ดั่งพรหมลิขิตรัก

ยัยรสิกา เธอมาช่วยการะเกดไม่ใช่หรือ แล้วเธอมาแย่งท่านชายก้องไปจากการะเกดได้อย่างไร !!   ฉันเกลียดเธอ !!  เม่าสงสัย

ชอบฉากงานแต่งงานพีระกับหญิงแต้ว เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสวยดี  

ฉากที่รสิกากับท่านชายก้องกางร่มคุยกันท่ามกลายสายฝนโปรยก็แปลกดี จริง ๆ ไปคุยกันในร้านกาแฟก็ได้แต่ไอเดียผู้กำกับแปลกใหม่ดี ภาพสวยดี ขอชม

ขำฉากที่ท่านชายก้องพารสิกามาดูหนัง หนังเหนิงไม่ดู เอาแต่มองรสิกา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เราดูไปขำไป  ชอบพระนางคู่นี้ สวยหล่อ น่ารักดี

สงสัยท่านชายก้องจะไม่ได้คู่กับการะเกดตัวจริงแหงเลย T T  (ชอบการะเกดมากกว่ารสิกา)

สนุกดี ดูได้เพลิน ๆ ดูไปยิ้มไป

ฟิน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
เราคิดว่าคนเขียนบท "ตั้งใจ" จะสะท้อนสังคมและชี้ให้เห็นคาแรคเตอร์ที่แตกต่างของคนยุคนี้กับคนยุคก่อนโดยใช้รสิกากับการะเกดเป็นตัวแทน แบบที่กระทู้ด้านล่างเรียกละครเรื่องนี้ว่าเป็นละครช่างแซะ คือคนสมัยนี้ที่มารยาทดีอ่อนน้อมก็มีอยู่ แต่โดยรวมแล้วคนยุคเราก็เคร่งครัดเรื่องมารยาทน้อยกว่าคนสมัยก่อนมาก เลยเดาว่าคนเขียนบทอยากชี้ให้คนยุคปัจจุบันย้อนกลับมามองตัวเองเหมือนกันว่าในบางครั้งเราใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องมารยาทและการสื่อสารกับคนอื่นน้อยไปหรือเปล่า

ถ้าเคยดูบุพเพฯ จะเห็นว่า คุณหญิงป้าก็เอือมเรื่องมารยาทของการะเกดเหมือนกันที่ชอบเถียง ชอบพูดแทรก และยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ ในขณะที่คนรุ่นเราไม่ได้เห็นว่าเรื่องประมาณนี้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ผู้ใหญ่เข้าใจผิดก็ต้อง (เถียง) อธิบายให้ท่านเข้าใจ

เราเคยคุยกับเพื่อน ๆ ว่าเวลาเจอเด็กเล็กที่เป็นลูกเพื่อน ลูกญาติ เด็กน้อยคนมากที่จะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ ต้องรอให้พ่อแม่บอกถึงจะยอมไหว้แบบไม่ค่อยเต็มใจ หรือเวลาไปซื้อของตามห้าง หลายคนคงเคยเจอพนักงานยกมือไหว้แบบส่ง ๆ ไม่เต็มใจไหว้ เหมือนรู้สึกว่าการไหว้ทำให้เสื่อมเสียเกียรติหรือรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ทั้งที่คนที่ไหว้คนอื่นแบบสวยงามอ่อนน้อม ดูแล้วเป็นผู้ดีและน่ารักน่าเอ็นดูมากมาย รสิกาอาจเป็นตัวแทนของคนเหล่านี้ในยุคเราเพื่อให้คนดูละครแล้วย้อนดูตัวก็เป็นได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่