เริ่มต้นด้วยการที่แฟนผมต้องการจะผ่อนบ้านหลังหนึ่ง เลยต้องทำธุรกรรมในการกู้ผ่านธนาคาร มีหลายแบงค์ที่ยื่นเรื่องเข้าไป ก็ดำเนินการ มีการติดตามด้านเอกสารปกติ จนกระทั่งมาเจอกับพนักงานธนาคารนี้ เป็นธนาคารสีน้ำเงิน ตัวอักษรนำตัว "T"
พนักงานคนนี้ เป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คของแฟนผมมานานระยะหนึ่งแต่ไม่เคยมีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวใดๆ ด้วยความที่เห็นเค้าแชร์เกี่ยวกับสินเชื่อบ้าน แฟนผมจึงทักไปหาเพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียด เค้าก็ให้ข้อมูลตามปกติจนถึงวันที่นัดเจอกัน
เหตุเกิดที่ห้างเกตเวย์เอกมัย แฟนผมไปถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง สักพักพนักงานคนนั้นก็มาถึง จุดนัดหมายคือร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้าง พอเจอกันก็พูดคุยให้ข้อมูลขอเอกสารตามปกติ เหมือนที่ธนาคารอื่นๆให้ข้อมูล แต่ทีนี้เอกสารดันอยู่บนรถ ไม่ครบตามที่ธนาคารต้องการ พอคุยเสร็จแฟนผมจึงขอตัวเดินไปเอาเอกสารบนรถ ด้วยความบังเอิญ พนักงานธนาคารคนนั้นก็จอดรถชั้นเดียวกับแฟนผมพอดี พอหลังจากเอาเอกสารและเซ็นให้พนักงานคนนั้นแล้ว พนักงานก็เก็บเอกสาร แล้วเดินมาหาแฟนผม แฟนผมกล่าวขอบคุณที่สละเวลามาดำเนินการให้ พอพูดจบพนักงานแบงค์สีน้ำเงินคนนั้นก็ก้มลงมาจูบปากแฟนผม (ทุกคนอ่านไม่ผิดเค้าจุบปากแฟนผมซึ่งเป็นลูกค้าของเค้า) แฟนผมตกใจปนงงเลยพูดขึ้นมาว่า ทำแบบนี้ก็ได้หรอ พนักงานคนนั้นก็ตอบกลับว่า แล้วไม่ได้หรอ หลังจากนั้นแฟนผมเลยรีบกลับขึ้นรถแล้วขับออกมา
พอถึงบ้านพนักงานคนนี้ก็ทักมาถามว่าถึงบ้านรึยัง คือคำพูดที่นอกเหนือจากรายละเอียดการทำงาน จนลามไปถึงชมว่าน่ารักนะครับ แล้วก็ตบท้ายด้วย ตอนนี้คุณอยู่กับแฟนรึเปล่า ผมคิดว่าคำถามเหล่านี้ไม่น่าจะถามหรือเกี่ยวข้องกับการกู้บ้านเลยสักนิด
ผมรู้สึกแย่มากกับเหตุการณ์นี้ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คของแฟนผมมานาน แต่ตามมารยาทแล้วด้วยการเจอกันครั้งแรกหรือพบกันครั้งแรกในฐานะลูกค้าก็ควรรักษาระยะห่างหรือไม่ทำแบบนี้รึเปล่า พฤติกรรมของพนักงานคนนี้ผมรู้สึกขยะแขยงมาก
ผมไม่รู้หรอกนะว่าผมทำอะไรยังไงได้บ้างกับเหตุการณ์นี้ แต่หลังจากนี้ผมก็คงต้องไปกับแฟน เพื่อป้องกันการโดนกระทำในรูปแบบนี้หรือเกินเลยไปกว่านี้ ผลการกู้บ้านออกก็คงจะหลุดพ้นจากคนแบบนี้ซักที
พนักงานธนาคารน้ำเงิน คุณทำแบบนี้มันเกินไปมั้ย????
พนักงานคนนี้ เป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คของแฟนผมมานานระยะหนึ่งแต่ไม่เคยมีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวใดๆ ด้วยความที่เห็นเค้าแชร์เกี่ยวกับสินเชื่อบ้าน แฟนผมจึงทักไปหาเพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียด เค้าก็ให้ข้อมูลตามปกติจนถึงวันที่นัดเจอกัน
เหตุเกิดที่ห้างเกตเวย์เอกมัย แฟนผมไปถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง สักพักพนักงานคนนั้นก็มาถึง จุดนัดหมายคือร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้าง พอเจอกันก็พูดคุยให้ข้อมูลขอเอกสารตามปกติ เหมือนที่ธนาคารอื่นๆให้ข้อมูล แต่ทีนี้เอกสารดันอยู่บนรถ ไม่ครบตามที่ธนาคารต้องการ พอคุยเสร็จแฟนผมจึงขอตัวเดินไปเอาเอกสารบนรถ ด้วยความบังเอิญ พนักงานธนาคารคนนั้นก็จอดรถชั้นเดียวกับแฟนผมพอดี พอหลังจากเอาเอกสารและเซ็นให้พนักงานคนนั้นแล้ว พนักงานก็เก็บเอกสาร แล้วเดินมาหาแฟนผม แฟนผมกล่าวขอบคุณที่สละเวลามาดำเนินการให้ พอพูดจบพนักงานแบงค์สีน้ำเงินคนนั้นก็ก้มลงมาจูบปากแฟนผม (ทุกคนอ่านไม่ผิดเค้าจุบปากแฟนผมซึ่งเป็นลูกค้าของเค้า) แฟนผมตกใจปนงงเลยพูดขึ้นมาว่า ทำแบบนี้ก็ได้หรอ พนักงานคนนั้นก็ตอบกลับว่า แล้วไม่ได้หรอ หลังจากนั้นแฟนผมเลยรีบกลับขึ้นรถแล้วขับออกมา
พอถึงบ้านพนักงานคนนี้ก็ทักมาถามว่าถึงบ้านรึยัง คือคำพูดที่นอกเหนือจากรายละเอียดการทำงาน จนลามไปถึงชมว่าน่ารักนะครับ แล้วก็ตบท้ายด้วย ตอนนี้คุณอยู่กับแฟนรึเปล่า ผมคิดว่าคำถามเหล่านี้ไม่น่าจะถามหรือเกี่ยวข้องกับการกู้บ้านเลยสักนิด
ผมรู้สึกแย่มากกับเหตุการณ์นี้ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คของแฟนผมมานาน แต่ตามมารยาทแล้วด้วยการเจอกันครั้งแรกหรือพบกันครั้งแรกในฐานะลูกค้าก็ควรรักษาระยะห่างหรือไม่ทำแบบนี้รึเปล่า พฤติกรรมของพนักงานคนนี้ผมรู้สึกขยะแขยงมาก
ผมไม่รู้หรอกนะว่าผมทำอะไรยังไงได้บ้างกับเหตุการณ์นี้ แต่หลังจากนี้ผมก็คงต้องไปกับแฟน เพื่อป้องกันการโดนกระทำในรูปแบบนี้หรือเกินเลยไปกว่านี้ ผลการกู้บ้านออกก็คงจะหลุดพ้นจากคนแบบนี้ซักที