายเยอะเลยแหละ แต่จำไม่ไหว ตอนนั้นอ๊องแล้ว หิวข้าว
ขั้นตอนวัดตาดำเนี่ย ฟินเว่อ พี่เค้าก็จะให้มองตาพี่เค้า ระหว่างที่เรามองตาพี่เค้า พี่เค้าก็จะเอากระดาษวัดแผ่นเล็กๆมาทาบๆ วัดลูกตาดำเรา เรามีหน้าที่มองตาตามข้างที่พี่เค้าให้มอง
(ขั้นตอนนี้ใกล้มาก อายสิวมากค่ะ ด่าตัวเองทำไมไม่แต้มคอนซีลเลอร์มาตัดแว่นว่ะ)
ข้อดีที่2 เจ้าของร้านงานดี
เอ้า ขอสารภาพกันตรงนี้เลยว่าซื้อเพราะผู้ชาย 5555 โว๊ะ บ้าหรอ
เจ้าของร้านงานดีจริงมั้ย(ก็จริง)
เป็นส่วนหนึ่งในการซื้อมั้ย(ก็เป็น) 555555 แต่ไม่ใช่ทั้งหมด! แต่ที่เอาขึ้นมาเป็นข้อดีเพราะตั้งแต่เดินเข้าไป พี่คนหล่อเค้ามาดูแลและบริการดีไง ก็เลยเป็นความประทับใจแรก เราก็เดินเข้าไปบอกเค้าว่าจะมาตัดแว่นค่ะ ช่วยแนะนำหน่อย พี่เค้าก็ตั้งใจแนะนำ+ให้ความรู้มาก จะลองกรอบนานก็ไม่มีชักสีหน้า เรากับเพื่อนเลยขอถ่ายรูปเก็บบรรยากาศในร้านมารีวิวให้ เพราะเคยมากะเพื่อนครั้งแรกแล้วชอบ ครั้งนี้ก็เหมือนมาเช็คอีกทีว่าถ้าเวิร์คก็จะรีวิวให้แต่ถ้าตัดแล้วครั้งนี้เราไม่โอ เราก็จะบ๊ายบาย แต่พอลองตัดแล้วก็ชอบเหมือนเดิม ส่วนพนง.คนอื่นๆก็บริการดีเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พี่คนนี้นะคะ (ตอนมารับแว่นอีกวันนึง พนง.คนอื่นก็ยิ้มแย้มดีแล้วก็อธิบายรายละเอียดประกันและการดูแลรักษาแว่นดีค่ะ) มันจะรู้ได้จากการพูดคุยค่ะ เวลาเราถามอะไร หรือสงสัยตรงไหน พี่เค้าก็ตอบได้ฉะฉานและค่อนข้างเคลียร์ ก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้รับบริการคุณภาพ ไม่ได้ตัดส่งๆ
ข้อดีที่3 ตัดเลนส์ได้ภายใน 1ชม.
ถ้าสายตาสั้นแบบคนปกติก็ได้ภายใน 1 ชม.ค่ะ เดินไปทานข้าวกลับมาก็ได้แล้ว แต่สำหรับเราคนพิเศษต้องสั่งทำ อีกวันนึงถึงจะได้ ขั้นตอนนี้พี่เค้าก็มาบอกราคาให้ ว่าเราจะทำอะไรเพิ่มบ้าง พี่เค้ามี 2 Option ให้เราเลือกเพิ่ม
1.การย่อเลนส์ให้บางเพราะเราสายตาสั้นมาก เลนส์ก็จะหนามาก ที่ร้านก็จะมี Step ให้เลยว่าจะย่อกี่มิล ราคาก็ตาม Step ไม่ต้องทายให้ลำบาก เราเลือก Step แรก ถูกสุด 555555
2.เลนส์ตัดแสงอันนี้เค้าก็จะมีให้เลือกแหละว่าจะเอาเลนส์แบบเริ่ดขนาดไหน จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง (ขนาดตั้งใจจะมารีวิวนะ) แต่เอาเป็นว่าเราเลือกเลนส์ตัดแสงมา เพราะต้องทำงานหน้าคอมนานๆ ไหนๆก็เสียตังค์แล้ว
สรุปราคา กรอบเลนส์อยู่ที่ 2,500.- เหมือนพี่เค้าจะอ่านสีหน้าออก พี่เค้าบอกว่ามีเลนส์หลายค่ายให้เลือก แล้วพี่เค้าจะอธิบายว่าอันไหนเป็นยังไงแบบที่การเปรียบเทียบให้เราดู เราก็พยักหน้าอ๋อๆ หรอคะ แต่ถามว่าคืออะไร ก็ไม่รู้เหมือนกัน
เอาจริงในใจก็คิดนะว่าควรเชื่อพี่เค้าว่าควรย่อเลนส์ให้บางสุดเลยเพื่อความสวยงาม แต่สายตาเราเหวี่ยงมาก เปลี่ยนยิ่งกว่าตลาดหุ้น เราเลยไม่อยากเลือกแพงมาก เราเป็นราคากลางๆพอ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปตัดแว่นแล้วโดนทักว่าแว่นที่ใส่อยู่ สายตาเปลี่ยนไปเยอะจากแว่น ที่ใส่อยู่ (ถ้าเปลี่ยนผู้ชายได้บ่อยเท่าเปลี่ยนแว่นก็ดีสิ ฮืออออ)
รูปนี้เป็นเครื่องที่มีอยู่ที่ร้านพี่เค้า มีเครื่องเหลาแว่น แล้วก็เครื่องอะไรไม่รู้ แต่คิดว่าเพราะเครื่องพวกนี้ก็เลยสามารถรอรับแว่นได้เลยภายใน1ชม. (ยกเว้นเราคนพิเศษ)
อันนี้ใบเสร็จ จ่ายเองรีวิวเอง พี่ไม่ต้องขอ น้องก็ทำให้ ถ้าได้มาอ่านจะสปอนให้บ้างก็ได้ค่ะ หนูไม่ขัด
[CR] “รีวิวปสก.ตัดแว่นที่สยาม ร้าน Clear vision ตัดดีจนอยากมาแนะนำ”
ก่อนจะมารีวิวก็ได้ติดตามเพื่อนที่ไปตัดของนางก่อนที่จะไปตัดของตัวเอง แล้วรู้สึกว่า เออ ร้านดีจริง แตกต่างจากที่เคยตัดมา (ประสบการณ์ใส่แว่นตั้งแต่ประถม) เด่วจะมาบอกว่า ไอ้ที่บอกว่าดีอ่ะ ดีตรงไหนบ้าง
โซนที่เหมาะกับเราคือ โซนนี้ค่ะ 899.- ราคาโอเค พอซื้อไหว ส่วนตรงอื่นก็มีราคาหลักพันค่ะ แต่ส่วนตัวเราว่า 899.-ก็ใช้ได้นะ ไม่ได้ล้าสมัย ก็ลองๆทาบไป เพื่อนก็ช่วยเลือก พี่เค้าก็พยายามช่วย 5555 แต่เลือกไม่ถูกใจเรา เพราะพี่ที่มาดูแลเค้าเป็นผู้ชายด้วยแหละ ถ้าจะไปตัดพาเพื่อนสาวไปด้วย นางจะรู้เทรนด์และกล้าพูดมากกว่า ว่าทรงไหนได้ ทรงไหนไม่โอ พี่เค้าขายของคงไม่กล้าบอกลูกค้าหรอกว่า อันนี้ใส่แล้วหน้าบานมากเลยครับ โอโหยย ทรงนี้ค่อดแก่
แต่พี่เค้าก็บอกว่าจริงๆแว่นเก่าเราที่ใส่น่ะ เหมาะกับเราแล้ว เพราะคนหน้ากลมแบบเรา ควรเลือกแว่นออกเหลี่ยมๆหน่อย (ทรงกลมนี่ใส่ไม่ได้เลย เหมือนผู้เฒ่าเต่า) แล้วก็ควรเลือกทรงใหญ่ๆหน่อยเพราะจะได้ดึงความสนใจจากกรอบหน้า
อันนี้เราลงรูปให้ดูว่าแว่นเก่าเราใส่แบบนี้มาตลอด5ปีได้แล้ว มันเบื่อแล้วอ่ะ
พอเลือกกรอบได้ ก็เข้าสู่โหมดวัดค่าสายตา...
ขอบอกเลยว่าไม่เคยวัดสายตาที่ไหนนานขนาดนี้ เอาตามขั้นตอนปกติที่เคยไปวัดมา ก็จะมีเข้าเครื่องวัดค่าสายตาหยาบๆที่ให้จ้องบอลลูนอ่ะค่ะ ที่นี่ก็จ้องเหมือนกัน
แต่เราอ่านไม่เป็นนะ แต่พี่เค้าบอกว่าค่าสายตาเปลี่ยนจากแว่นเดิมเยอะเลย คือเอียงกว่าเดิม 100 พี่เค้ายังทักเลยว่า “เราติดเพ่งใช้มั้ย เพราะใช้สายตาข้างเดียวมาตลอด อีกข้างสายตามันเปลี่ยนไปแล้ว” ไม่พูดเปล่า ก็หยิบแผ่นปิดตา มาปิดตาทีละข้างให้เราลองอ่านผ่านแว่นเก่า ว่าเห็นชัดมั้ย อ่านออกแค่ไหน บอกเลยว่า อ่านไม่ออกจริงๆ ก็เลยตัดสินใจว่าตัดเลยค่ะ เอาเลย (แว่นเก่าก็ตัดร้านแถวสยามเหมือนกันนะ เพิ่งตัดได้แค่ปีเดียวเอง สายตาเปลี่ยนไวมาก)
พอวัดแบบหยาบเสร็จ ก็ไปที่เครื่องที่เค้าจะเปลี่ยนเลนส์ค่าสายตาผ่านเครื่องนี้
แล้วให้เราอ่านตัวเลข ขั้นตอนนี้แหละที่พี่เค้าละเอียดกว่าชาวบ้านเค้ามากกก เปลี่ยนจนรู้สึกว่าจะอ้วก ปล่อยหนูไปที T^T ละเอียดชนิดที่ว่า พี่เค้าเปลี่ยนเลนส์แล้วเราก็ไม่รู้สึกว่าต่าง แต่คือพี่เค้าเปลี่ยนให้มันต่างแล้ว แต่เราดูไม่ออกเอง วัดทั้งความเอียง ความเข้มสี การบาลานซ์ค่าสายตาสองข้าง
555555555 โอ๊ยยย ไม่รู้อ่ะ มันก็แดง ก็เขียว ก็ชัดทั้งคู่ พี่ไม่ยอมปล่อยเราออกไปจนกว่าพี่แกจะพอใจ บางทีเปลี่ยนเลนส์แล้วตัวเลขเบลอ แต่ก็ยังสามารถจำเลขบรรทัดนั้นบอกพี่เค้าได้แล้วอ่ะ
อย่าคิดว่าแค่มองเห็นเลขแล้วจะจบนะคะ พี่เค้ามีความบาลานซ์สายตาทั้ง 2 ข้างด้วย เพื่อให้เราใส่แว่นได้อย่างราบรื่น ไม่ให้เรารู้สึกว่าเวียนหัว
ตรงช่วงนี้แหละ ที่จะได้คุยกะพี่คนหล่อเป็นนานสองนาน นานจนเราบับ พอยังอ่ะพี่ยังไงดี มาตั้งแต่ยังไม่หิวจนหิวข้าวแล้วT^T
หลังจากพี่เค้าพอใจแล้ว เราก็จะได้มายืนลองใส่แว่นตาเดิน เพื่อดูว่าพื้นลอยไปไหม มองไกลๆแล้วรู้สึกยังไง คือมันก็มีเวียนหัวบ้างแหละ ตามประสาคนเปลี่ยนแว่นใหม่
แต่อย่าคิดว่าจะจบง่ายๆ
.
.
พี่คนหล่อขอวัดตาดำด้วย โอ๊ยยย ไม่เคยไปร้านแว่นไหนแล้วต้องวัดตาดำเลย เลยถามว่าทำไมต้องวัดด้วยคะ =.,=? พี่เค้าบอกว่าเวลาเรามองผ่านเลนส์ ตาดำเราจะอยู่ตรงส่วนไหนของเลนส์ ก็มีผลต่อการมองด้วย งงป่ะ 555555 อธิบายแล้วทำไมงง จำมาได้แค่นี้ ใครไปตัดก็ลองถามพี่เค้าดูนะคะ สมองเราเมมน้อย พี่เค้าอธิบายเยอะเลยแหละ แต่จำไม่ไหว ตอนนั้นอ๊องแล้ว หิวข้าว
ขั้นตอนวัดตาดำเนี่ย ฟินเว่อ พี่เค้าก็จะให้มองตาพี่เค้า ระหว่างที่เรามองตาพี่เค้า พี่เค้าก็จะเอากระดาษวัดแผ่นเล็กๆมาทาบๆ วัดลูกตาดำเรา เรามีหน้าที่มองตาตามข้างที่พี่เค้าให้มอง(ขั้นตอนนี้ใกล้มาก อายสิวมากค่ะ ด่าตัวเองทำไมไม่แต้มคอนซีลเลอร์มาตัดแว่นว่ะ)
เอ้า ขอสารภาพกันตรงนี้เลยว่าซื้อเพราะผู้ชาย 5555 โว๊ะ บ้าหรอ
เจ้าของร้านงานดีจริงมั้ย(ก็จริง) เป็นส่วนหนึ่งในการซื้อมั้ย(ก็เป็น) 555555 แต่ไม่ใช่ทั้งหมด! แต่ที่เอาขึ้นมาเป็นข้อดีเพราะตั้งแต่เดินเข้าไป พี่คนหล่อเค้ามาดูแลและบริการดีไง ก็เลยเป็นความประทับใจแรก เราก็เดินเข้าไปบอกเค้าว่าจะมาตัดแว่นค่ะ ช่วยแนะนำหน่อย พี่เค้าก็ตั้งใจแนะนำ+ให้ความรู้มาก จะลองกรอบนานก็ไม่มีชักสีหน้า เรากับเพื่อนเลยขอถ่ายรูปเก็บบรรยากาศในร้านมารีวิวให้ เพราะเคยมากะเพื่อนครั้งแรกแล้วชอบ ครั้งนี้ก็เหมือนมาเช็คอีกทีว่าถ้าเวิร์คก็จะรีวิวให้แต่ถ้าตัดแล้วครั้งนี้เราไม่โอ เราก็จะบ๊ายบาย แต่พอลองตัดแล้วก็ชอบเหมือนเดิม ส่วนพนง.คนอื่นๆก็บริการดีเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พี่คนนี้นะคะ (ตอนมารับแว่นอีกวันนึง พนง.คนอื่นก็ยิ้มแย้มดีแล้วก็อธิบายรายละเอียดประกันและการดูแลรักษาแว่นดีค่ะ) มันจะรู้ได้จากการพูดคุยค่ะ เวลาเราถามอะไร หรือสงสัยตรงไหน พี่เค้าก็ตอบได้ฉะฉานและค่อนข้างเคลียร์ ก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้รับบริการคุณภาพ ไม่ได้ตัดส่งๆ
ถ้าสายตาสั้นแบบคนปกติก็ได้ภายใน 1 ชม.ค่ะ เดินไปทานข้าวกลับมาก็ได้แล้ว แต่สำหรับเราคนพิเศษต้องสั่งทำ อีกวันนึงถึงจะได้ ขั้นตอนนี้พี่เค้าก็มาบอกราคาให้ ว่าเราจะทำอะไรเพิ่มบ้าง พี่เค้ามี 2 Option ให้เราเลือกเพิ่ม
1.การย่อเลนส์ให้บางเพราะเราสายตาสั้นมาก เลนส์ก็จะหนามาก ที่ร้านก็จะมี Step ให้เลยว่าจะย่อกี่มิล ราคาก็ตาม Step ไม่ต้องทายให้ลำบาก เราเลือก Step แรก ถูกสุด 555555
2.เลนส์ตัดแสงอันนี้เค้าก็จะมีให้เลือกแหละว่าจะเอาเลนส์แบบเริ่ดขนาดไหน จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง (ขนาดตั้งใจจะมารีวิวนะ) แต่เอาเป็นว่าเราเลือกเลนส์ตัดแสงมา เพราะต้องทำงานหน้าคอมนานๆ ไหนๆก็เสียตังค์แล้ว
สรุปราคา กรอบเลนส์อยู่ที่ 2,500.- เหมือนพี่เค้าจะอ่านสีหน้าออก พี่เค้าบอกว่ามีเลนส์หลายค่ายให้เลือก แล้วพี่เค้าจะอธิบายว่าอันไหนเป็นยังไงแบบที่การเปรียบเทียบให้เราดู เราก็พยักหน้าอ๋อๆ หรอคะ แต่ถามว่าคืออะไร ก็ไม่รู้เหมือนกัน
เอาจริงในใจก็คิดนะว่าควรเชื่อพี่เค้าว่าควรย่อเลนส์ให้บางสุดเลยเพื่อความสวยงาม แต่สายตาเราเหวี่ยงมาก เปลี่ยนยิ่งกว่าตลาดหุ้น เราเลยไม่อยากเลือกแพงมาก เราเป็นราคากลางๆพอ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปตัดแว่นแล้วโดนทักว่าแว่นที่ใส่อยู่ สายตาเปลี่ยนไปเยอะจากแว่น ที่ใส่อยู่ (ถ้าเปลี่ยนผู้ชายได้บ่อยเท่าเปลี่ยนแว่นก็ดีสิ ฮืออออ)
รูปนี้เป็นเครื่องที่มีอยู่ที่ร้านพี่เค้า มีเครื่องเหลาแว่น แล้วก็เครื่องอะไรไม่รู้ แต่คิดว่าเพราะเครื่องพวกนี้ก็เลยสามารถรอรับแว่นได้เลยภายใน1ชม. (ยกเว้นเราคนพิเศษ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้