สวัสดีค่ะ ไม่มีอะไรมาก แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่เจอมากับตัว แบบ real สุดๆ มันอาจจะยาวเป็นมหากาพย์ แต่จะพยายามเล่าให้อ่านแล้วไม่เบื่อนะคะ
เริ่มแรกกับคำถามว่า ไปทำอะไรที่ออสเตรเลีย?
ถ้าตอบแบบคุณหนูแบบเก๋ๆ ก็ไปเรียนต่อ เพื่อเอากลับมาพัฒนาประเทศ และชุมชนบ้านเกิดค่ะ
แต่ถ้าให้ตอบแบบเป็นตัวเองก็ อยู่เมืองไทยไม่รอดค่ะ จบป.ตรีด้วยเกรดต่ำเตี้ยเรี้ยดิน มหาลัยเอกชนอีกตังหาก จบมาแล้วเอาความรู้มาสมัครงานไม่ได้ เลยไปทำงานไม่ตรงสาย สุดท้ายทำกี่ที่เค้าก็ไล่ออก ด้วยความที่เรียนจบวิศวะ แต่ทำงานเอกสารงานประสานงาน อีโก้สูงเว่อร์ ทำงานไม่นาน ขึ้นเป็นหัวหน้าแผนก อายุน้อยแต่ต้องควบคุมลูกน้องอายุแก่กว่า ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงของบริษัทไม่ได้ ยึดติดแต่ความคิดตัวเอง สุดท้าย เค้าก็ใช้เหตุผลเยอะแยะมากมายมาไล่ออก อีกอย่าง โดนแฟนสาระเลวที่คบกันมาเจ็ดปีรวมหัวกับแม่มัน ไล่ออกจากบ้าน เพราะมันจะเอาเมียใหม่มาอยู่ อกหัก กินเหล้าทุกวัน เที่ยวดึก ตื่นเช้าไปทำงานไม่ได้ โดนไล่ออก สุดท้ายแม่กับพ่อเลยตัดสินใจ ส่งมาที่ออสนี้แหละค่ะ
ไปเรียนออสเตรเลีย ไปยังไง เดินเรื่องยัง ใช้เสตทเม้นเท่าไหร่ แล้วใช้เอกสารอะไรบ้าง?
อันนี้ต้องขออนุญาติตอบว่า ปรึกษาเอเจ้นจะดีที่สุดค่ะ ใช้เวลาเดินเรื่องนานอยู่ ประมาณ 2-3 เดือนจำไม่ค่อยได้ เพราะหลังจากออกจากงานแล้ว ก็ยื่นเรื่องเลย ใช้เวลาเตรียมเอกสารประมาณเดือนนึง ช่วงเวลานั้นก็จะว่างมากกกกก เพราะตกงาน กิน เที่ยว ดื่ม ครบสูตร ไม่แปลกที่มีแฟนใหม่หลังจากอกหักแค่เดือนเดียว พอทำใจได้ ก็หันมาแต่งตัวแต่งหน้า แฟนใหม่ก็ไม่ใช่ใคร ก็เพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆนี้แหละ อายุน้อยกว่า 5 ปี เราจีบเค้าก่อน เพราะชอบเค้ามาก เลยตัดสินใจ มอมเบียร์ตัวเอง แล้วจัดการรวบรัดจนได้คบกัน เริ่ดปะล่ะ 😁 ส่วนตอนนั้นก็จัดการเอกสารอะไรเสร็จพอดี หลังจากนั้นก็อยู่ระหว่างรอวีซ่าออก รอแล้วรออีก รอจนเหี่ยวววววว ไปหมด ผ่านมาเดือนที่สอง ยังไม่มีวี่แวว เลยตัดสินใจหางานทำ และตัดสินใจคบแฟนจริงจัง เพราะในใจคิดว่า วีซ่าคงไม่ผ่าน พอผ่านไปเข้าเดือนที่สาม วีซ่าผ่านจ้าาาาาาาา 😑 เหมือนแกล้งเลย ตอนนั้นสองจิตสองใจมากๆ ว่าถ้าเราต้องอยู่ห่างกะแฟน มันต้องไม่รอดแน่ๆ ตั้งสามปี เค้าคงไม่รอเราหรอก แต่อยู่ไทยก็ต้องจมอยุ่กับชีวิตเดิมๆ สังคมเดิมๆ ไหนๆก็ไหนๆ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า แล้วก็เลยตัดสินใจ ไปจ้าาาาาา ลาออกจากงานสวยๆ (เป็นงานแรกตั้งแต่ที่จบมาที่ไม่โดนไล่ออก แต่ลาออกเอง)
แล้วแฟนล่ะ? ไม่กลัวเค้ามีคนอื่น นอกใจ หรือต้องเลิกกันหรอ?
ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ยังไงก็ไม่รอด ผู้ชาย มันต้องมีบ้างแหละ แต่ถ้าคนมันจะนอกใจ ต่อให้ขาติดกัน มันก็ทำ เลยขอไปอกหักในแดนที่ไม่รู้จักใครดีกว่า อาจจะหาใหม่ได้ง่ายกว่า ที่คิดแบบนั้น เพราะตอนนั้นเพิ่งคบกันใหม่ เรายังไม่รู้จักแฟนเราดีพอ ก็เลยคิดแบบนั้น
หลังจากวีซ่าออก มีเวลาเตรียมตัว สองวีค แล้วเวลาก็เดินเร็วไป้ วันบิน เพื่อนฝูงมากันเต็ม พ่อแม่มา งานน้ำตานองเต็มตม. และแล้วก็ฟิ้ววววววว 9 ชม. แลนดิ้งสนามบิน kingsford smith Sydney
ไปทำงานก่อน เดี๋ยวมาเล่าต่อ
ใครจะไปออสเตรเลีย มาอ่านทางนี้!!!
เริ่มแรกกับคำถามว่า ไปทำอะไรที่ออสเตรเลีย?
ถ้าตอบแบบคุณหนูแบบเก๋ๆ ก็ไปเรียนต่อ เพื่อเอากลับมาพัฒนาประเทศ และชุมชนบ้านเกิดค่ะ
แต่ถ้าให้ตอบแบบเป็นตัวเองก็ อยู่เมืองไทยไม่รอดค่ะ จบป.ตรีด้วยเกรดต่ำเตี้ยเรี้ยดิน มหาลัยเอกชนอีกตังหาก จบมาแล้วเอาความรู้มาสมัครงานไม่ได้ เลยไปทำงานไม่ตรงสาย สุดท้ายทำกี่ที่เค้าก็ไล่ออก ด้วยความที่เรียนจบวิศวะ แต่ทำงานเอกสารงานประสานงาน อีโก้สูงเว่อร์ ทำงานไม่นาน ขึ้นเป็นหัวหน้าแผนก อายุน้อยแต่ต้องควบคุมลูกน้องอายุแก่กว่า ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงของบริษัทไม่ได้ ยึดติดแต่ความคิดตัวเอง สุดท้าย เค้าก็ใช้เหตุผลเยอะแยะมากมายมาไล่ออก อีกอย่าง โดนแฟนสาระเลวที่คบกันมาเจ็ดปีรวมหัวกับแม่มัน ไล่ออกจากบ้าน เพราะมันจะเอาเมียใหม่มาอยู่ อกหัก กินเหล้าทุกวัน เที่ยวดึก ตื่นเช้าไปทำงานไม่ได้ โดนไล่ออก สุดท้ายแม่กับพ่อเลยตัดสินใจ ส่งมาที่ออสนี้แหละค่ะ
ไปเรียนออสเตรเลีย ไปยังไง เดินเรื่องยัง ใช้เสตทเม้นเท่าไหร่ แล้วใช้เอกสารอะไรบ้าง?
อันนี้ต้องขออนุญาติตอบว่า ปรึกษาเอเจ้นจะดีที่สุดค่ะ ใช้เวลาเดินเรื่องนานอยู่ ประมาณ 2-3 เดือนจำไม่ค่อยได้ เพราะหลังจากออกจากงานแล้ว ก็ยื่นเรื่องเลย ใช้เวลาเตรียมเอกสารประมาณเดือนนึง ช่วงเวลานั้นก็จะว่างมากกกกก เพราะตกงาน กิน เที่ยว ดื่ม ครบสูตร ไม่แปลกที่มีแฟนใหม่หลังจากอกหักแค่เดือนเดียว พอทำใจได้ ก็หันมาแต่งตัวแต่งหน้า แฟนใหม่ก็ไม่ใช่ใคร ก็เพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆนี้แหละ อายุน้อยกว่า 5 ปี เราจีบเค้าก่อน เพราะชอบเค้ามาก เลยตัดสินใจ มอมเบียร์ตัวเอง แล้วจัดการรวบรัดจนได้คบกัน เริ่ดปะล่ะ 😁 ส่วนตอนนั้นก็จัดการเอกสารอะไรเสร็จพอดี หลังจากนั้นก็อยู่ระหว่างรอวีซ่าออก รอแล้วรออีก รอจนเหี่ยวววววว ไปหมด ผ่านมาเดือนที่สอง ยังไม่มีวี่แวว เลยตัดสินใจหางานทำ และตัดสินใจคบแฟนจริงจัง เพราะในใจคิดว่า วีซ่าคงไม่ผ่าน พอผ่านไปเข้าเดือนที่สาม วีซ่าผ่านจ้าาาาาาาา 😑 เหมือนแกล้งเลย ตอนนั้นสองจิตสองใจมากๆ ว่าถ้าเราต้องอยู่ห่างกะแฟน มันต้องไม่รอดแน่ๆ ตั้งสามปี เค้าคงไม่รอเราหรอก แต่อยู่ไทยก็ต้องจมอยุ่กับชีวิตเดิมๆ สังคมเดิมๆ ไหนๆก็ไหนๆ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า แล้วก็เลยตัดสินใจ ไปจ้าาาาาา ลาออกจากงานสวยๆ (เป็นงานแรกตั้งแต่ที่จบมาที่ไม่โดนไล่ออก แต่ลาออกเอง)
แล้วแฟนล่ะ? ไม่กลัวเค้ามีคนอื่น นอกใจ หรือต้องเลิกกันหรอ?
ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ยังไงก็ไม่รอด ผู้ชาย มันต้องมีบ้างแหละ แต่ถ้าคนมันจะนอกใจ ต่อให้ขาติดกัน มันก็ทำ เลยขอไปอกหักในแดนที่ไม่รู้จักใครดีกว่า อาจจะหาใหม่ได้ง่ายกว่า ที่คิดแบบนั้น เพราะตอนนั้นเพิ่งคบกันใหม่ เรายังไม่รู้จักแฟนเราดีพอ ก็เลยคิดแบบนั้น
หลังจากวีซ่าออก มีเวลาเตรียมตัว สองวีค แล้วเวลาก็เดินเร็วไป้ วันบิน เพื่อนฝูงมากันเต็ม พ่อแม่มา งานน้ำตานองเต็มตม. และแล้วก็ฟิ้ววววววว 9 ชม. แลนดิ้งสนามบิน kingsford smith Sydney
ไปทำงานก่อน เดี๋ยวมาเล่าต่อ