ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเลยก่อนว่า สิงอยู่พันทิพย์มานาน และนี่เป็นกระทู้แรกของชีวิต (ขอแทนตัวเองว่าส้มแล้วกันนะคะ)
ส้มอายุ 30 ปี มีอาชีพรับราชการ ส่วนแฟนของส้ม เป็นพนักงานบริษัท ตอนแรกส้มกับแฟนทำงานที่เดียวกัน แล้วส้มสอบราชการได้ โดยชีวิตส่วนตัวของส้มที่ผ่านมา (แถวบ้านเรียกว่าแม่หม้าย) มีลูกติด
ซึ่งแฟนของส้มก็รู้ดีมาตลอด เพราะส้มไม่เคยปกปิด หลังจากที่ส้มตัดสินใจคบเค้าเป็นแฟน เค้าดีกับส้มมาตลอด ดีกับลูกของส้มมาตลอด จนส้มคิดว่าส้มเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด จนระยะเวลาผ่านไป 1 ปี เราจึงตกลงกัน ให้ผู้ใหญ่ไปคุยกัน ไม่มีพิธีอะไรมาก ยกขันหมาก ไหว้พ่อไหว้แม่ของทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากนั้นเราก็ใช้ชีวิตคู่ เหมือนคู่อื่นทั่วไปปกติ (เริ่มยาว) เข้าเรื่องเลยแล้วกัน
ส้มไปๆมาๆ ระหว่างที่ทำงานกับบ้านแฟน สภาพบ้านแฟนก็พออยู่ได้ แฟนเลยมาปรึกษาที่จะปรับปรุงต่อเติม เพื่อจะใช้อยู่อาศัยด้วยกัน แต่ติดตรงที่ บ้านของแฟนที่อยู่ปัจจุบันที่ดินเป็นชื่อของญาติ(ผู้ใหญ่)ของแฟน พอเราไปคุยกับเจ้าของที่ดินเพื่อจะขอซื้อและต่อเติมเพิ่ม ญาติของแฟนก็บอกว่าทำไปเลย นี่ก็อาศัยอยู่มาก็หลายปีแล้ว เด่วครบ 10 ปี ก็จะยกให้ปรปักษ์ ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ด้วยความที่ส้มรัก เคารพ ญาติผู้ใหญ่คนนี้มาก ส้มเลยเชื่อใจ
ต่อมาส้มเลยใช้สิทธิเต็มที่กับการเป็นราชการ ส้มเลยกู้สถาบันการเงินมาเพื่อที่จะต่อเติมบ้าน เอกสารทุกอย่างผ่าน รับเงินมา ประมาณ 4 แสน จากบ้านธรรมดาๆ กลายเป็นบ้านที่ดูสวยงามขึ้นมาทันที
หลังจากนั้นด้วยความเกรงใจ หรืออะไรของแฟนก็ไม่ทราบ เค้าก็เริ่มๆที่ยกบ้านหลังนั้นให้ส้ม เพราะคิดว่าไม่เคยให้อะไรส้มเลย แต่ส้มปฏิเสธทุกครั้งที่เค้าพูด เพราะเห็นใจแม่แฟน ที่จะต้องมาอยู่ในบ้านของตัวเองที่เคยอยู่ แล้ววันหนึ่งกลายมาเป็นชื่อของลูกสะใภ้ (ตอนนั้นญาติผู้ใหญ่เริ่มขัดสนเรื่องเงิน) จึงเริ่มเอ่ยปากขายที่ดินบ้านหลังนั้น
เมื่อส้มเห็นว่า เหตุการณ์น่าจะเป็นอย่างที่ส้มคิดไว้ ส้มเลยตัดสินใจที่จะจดทะเบียนสมรสกับแฟน เพราะว่าหากเราซื้อที่ดินตรงนั้น ก็จะให้เป็นชื่อแฟน อย่างน้อยแม่สามีจะได้สบายใจว่าบ้านลูกชายตัวเอง หลังจากนั้นญาติแฟนก็หาเงินได้เลยยังไม่ได้ซื้อขายกัน
ระยะเวลาผ่านไป 1 ปี ญาติผู้ใหญ่ของแฟน เริ่มมีปัญหาทางการเงินเลยขายที่ดินแปลงนั้น ให้พี่ของแฟนโดยที่ไม่บอกส้มเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายที่ดินแปลงนั้นและบ้านหลังนั้นก็กลายเป็นชื่อพี่แฟน
พอส้มรู้เรื่อง ส้มก็คุยกับแฟนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แฟนบอกว่าอยู่ไปเรื่อยๆแล้วค่อยผ่อนจ่ายพี่เค้าก็ได้ แต่สำหรับส้มมันเสียความรู้สึกไปแล้วคะ น่าจะบอกกัน
เหตุการณ์ผ่านไปไม่นาน ส้มต้องไปๆมาๆระหว่างบ้านแฟน กับที่ทำงาน (ที่ทำงานกับบ้านแฟนอยู่คนละจังหวัดกันคะ)
บางครั้งส้มเหนื่อยกับการเดินทาง มาถึงก็ค่ำแล้ว ทักทายญาติแฟนพอเป็นพิธี ก็อาบน้ำเข้านอน เพราะว่าต้องเดินทางไปทำงานแต่เช้าอีก (แต่หากเป็นเสาร์ - อาทิตย์ ส้มจะทำความสะอาดบ้านทุกอย่าง แม่แฟนไม่ต้องทำอะไรเลย)
*** ต่อ***พอตื่นเช้ามา ส้มก็รีบแต่งตัวไปทำงาน แต่แฟนอยากให้อยู่พบปะกับญาติผู้ใหญ่เค้าก่อน แต่ส้มต้องรีบไปทำงาน แฟนส้มเลยมีคำพูดๆนึง ที่พูดขึ้นมาว่า "ถ้าจะมานอนอย่างเดียวก็ไม่ต้องมา" ประโยคนี้แค่ประโยคเดียว มันทำให้ส้มเสียใจที่สุดของชีวิต ไม่คิดว่ามันจะมาจากปากของแฟน หลังจากนั้น ส้มก็ยังไปบ้านแฟนอยู่นะคะ แต่ไปเฉพาะที่จำเป็น และไม่เคยนอนค้างที่นั้นอีกเลย เพราะประโยคนั้นมันฝังใจส้มจริงๆคะ ระยะเวลาผ่านไป ส้มย้ายกลับมาทำงานที่จังหวัดบ้านเกิด (จังหวัดเดียวกับที่แฟนอยู่) แต่ส้มตัดสินใจที่จะเช่าบ้านอยู่ เพราะส้มเบิกค่าเช่าบ้านได้ แฟนก็ไปๆมาๆระหว่างบ้านส้ม กับบ้านของเค้าตลอด
พี่ของแฟนเริ่มเข้ามาในชีวิตตอนไหนก็ไม่ทราบ พี่ของแฟนอยู่อุบล แต่งงานกับคนมีฐานะ แต่มักใช้นิสัยข่มคนอื่นว่ากุรวยตลอด ใช้เงินซื้อทุกอย่างที่อยากได้ และที่สำคัญแฟนจะอวยพี่เค้ามากประเภทที่ว่าแตะไม่ได้ ต้องไม่ได้ ดูแลเทคแคร์ตลอดที่พี่เค้ากลับมา จนเริ่มมีปัญหากับส้ม เริ่มใช้ชีวิตส่วนตัว คอยบริการทุกอย่าง เพราะเค้าให้เงินใช้ จนลืมคนที่ช่วยกันสร้างทุกอย่างมา
แฟนทำงานรายได้รวม 18000 บาท ต่อเดือน ส้มไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว
และที่สำคัญที่สุด เงินที่ส้มกู้มาส้มก็ต้องส่งธนาคารคนเดียว โดยที่เค้าไม่คิดจะช่วยอะไรเลย แถมต้องให้เงินเค้าวันละ 100 ให้เค้าไปทำงาน เป็นแบบนี้มา 2 ปีแล้วคะ แต่ยังดีที่ส้มพอมีรายได้เสริม ที่จะดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน ส่งธนาคาร และให้เค้าไปทำงานทุกวัน โดยที่เค้าคิดว่าส้มไม่เดือดร้อน
ล่าสุดพี่แฟนเพิ่งกลับมา ก็กวาดซื้อที่แถวบ้านแฟน โดยที่ให้แฟนเป็นคนจัดการทุกอย่าง จนทุกวันนี้ส้มเหมือนไม่มีตัวตนในชีวิตของเค้า เค้าไม่มีเวลาให้ส้มเลย แม้ส้มจะต้องเจอปัญหาหนักแค่ไหน และยังคงแบกรับภาระทุกอย่างต่อไป
***หยุดแค่นี้หรือไปต่อดีคะ ส้มสับสน***
จะหยุดหรือไปต่อดีคะ
ส้มอายุ 30 ปี มีอาชีพรับราชการ ส่วนแฟนของส้ม เป็นพนักงานบริษัท ตอนแรกส้มกับแฟนทำงานที่เดียวกัน แล้วส้มสอบราชการได้ โดยชีวิตส่วนตัวของส้มที่ผ่านมา (แถวบ้านเรียกว่าแม่หม้าย) มีลูกติด
ซึ่งแฟนของส้มก็รู้ดีมาตลอด เพราะส้มไม่เคยปกปิด หลังจากที่ส้มตัดสินใจคบเค้าเป็นแฟน เค้าดีกับส้มมาตลอด ดีกับลูกของส้มมาตลอด จนส้มคิดว่าส้มเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด จนระยะเวลาผ่านไป 1 ปี เราจึงตกลงกัน ให้ผู้ใหญ่ไปคุยกัน ไม่มีพิธีอะไรมาก ยกขันหมาก ไหว้พ่อไหว้แม่ของทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากนั้นเราก็ใช้ชีวิตคู่ เหมือนคู่อื่นทั่วไปปกติ (เริ่มยาว) เข้าเรื่องเลยแล้วกัน
ส้มไปๆมาๆ ระหว่างที่ทำงานกับบ้านแฟน สภาพบ้านแฟนก็พออยู่ได้ แฟนเลยมาปรึกษาที่จะปรับปรุงต่อเติม เพื่อจะใช้อยู่อาศัยด้วยกัน แต่ติดตรงที่ บ้านของแฟนที่อยู่ปัจจุบันที่ดินเป็นชื่อของญาติ(ผู้ใหญ่)ของแฟน พอเราไปคุยกับเจ้าของที่ดินเพื่อจะขอซื้อและต่อเติมเพิ่ม ญาติของแฟนก็บอกว่าทำไปเลย นี่ก็อาศัยอยู่มาก็หลายปีแล้ว เด่วครบ 10 ปี ก็จะยกให้ปรปักษ์ ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ด้วยความที่ส้มรัก เคารพ ญาติผู้ใหญ่คนนี้มาก ส้มเลยเชื่อใจ
ต่อมาส้มเลยใช้สิทธิเต็มที่กับการเป็นราชการ ส้มเลยกู้สถาบันการเงินมาเพื่อที่จะต่อเติมบ้าน เอกสารทุกอย่างผ่าน รับเงินมา ประมาณ 4 แสน จากบ้านธรรมดาๆ กลายเป็นบ้านที่ดูสวยงามขึ้นมาทันที
หลังจากนั้นด้วยความเกรงใจ หรืออะไรของแฟนก็ไม่ทราบ เค้าก็เริ่มๆที่ยกบ้านหลังนั้นให้ส้ม เพราะคิดว่าไม่เคยให้อะไรส้มเลย แต่ส้มปฏิเสธทุกครั้งที่เค้าพูด เพราะเห็นใจแม่แฟน ที่จะต้องมาอยู่ในบ้านของตัวเองที่เคยอยู่ แล้ววันหนึ่งกลายมาเป็นชื่อของลูกสะใภ้ (ตอนนั้นญาติผู้ใหญ่เริ่มขัดสนเรื่องเงิน) จึงเริ่มเอ่ยปากขายที่ดินบ้านหลังนั้น
เมื่อส้มเห็นว่า เหตุการณ์น่าจะเป็นอย่างที่ส้มคิดไว้ ส้มเลยตัดสินใจที่จะจดทะเบียนสมรสกับแฟน เพราะว่าหากเราซื้อที่ดินตรงนั้น ก็จะให้เป็นชื่อแฟน อย่างน้อยแม่สามีจะได้สบายใจว่าบ้านลูกชายตัวเอง หลังจากนั้นญาติแฟนก็หาเงินได้เลยยังไม่ได้ซื้อขายกัน
ระยะเวลาผ่านไป 1 ปี ญาติผู้ใหญ่ของแฟน เริ่มมีปัญหาทางการเงินเลยขายที่ดินแปลงนั้น ให้พี่ของแฟนโดยที่ไม่บอกส้มเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายที่ดินแปลงนั้นและบ้านหลังนั้นก็กลายเป็นชื่อพี่แฟน
พอส้มรู้เรื่อง ส้มก็คุยกับแฟนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แฟนบอกว่าอยู่ไปเรื่อยๆแล้วค่อยผ่อนจ่ายพี่เค้าก็ได้ แต่สำหรับส้มมันเสียความรู้สึกไปแล้วคะ น่าจะบอกกัน
เหตุการณ์ผ่านไปไม่นาน ส้มต้องไปๆมาๆระหว่างบ้านแฟน กับที่ทำงาน (ที่ทำงานกับบ้านแฟนอยู่คนละจังหวัดกันคะ)
บางครั้งส้มเหนื่อยกับการเดินทาง มาถึงก็ค่ำแล้ว ทักทายญาติแฟนพอเป็นพิธี ก็อาบน้ำเข้านอน เพราะว่าต้องเดินทางไปทำงานแต่เช้าอีก (แต่หากเป็นเสาร์ - อาทิตย์ ส้มจะทำความสะอาดบ้านทุกอย่าง แม่แฟนไม่ต้องทำอะไรเลย)
*** ต่อ***พอตื่นเช้ามา ส้มก็รีบแต่งตัวไปทำงาน แต่แฟนอยากให้อยู่พบปะกับญาติผู้ใหญ่เค้าก่อน แต่ส้มต้องรีบไปทำงาน แฟนส้มเลยมีคำพูดๆนึง ที่พูดขึ้นมาว่า "ถ้าจะมานอนอย่างเดียวก็ไม่ต้องมา" ประโยคนี้แค่ประโยคเดียว มันทำให้ส้มเสียใจที่สุดของชีวิต ไม่คิดว่ามันจะมาจากปากของแฟน หลังจากนั้น ส้มก็ยังไปบ้านแฟนอยู่นะคะ แต่ไปเฉพาะที่จำเป็น และไม่เคยนอนค้างที่นั้นอีกเลย เพราะประโยคนั้นมันฝังใจส้มจริงๆคะ ระยะเวลาผ่านไป ส้มย้ายกลับมาทำงานที่จังหวัดบ้านเกิด (จังหวัดเดียวกับที่แฟนอยู่) แต่ส้มตัดสินใจที่จะเช่าบ้านอยู่ เพราะส้มเบิกค่าเช่าบ้านได้ แฟนก็ไปๆมาๆระหว่างบ้านส้ม กับบ้านของเค้าตลอด
พี่ของแฟนเริ่มเข้ามาในชีวิตตอนไหนก็ไม่ทราบ พี่ของแฟนอยู่อุบล แต่งงานกับคนมีฐานะ แต่มักใช้นิสัยข่มคนอื่นว่ากุรวยตลอด ใช้เงินซื้อทุกอย่างที่อยากได้ และที่สำคัญแฟนจะอวยพี่เค้ามากประเภทที่ว่าแตะไม่ได้ ต้องไม่ได้ ดูแลเทคแคร์ตลอดที่พี่เค้ากลับมา จนเริ่มมีปัญหากับส้ม เริ่มใช้ชีวิตส่วนตัว คอยบริการทุกอย่าง เพราะเค้าให้เงินใช้ จนลืมคนที่ช่วยกันสร้างทุกอย่างมา
แฟนทำงานรายได้รวม 18000 บาท ต่อเดือน ส้มไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว
และที่สำคัญที่สุด เงินที่ส้มกู้มาส้มก็ต้องส่งธนาคารคนเดียว โดยที่เค้าไม่คิดจะช่วยอะไรเลย แถมต้องให้เงินเค้าวันละ 100 ให้เค้าไปทำงาน เป็นแบบนี้มา 2 ปีแล้วคะ แต่ยังดีที่ส้มพอมีรายได้เสริม ที่จะดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน ส่งธนาคาร และให้เค้าไปทำงานทุกวัน โดยที่เค้าคิดว่าส้มไม่เดือดร้อน
ล่าสุดพี่แฟนเพิ่งกลับมา ก็กวาดซื้อที่แถวบ้านแฟน โดยที่ให้แฟนเป็นคนจัดการทุกอย่าง จนทุกวันนี้ส้มเหมือนไม่มีตัวตนในชีวิตของเค้า เค้าไม่มีเวลาให้ส้มเลย แม้ส้มจะต้องเจอปัญหาหนักแค่ไหน และยังคงแบกรับภาระทุกอย่างต่อไป
***หยุดแค่นี้หรือไปต่อดีคะ ส้มสับสน***