'ผอ.ไซเตส'เผยไทยหลุดบัญชีดำ1ใน8ประเทศลอบค้างาช้างแอฟริกาผิด กม.
นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กุล ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยตัวแทนประเทศไทย ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาไซเตส ครั้งที่ 17 ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 1-5 ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่า สำนักเลขาธิการไซเตสมีมติให้ประเทศไทยออกจากแผนปฏิบัติการงาช้าง ( NIAP) โดยไม่ต้องทำแผนต่อไซเตสแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 8 ชาติ คือ ฟิลลิปินส์ จีน เคนยา แทนซาเนีย อูกันดา เคยถูกขึ้นบัญชีดำประเทศที่มีปัญหาลักลอบและเป็นเส้นทางค้างาช้างแอฟริกาผิดกฎหมาย จนเมื่อปี 2560 ประเทศไทยถูกปรับสถานะดีขึ้นเป็นเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หรือ primary concern
ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) กล่าวว่า การที่ไทยก้าวพ้นจากการขึ้นบัญชีดำ (แบลกลิสต์) เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ออกมาตรการจัดแผนปฏิบัติการงาช้าง เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้างาช้างแอฟริกามายังประเทศไทยอย่างจริงจังและเข้มงวด ซึ่งแผนดังกล่าวออกกฎหมายงาช้าง พ.ศ. 2558 และการเพิ่มให้ช้างแอฟริกาเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหา เช่น การเพิ่มให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 รวมทั้ง ยังปรับปรุง วิธีการ จดทะเบียนตั๋วรูปพรรณ ช้างเลี้ยงของไทย ความเข้มงวดปราบปราม และการค้าระหว่างประเทศที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน
"จากข้อมูลกรมศุลกากรปี 2560 มีรายงานสถิติการเคยจับกุมตรวจยึดงาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้างไปแล้วกว่า 16,730 ชิ้น น้ำหนักรวม 75 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 7.5 ล้านบาท" นายสมเกียรติ กล่าว
ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) กล่าวย้ำอีกว่า ประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาไซเตส มีความห่วงใยเรื่องการลักลอบค้าหนังช้างในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยไทยยินดีให้ความร่วมมือป้องกันปราบปรามไม่ให้มีการนำเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะขยายการดำเนินการอย่างเข้มข้นกับสัตว์ชนิดอื่นด้วย ขณะเดียวกันไทยยังคงจะคงมาตราการเข้มข้นป้องกันปราบปรามการลักลอบค้างาช้างและฆ่าช้างต่อเนื่อง
https://www.naewna.com/likesara/368609
ไม่ให้เชียร์ลุงตู่ แล้วจะให้เชียร์ใครล่ะคะ....
🐘~มาลาริน~ทำสำเร็จในรัฐบาลนี้อีกแล้ว...'ผอ.ไซเตส'เผยไทยหลุดบัญชีดำ1ใน8ประเทศลอบค้างาช้างแอฟริกาผิด กม.
'ผอ.ไซเตส'เผยไทยหลุดบัญชีดำ1ใน8ประเทศลอบค้างาช้างแอฟริกาผิด กม.
นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กุล ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยตัวแทนประเทศไทย ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาไซเตส ครั้งที่ 17 ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 1-5 ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่า สำนักเลขาธิการไซเตสมีมติให้ประเทศไทยออกจากแผนปฏิบัติการงาช้าง ( NIAP) โดยไม่ต้องทำแผนต่อไซเตสแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 8 ชาติ คือ ฟิลลิปินส์ จีน เคนยา แทนซาเนีย อูกันดา เคยถูกขึ้นบัญชีดำประเทศที่มีปัญหาลักลอบและเป็นเส้นทางค้างาช้างแอฟริกาผิดกฎหมาย จนเมื่อปี 2560 ประเทศไทยถูกปรับสถานะดีขึ้นเป็นเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หรือ primary concern
ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) กล่าวว่า การที่ไทยก้าวพ้นจากการขึ้นบัญชีดำ (แบลกลิสต์) เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ออกมาตรการจัดแผนปฏิบัติการงาช้าง เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้างาช้างแอฟริกามายังประเทศไทยอย่างจริงจังและเข้มงวด ซึ่งแผนดังกล่าวออกกฎหมายงาช้าง พ.ศ. 2558 และการเพิ่มให้ช้างแอฟริกาเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหา เช่น การเพิ่มให้ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 รวมทั้ง ยังปรับปรุง วิธีการ จดทะเบียนตั๋วรูปพรรณ ช้างเลี้ยงของไทย ความเข้มงวดปราบปราม และการค้าระหว่างประเทศที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน
"จากข้อมูลกรมศุลกากรปี 2560 มีรายงานสถิติการเคยจับกุมตรวจยึดงาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้างไปแล้วกว่า 16,730 ชิ้น น้ำหนักรวม 75 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 7.5 ล้านบาท" นายสมเกียรติ กล่าว
ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) กล่าวย้ำอีกว่า ประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาไซเตส มีความห่วงใยเรื่องการลักลอบค้าหนังช้างในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยไทยยินดีให้ความร่วมมือป้องกันปราบปรามไม่ให้มีการนำเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะขยายการดำเนินการอย่างเข้มข้นกับสัตว์ชนิดอื่นด้วย ขณะเดียวกันไทยยังคงจะคงมาตราการเข้มข้นป้องกันปราบปรามการลักลอบค้างาช้างและฆ่าช้างต่อเนื่อง
https://www.naewna.com/likesara/368609
ไม่ให้เชียร์ลุงตู่ แล้วจะให้เชียร์ใครล่ะคะ....