คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คิดมากเกินไป
ขอยกคำฝรั่งมาสอน
"There is a saying: "Yesterday is history, Tomorrow is a mystery, but today is a gift. That is why it is called the 'Present'."
"มันมีคำพูดว่า เมื่อวานคืออดีต พรุ่งนี้คืออนาคต แต่วันนี้คือของขวัญ เขาถึงเรียกว่า Present"
แปลความหมาย คือ เมื่อวานเป็นอดีตเกิดขึ้นไปแล้ว ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้คืออนาคต ที่ยังคงคดงออยู่ ไม่คลี่คลายออกมาให้เห็นว่าเป็นอย่างไร แต่ปัจจุบันนี้แหละ คือ ของขวัญอันวิเศษ เพราะเราสามารถแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สิ่งต่าง ๆ ให้เป็นอย่างที่เรานึกคิดวาดฝันได้
You are too concerned with what was and what will be in the future.
"หนูกังวลมากเกินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วและยิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต"
คนเราเวลาที่มองอะไรไกลเกินไป ก็จะทำให้มองสิ่งที่อยู่ใกล้ไม่ชัด เรื่องนี้ก็เช่นกัน หนูอายุแค่นี้ ควรมองภาระหน้าที่ที่อยู่ตรงหน้าและตั้งใจกับมันก่อน คือ เรื่องเรียน เรื่องอนาคตหน้าที่การงานชีวิตมันยังมาไม่ถึง อย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน คิดไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันคืออนาคต
สิ่งที่ควรโฟกัสตอนนี้ คือ ปัจจุบัน
ถ้าอยากเรียนพิเศษก็ไปเรียน ถ้าคิดว่ามันจะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาให้มากขึ้น ก็เรียนไปเถิด อย่าเพิ่งกังวลไปเลยว่ามันจะคุ้มค่าคุ้มราคาเงินที่จ่ายไปหรือไม่ เพราะความคุ้มค่านั้นมันอาจจะไม่ได้เห็นตอนนี้ก็ได้
เป้าหมายตั้งได้ แต่ไม่ใช่ลุ่มหลงกับเป้าหมายจนลืมทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ขอยกคำฝรั่งมาสอน
"There is a saying: "Yesterday is history, Tomorrow is a mystery, but today is a gift. That is why it is called the 'Present'."
"มันมีคำพูดว่า เมื่อวานคืออดีต พรุ่งนี้คืออนาคต แต่วันนี้คือของขวัญ เขาถึงเรียกว่า Present"
แปลความหมาย คือ เมื่อวานเป็นอดีตเกิดขึ้นไปแล้ว ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้คืออนาคต ที่ยังคงคดงออยู่ ไม่คลี่คลายออกมาให้เห็นว่าเป็นอย่างไร แต่ปัจจุบันนี้แหละ คือ ของขวัญอันวิเศษ เพราะเราสามารถแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สิ่งต่าง ๆ ให้เป็นอย่างที่เรานึกคิดวาดฝันได้
You are too concerned with what was and what will be in the future.
"หนูกังวลมากเกินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วและยิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต"
คนเราเวลาที่มองอะไรไกลเกินไป ก็จะทำให้มองสิ่งที่อยู่ใกล้ไม่ชัด เรื่องนี้ก็เช่นกัน หนูอายุแค่นี้ ควรมองภาระหน้าที่ที่อยู่ตรงหน้าและตั้งใจกับมันก่อน คือ เรื่องเรียน เรื่องอนาคตหน้าที่การงานชีวิตมันยังมาไม่ถึง อย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน คิดไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันคืออนาคต
สิ่งที่ควรโฟกัสตอนนี้ คือ ปัจจุบัน
ถ้าอยากเรียนพิเศษก็ไปเรียน ถ้าคิดว่ามันจะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาให้มากขึ้น ก็เรียนไปเถิด อย่าเพิ่งกังวลไปเลยว่ามันจะคุ้มค่าคุ้มราคาเงินที่จ่ายไปหรือไม่ เพราะความคุ้มค่านั้นมันอาจจะไม่ได้เห็นตอนนี้ก็ได้
เป้าหมายตั้งได้ แต่ไม่ใช่ลุ่มหลงกับเป้าหมายจนลืมทำวันนี้ให้ดีที่สุด
แสดงความคิดเห็น
จะเตรียมตัวเข้ามหาลัย จำเป็นต้องเข้าค่ายติวบ่อยๆมั้ยครับ
และถ้าผมไปผมก็กลัวมันไม่คุ้มค่ากับเงินถ้าสิ่งที่ผมจะเรียนหรือสอบเข้าได้แล้วจบออกมา ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย
ทุกวันนี้ได้แต่นั่งอ่านหนังสือที่โรงเรียนแจกให้กับดูคลิปที่ยูทูป ช่วงปิดเทอมก็ไม่มีค่ายเรียนพิเศษกับใครเค้า ผมใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่กับครอบครัว
แบ่งเบาแกเท่าที่จะทำได้ก่อนจะหนีไปโลดโผนกระโจนเมืองใหญ่ไร้ซึ่งผู้ตักเตือน ผมได้แต่คิดแล้วคิดอีก -..-รู้สึกพูดเรื่องติวไหงมาเรื่องความกังวลของชีวิตได้ละนี่ โดยส่วนตัวผมคิดอยู่เสมอว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันหมด จบมามีงานมีเงินมีครอบครัวมีภาระมีหนี้มีเครียด กว่าจะได้ใช้ชีวิตเป็นของตัวเองนั่งดูทีวีโง่ๆที่บ้านนั่งเล่นเฟสไปมาผมก็คิดว่าคงเกษียณ หลายคนหลายอาชีพหลายแนวทาง แต่มันจะมีซักกี่ทางที่เข้ากับยุค เข้ากับสมัย ไม่ใช่อะไรที่เป็นค่านิยมตั้งแต่บรรพกาล เออรู้สึกนอกเรื่องมามากละ คือตอนนี้ยังไม่ได้ไปติวที่ไหน ส่วนตัวก็เรียนเข้าขั้นดีพอสมควรแต่ผมก็อยากทำไห้ช่วงวัยรุ่นของผมเป็นวัยที่น่าจดจำคือได้เรียนหนักๆพยายามทำสิ่งหนึ่งอย่างสุดๆเช่นตั้งใจจะเอาPAT1ไห้ได้อะไรเงี้ย ขอบคุณครับ