วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยว จังหวัด ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ขับรถ 1-2 ชม. ก็ถึงเเล้ว
ซึ่งทริปนี้ เราไปเที่ยวทั้งหมด เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน  จากการที่เราได้รับรางวัล จาก Pantip ที่ร่วม กับ ททท.จัดโครงการเที่ยวเมืองรอง เเละ นุ่งโจงห่มสไบ
ออกเดินทางกันเลย  ตารางนัดหมายจุดนัดพบ ที่ ททท. สำนักงานใหญ่ เวลา 07.00 น.
มาถึงก็เช็คอิน รับของแจกกันเลย หมอนรองคอ พัด เสื้อยืดสีขาว ป้ายชื่อ  และข้าวเหนียวหมู/เนื้อ
ทางผู้ใหญ่ใจดี ได้เปิดพิธี เเละ เเลกของให้กัน เราก็ ล้อหมุน กันเลย
จากกรุงเทพ  เรามุ่ง สู่ จ. ลพบุรี กันค่ะ เริ่มที่คำขวัญจ.ลพบุรี
วังนารายณ์คู่บ้าน ศาลพระกาฬคู่เมือง ปรางค์สามยอดลือเลื่อง
เมืองแห่งดินสอพอง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เกริกก้อง แผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์
ที่เเรกของเราก็คือ ปรางค์สามยอด ซึ่งมี น้องลิง จ๊ากๆๆ ( รักจริงๆ) อยู่เยอะมาก
มาเป็นครอบครัวเลย น่ารักกันมากๆ  จขกท.เห็นน้องลิงเเล้วนึกถึงน้องเหมียวที่บ้านเลย น่ารักตะมุตะมิมากๆ
เเละข้ามถนนไปใกล้ๆกัน ก็จะ เจอศาลพระกาฬซึ่งเป็นโบราณสถาน ภายในประดิษฐาน เจ้าพ่อพระกาฬ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคน จ.ลพบุรี
มื้อเเรก ใน จ.ลพบุรี ของเราและคณะ  ที่ ร้านฉัตรนารา  อาหารอร่อย ร้านสวยโมเดิร์น
อิ่มเเล้ว ออกเดินทางกันต่อ เราไปที่ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์  เมืองแห่งประวัติศาสตร์
เราเข้าพัก คืนเเรกกันที่ โรงเเรม โอทู จ.ลพบุรี ราคาห้องซึ่งไม่แพงเลย 699 บ. ที่พักสะอาด ฝั่งตรงข้าวม รร.มีเซเว่น มีร้านข้าวต้มรอบดึก
เเถมยังมีอาหารเช้าให้อีก อาหารเช้าก็จะเป็นง่าย ข้าวต้มหมู ซุ้มสลัดผักเล็กๆ กับข้าว 2-3 อย่างมีข้าวผัด น้ำลำไย/น้ำส้ม ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาเลยค่ะ
เนื่องจาก เราเเละคณะผู้โชคดีทุกท่าน ได้รับรางวัลมา จะต้องเข้าร่วมกิจกรรม ภายใต้โครงการ นุ่งโจงห่มสไบ
ทีมงานจึงให้พวกเราเตรียมชุดไทยมา พร้อมกับ ร่วมพูดคุย กับ คุณ จีจี้ (ผู้รับบทสาลี่ในละคร บุพเพสันนิวาส) เเละ คุณบอยนักเขียนรีวิว Pantip
เราจึงแปลงโฉม มาเป็นคุณพี่แสน ( เกินจากพี่หมื่น) เเละ แม่หญิง พยาบาท หรือ จะ กากบาท ดี 555555 (การะเกด)
ตอนเเรก จขกท.ไม่มั่นใจเลยเพราะ จขกท.ใส่เเว่น ซึ่งกังวลว่าไม่เข้ากับชุดไทย เเต่ทาง Pantip เเละ ททท. ได้มอบโอกาศดีๆให้ เราก็ต้องแปลงโฉมค่ะ
บรรยากาศภายในงาน ซึ่งเต็มไปด้วย พี่หมื่น เเละแม่หญิงทั้งหลาย  เเละ ของกินอร่อยๆ โดยเฉพาะหมูโสร่ง
Day2  เป็นวันที่ เราจะเเยกย้ายกันไปตามเส้นทางที่เลือกไว้ ซึ่ง จขกท.เลือกเส้นที่ 3
ที่เเรก คือ โครงการณ์ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริหนองระหารจีน ต.บ้านอิฐ อ.เมืองจ.อ่างทองมีเนื้อประมาณ 36ไร่ เป็นพื้นที่ดิน 23 ไร่ พื้นที่น้ำ 13ไร่
คำขวัญประจำ จ. อ่างทอง  พระสมเด็จเกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วีรไทยใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง โด่งดังจักสาน ถิ่นฐานทำกลอง เมืองสองพระนอน
ในฟาร์มเราก็จะมี การเรียนรู้ เพาะพันธุ์กบ ปลูกผักสลัดไฮโดรปลอดสารพิษ การปลูกถั่วงอกยังไงให้กรอบ เเละผลิตภัณฑ์มาขาย
เช่น ผักปลอดสารพิษไม่แพงเลย ห่อละ 15-20-25 เท่านั้น ซึ่งเเลกกับสุขภาพถือว่าถูกมาก มีนมข้าวโพดรสชาติอร่อยขวดละ 15 บ.
อยากจะเเนะนำถ้าใครผ่านไปมา ก็อยากให้เข้าไปเรียนรู้เเละอุดหนุนผักของโครงการด้วยค่ะ

มื้อเที่ยงที่ จ.อ่างทอง เราฝากท้องไว้ที่ ร้าน ปิ่นโต  ในส่วนตัว จขกท.ว่าร้านนี้ทำอร่อย ร้านบรรยากาศติดริมน้ำ
ช่วงบ่ายคณะเรา ออกจาก จ. อ่างทอง มาที่ จ. อยุธยา  มาลงเรือที่วัด ตองปุ  เพื่อล่องเรือชมวิถีชาวบ้าน
เเละ ล่องเรือไปวัดไชยวัฒนาราม / วัดพุทไธศวรรย์
คำขวัญประจำ จ. พระนครศรีอยุธยา  ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา เลอคุณค่ามรดกโลก

เรายังล่องเรือ ไปที่ วังช้างอยุธยา แล เพนียด ไปดู พี่ช้างอาบน้ำ ซึ่งพี่ช้างขี้เล่นมากๆ

มื้อเย็นเราฝากท้องกัน ที่ เรือนทับทิม ซึ่งจะเป็นบ้านไม้หลังเก่า มีที่พักเเละขายอาหารด้วย  ติดริมน้ำ
ส่วนตัว จขกท. ว่า ร้านนี้อาหารรสชาติอร่อยมาก เป็นอาหารที่รสชาติดี
พิกัด ร้าน เรือนทับทิม คือ ทางร้านเป็นเหมือนเกาะลอย ซึ่งถ้าใครอยากมาทาน ต้องมาขึ้นเรือที่ วัดตองปู ใช้เวลานั่งเรือ ประมาณ 5 นาทีก็จะถึงร้าน
น้ำพริกไข่กา เมนูเด็ดของทางร้าน
จากร้านอาหาร ซึ่งเดินทางมาประมาน 20 นาที  มาถึงที่พักคืนที่ 2 ของคณะเรา

Part 2 รีวิวที่พัก เเคนทารี่ อยูธยา