เทียบเคียงกรณีลุงวิศวะ กับการถูกแซงคิว ผิดหรือที่เราพยายามรักษาสิทธิ

กระทู้สนทนา
จากกรณีลุงวิศวะถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี อยากจะเปรียบเทียบให้เห็นดังนี้

เรื่องทั้งหมดเกิดจาก รถตู้ไปจอดขวางกลางถนนเพื่อซื้อของ เมื่อลุงวิศวะบอกว่า ให้ไปจอดที่อื่นที่จอดมีตั้งเยอะแยะพวกกับบอกว่า จอดซื้อของแป๊บเดียวไม่ได้หรือไง นี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหา
ลุงไม่ยอมมีปากเสียงกัน เมื่อรถตู้ขับออกไปลุงก็โชว์ เพาว์ บีบแตรยาวใส่ ขับปาดขึ้นหน้า ซึ่งเรื่องก็ควรจบแค่นั้น แยกย้ายกันไปจบ
แต้ บังเอิ๊ญ บังเอิญ พวกนั้นเป็นพวกขยะสังคม ไม่ยอมเลิกรา ขับติดตามเอาเรื่อง ยกพวกลงมากระชากลุงออกจากรถเพื่อกระทืบ ลุงมีปืนเลยเป่ากลิ้งไปคนหนึ่ง  ศาลตัดสินว่า ลุงผิดมีเจตนาจะทะเลาะวิวาท ตั้งแต่ตอนถูกจอดรถขวาง อ้างว่าป้องกันตัวไม่ได้ ให้จำคุก 10 ปี ส่วนพวกเด็ก ให้รอลงอาญา กับปรับ 1000 บาทข้อหาจอดรถขวางถนน
ศาลท่านแนะว่าทำไมลุงไม่จอดรถรอให้หายโมโหก่อน ให้พวกนั้น ขับรถจากไปให้ลับสายตาแล้วค่อยขับตาม ขับออกไปทันทีแบบนั้น เป็นเจตนาจะหาเรื่องเด็กก่อน เมื่อมีเจตนาทะเลาะวิวาท จึงไม่มีสิทธิป้องกันตัว  ส่วนเรื่องที่ว่าลุงถูกละเมิดสิทธิก่อน จึงโมโหโวยวายรักษาสิทธิ ไม่เห็นปรากฏในคำพิพากษา
จริง ๆ แล้วลุงเองก็คงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเลยเถิด จนกระทั่งมีคนตาย ไม่งั้น ก็คงยอม ๆ ไปแล้วก็ได้

ทีนี้ลองสมมุตินะว่าคุณกำลังต่อคิว ซื้อของอยู่ มีวัยรุ่น เข้ามาแทรกคิว คุณไม่ยอมบอกว่าให้ไปต่อคิวคนอื่นก็กำลังต่อคิว วัยรุ่นตอบว่า พี่ ๆ ขอแป๊ปเดียวเผอิญผมจะรีบไปขอแทรกหน่อยไม่ได้เหรอ คุณบอกว่าไม่ได้ โวยวายรักษาสิทธิ อาจมีปากเสียงกัน ผลักกัน ท้าทายกัน ซึ่งเรื่องควรจบแค่นั้น
แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ วัยรุ่นคนนั้นเป็นพวกเหลือเดนไม่ยอมเลิกรา มันพาพวกมารุมกระทืบคุณ หรืออาจชักมีดขึ้นมาแทงคุณ คุณจะไม่มีสิทธิแม้แต่จะป้องกันตัว เพราะคุณอยากไปมีเรื่องกับเขาเอง ขาดสติ ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ เป็นเจตนาทะเลาะวิวาท ศาลท่านว่างั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่