เราพึ่งทำงานได้เดือนแรก พอเงินออก ก็โดนพ่อแม่คาดหวังมากๆ
เพราะพึ่งไปขึ้นบ้านใหม่ลูกพี่ลูกน้องมา ในตระกลูพี่น้องของพ่อกับแม่ก็มีรถมีบ้านกันหมด
แถมลูกๆของป้าน้าอา ก็มีรถ มีครอบครัว กำลังจะสร้างบ้านให้พ่อแม่อยู่
ซึ่งอายุของเรากับบรรดาพี่ๆก็ห่าง5-6 ปี
เราพึ่งเรียนจบ ทำงานได้เดือนเดียว บ้านครอบครัวเราก็เช่าอยู่ รถยนต์ก็ไม่มี และแม่เป็นหนี้อีก
พักหลังๆ แม่เรามาพูดจากดดันและคาดหวังกับเรามาก ว่าจะต้องมีบ้านก่อนมีรถนะ
ญาติๆเขาบอกมา มีบ้านดีกว่า อยากให้มีบ้านในช่วงเวลาทำงานปีแรก ไปเลย
เราเข้าใจนะว่าแม่ก็อยากมี แต่เรายังไม่พร้อมเลย เงินเดือนพึ่งออกมา คาดหวังโน้นนี่ซะละ
เรามีแพลนของตัวเอง เราอยากเก็บตัง2-3ปีและเที่ยวบ้าง หรือทำธุรกิจบางอย่างเพื่อเพิ่มเงิน
และอยากเรียนภาษาต่อ เพื่ออาชีพในอนาคต
ยังไม่อยากเป็นหนี้ บ้านหรือรถ และอยากจะใช้หนี้แม่ให้หมดไป
แต่แม่เราไม่เข้าใจเลย มันทำให้อารมณ์เสียหลายครั้ง เพราะนี้เราเรียนจบแล้ว เราอยากเริ่มเดินในทางที่อยากเดิน
และทำตามแพลนที่คิดไว้ แต่กลับถูกคาดหวังและกดดัน จากครอบครัว
มีใครเคยเจอกันบ้างมั๊ยคะ มีวิธีรับมือกันยังไงบ้างขอคำปรึกษาหน่อยคะ เจอพูดบ่อยๆละอารมณ์มันขึ้น5555
มีวิธีรับมือกับความคาดหวังของครอบครัวยังไงกันบ้าง
เพราะพึ่งไปขึ้นบ้านใหม่ลูกพี่ลูกน้องมา ในตระกลูพี่น้องของพ่อกับแม่ก็มีรถมีบ้านกันหมด
แถมลูกๆของป้าน้าอา ก็มีรถ มีครอบครัว กำลังจะสร้างบ้านให้พ่อแม่อยู่
ซึ่งอายุของเรากับบรรดาพี่ๆก็ห่าง5-6 ปี
เราพึ่งเรียนจบ ทำงานได้เดือนเดียว บ้านครอบครัวเราก็เช่าอยู่ รถยนต์ก็ไม่มี และแม่เป็นหนี้อีก
พักหลังๆ แม่เรามาพูดจากดดันและคาดหวังกับเรามาก ว่าจะต้องมีบ้านก่อนมีรถนะ
ญาติๆเขาบอกมา มีบ้านดีกว่า อยากให้มีบ้านในช่วงเวลาทำงานปีแรก ไปเลย
เราเข้าใจนะว่าแม่ก็อยากมี แต่เรายังไม่พร้อมเลย เงินเดือนพึ่งออกมา คาดหวังโน้นนี่ซะละ
เรามีแพลนของตัวเอง เราอยากเก็บตัง2-3ปีและเที่ยวบ้าง หรือทำธุรกิจบางอย่างเพื่อเพิ่มเงิน
และอยากเรียนภาษาต่อ เพื่ออาชีพในอนาคต
ยังไม่อยากเป็นหนี้ บ้านหรือรถ และอยากจะใช้หนี้แม่ให้หมดไป
แต่แม่เราไม่เข้าใจเลย มันทำให้อารมณ์เสียหลายครั้ง เพราะนี้เราเรียนจบแล้ว เราอยากเริ่มเดินในทางที่อยากเดิน
และทำตามแพลนที่คิดไว้ แต่กลับถูกคาดหวังและกดดัน จากครอบครัว
มีใครเคยเจอกันบ้างมั๊ยคะ มีวิธีรับมือกันยังไงบ้างขอคำปรึกษาหน่อยคะ เจอพูดบ่อยๆละอารมณ์มันขึ้น5555