ฉากที่รอดู (ฉากเต้น) กลับไม่ได้ดูเพราะติดธุระเสียนี่
แต่ที่หงุดหงิดกว่า คือเวลาที่สั้นเป็นต่อนๆนี่แหละ มันทำให้การตกผลึกทางความคิดว่าละครมันสะท้อนอะไร ทำได้ยากกว่าเดิมและไม่ค่อยทันตอนละครออน
เรื่องนี้จะว่าดูง่ายสบายๆขำๆก็ได้ เพราะเกาะเส้นเรื่องที่คุ้นเคยสไตล์นางซินพบรักเจ้าชาย
แต่จะว่าดูยากก็ได้เรื่องหนึ่ง มันรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในบทที่มันค่อยๆคายออกมา และเพราะมันกระจายไปห้าวัน มันก็เลยจะมองออกยากนิดนึง
ต้องไปนั่งดูรีรันแล้วก็นั่งคิดพิจาราณา แทบจะบ้าตามยัยรสิกาไปอีกคน 55
ณ ตอนนี้ รู้สึกว่า ลุงคนขายหนังสือ มีซัมติง ฮีมาทำให้รสิกาเกิดการเรียนรู้ เริ่มตั้งแต่ แนะให้รสิกาซื้อไปอ่าน “เพราะมันเหมาะกับหนู”
แล้วไปปรากฎตัวร่วมในอดีตกับรสิกาเพื่อจะบอกว่า “มันก็ไม่จำเป็นต้องเดินเรื่องตามหนังสือ เพราะมีหนูเข้ามาในนี้”
ส่วนไอ้หนังสือ ตอนแรกก็มีตัวหนังสือดีอยู่ แต่ล่าสุดหายไปหมด และลุงก็บอกว่า “หนูอยากสร้างเรื่องราวในแบบของหนูเองก็ทำเลย”
สิ่งเหล่านี้มันสื่อกลายๆว่า สิ่งที่รสิกาคิดและคาดหวังจากหนังสือมันอาจจะไม่เป็นไปตามนั้น เพราะการเข้ามายุ่งมากเกินไปของนางนี่แหละ ยุ่งมากจนจากแค่มาเป็นผู้สังเกตการณ์ ก็กลายมาเป็นตัวแทนสลับเปลี่ยนกับการะเกดตัวจริง จนตอนนี้แทบจะกลืนความเป็นการะเกดไปแล้วให้เป็นแบบฉบับของตัวเอง โดยลืมไปสิ้นว่าเธอมาเพื่อช่วยติวการะเกดให้เข้มแข็ง ไม่ใช่มาแย่งหรือเอาชนะชายก้องไปเสียเอง
ว่าไปก็ทำให้นึกถึงเดือนประดับดาว ที่แฝดน้องเข้ามาสวมชีวิตแฝดพี่ด้วยเหตุผลของการช่วยเหลือแต่ก็อดไม่ไหวกับตัณหาที่อยากจะมีชีวิตของแฝดพี่เอาไว้เสียเอง
ก็รอดูว่าเรื่องจะเดินไปทางไหน เฝ้าระวังคำพูดของลุงให้ดีๆ มันต้องมีอะไรอีกแน่ๆ
หงุดหงิดกับดั่งพรหมลิขิตรัก
แต่ที่หงุดหงิดกว่า คือเวลาที่สั้นเป็นต่อนๆนี่แหละ มันทำให้การตกผลึกทางความคิดว่าละครมันสะท้อนอะไร ทำได้ยากกว่าเดิมและไม่ค่อยทันตอนละครออน
เรื่องนี้จะว่าดูง่ายสบายๆขำๆก็ได้ เพราะเกาะเส้นเรื่องที่คุ้นเคยสไตล์นางซินพบรักเจ้าชาย
แต่จะว่าดูยากก็ได้เรื่องหนึ่ง มันรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในบทที่มันค่อยๆคายออกมา และเพราะมันกระจายไปห้าวัน มันก็เลยจะมองออกยากนิดนึง
ต้องไปนั่งดูรีรันแล้วก็นั่งคิดพิจาราณา แทบจะบ้าตามยัยรสิกาไปอีกคน 55
ณ ตอนนี้ รู้สึกว่า ลุงคนขายหนังสือ มีซัมติง ฮีมาทำให้รสิกาเกิดการเรียนรู้ เริ่มตั้งแต่ แนะให้รสิกาซื้อไปอ่าน “เพราะมันเหมาะกับหนู”
แล้วไปปรากฎตัวร่วมในอดีตกับรสิกาเพื่อจะบอกว่า “มันก็ไม่จำเป็นต้องเดินเรื่องตามหนังสือ เพราะมีหนูเข้ามาในนี้”
ส่วนไอ้หนังสือ ตอนแรกก็มีตัวหนังสือดีอยู่ แต่ล่าสุดหายไปหมด และลุงก็บอกว่า “หนูอยากสร้างเรื่องราวในแบบของหนูเองก็ทำเลย”
สิ่งเหล่านี้มันสื่อกลายๆว่า สิ่งที่รสิกาคิดและคาดหวังจากหนังสือมันอาจจะไม่เป็นไปตามนั้น เพราะการเข้ามายุ่งมากเกินไปของนางนี่แหละ ยุ่งมากจนจากแค่มาเป็นผู้สังเกตการณ์ ก็กลายมาเป็นตัวแทนสลับเปลี่ยนกับการะเกดตัวจริง จนตอนนี้แทบจะกลืนความเป็นการะเกดไปแล้วให้เป็นแบบฉบับของตัวเอง โดยลืมไปสิ้นว่าเธอมาเพื่อช่วยติวการะเกดให้เข้มแข็ง ไม่ใช่มาแย่งหรือเอาชนะชายก้องไปเสียเอง
ว่าไปก็ทำให้นึกถึงเดือนประดับดาว ที่แฝดน้องเข้ามาสวมชีวิตแฝดพี่ด้วยเหตุผลของการช่วยเหลือแต่ก็อดไม่ไหวกับตัณหาที่อยากจะมีชีวิตของแฝดพี่เอาไว้เสียเอง
ก็รอดูว่าเรื่องจะเดินไปทางไหน เฝ้าระวังคำพูดของลุงให้ดีๆ มันต้องมีอะไรอีกแน่ๆ