เรารู้สึกสับสนไม่เข้าใจในการกระทำของผู้ชายคนนึง เขาเป็นหัวหน้างานของเราเอง พวกเราทำงานร่วมกันมาได้เกือบๆปีเเล้ว ช่วงเเรกเขาดูเป็นคนค่อนข้างถือตัว ติดจะหยิ่งๆด้วยสิ เเต่พอเริ่มสนิทเขาก็มีความน่ารักเเบบเถื่อนๆ ปากร้าย ตรงไปตรงมา เจ้าอารมณ์ ไม่ค่อยมีเหตุผล เอาเเต่ใจ เหวี่ยงวีน เเต่เราก็ตอบไม่ได้ว่าชอบเขาที่ตรงไหน ทั้งๆที่ทั้งออฟฟิตได้เเต่ส่ายหน้า ในความรู้สึกของเราเขาใจดี ตรงไปตรงมา ถึงจะเเอบเจ้าเล่ห์หรือชั่วร้ายไปบ้าง เขาทำอาหารไม่เป็น ไม่ค่อยดูเเลตัวเองเเต่ก็กินง่ายนะ เรากับเขาเคยเถียงกันเรื่องงานกันบ่อยขนาดที่เขาบ่นจะสั่งย้ายเรานับครั้งไม่ถ้วน เเต่ก็ไม่เคยสั่งย้ายจริงๆซักที เขาเคยบอกว่าเราตั้งใจทำงาน เเล้วก็ทำงานดี ถึงเเม้จะขี้ลืมเป็นปลาทองไปบ้าง เเต่ก็ไม่มีใครทนเขาได้เท่าที่เราทน เราเคยบอกตรงๆว่าเราชอบเขา ถ้ารู้สึกไม่ดีกับความรู้สึกนี้ก็บอกนะเราจะได้ไม่ยุ่งอีก เเต่เขาก็บอกว่าอยากจะทำอะไรก็ทำเอาที่สบายใจ หลังจากนั้นเรากับเขาก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น บางครั้งมีการถึงเนื้อถึงตัว อย่างเเตะเเขน มานั่งข้างๆเเบบใกล้จนเเขนชนกัน ลูบผมยีผม เอามือจับเเก้มเเล้วจ้องตา ไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ เวลามีกระเป๋าหนักๆเขาก็จะช่วยถือ ขึ้น bts คนเยอะๆก็จะคอยดึงให้อยู่ใกล้ๆ เเล้วก็คำพูดที่เกินกว่าผู้ร่วมงาน เเล้วก็ปฏิกริยาเวลามีผู้ชายคนอื่นมาอยู่ใกล้ก็ด้วย ทั้งหมดทำให้เราคิดว่าเขามองเราเป็นคนพิเศษ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขาเริ่มดูไม่ใส่ใจ ไม่พูดไม่คุยเหมือนเดิม มีอยู่ครั้งนึงเราเผลอเอามือไปตีที่เเขนเขาอย่างไม่ตั้งใจ (เราไม่เคยเเตะตัวเขาก่อนนะ) เขาลุกขึ้นเเล้วเดินกลับไปอีกฝั่งเเล้วหาว่าเราลามปาม คือตอนนั้นอึ้งไงเลยได้เเต่ขอโทษ ในใจคิดว่ารังเกียจเราขนาดนี้เลยเหรอ วันต่อมาเขาบอกให้เราหยุดส่งข้อความหาเขาทั้งที่อยู่กลางออฟฟิต เขาเคยพูดกับเพื่อนเขาว่ารำคาญเรา อึดอัดที่มีคนพูดถึงเรื่องของเขากับเรา ตอนนั้นเราช็อกนะพูดไม่ออกเลยล่ะ สรุปว่าหลายเดือนที่ผ่านมาเราเเค่คิดไปเองเหรอ จริงสินะ เขาไม่เคยพูดคำว่าชอบเราด้วยซ้ำ เราเริ่มเเยกตัวออกมาเริ่มไม่ยุ่งกับเขา ทำเฉพาะงานในหน้าที่ เเล้วก็บอกไปว่าขอเวลาตัดใจอย่ามายุ่งกันอีก 2-3วันต่อมาเขาก็มาหาเราที่โต๊ะทำงานมายุ่งกับขนมบนโต๊ะเราเเบบที่มักทำเป็นประจำ เเล้วบอกว่าเราไม่ดูเเลเขาเหมือนเคย (ก็ใช่สิ เราก็ไม่ได้ด้านขนาดจะไปยุ่งกับคนที่ปฏิเสธกันหรอกนะ) พอเราเฉยใส่เขาก็ทำเหมือนจะเดินเข้ามาเเตะตัวเราเเบบที่ชอบทำเวลาที่เราไม่พูดกับเขา เราจำได้ดีที่เขาเคยบอกว่าจะโกรธก็โกรธได้เเต่อย่าโกรธกันข้ามวัน เรามักจะบอกตรงๆเสมอว่าเราโกรธ งอน หรือน้อยใจอะไร เพราะรู้ว่าพวกเราต่างคนต่างงานยุ่งไม่มีเวลามาหาเหตุผลหรอก ก็เเค่บอกตรงๆจะได้ไม่ทำอีกน่าจะง่ายกว่า พักนี้เขาชอบเข้ามาออฟฟิตบ่อยๆทั้งที่มีงานหลายที่ เเล้วก็ชอบโทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน บางทีก็มาชวนเราไปกินข้าวกลางวัน บางทีก็เเค่เเวะมาเซ็นเอกสารเเล้วก็กวนประสาทเราก่อนออกไป เขาจะคอยปกป้องเราตอนมีคนโยนงานมาเพราะรู้ว่างานเราเยอะเเล้ว (เยอะสิ ตอนนี้อยู่กองกลางใครๆก็เอ็นดูโยนงานมาฝากเพียบ) บ่อยครั้งที่ลงทุนเดินขึ้นไปตามงานเอง เขาบอกว่าเขามีคนไม่ชอบเยอะเเล้ว ไม่อยากให้เราถูกคนอื่นเกลียด บางทีตกเย็นก็ชวนเราไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนเขาเเล้วพาเราไปส่งใกล้ที่พัก (ที่พักเรากับเขาอยู่คนละทาง) ช่วงนี้เขาใจเย็น ทำตัวมีเหตุผลขึ้น เขาบอกว่าเริ่มซึมซับความคิดหลายๆอย่างที่เราเป็นเเล้วก็พยายามทำความเข้าใจกับระบบความคิดของเราอยู่ เเถมเคยประชดเราว่าอย่าโลกสวย เราเคยสงสัยนะกับหลายอย่างที่เขาทำเเต่ไม่รู้จะถามใคร เพราะเราโลกส่วนตัวสูงเเต่เขาสูงกว่านะ เขาเคยชวนเราไปนอนคอนโดชวนต่อหน้าเพื่อนเขาด้วยสิ บอกนอนคนละห้อง เเต่เราก็ปฏิเสธไปเเล้วล่ะ เขาชอบมาตักของกินในจานเราไปชิม บางทีก็เอาหลอดมาปักเเก้วเราเเล้วกินด้วยหน้าตาเฉย เขาเคยขู่ว่าจะจูบถ้าเรายังบ่นไม่เลิก คือเราขี้บ่นไง เเต่มีเหตุนะไม่งั้นเราก็จะนั่งเงียบๆทำงานไปหรือไม่ก็เดินชนโน่นนี่ไปตามประสาคนซุ่มซ่าม ถ้าวันไหนเราใส่กระโปรงสั้น หรือเสื้อคอกว้าง เเล้วนั่งไม่เรียบร้อยเขาจะคอยบ่นกับกัดจิก เราเคยบอกเขาว่ามีคนมาลวนลามเรา หลังจากนั้นเขาก็จัดการให้เรียบร้อยโดยที่เราไม่ต้องเจอคนคนนั้นอีก ถ้ามีนัดกินข้าวกับทีมงานที่เราเรียกว่าเเก๊งพี่ชายเขาจะไปด้วย ไม่งั้นก็จะโทรหาคนในทีมเป็นระยะๆ เขาเคยพูดว่าเป็นเเฟนเขาต้องอดทน เราล่ะงงว่าขอคบเราตอนไหน เเต่คิดว่าพี่เเกคงเมามั้งถึงได้พูดเเบบนั้น เเล้วที่เจอบ่อยๆคือชอบมานั่งมองตอนเราทำงาน พอเราเงยหน้าขึ้นไปมองก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราเคยซื้อเค้กเซอร์ไพร์ซวันเกิดให้เขา ไม่รู้สิเเต่เราว่าเขาเเอบดีใจอยู่นะ บางทีเราคำนวณอะไรผิดไปเขาก็บ่นนะเเต่ก็สอน ถ้าเป็นเเต่ก่อนคงวีนยับล่ะ ล่าสุดเราลาป่วยเเล้วเขาโทรมาจิกเรื่องงาน เเล้ววีนจนเราร้องไห้ทั้งๆที่เราไม่ผิด เเล้วเขาก็ไลน์มาว่าเขาผิดเอง(หลังจากเช็คข้อมูลอยู่เกือบชั่วโมง) เเล้วก็พักผ่อนนะ คือเขาเป็นผู้ชายเเบบที่กวนประสาท ขี้เเกล้ง ไม่มีเวลาให้ ไม่โรเเมนติก มีความกระล่อนใช้ได้ เเต่กับเราเขาไม่ค่อยจะโกหกนะ ถ้าไม่ได้ส่วนมากคือปฏิเสธเลย เเต่ฐานะที่ต่างกันมาจนเรายังกลัวเลย (เราคงไม่ดูจนหรอกถ้าเทียบกับคนกว่าครึ่งของประเทศ เเต่เผอิญเขามีมากกว่าเราเยอะไง เราเลยดูจน) เเต่ช่วงเเรกเขาชอบบอกว่าตัวเองจน เเละเราก็เชื่อสนิท เเถมยังหาวิธีออมเงิน การลงทุนอะไรล่งไลน์ไปให้ตั้งเยอะ เเถมบอกให้ประหยัดด้วยสิ พอมาตอนนี้รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าเลยล่ะ ตอนที่เขาบอกว่ามีเงินก็หาคนจริงใจด้วยยาก คือจะสื่ออะไรเหรอ เห็นเราเป็นยังไงน่ะ ไปกินข้าวด้วยกันเราก็ขอจ่ายเองนะ จะยอมให้เลี้ยงก็ตอนที่ลากเราไปตามงานเเล้วเลยไปกินข้าวเเล้วเราไม่ได้ไปหยิบกระเป๋าก็เท่านั้นล่ะ ความรู้สึกเรามันขัดเเย้งในตัวเองมากทีเดียว เรากำลังงงว่าระหว่างเราสองคนคืออะไร เเละเราไม่เเน่ใจว่าเขาคิดอะไร เขาเคยคิดจะรักจะจริงจังกับเราบ้างไหม หรือเห็นเราเป็นเเค่ของเล่น เราเคยพูดไปเเล้วว่าเราไม่ใช่ของเล่น อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกเรา เรารู้สึกกับเขาจริงๆ เเล้วก็เจ็บจริงด้วย เขาไม่ว่ายังไงนะ ยังคงทำทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่พูดว่าอะไร เเต่เวลาไปไหนก็จะชวนเราไปด้วย บางทีก็โทรมาบอกกลับบ้านดีๆเวลาเลิกงานดึก คนเราเเก้เรื่องคนอื่นได้ เเต่กับเรื่องตัวเองกลับมองไม่ออกจริงๆ เราคิดว่าตัวเราไม่ได้โง่หรอกเเค่ไม่เเน่ใจมากกว่า หรือไม่ก็อาจมองไม่เห็นในบางมุมนะ
ผู้ชายที่ทำเเบบนี้คือคุณคิดจะจริงจังกับเราไหม ต้องการอะไร หรือเเค่กำลังล้อเล่นกับความรู้สึกเรา