สุภาษิตกับปริศนาธรรม
เนื่องจากผู้เขียนเห็นว่า บ่อยครั้ง มีการนำปริศนาธรรมที่พ่อแม่ครูบาร์อาจารย์ให้ไว้ มาใช้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมแก่กาล สถานที่ และบุคคลจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ถึงแนวทางการปฏิบัติ ทั้งในด้านการใช้ชีวิตทางโลกและการเจริญภาวนาทางธรรม จึงเขียนเรียงความนี้ขึ้น เพื่อเตือนกัลยาณมิตรทุกท่าน ให้ระมัดระวังการใช้ปริศนาธรรมเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้น
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงคำพูดที่เป็นคำสุภาษิต เพราะวาจาสุภาษิตนั้นเป็นมงคลชีวิตข้อที่ 10 การเป็นผู้กล่าววาจาสุภาษิตนั้น จะไม่พูดในสิ่งที่จะเกิดโทษในทุกกาล ทุกสถานที่ บุกคนทุกประเภท เป็นเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ไตร่ตรองให้ดีก่อนพูด โดยคำนึงถึงประโยชน์ โทษและความเหมาะสมและมักจะกล่าวคำสุภาษิตคือคติเตือนใจ อันเป็นหลักความจริงอย่างเช่น ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว , สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม , จะเห็นได้ว่าเป็นหลักความความจริงที่ใช้ได้กับบุคคลทุกประเภท ผู้เขียนจึงอยากแนะนำสิ่งที่เป็นมงคลนี้แก่เพื่อน ๆ กัลยาณมิตรทุกท่าน
ที่นี้จะกล่าวถึงปริศนาธรรม ปริศนาธรรมคือคำสอนที่ครูบาร์อาจารย์ให้ไว้กับพระสงฆ์ลูกศิษท์ โดยมักจะมุ่งแน้นไปเพื่อให้พิจารณา เพื่อมรรคเพื่อผลโดนส่วนเดียว ยกตัวอย่างเช่น เห็นผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ เห็นจิตให้ทำลายจิต , อยากดีจะไม่ถึงดี , จะเห็นได้ว่าเป็นคำที่ต้องพิจารณาในอย่างลึกซึ้ง ต้องทำในใจโดยแยบคาย ต้องมีภูมิจิตภูมิธรรมระดับนึงแล้ว ผู้เขียนจึงเห็นว่าการบอกกล่าวโดยไม่เหมาะสมแก่กาล สถานที่ บุคคลแล้ว แทนที่จะเป็นประโยชน์ก็อาจเป็นโทษแก่บุคคลอื่นได้
สุดท้ายนี้ก็จะขอกล่าวถึงเหตุที่ผู้เขียน ได้เขียนเรียงความนี้ขึ้น สืบเนื่องมาจากตัวผู้เขียนเอง มีความสนใจธรรมะในพุทธศาสนา สนใจในด้านการเจริญภาวนา แต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องการที่จะสละ ละทางโลก ยังฝันอยากมีครอบครัว จึงเฟ้นหาธรรมะที่จะนำมาเป็นหลักในการปฏิบัติและดำเนินชีวิต ก็จะเป็นเรื่องการใช้ปฏิบัติต่อครอบครัว สังคม บางครั้งได้ยินเพื่อนกัลยาณมิตรนำคำที่เป็นปริศนาธรรมมาบอก ซึ่งผู้เขียนก็เข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจหรือเข้าใจแต่ไม่สามารถน้อมนำมาปฏิบัติได้ เนื่องจากไม่เหมาะสมกับฐานะตนที่ยังเป็นชาวบ้านครองเรือน จึงนำเสนอเพื่อให้หมู่เพื่อนได้พิจารณา ในการหยิบใช้คำเหล่านี้
มีความต่างนิด ๆ ระหว่างคำสุภาษิตกับปริศนาธรรม ควรนำมาใช้อย่างเหมาะสม
เนื่องจากผู้เขียนเห็นว่า บ่อยครั้ง มีการนำปริศนาธรรมที่พ่อแม่ครูบาร์อาจารย์ให้ไว้ มาใช้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมแก่กาล สถานที่ และบุคคลจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ถึงแนวทางการปฏิบัติ ทั้งในด้านการใช้ชีวิตทางโลกและการเจริญภาวนาทางธรรม จึงเขียนเรียงความนี้ขึ้น เพื่อเตือนกัลยาณมิตรทุกท่าน ให้ระมัดระวังการใช้ปริศนาธรรมเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้น
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงคำพูดที่เป็นคำสุภาษิต เพราะวาจาสุภาษิตนั้นเป็นมงคลชีวิตข้อที่ 10 การเป็นผู้กล่าววาจาสุภาษิตนั้น จะไม่พูดในสิ่งที่จะเกิดโทษในทุกกาล ทุกสถานที่ บุกคนทุกประเภท เป็นเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ไตร่ตรองให้ดีก่อนพูด โดยคำนึงถึงประโยชน์ โทษและความเหมาะสมและมักจะกล่าวคำสุภาษิตคือคติเตือนใจ อันเป็นหลักความจริงอย่างเช่น ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว , สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม , จะเห็นได้ว่าเป็นหลักความความจริงที่ใช้ได้กับบุคคลทุกประเภท ผู้เขียนจึงอยากแนะนำสิ่งที่เป็นมงคลนี้แก่เพื่อน ๆ กัลยาณมิตรทุกท่าน
ที่นี้จะกล่าวถึงปริศนาธรรม ปริศนาธรรมคือคำสอนที่ครูบาร์อาจารย์ให้ไว้กับพระสงฆ์ลูกศิษท์ โดยมักจะมุ่งแน้นไปเพื่อให้พิจารณา เพื่อมรรคเพื่อผลโดนส่วนเดียว ยกตัวอย่างเช่น เห็นผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ เห็นจิตให้ทำลายจิต , อยากดีจะไม่ถึงดี , จะเห็นได้ว่าเป็นคำที่ต้องพิจารณาในอย่างลึกซึ้ง ต้องทำในใจโดยแยบคาย ต้องมีภูมิจิตภูมิธรรมระดับนึงแล้ว ผู้เขียนจึงเห็นว่าการบอกกล่าวโดยไม่เหมาะสมแก่กาล สถานที่ บุคคลแล้ว แทนที่จะเป็นประโยชน์ก็อาจเป็นโทษแก่บุคคลอื่นได้
สุดท้ายนี้ก็จะขอกล่าวถึงเหตุที่ผู้เขียน ได้เขียนเรียงความนี้ขึ้น สืบเนื่องมาจากตัวผู้เขียนเอง มีความสนใจธรรมะในพุทธศาสนา สนใจในด้านการเจริญภาวนา แต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องการที่จะสละ ละทางโลก ยังฝันอยากมีครอบครัว จึงเฟ้นหาธรรมะที่จะนำมาเป็นหลักในการปฏิบัติและดำเนินชีวิต ก็จะเป็นเรื่องการใช้ปฏิบัติต่อครอบครัว สังคม บางครั้งได้ยินเพื่อนกัลยาณมิตรนำคำที่เป็นปริศนาธรรมมาบอก ซึ่งผู้เขียนก็เข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจหรือเข้าใจแต่ไม่สามารถน้อมนำมาปฏิบัติได้ เนื่องจากไม่เหมาะสมกับฐานะตนที่ยังเป็นชาวบ้านครองเรือน จึงนำเสนอเพื่อให้หมู่เพื่อนได้พิจารณา ในการหยิบใช้คำเหล่านี้