เรื่องมีอยู่ว่า...
แมวเราชื่อคริสปี้ เรารับมาจากโครงการหาบ้านให้แมว ตอนแรกพาไปตรวจทุกอย่างปกติดี จนไปเจอเชื้อลิวคีเมีย เลยตรวจละเอียดอีกทีผลก็ยืนยันมาว่าน้องเป็นโรคลิวคีเมีย แต่หมอหลายๆคนที่ตรวจบอกว่า น้องดูแข็งแรงมากๆ เหมือนไม่ใช่แมวป่วยเลย หล่อ แถมฉลาดมากด้วย หมอยังแซวเลยว่าเลี้ยงดีขนาดนี้ ถ้าไม่ป่วยน่ามาบริจาคเลือดนะเนี่ย
คริสปี้ผ่านการตรวจเลือดหลายครั้ง ค่าเลือดดีขึ้น เพราะเราให้โฟลิคบำรุงเขาตลอด ให้ ComplexB และอินเตอร์ฟีรอน ร่วมด้วย หมอบอกว่าสามารถทำได้ เราก็ดูแลเขาดีมาตลอด ร่วมทั้งเรื่องอาหารการกินทุกอย่าง เขาดีมาตลอดจนถึงเมื่อวันพฤหัส เขาดูหายใจกระตุก เลยพาไปหาหมอทันที หมอก็จับๆ ดูไม่ชำนาญอะไรเลย ยังงงๆ มาถามว่าป่วยเป็นอะไร ??!!!! เอ้าหมอออ ก็พามาเพื่อตรวจนี่แหละค่ะ หมอที่นี่ยังไงล่ะเนี่ย เลยบอกไม่รู้ค่ะ ก็มันหายใจกระตุกเลยพามาเนี่ยค่ะ ละท่านั่งมันก็เปลี่ยนไป ไม่เคยเห็นท่านั่งแบบนี้มาก่อน (คือเคยพาน้องหมามาหาหมอที่นี่แล้ว ละติดเชื้อกลับไปเฉยเลยทั้งๆที่ไม่ได้มีการ iv ใดๆ ตอนนั้นคิดว่าอาจจะติดจากทางเดอนหายใจรึป่าว แต่น้องหมาก็หายเป็นปกติ ตัวเราเองมาที่นี่เราก็ตัวจะรุมๆ เพลียๆ คิดว่าเชื้อโรคน่าจะเยอะมาก) เลยคิดว่าหรือแมวเราจะติดเชื้อทางเดินหายใจจากที่นี่ไปอีก หรือจะ iv รึป่าว คือคิดสารพัด กลัวแมวจะเป็นอะไร เพราะแค่ลำพังลิวคีเมีย มันก็จะแย่แล้ว
พอหมอรู้ว่าแมวเป็นลิวคีเมีย หมอก็เกิดจะ diag ได้ขึ้นมาซะเฉยๆ บอกว่าน่าจะมีจากลิวคีเมียนะคะ เลยแบบหืมมม ละที่คลำๆทั้งตัวตอนแรกไม่เจอเลยหรอ?????!!! หมอเลยให้ไป X-rays
X-rays รอบที่ 1 : หมออ่านฟิล์มแล้วบอกว่ามีเนื้องอก แต่เหมือนมีน้ำด้วยแล้วไปเบียดปอด ทำให้ปอดเล็กลง หายใจลำบาก คือดูแล้วถ้าก้อนเนื้องอกตรงอกและถุงน้ำใหญ่ขนาดนี้ ทำไมหมอคลำไม่เจอ??? #ประเด็นที่หนึ่งที่เริ่มคิดว่าหมอน่าจะไม่เก่งจริง
หมอก็บอกว่าต้องไป ER เพื่อไปเจาะน้ำในปอดออก (อ่าว ไหนเมื่อกี้บอกถุงน้ำเบียดปอด ละนี่บอกเจาะน้ำในปอด?? คือยังไงกันแน่ #ประเด็นที่สอง)
ก่อนเจาะ หมอก็เอาใบเซ็นต์ยินยอมให้ดมยาสลบ เพราะแมวมีโอกาสเสียชีวิตได้ คือ 50/50 แฟนก็เซ็นต์ไป เพราะชื่อเจ้าของในระบบคือชื่อแฟน พอไปเจาะเอาน้ำในปอดออกมา หมอก็บอกว่าพาน้องไปรอที่ห้องตรวจเลย นี่ก็พาไปเลย ละหมอห้อง ER บอกว่าน้ำที่เจาะได้เยอะเหมือนกัน เราก็รีบพาแมวไปรอตรวจ พอเจอหน้าหมอพูดแค่ว่าให้ไป X-rays อีกรอบเพื้อดูว่าก้อนเนื้อมันใหญ่แค่ไหน
อ่อ! เราลืมเล่าตอน X-rays ไปค่ะ เราถามแฟนว่าจับแมวท่าไหน ยังไง แฟนก็เล่าให้ฟัง พอเราดูฟิล์ม คือภาพที่ได้ไม่ใช่ Position ที่แฟนเล่าเลย เหมือนเป็นภาพก่อนจัด Position อีก ทีนี้เราก็ไม่มั่นใจแน่ๆแล้ว ว่าที่นี้ไม่โอเคละล่ะ (พอดีว่าเราเรียนมาทางด้านกายวิภาคและพวกรังสีด้วย เลยพอจะดูฟิล์มเป็น ท่า Position ที่ จนท บอกให้แฟนเราจับแมวเพื่อ X-rays แน่นอน
ผล X-rays รอบที่ 2 : แทบไม่ต่างกับรอบแรกเลย เหมือนภาพเดียวกันด้วยซ้ำ ละที่หมอ ER บอกว่าเจาะออกมาได้น้ำเยอะ คืออะไร?? ละหมอคนที่ตรวจนี้ก็เหมือนจะใช้คอมไม่เป็นเท่าไหร่ เปิดไฟล์ผิดๆ ถูกๆ เรายังกลัวเลยว่าจะ diag ผิด
คือดูหลายๆ อย่าง เหมือนหมอคนนี้ไม่เก่ง คลำปุ๊บควรจะหาเจอเลย ยิ่งก้อนใหญ่ ยิ่งน่าจะหาเจอได้แทบจะทันที แล้วอีกอย่างตอนตรวจเลือดแบบละเอียดที่ต้องส่งแลปใหญ่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ มีแค่เชื้อลิวคีเมีย ค่าตรวจแลปใหญ่ก็ไม่ใช่ถูกๆเลย
เราสัญญากับตัวเองแล้วว่า เราจะไม่พาสัตว์เลี้ยงไปที่นี่อีก ถ้ารักษาเราจะพาไปที่ รพส. อื่น แต่วัคซีนที่นี่ก็ยังโอเคอยู่
ค่ารักษาวันนั้นหมดไปประมาณ 4,000 บาท
ถามว่าแพงมั้ย สำหรับเรา เราว่าแพงกว่าที่คิดไว้พอสมควร เพราะค่ารักษาหมดไปกับค่าเบ็ดเตล็ดต่างๆ เช่น ค่า จนท. ค่าหมอ แต่ค่ายา ค่ายาสลบ ไม่ได้แพงเท่าไหร่เลย
หลังจากวันนั้นจนมาถึงวันนี้คือวันจันทร์ ผ่านมาเพียง 4 วัน น้องอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนวันนี้ตัดสินใจจะพาไปหาหมอที่มีคนในพันทิพพาไปบอกว่าหมอท่านเก่งเรื่องรักษาเชื้อไวรัสมาก ได้โทรหานัดแนะกับหมดเสร็จ ก็พาน้องไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง น้องก็เสียชีวิตลง ก่อนจากไปน้องเอาแรงเฮือกสุดท้ายพุ่งมากอดเรา เขาชอบกอดเรามากๆ เขาพุ่งมากอด แล้วก็จากไปไวมากทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ปั๊มหัวใจไม่ทัน แฟนพยายามปั๊มหัวใจให้เท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววตอบสนองกลับมา คือปาก เหงือก มือเท้าน้อง ซีดขาวทันที เหมือนน้องอดทนมานานแล้ว ทั้งๆที่ก่อนออกมาตัวยังอุ่น ดูมีแรง เขารักเรามากจริงๆ และเราก็ดีใจที่เขามาตายในอ้อมกอดเรา วันนี้เราพาไปทำพิธีศพให้น้องแล้ว น้องไม่ทรมานอีกต่อไปแล้ว
--------------------------------------
ปล. ขอฝากเรื่องห้อง ER อีกนิดนึงนะคะ ห้อง ER ควรจะปลอดเชื้อ ไม่ใช่เปิดโล่งแบบนั้น สัตว์ที่ไป ER คือเข้าขั้นรุนแรง วิกฤติ ติดเชื้อง่าย แต่ทำไมยังให้ห้อง ER เปิดโล่งขนาดนั้น ไม่เข้าใจจริงๆ ค่ะ
ใครเคยเจอหมอ รพส.เกษตร รักษาแบบนี้มั่ง?
แมวเราชื่อคริสปี้ เรารับมาจากโครงการหาบ้านให้แมว ตอนแรกพาไปตรวจทุกอย่างปกติดี จนไปเจอเชื้อลิวคีเมีย เลยตรวจละเอียดอีกทีผลก็ยืนยันมาว่าน้องเป็นโรคลิวคีเมีย แต่หมอหลายๆคนที่ตรวจบอกว่า น้องดูแข็งแรงมากๆ เหมือนไม่ใช่แมวป่วยเลย หล่อ แถมฉลาดมากด้วย หมอยังแซวเลยว่าเลี้ยงดีขนาดนี้ ถ้าไม่ป่วยน่ามาบริจาคเลือดนะเนี่ย
คริสปี้ผ่านการตรวจเลือดหลายครั้ง ค่าเลือดดีขึ้น เพราะเราให้โฟลิคบำรุงเขาตลอด ให้ ComplexB และอินเตอร์ฟีรอน ร่วมด้วย หมอบอกว่าสามารถทำได้ เราก็ดูแลเขาดีมาตลอด ร่วมทั้งเรื่องอาหารการกินทุกอย่าง เขาดีมาตลอดจนถึงเมื่อวันพฤหัส เขาดูหายใจกระตุก เลยพาไปหาหมอทันที หมอก็จับๆ ดูไม่ชำนาญอะไรเลย ยังงงๆ มาถามว่าป่วยเป็นอะไร ??!!!! เอ้าหมอออ ก็พามาเพื่อตรวจนี่แหละค่ะ หมอที่นี่ยังไงล่ะเนี่ย เลยบอกไม่รู้ค่ะ ก็มันหายใจกระตุกเลยพามาเนี่ยค่ะ ละท่านั่งมันก็เปลี่ยนไป ไม่เคยเห็นท่านั่งแบบนี้มาก่อน (คือเคยพาน้องหมามาหาหมอที่นี่แล้ว ละติดเชื้อกลับไปเฉยเลยทั้งๆที่ไม่ได้มีการ iv ใดๆ ตอนนั้นคิดว่าอาจจะติดจากทางเดอนหายใจรึป่าว แต่น้องหมาก็หายเป็นปกติ ตัวเราเองมาที่นี่เราก็ตัวจะรุมๆ เพลียๆ คิดว่าเชื้อโรคน่าจะเยอะมาก) เลยคิดว่าหรือแมวเราจะติดเชื้อทางเดินหายใจจากที่นี่ไปอีก หรือจะ iv รึป่าว คือคิดสารพัด กลัวแมวจะเป็นอะไร เพราะแค่ลำพังลิวคีเมีย มันก็จะแย่แล้ว
พอหมอรู้ว่าแมวเป็นลิวคีเมีย หมอก็เกิดจะ diag ได้ขึ้นมาซะเฉยๆ บอกว่าน่าจะมีจากลิวคีเมียนะคะ เลยแบบหืมมม ละที่คลำๆทั้งตัวตอนแรกไม่เจอเลยหรอ?????!!! หมอเลยให้ไป X-rays
X-rays รอบที่ 1 : หมออ่านฟิล์มแล้วบอกว่ามีเนื้องอก แต่เหมือนมีน้ำด้วยแล้วไปเบียดปอด ทำให้ปอดเล็กลง หายใจลำบาก คือดูแล้วถ้าก้อนเนื้องอกตรงอกและถุงน้ำใหญ่ขนาดนี้ ทำไมหมอคลำไม่เจอ??? #ประเด็นที่หนึ่งที่เริ่มคิดว่าหมอน่าจะไม่เก่งจริง
หมอก็บอกว่าต้องไป ER เพื่อไปเจาะน้ำในปอดออก (อ่าว ไหนเมื่อกี้บอกถุงน้ำเบียดปอด ละนี่บอกเจาะน้ำในปอด?? คือยังไงกันแน่ #ประเด็นที่สอง)
ก่อนเจาะ หมอก็เอาใบเซ็นต์ยินยอมให้ดมยาสลบ เพราะแมวมีโอกาสเสียชีวิตได้ คือ 50/50 แฟนก็เซ็นต์ไป เพราะชื่อเจ้าของในระบบคือชื่อแฟน พอไปเจาะเอาน้ำในปอดออกมา หมอก็บอกว่าพาน้องไปรอที่ห้องตรวจเลย นี่ก็พาไปเลย ละหมอห้อง ER บอกว่าน้ำที่เจาะได้เยอะเหมือนกัน เราก็รีบพาแมวไปรอตรวจ พอเจอหน้าหมอพูดแค่ว่าให้ไป X-rays อีกรอบเพื้อดูว่าก้อนเนื้อมันใหญ่แค่ไหน
อ่อ! เราลืมเล่าตอน X-rays ไปค่ะ เราถามแฟนว่าจับแมวท่าไหน ยังไง แฟนก็เล่าให้ฟัง พอเราดูฟิล์ม คือภาพที่ได้ไม่ใช่ Position ที่แฟนเล่าเลย เหมือนเป็นภาพก่อนจัด Position อีก ทีนี้เราก็ไม่มั่นใจแน่ๆแล้ว ว่าที่นี้ไม่โอเคละล่ะ (พอดีว่าเราเรียนมาทางด้านกายวิภาคและพวกรังสีด้วย เลยพอจะดูฟิล์มเป็น ท่า Position ที่ จนท บอกให้แฟนเราจับแมวเพื่อ X-rays แน่นอน
ผล X-rays รอบที่ 2 : แทบไม่ต่างกับรอบแรกเลย เหมือนภาพเดียวกันด้วยซ้ำ ละที่หมอ ER บอกว่าเจาะออกมาได้น้ำเยอะ คืออะไร?? ละหมอคนที่ตรวจนี้ก็เหมือนจะใช้คอมไม่เป็นเท่าไหร่ เปิดไฟล์ผิดๆ ถูกๆ เรายังกลัวเลยว่าจะ diag ผิด
คือดูหลายๆ อย่าง เหมือนหมอคนนี้ไม่เก่ง คลำปุ๊บควรจะหาเจอเลย ยิ่งก้อนใหญ่ ยิ่งน่าจะหาเจอได้แทบจะทันที แล้วอีกอย่างตอนตรวจเลือดแบบละเอียดที่ต้องส่งแลปใหญ่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ มีแค่เชื้อลิวคีเมีย ค่าตรวจแลปใหญ่ก็ไม่ใช่ถูกๆเลย
เราสัญญากับตัวเองแล้วว่า เราจะไม่พาสัตว์เลี้ยงไปที่นี่อีก ถ้ารักษาเราจะพาไปที่ รพส. อื่น แต่วัคซีนที่นี่ก็ยังโอเคอยู่
ค่ารักษาวันนั้นหมดไปประมาณ 4,000 บาท
ถามว่าแพงมั้ย สำหรับเรา เราว่าแพงกว่าที่คิดไว้พอสมควร เพราะค่ารักษาหมดไปกับค่าเบ็ดเตล็ดต่างๆ เช่น ค่า จนท. ค่าหมอ แต่ค่ายา ค่ายาสลบ ไม่ได้แพงเท่าไหร่เลย
หลังจากวันนั้นจนมาถึงวันนี้คือวันจันทร์ ผ่านมาเพียง 4 วัน น้องอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนวันนี้ตัดสินใจจะพาไปหาหมอที่มีคนในพันทิพพาไปบอกว่าหมอท่านเก่งเรื่องรักษาเชื้อไวรัสมาก ได้โทรหานัดแนะกับหมดเสร็จ ก็พาน้องไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง น้องก็เสียชีวิตลง ก่อนจากไปน้องเอาแรงเฮือกสุดท้ายพุ่งมากอดเรา เขาชอบกอดเรามากๆ เขาพุ่งมากอด แล้วก็จากไปไวมากทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ปั๊มหัวใจไม่ทัน แฟนพยายามปั๊มหัวใจให้เท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววตอบสนองกลับมา คือปาก เหงือก มือเท้าน้อง ซีดขาวทันที เหมือนน้องอดทนมานานแล้ว ทั้งๆที่ก่อนออกมาตัวยังอุ่น ดูมีแรง เขารักเรามากจริงๆ และเราก็ดีใจที่เขามาตายในอ้อมกอดเรา วันนี้เราพาไปทำพิธีศพให้น้องแล้ว น้องไม่ทรมานอีกต่อไปแล้ว
--------------------------------------
ปล. ขอฝากเรื่องห้อง ER อีกนิดนึงนะคะ ห้อง ER ควรจะปลอดเชื้อ ไม่ใช่เปิดโล่งแบบนั้น สัตว์ที่ไป ER คือเข้าขั้นรุนแรง วิกฤติ ติดเชื้อง่าย แต่ทำไมยังให้ห้อง ER เปิดโล่งขนาดนั้น ไม่เข้าใจจริงๆ ค่ะ