ฉันส่งเงินประกันสังคมมาตรา 40 ให้กับแม่สามีมานานตั้งแต่เริ่มโครงการ แต่พอจะทำเรื่องขอเบิกค่ารักษาพยาบาลต่อด้วยค่าทำศพ มันยุ่งยากมากไม่เหมือนตอนที่สมัครเลย
ลำดับแรก เบิกค่ารักษาพยาบาลทำเรื่องเบิกไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์โดยรับเป็นธนาณัติ แต่หลังจากที่เบิกไปแม่สามาีก็เสียชีวิตแต่ธนาณัติค่ารักษาพยาบาลออกแล้ว ทางเราก็สงสัยทำไมธนาณัติถึงยังไม่ได้รับ จึงไปทำเรื่องเบิกค่าทำศพที่ประกันสังคมเพิ่มจึงได้รู้ซึ้งว่า ไม่ได้รับเพราะต้องมห้ลูกๆ ทั้งหมดที่มีทำการเซ็นชื่อรับโดยหารเท่าๆกัน มีกี่คนก็ต้องยื่นเอกสารการเบิกสิทธิทุกคนพร้อมแนบสำเนาหน้าบัญชีธนาคาร ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่ไท่ได้มีการอธิบายขั้นตอนใดๆ ในการเบอก ลูกๆแต่ล่ะคนอยู่คนล่ะทิศ บางคนติดต่อไม่ได้ก็ยังไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต้องดึงเรื่องกลับจากการส่งธนาณัติกลับเขาประกันสังคมแล้วทำเรื่องการเบิกโอนผ่านบัญชีใหม่
ลำกับที่ 2 กรณีเบิกค่าทำศพเราได้ทำการเตรียมเอกสารตามแบบฟอร์มเบิกสิทธิซึ่งบอกไว้ว่ามี ใบมรณบัตรและสำเนาบัตรผู้ที่แจ้งตายซึ่งทางเราได้เตรียมมาจนครบ พอไปทำเรื่องเบิกกลับพบว่าต้องมีเอกสารการเซ็นจากเจ้าอาวาส ณ วัดที่จัดงานศพ และก็ต้องมีเอกสารการเบิกสิทธิต่างหากอีกหลายอย่าง
ตอนทำไม่เห็นต้องมากมาย แต่ตอนเบิกกลับมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก พี่น้องอยู่คนล่ะที่ติดต่อกันไม่ได้ หากเอกสารยื่นไม่ครบก็ไม่สามารถเบิกได้ บอกมีอายุความ 2 ปีให้ตามหาพี่น้องมาเซ็นให้ครบ เงินค่าทำศพ 20000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 3900 ค่าตั๋วเครื่องบินมาจากระนองแพงกว่าค่ารักษาพยาบาลที่จะมารับอีก หาร 3 ตกคนล่ะ 1300 บาท แถมเจ้าหน้าที่พูดจาได้แย่มาก ถ้าคุณแนะนำเราตั้งแต่ตอนที่เราถามเผื่อไว้ตั้งแต่แรกกรณีเสียชีวิต หรือขั้นตอนการเบิก เราจะได้เตรียมถูกแต่พอทำการเบิกกลับเป็นแบบนี้ เสียเงินค่าส่งแถมเสียเวลาอีก
ลืมบอก เอกสารนอกจากใบแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดที่ทำศพแล้ว ยังต้องไปคัดสำเนาทะเบียนราษฎร์ที่เขตที่เป็นของพ่อ แม่ สามี ของแม่แฟนที่ตายไปแล้วอีกคัดตั้งแต่ปีไหนใครตาย ใครเป็นพ่อ ใครเป็นแม่คนตาย ใครเป็นสามีคนตาย คัดมาให้หมด ถึงจะเบิกได้ 20000 บาท หากติดต่อใครไม่ได้ก็อดล่ะค่ะงานนี้ ถอนคืนก็ไม่ได้เค็ม ถอนคืนก็ได้แค่เดือนล่ะ 50 บาท จากที่ส่งไปเดือนล่ะ 100 บาท แถมถอนคืนต้องผู้ประกันตนต้องอายุ 60 แล้วเท่านั้น เวรจริงๆ รู้งี้ไม่สมัครให้เสียเวลาหลอก ดีนะไม่ทำทางเลือกที่ 3 จ่ายเดือนล่ะ 300 เจอแค่ของแม่แฟนก็รู้ซึ้งแล้ว ใครจะทำคิดให้ดีก่อนค่ะขอเตือน
ความแย่ในการเบิกมาตรา 40
ลำดับแรก เบิกค่ารักษาพยาบาลทำเรื่องเบิกไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์โดยรับเป็นธนาณัติ แต่หลังจากที่เบิกไปแม่สามาีก็เสียชีวิตแต่ธนาณัติค่ารักษาพยาบาลออกแล้ว ทางเราก็สงสัยทำไมธนาณัติถึงยังไม่ได้รับ จึงไปทำเรื่องเบิกค่าทำศพที่ประกันสังคมเพิ่มจึงได้รู้ซึ้งว่า ไม่ได้รับเพราะต้องมห้ลูกๆ ทั้งหมดที่มีทำการเซ็นชื่อรับโดยหารเท่าๆกัน มีกี่คนก็ต้องยื่นเอกสารการเบิกสิทธิทุกคนพร้อมแนบสำเนาหน้าบัญชีธนาคาร ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่ไท่ได้มีการอธิบายขั้นตอนใดๆ ในการเบอก ลูกๆแต่ล่ะคนอยู่คนล่ะทิศ บางคนติดต่อไม่ได้ก็ยังไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต้องดึงเรื่องกลับจากการส่งธนาณัติกลับเขาประกันสังคมแล้วทำเรื่องการเบิกโอนผ่านบัญชีใหม่
ลำกับที่ 2 กรณีเบิกค่าทำศพเราได้ทำการเตรียมเอกสารตามแบบฟอร์มเบิกสิทธิซึ่งบอกไว้ว่ามี ใบมรณบัตรและสำเนาบัตรผู้ที่แจ้งตายซึ่งทางเราได้เตรียมมาจนครบ พอไปทำเรื่องเบิกกลับพบว่าต้องมีเอกสารการเซ็นจากเจ้าอาวาส ณ วัดที่จัดงานศพ และก็ต้องมีเอกสารการเบิกสิทธิต่างหากอีกหลายอย่าง
ตอนทำไม่เห็นต้องมากมาย แต่ตอนเบิกกลับมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก พี่น้องอยู่คนล่ะที่ติดต่อกันไม่ได้ หากเอกสารยื่นไม่ครบก็ไม่สามารถเบิกได้ บอกมีอายุความ 2 ปีให้ตามหาพี่น้องมาเซ็นให้ครบ เงินค่าทำศพ 20000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 3900 ค่าตั๋วเครื่องบินมาจากระนองแพงกว่าค่ารักษาพยาบาลที่จะมารับอีก หาร 3 ตกคนล่ะ 1300 บาท แถมเจ้าหน้าที่พูดจาได้แย่มาก ถ้าคุณแนะนำเราตั้งแต่ตอนที่เราถามเผื่อไว้ตั้งแต่แรกกรณีเสียชีวิต หรือขั้นตอนการเบิก เราจะได้เตรียมถูกแต่พอทำการเบิกกลับเป็นแบบนี้ เสียเงินค่าส่งแถมเสียเวลาอีก
ลืมบอก เอกสารนอกจากใบแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดที่ทำศพแล้ว ยังต้องไปคัดสำเนาทะเบียนราษฎร์ที่เขตที่เป็นของพ่อ แม่ สามี ของแม่แฟนที่ตายไปแล้วอีกคัดตั้งแต่ปีไหนใครตาย ใครเป็นพ่อ ใครเป็นแม่คนตาย ใครเป็นสามีคนตาย คัดมาให้หมด ถึงจะเบิกได้ 20000 บาท หากติดต่อใครไม่ได้ก็อดล่ะค่ะงานนี้ ถอนคืนก็ไม่ได้เค็ม ถอนคืนก็ได้แค่เดือนล่ะ 50 บาท จากที่ส่งไปเดือนล่ะ 100 บาท แถมถอนคืนต้องผู้ประกันตนต้องอายุ 60 แล้วเท่านั้น เวรจริงๆ รู้งี้ไม่สมัครให้เสียเวลาหลอก ดีนะไม่ทำทางเลือกที่ 3 จ่ายเดือนล่ะ 300 เจอแค่ของแม่แฟนก็รู้ซึ้งแล้ว ใครจะทำคิดให้ดีก่อนค่ะขอเตือน