หนังแนวทริลเลอร์ระทึกขวัญอาชญากรรม ที่กำกับโดย ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง F.Gary Grey จากผลงานสร้างชื่อ อาทิเรื่อง The Italian Job (2003), A Man Apart (2003), Fast & Furious 8 (2017) ซึ่งหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มาแนวถนัดแกซักเท่าไหร่ ปกติแกจะกำกับหนัง
แอ็คชั่นเป็นส่วนมาก เรื่องนี้ออกแนวเล่นชั้นเชิงของตัวละครเยอะ การชิงไหวพริบ เรื่องของระบบกฏหมาย การแก้แค้นที่เหนือชั้นทำให้หนังเรื่องนี้ดูมีมิติ ชั้นเชิง ที่น่าประทับใจทั้งแต่ต้นจนจบ

เรื่องราวในหนังเล่าถึง คุณพ่อที่ทำงานเป็นวิศวกรคนหนึ่ง ชื่อ ไคลย์ ซัสเลอร์ (Gerarad Butler จากเรื่อง 300, Olympus Has Fallen, London Has Fallen และ Den Of Thieves) เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับลูกเมีย แต่แล้ววันหนึ่งเขาถูกลอบทำร้ายโดยโจรปล้นสองคนพร้อมอาวุธที่เข้ามาปล้นบ้านของเขา เขาถูกมัดและถูกทำร้าย แต่เมียกับลูกสาวของเขากลับตกเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายในเหตุสลดครั้งนี้ หลังจากนั้นไม่นาน พวกตำรวจก็สามารถบุกจับโจรปล้นทั้งสองรายได้ แต่ด้วยระบบกฏหมายที่อ่อนและมีความล่าช้าทางคดี ทำให้การต่อสู้ในศาลนั่น หนึ่งในโจรปล้นถูกลดโทษเหลือเพียงห้าปี ส่วนอีกคนถูกโทษประหารชีวิต ทนายหนุ่มที่ว่าความให้กับไคลย์ ชื่อ นิก (Jamie Foxx จากเรื่อง Collateral, Ray, The Kingdom) ก็ไม่ได้เห็นดีเห็นชอบกับการตัดสินคดีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เหตุนี้สร้างความโกรธแค้นและไม่ยุติธรรมแก่ไคลย์เป็นอย่างมาก ผ่านไปสิบปี ไคลย์ได้กลับไปเตรียมวางแผนเป็นอย่างดีที่แยบยลเกินคาดหมายไว้รอการแก้แค้นให้ลูกเมียของเขา เขาได้สังหารโหดสองโจรปล้นโดยไม่มีหลักฐานมัดถึงตังของเขา
ไคลย์ได้ยอมมอบตัวกับตำรวจ และได้พบกับนิกอดีตทนายให้เขาอีกครั้ง กับการเจรจาต่อรองกับสิทธิ์ที่ทำให้หน่วยงานทางกฏหมายต้องยอมทำตามคำสั่งของไคลย์อย่างเสียไม่ได้ กับแผนการอันแยบยลของเขา ที่ได้วางไว้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม การโค่นล้มระบบทางกฏหมายที่ล่าช้าและเน่าเฟะของเมืองนี้ โดยเขาติดอยู่ในคุก แต่ก็มีทนายและเจ้าหน้ารัฐมากมายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้ตายลงไปทีละคน โดยเบื้องหลังมาจากไคลย์ แต่ไม่มีอะไรที่หยุดยั้งเขาได้ นอกจากนิกคนเดียวที่พอจะมองเกมของไคลย์ออกและเขาต้องหาจุดบอดและหยุดยั้งแผนของไคลย์ให้ทันก่อนมีบุคคลสำคัญตายอีก

สนุก ระทึก บทสนทนาเชือดเฉือนได้คมมาก ดุดัน เฉียบขาด แผนแยบยลไร้ที่ติ พีคตลอดทั้งเรื่อง หักมุมสุดในตอนจบ
8/10 รีวิวโดย เจสัน