ชีวิตมหาลัยกับหอใน

ช่วงเวลาที่อยู่มหาวิทยาลัย

ซึ่งเราสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนึงได้ มหาวิทยาลัยแห่งนั้นอยู่ภาคอีสาน
ซึ่งมันก็ผ่านมา 4 ปีแล้ว (เราพึ่งจบในเดือนพค. ที่ผ่านมา)

ในช่วงปีแรกเราต้องเข้าพักที่หอในของมอ
ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของมอที่นิสิตปี 1 ต้องอยู่หอใน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หอพักที่นั่นจะตั้งชื่อตามอำเภอภายในจังหวัดนั้น
ก่อนที่เราจะเข้าไปอยู่ เราต้องจองหอพักผ่านระบบนิสิต
ซึ่งหอในมอเรามีอยู่หลายหอมาก ขึ้นอยู่กับความชอบของนิสิตแต่ละคนว่าจะเลือกแบบไหน
เช่น ห้องแอร์ ห้องพัดลม ห้องน้ำรวม ห้องน้ำในตัว เตียง 1 ชั้น หรือ 2 ชั้น
หรือแม้แต่จำนวนรูมเมทว่าจะพัก 2 - 4 คนก็ได้ ซึ่งบางคนอาจจะขออยู่คนเดียวก็ได้
หอในที่เราอยู่จะได้จ่ายแค่ 4,000 บาท/เทอม และค่าไฟที่ต้องหารกันกับรูมเมท (ค่าน้ำฟรี)
เราก็ได้เลือกหอที่เป็นห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว เตียง 2 ชั้น 2 เตียง และมีรูมเมทพักด้วยอีก3คน
หอพักนี้มีทั้งหมด 5 ชั้น เราอยู่ชั้นที่ 5 และเลขห้อง 513

ก่อนที่จะเปิดเทอม เราจะรีบไปเข้าหอก่อนเพื่อเตรียมความพร้อม
เนื่องจากอยากที่จะเลือกเตียงนอนก่อนรูมเมทคนอื่นๆ
เพราะเราเป็นคนที่นอนดิ้นมาก จึงอยากได้เตียงชั้นล่าง

เมื่อเราเข้าไปถึงห้องพักในเวลาเช้ามืด ประมาณ 6 โมงกว่า ...
เราได้ก็ไปทำเรื่องขอเข้าพัก ขอกุญแจจากผู้ดูแลหอ และเตรียมขนของเข้าพัก
พ่อแม่ น้องชาย และญาติพี่น้องก็ช่วยกันขนของขึ้นไปไว้ที่ห้อง

ทันทีที่เปิดห้องเข้าไป
เราก็สังเกตว่ามีเตียงเหล็ก 2 เตียงและเป็นเตียง 2 ชั้น
มีโต๊ะไว้สำหรับนั่งเขียนหนังสือทั้งหมด 4 โต๊ะ
มีตู้เสื้อผ้าให้ 4 ตู้ และมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อยู่ภายในตัวห้อง ซึ่งแยกห้องกันอย่างชัดเจน
นอกจากนั้นยังมีราวผ้า และซิงค์ล้างจานอยู่ภายนอกห้อง

พอถึงห้องแม่ก็ได้จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ที่หอ ว่าเราจะเข้าไปอยู่ที่นี่เป็นเวลา 1 ปี
จากนั้นพ่อแม่ น้องชาย และญาติพี่น้องช่วยขนของและเก็บห้องจนเสร็จ
ก็รีบกลับบ้าน เพราะถ้าค่ำมากๆ รถก็จะติดจะทำให้ขับรถลำบาก

ในคืนแรก ...
ยังไม่มีรูมเมทคนไหนเข้ามาพัก มีแค่เราคนเดียวในห้องนั้น
ก่อนเข้านอนเราก็ได้สวดมนต์และเข้านอนเร็วกว่าปกติ
เพราะวันรุ่งเช้ารูมเมทอีกคนจะเข้าพัก
จากนั้นเราก็เผลอหลับไป

ในช่วงกำลังจะเช้า เรารู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น
ในตอนนั้นเราก็มองไปเห็น ผู้ชายคนนึงรูปร่างสูงใหญ่
เปิดประตูและเดินเข้ามาภายในห้อง
เขาเดินผ่านปลายเตียงที่เรากำลังนอนอยู่
เขาตัวสูงมาก มากซะจนตอนเดินผ่านปลายเตียงเรา เรามองเห็นเพียงแค่ช่วงเอวลงมาเท่านั้น
ตอนนั้นเราก็ไม่เอะใจเลย ว่าเขาเป็นใคร เข้ามาทำไม
เพราะตอนนั้นคิดว่า "อาจจะเป็นผู้ปกครองของรูมเมทอีกคน ที่กำลังจะย้ายมาพักก็ได้"
และอีกอย่างคืนนั้น เราได้คุยกับรูมเมทคนนั้นไว้ว่า "รูมเมทจะเข้ามาพักที่ห้องในวันรุ่งขึ้น"

พอผู้ชายคนนั้นเดินผ่านเตียงเราไปที่บริเวณหน้าห้องน้ำ และยืนอยู่ตรงนั้นอยู่พักใหญ่
จากนั้นเขาก็เดินกลับมา และมาหยุดอยู่ที่ปลายเตียงของเรา
เขาเริ่มย่อตัวลง พร้อมทั้งก้มตัวลงมามองเราที่กำลังนอนอยู่บนเตียง
เขาจ้องมองเราอยู่นานมาก มากจนอดสงสัยไม่ได้ว่า "ทำไมต้องจ้องขนาดนั้น เรากำลังทำอะไรผิดรึป่าว"
แต่ด้วยความที่ว่าตอนนั้นมันเริ่มสลัวๆ เราก็เลยเห็นหน้าไม่ค่อยชัด
และคิดในใจว่า "อาจจะเป็นผู้ปกครองของเพื่อน ที่อาจจะอยากเห็นหน้าเพื่อนร่วมห้องของลูกเท่านั้นแหละ
และถ้าเราตื่นขึ้นมาค่อยลุกมา สวัสดีและทำความรู้จักกันทีหลังก็ได้ การไม่เห็นหน้าชัดๆคงไม่เป็นปัญหาอะไร"
ที่เราคิดแบบนั้น เพราะตอนเราเดินทางมาเข้าพักที่นี่ เราเองก็เข้ามาถึงเช้ามืดเช่นกัน

เมื่อเขาจ้องเราอยู่พักใหญ่
เขาก็เดินอ้อมมานั่งที่โต๊ะสำหรับเขียนหนังสือ ซึ่งโต๊ะที่ว่านั้นตั้งอยู่ข้างเตียงเรา
เขานั่งหันหน้ามามองเราที่กำลังนอนอยู่ ซึ่งเรานอนคะแนงซ้ายและหันหน้าไปทางเขาเช่นกัน

ในขณะที่เขามองเราอยู่
ฟ้าก็เริ่มจะสว่างขึ้น แสงเริ่มส่องเข้ามาทางหน้าต่างมากขึ้น
เราก็เริ่มเห็นหน้าเขาชัดมากขึ้น
ผู้ชายคนนั้นผิวเข้ม คิ้วเข้ม และดวงตาเล็ก  เรายังคงจำหน้าเขาได้อย่างแม่นยำ
เขานั่งอยู่ไม่นาน แล้วเราก็เผลอหลับไป

ผ่านไปไม่กี่ชม. เราก็ตื่นขึ้นมาในเวลา 8 โมงเช้า
เราลุกอาบน้ำแต่งตัวตามปกติ
เราเริ่มสังเกตดูรอบห้องว่ารูมเมทคนนั้นขนอะไรมาบ้าง
แต่ก็แปลกใจเมื่อสังเกตดูแล้ว ไม่มีของอะไรของรูมเมทเลย
และรูมเมทหายไปไหน ทำไมไม่มีของของเขาอยู่เลย

ในขณะที่เรากำลังนั่ง งง ๆอยู่ ...
และไม่นานรูมเมทก็เข้ามาในห้องพร้อมกับของที่เยอะพอสมควร
(รูมเมทคนแรกมาจากอุดรธานีเหมือนกันกับเรา เราจะเรียกเขาว่า "เมย์")
เมย์มาพร้อมกับครอบครัว มีทั้งพ่อ แม่ น้องสาวและญาติพี่น้อง ทุกคนกำลังช่วยกันขนของ
เราเองก็ไปช่วยขนของด้วยเช่นกัน ในตอนนั้นทุกคนกำลังยุ่งกับการขนของจึงไม่ได้ถามอะไรกันมากนัก

สักพักเราเอะใจอยู่ช่วงนึงและก็แอบสงสัยว่า
"ทำไมคนพวกนี้ ไม่มีคนหน้าตาเหมือนคนที่เราเห็นก่อน ในตอนที่ฟ้าจะสว่างเลย"

เมื่อขนของเสร็จ ...
พ่อ แม่ น้องสาวและญาติพี่น้องของรูมเมทก็พากันเดินทางกลับ
และบอกกับเราว่า "ดูแลกันดีๆนะลูก ฝากดูแลเมย์ด้วย"

พอทุกคนเริ่มทะยอยเดินทางกลับ
เมย์เราก็เลือกเตียงนอน เมย์ก็เลือกเตียงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเตียงของเรา
ซึ่งเมย์ก็ได้นอนอยู่ชั้นล่างเหมือนกับเรา
เราก็ถามไถ่กันว่า "มาจากไหน บ้านอยู่ไหน เรียนจบจากที่ไหน บลาๆๆ"

จนมาถึงประเด็นที่เราสงสัยมากๆ
เราจึงถามว่า "เดินทางออกจากบ้านกี่โมง มาถึงที่นี่เมื่อไหร่ เข้ามาในห้องครั้งแรกตอนกี่โมง"
เมย์ก็ตอบว่า"ออกมาตั้งแต่ตี 4 กว่าๆ มาถึงนี่ก็เกือบ 8 โมง
ทำเรื่องเข้าหออยู่นานเลย เพราะคนทำเรื่องเข้าหอเยะกว่าทุกวัน มาถึงห้องก็ตอนที่แกเห็นนั่นแหล่ะ"
เราถามย้ำว่า "ก่อนหน้านั้นไม่ได้เข้ามาใช่มั้ย"
เมย์ก็ยืนยันว่า "ไม่ !!!"
เราก็เงียบอยู่พักใหญ่ และคิดในใจว่า "เอาละไง เจอดีเข้าแล้วกู"
เราก็ไม่ได้บอกอะไรเมย์มาก เพราะเมย์บอกเราว่า "เขากลัวผีมากๆ" และห้อยพระเยอะมาก
พอคุยกันเสร็จเราก็ช่วยเมย์เก็บของ และพากันออกไปกินข้าว

เมย์บอกเราว่า "พรุ่งนี้รูมเมทอีกคนจะเข้ามาพัก และน่าจะเข้ามาแต่เช้ามืด"
ซึ่งรูมเมทคนที่ 2 เรามาจากหนองคาย เราจะเรียกเขาว่า "มาย"
เราก็พยักหน้าส่งสัญญาณว่ารับรู้แล้ว
เมย์เราเลยเดินเข้าไปที่เตียงนอนของเขา เราก็แยกย้ายกันนอน

พอกลางดึก ...
เราก็เห็นผู้ชายคนเดิมเดินเข้ามาที่ห้องอีกครั้ง
เขาเดินตรงมาที่เตียงของเรา และมองเราอยู่พักนึง
จากนั้นเขาก็ปีนขึ้นไปนอนเตียงที่อยู่ข้างบน นั่นคือชั้น 2 ของเตียงเรา
ถ้าคนที่เคยนอนเตียง 2 ชั้นจะเข้าใจดีว่า "ถ้ามีคนปีนขึ้นไป เหล็กที่เตียงจะมีเสียงดัง เอี๊ยดๆ
และถ้าคนที่นอนชั้นบนขยับตัวเมื่อไหร่ เตียงเราก็จะสั่นและดัง เอี๊ยดๆ เช่นกัน"
ใช่ค่ะ ผู้ชายคนนั้นปีนขึ้นแล้วนอนและเตียงก็สั่นและดัง เหมือนมีคนอยู่ข้างบนจริงๆ
แต่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะวันนั้นเหนื่อยกับการขนของมาทั้งวัน
ผ่านไปไม่นาน เราก็เผลอหลับไปจนรุ่งเช้า

และตอนเช้ารูมเมท(มาย)อีกคนก็มาเข้าพัก เราก็ช่วยกันขนของจนเสร็จ
แต่เราไม่กล้าถามมายเรื่อง การเดินทางหรือเวลาที่มาถึงห้อง
เพราะเรารู้แล้วว่า "คนที่ปีนขึ้นเตียงเรา ไม่ใช่มายแน่ๆ"

ปกติแล้วหอพักเราจะต้องพักกัน 4 คนต่อห้อง
แต่ห้องเรามีคนเข้าพักเพียงแค่ 3 คน
นั่นแปลว่า "เตียงชั้นบนของเมย์ จะว่าง 1 ที่"

ซึ่งบางคืน "มาย คนที่นอนข้างบนเตียงของเรา มักจะเห็นมีคนนอนอยู่บนเตียงชั้น 2 หรือชั้นบนของเมย์
ซึ่งมายคิดว่าอาจจะเป็นเมย์ที่ขึ้นมานอนก็เป็นได้ เพราะชั้น 2 จะโดนพัดลมมากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งๆที่เราเองก็เห็นบ่อย แต่เราก็พูดไรไม่ได้ เพราะเมย์กลัวมาก"

หรือแม้กระทั่งบางครั้งที่เรานอนกลางวัน
ซึ่งส่วนมากเด็กมหาลัยที่เวลาไม่มีคลาสเรียน เราก็มักที่จะกลับมานอนพักที่ห้องเพื่อที่จะรอไปเรียน
หรือเดินห้างบ้าง ออกไปนั่งร้านนมบ้างแล้วแต่โอกาส
เราก็คนนึงที่ชอบกลับมานอนที่หอ
ทุกครั้งที่เรานอน เราจะต้องตั้งนาฬิกาปลุกเสมอ อาจจะนาน 30 นาทีหรือ 1 ชม.
เพราะเวลานอนนานๆ เราจะลุกไม่ขึ้น จะหนักที่อกและหนักที่ขา และหายใจไม่ออก
หรือบางทีก็จะเห็นผู้ชายคนนั้นอยู่ภายในห้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นวนเวียนตลอด 1 ที่เราอยู่ที่หอใน

หลายคนก็สงสัยว่าทำไมเราไม่ไปทำบุญให้หรือขอให้เขาไม่มากวนเรา
บ้างก็บอกว่าถ้าทำบุญให้ เขาจะติดเราไม่ยอมไปไหน
บ้างก็บอกว่าเราทำบาปไว้เยอะ
บ้างก็ว่าบุญเยอะชีวิตเลยเจอได้ง่าย
บ้างก็ว่าเราใกล้ตายเลยเห็นอะไรแบบนี้

ซึ่งปกติแล้ว เราเห็นเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ
และถ้ากรณีฝันเห็นหรือเห็นในลักษณะนี้ แปลว่าเขาอยู่นั่นอยู่แล้ว
อาจจะมีทำบุญหาบ้างเป็นเรื่องปกติ
ถ้าเราไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดี เขาก็จะไม่ทำอะไรเรา
เราเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้บ่อยๆ จนบางทีก็ชินบ้าง ถ้าเจอเหตุการณ์เดิมๆสถานที่เดิมๆ


สามารถติดตามเรื่องอื่นๆได้ที่
เคยเชื่อเรื่องผีกันมั้ย
https://ppantip.com/topic/38103540

ชีวิตมหาลัยกับหอใน
https://ppantip.com/topic/38109565

ชีวิตนศ. ปี2กับการย้ายมาอยู่ หอนอก
https://ppantip.com/topic/38114579/comment2
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่