ที่ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นเรื่องที่ผมเก็บมานานอยากเล่าให้ใครสักคนได้ฟัง ใครสักคนที่ผมไม่รู้จักและผมจะไม่มีวันรู้จัก เรื่องเลวร้ายต่างๆที่เข้ามาในชีวิตที่ผ่านมา มันจะเป็นเรื่องที่ยาวมาก แต่ผมตั้งใจที่จะเขียนมันขึ้นมาและผมจะทิ้งความทรงจำเหล่านั้นทิ้งไป
บทที่1
ปังงงงงงงงงงงง!!! เสียงดังก้องดังมาจากในห้องนอนของผมกับพี่ชาย หลังจากที่ผมพึ่งอาบน้ำเสร็จ ผมรีบเดินไปเคาะห้องทันที
ชา:พี่ชัช พี่ชัช พี่ชัช
ผมเคาะห้องเพื่อเรียกพี่ชายผมเพื่อจะถามว่าเสียงอะไรมันดังออกมา แต่สิ่งที่ผมได้รับคือความเงียบ ไม่มีเสียงตอบใดๆออกมาจากในห้อง ผมเริ่มเคาะและเรียกพี่ชัชเสียงดังขึ้น แต่ก็ไม่มีเสียงตอบออกมาเช่นเดิม ผมเริ่มใจคอไม่ดีแล้วทีนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ห้องก็ล๊อคเอาไว้ ผมจึงนึกได้ว่ากุญแจสำรองอยู่ในห้องแม่ของผม ผมจึงรีบไปหยิบมาเพื่อเปิดห้องดังกล่าว ภาวนาอย่าให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นเลย
แต่ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ผมร้องไห้แทบบ้า ภาพพี่ชายผมนอนจมกองเลือดในมือขวายังถือปืนเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ตอนนั้นในหัวของผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่กอดพี่ชายผมไว้บนที่นอนที่ชุ่มไปด้วยเลือดอยู่แบบนั้น ทำไรไม่ถูกได้แต่นั่งรอแม่ว่าเมื่อไหร่กลับมาจากทำงาน เขย่าตัวพี่ชายให้ตื่นขึ้นมาแต่ไร้วี่แวว ไร้ซึ่งลมหายใจและเสียงหัวใจเต้น พี่ชายผมตายแล้ว ผมหันไปมองที่มือซ้ายของพี่ชัชมีกระดาษอยู่หนึ่งแผ่นกำอยู่ในมือ ผมจึงดึงมันออกมา
มันคือจดหมายที่เขียนขึ้นถึงใครคนนึง "ถึงมะลิ"
ผมอ่านแค่นั้นยังไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างใน ผมเอาจดหมายนั้นไปเก็บไว้ในกระเป๋านักเรียนของผม ผมยังคงนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆศพพี่ชัชต่อไป จนแม่ผมกลับมาจากทำงาน ภาพที่เกิดขึ้นทำให้แม่ผมถึงกับเป็นลมล้มลงไป กว่าจะตั้งสติกันได้โทรแจ้งตำรวจกว่าตำรวจจะมาก็ซักพักนึงได้
ตำรวจสรุปคดีพี่ชัชเป็นการตายเพราะอุบัติเหตุทำปืนลั่น แม่ผมก็ไม่ได้ติดใจเรื่องใดเพราะวิถีกระสุนที่ยิงเข้าใต้คางแต่สิ่งนึงที่เป็นข้อสงสัยคือ
"พี่ชัชเอาปืนมาจากใหน"
ผมไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับจดหมายฉบับนั้นที่ผมเองก็ยังไม่ได้อ่าน ตอนนั้นครอบครัวผมวุ่นเกี่ยวกับงานศพพี่ชัช ต้องบอกก่อนว่าผมเกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อแม่ของผมแยกทางกัน พ่อทิ้งพวกผมให้แม่ผมรับภาระดูแลลูกสองคนโดยไม่เคยมาดูดำดูดีอะไรเลย แม้แต่งานศพลูกชายตัวเองพ่อยังไม่มาเลยซักวัน ผมกับพี่ชัชเกลียดพ่อตัวเองมากเขาทิ้งพวกเราไปตั้งแต่ผมเก้าขวบ แม่รับภาระทุกอย่างในบ้าน แล้วยิ่งมาเกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้แม่ผมเหมือนหัวใจสลายลงไปเลยทีเดียว
ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์แล้วกับเหตุการณ์ร้ายๆในครั้งนี้ ผมกับแม่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์สูญเสียในครั้งนี้ เพราะผมกับพี่ชัชสนิทกันมากเรานอนห้องเดียวกันเป็นพี่น้องที่สนิทกัน บนที่นอนในห้องยังเต็มไปด้วยคราบเลือดพี่ชัชอยู่เลย แม่บอกว่าให้ผมเปลี่ยนที่นอนใหม่แต่ผมขอแม่ไม่เปลี่ยนที่นอน ผมขอนอนที่นอนเดิมไปก่อน ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ แต่พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียนตามปกติ ผมพึ่งสอบเข้า ม.1 ที่เดียวกับพี่ชายผมได้ เปิดเทอมมาแล้วสามอาทิตย์แต่ผมพึ่งไปเรียนได้อาทิตย์เดียวแล้วก็หยุดมาเลยตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา
ใช่...พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียน ทำให้ผมหันไปมองกระเป๋านักเรียนที่วางไว้บนชั้นวาง ผมนึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายที่พี่ชัชเขียนทิ้งไว้ในมือนี่นา ผมยังไม่ได้อ่านมันเลย ผมหยิบกระเป๋านักเรียนออกมาในใจผมสั่นไปหมด ผมจะบอกเรื่องนี้ให้แม่รู้ด้วยดีหรือป่าว หรือจะให้แม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุแบบนี้ต่อไปดี ในขณะที่ผมคิดมือผมก็เปิดจดหมายดังกล่าวอ่าน แล้วมันก็ทำให้ผมต้องร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง
"ถึงมะลิ
ตั้งแต่วันที่เราได้คบกันเรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ชายที่โชดดีมาก
ที่ได้มีมะลิเป็นคนที่เรารัก จนเรารู้สึกว่าชีวิตของเราคงขาด
มะลิไม่ได้ต่อไปแล้ว เรามีความสุขตลอดเวลาที่เราคบกัน
จนมาถึงวันนี้ วันที่มะลิขอเลิกกับเรา มันเหมือนกับโลกนี้
หยุดหมุนไป มะลิมีคนอื่นทิ้งเราไปไม่พูดอะไรกับเราซักคำ
เราไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกนี้แล้ว โลกที่ไม่มีมะลิ
อยู่ข้างๆเรา ถ้าชาติหน้ามีจริงเราขอเป็นคนที่มะลิรักจะ
ได้หรือป่าว แต่ในชาตินี้เราคงไม่มีวันได้รักกันต่อไปแล้ว
รักมะลิตลอดไป
ชัช"
คำถามที่เข้ามาในหัวผมตอนนี้คือมะลิเป็นใคร เธอจะรู้มั้ยว่าเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่ชัชต้องตาย ในใจผมตอนนี้รู้สึกแค้นผู้หญิงคนนี้มากทั้งๆที่ผมยังไม่เคยเจอหน้าเธอด้วยซ้ำ ผมนั่งคิดทั้งคืนจนเช้า
พระอาทิตย์ขึ้นแล้วพร้อมกับที่ผมนำจดหมายฉบับนั้นใส่กระเป๋านักเรียนตามเดิม ผมตัดสินใจไม่บอกแม่ของผมถึงเรื่องนี้ ในใจคิดแค่ว่า"มะลิ"ต้องได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ผมจึงไปอาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียนต่อไป
จดหมายสุดท้าย
บทที่1
ปังงงงงงงงงงงง!!! เสียงดังก้องดังมาจากในห้องนอนของผมกับพี่ชาย หลังจากที่ผมพึ่งอาบน้ำเสร็จ ผมรีบเดินไปเคาะห้องทันที
ชา:พี่ชัช พี่ชัช พี่ชัช
ผมเคาะห้องเพื่อเรียกพี่ชายผมเพื่อจะถามว่าเสียงอะไรมันดังออกมา แต่สิ่งที่ผมได้รับคือความเงียบ ไม่มีเสียงตอบใดๆออกมาจากในห้อง ผมเริ่มเคาะและเรียกพี่ชัชเสียงดังขึ้น แต่ก็ไม่มีเสียงตอบออกมาเช่นเดิม ผมเริ่มใจคอไม่ดีแล้วทีนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ห้องก็ล๊อคเอาไว้ ผมจึงนึกได้ว่ากุญแจสำรองอยู่ในห้องแม่ของผม ผมจึงรีบไปหยิบมาเพื่อเปิดห้องดังกล่าว ภาวนาอย่าให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นเลย
แต่ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ผมร้องไห้แทบบ้า ภาพพี่ชายผมนอนจมกองเลือดในมือขวายังถือปืนเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ตอนนั้นในหัวของผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่กอดพี่ชายผมไว้บนที่นอนที่ชุ่มไปด้วยเลือดอยู่แบบนั้น ทำไรไม่ถูกได้แต่นั่งรอแม่ว่าเมื่อไหร่กลับมาจากทำงาน เขย่าตัวพี่ชายให้ตื่นขึ้นมาแต่ไร้วี่แวว ไร้ซึ่งลมหายใจและเสียงหัวใจเต้น พี่ชายผมตายแล้ว ผมหันไปมองที่มือซ้ายของพี่ชัชมีกระดาษอยู่หนึ่งแผ่นกำอยู่ในมือ ผมจึงดึงมันออกมา
มันคือจดหมายที่เขียนขึ้นถึงใครคนนึง "ถึงมะลิ"
ผมอ่านแค่นั้นยังไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างใน ผมเอาจดหมายนั้นไปเก็บไว้ในกระเป๋านักเรียนของผม ผมยังคงนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆศพพี่ชัชต่อไป จนแม่ผมกลับมาจากทำงาน ภาพที่เกิดขึ้นทำให้แม่ผมถึงกับเป็นลมล้มลงไป กว่าจะตั้งสติกันได้โทรแจ้งตำรวจกว่าตำรวจจะมาก็ซักพักนึงได้
ตำรวจสรุปคดีพี่ชัชเป็นการตายเพราะอุบัติเหตุทำปืนลั่น แม่ผมก็ไม่ได้ติดใจเรื่องใดเพราะวิถีกระสุนที่ยิงเข้าใต้คางแต่สิ่งนึงที่เป็นข้อสงสัยคือ
"พี่ชัชเอาปืนมาจากใหน"
ผมไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับจดหมายฉบับนั้นที่ผมเองก็ยังไม่ได้อ่าน ตอนนั้นครอบครัวผมวุ่นเกี่ยวกับงานศพพี่ชัช ต้องบอกก่อนว่าผมเกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อแม่ของผมแยกทางกัน พ่อทิ้งพวกผมให้แม่ผมรับภาระดูแลลูกสองคนโดยไม่เคยมาดูดำดูดีอะไรเลย แม้แต่งานศพลูกชายตัวเองพ่อยังไม่มาเลยซักวัน ผมกับพี่ชัชเกลียดพ่อตัวเองมากเขาทิ้งพวกเราไปตั้งแต่ผมเก้าขวบ แม่รับภาระทุกอย่างในบ้าน แล้วยิ่งมาเกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้แม่ผมเหมือนหัวใจสลายลงไปเลยทีเดียว
ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์แล้วกับเหตุการณ์ร้ายๆในครั้งนี้ ผมกับแม่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์สูญเสียในครั้งนี้ เพราะผมกับพี่ชัชสนิทกันมากเรานอนห้องเดียวกันเป็นพี่น้องที่สนิทกัน บนที่นอนในห้องยังเต็มไปด้วยคราบเลือดพี่ชัชอยู่เลย แม่บอกว่าให้ผมเปลี่ยนที่นอนใหม่แต่ผมขอแม่ไม่เปลี่ยนที่นอน ผมขอนอนที่นอนเดิมไปก่อน ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ แต่พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียนตามปกติ ผมพึ่งสอบเข้า ม.1 ที่เดียวกับพี่ชายผมได้ เปิดเทอมมาแล้วสามอาทิตย์แต่ผมพึ่งไปเรียนได้อาทิตย์เดียวแล้วก็หยุดมาเลยตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา
ใช่...พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียน ทำให้ผมหันไปมองกระเป๋านักเรียนที่วางไว้บนชั้นวาง ผมนึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายที่พี่ชัชเขียนทิ้งไว้ในมือนี่นา ผมยังไม่ได้อ่านมันเลย ผมหยิบกระเป๋านักเรียนออกมาในใจผมสั่นไปหมด ผมจะบอกเรื่องนี้ให้แม่รู้ด้วยดีหรือป่าว หรือจะให้แม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุแบบนี้ต่อไปดี ในขณะที่ผมคิดมือผมก็เปิดจดหมายดังกล่าวอ่าน แล้วมันก็ทำให้ผมต้องร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง
"ถึงมะลิ
ตั้งแต่วันที่เราได้คบกันเรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ชายที่โชดดีมาก
ที่ได้มีมะลิเป็นคนที่เรารัก จนเรารู้สึกว่าชีวิตของเราคงขาด
มะลิไม่ได้ต่อไปแล้ว เรามีความสุขตลอดเวลาที่เราคบกัน
จนมาถึงวันนี้ วันที่มะลิขอเลิกกับเรา มันเหมือนกับโลกนี้
หยุดหมุนไป มะลิมีคนอื่นทิ้งเราไปไม่พูดอะไรกับเราซักคำ
เราไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกนี้แล้ว โลกที่ไม่มีมะลิ
อยู่ข้างๆเรา ถ้าชาติหน้ามีจริงเราขอเป็นคนที่มะลิรักจะ
ได้หรือป่าว แต่ในชาตินี้เราคงไม่มีวันได้รักกันต่อไปแล้ว
รักมะลิตลอดไป
ชัช"
คำถามที่เข้ามาในหัวผมตอนนี้คือมะลิเป็นใคร เธอจะรู้มั้ยว่าเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่ชัชต้องตาย ในใจผมตอนนี้รู้สึกแค้นผู้หญิงคนนี้มากทั้งๆที่ผมยังไม่เคยเจอหน้าเธอด้วยซ้ำ ผมนั่งคิดทั้งคืนจนเช้า
พระอาทิตย์ขึ้นแล้วพร้อมกับที่ผมนำจดหมายฉบับนั้นใส่กระเป๋านักเรียนตามเดิม ผมตัดสินใจไม่บอกแม่ของผมถึงเรื่องนี้ ในใจคิดแค่ว่า"มะลิ"ต้องได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ผมจึงไปอาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียนต่อไป