เราเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะหัวโบราณหน่อยค่ะ แบบไม่ค่อยปลื้มเรื่องการคบกันเป็นแฟนกันแล้วแบบต้องมีอะไรกัน เพราะเราคิดว่าบางครั้งถ้าเรามีแฟนแล้วคบกันโดยที่ไม่มีอะไรกัน พอเลิกกันเราจะได้ไม่ต้องน่านั่งเสียใจทีหลัง ไม่ต้องมานั่งเศร้าซึมกับสิ่งที่เสียไป เราว่าการทำแบบนี้มันค่อนข้างโอเคมากสำหรับตัวเรา อย่างน้อยให้มันเสียแค่ความรู้สึกยังดีกว่าเสียตัวซะอีก แต่ในปัจจุบันนี้นะคะ เราเห็นคู่รักที่เป็นแฟนกันคบกันส่วนมากพวกเขาเหล่านั้นจะมีอะไรกันค่ะ รวมถึงเพื่อนของเราคบกับแฟนส่วนมากก็จะมีอะไรกันทั้งนั้น เราไม่เข้าใจเลยค่ะว่า คนเป็นแแฟนกันนี่จำเป็นต้องมีอะไรกันด้วยหรอคะ ถ้าเลิกกันไปไม่เสียดายสิ่งที่เสียไปเลยหรอ ถ้าสักวันนึงคบมา20 คนแล้ว มีอะไรกันทุกคน พอถึงเวลาที่จะต้องแต่งงานกับคนปัจจุบันนี้ถ้าเขาทราบคงแย่แน่เลย เราก็เลยคิดว่าเป็นผู้หญิงนี่ควรหวงเนื้อหวงตัวดีกว่าเนอะ แบบรอให้ถึงวันแต่งงานดีกว่า ที่เราคิดแบบนี้เพราะกลัวเสียใจมากและพยายามคิดอยู่เสมอว่า เราจะต้องทำให้ตัวเองมีคุณค่า และเราอยากถามเพื่อนๆหลายๆคนด้วยนะคะว่า การที่คนเรานั้นจะต้องเป็นแฟนกันมันมีเหตุผลมั้ยที่จะต้องมีอะไรกัน หรือมันแค่เป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึก หรือยังไง อธิบายเราหน่อยนะคะ เราอยากทราบมากเลยค่ะ และยังมีเพื่อนๆคนไหนที่ยังมีความคิดหัวโบราณ ดูแลรักษาเนื้อรักษาตัวแบบเราอยู่มั้ยคะ ปล. ปัจจุบันหาคนที่เป็นแบบเราได้ยากมากๆเลยค่ะ
เป็นแฟนกันจำเป็นต้องมีอะไรกันด้วยหรอคะ