
ปกติเป็นคนดูหนังไทยบ้าง แต่ก็ออกแนวตามกระแสคนบอกกัน แต่กับ The pool นี่ดูรอบแรกวันแรกด้วยความรู้สึกว่า ต้องการอุดหนุนในความกล้าของแนวทางหนัง ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ตรงตามพล็อต ไม่มีหักหลัง หรือแอบง่อยผิดกับตัวอย่างเลย
นี่เป็นพล็อตหนังที่อาจจะไม่ใหม่ในระดับโลก เรื่องการติดในที่ๆ นึงเพื่อเอาตัวรอด แต่ก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับหนังไทยแน่นอน หนังสนุก ตื่นเต้น แอบผสมดราม่าลงไปมากกว่าตัวอย่างที่ให้ดูด้วย ครบรสครับ แต่เสียแค่ว่าบทหนังจงใจใส่ความซวยอย่างต่อเนื่อง ให้กับตัวเอกแบบบังเอิญเยอะไปหน่อย แค่มีจระเข้ไม่พอ ยังมีเรื่องยารักษาโรคของพระเอก หมาพระเอกก็ติดที่สระด้วย มีนั่นนี่อีก ฯลฯ ดูไปลุ้นไปก็จริง แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าตั้งใจ จนขาดความเป็นธรรมชาติไปหน่อย ซึ่งหนังแนวๆ นี้ความสมจริงน่าจะเป็นหัวใจหลักเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละหนังลุ้นทุกช็อตไม่มีแอบยืดยาดเลย (หนังสั้นมากแค่ 90 นาทีรวมเครดิต)
ที่ชอบก็ตอนจบนี่แหละครับ ถือว่าผู้กำกับกล้ามาก ที่เล่นหาทางออกให้กับตัวเอกที่สิ้นหวังแล้ว ยังใช้ความสิ้นหวังนั้นขยี้ซ้ำให้เป็นทางออกในเรื่องได้อีก ซึ่งถ้าไม่จบแบบนี้หนังจะไม่น่าจดจำเลย
ผู้กำกับพิง ลำพระเพลิง อัพเกรดงานนี้ของตัวเองได้แมสมาก แตกต่าง สนุก สมกับเป็นหนังไทยรุ่นใหม่ครับ
ส่วนไบค์แมนศักรินทร์ตูดหมึกนี่สารภาพตามตรงว่า "ไม่มีความอยากดูเลยจากที่ดูตัวอย่าง มองยังไงก็เป็นหนังตลกแบบเดิมๆ ของหนังไทย" แต่ด้วยความที่เห็นเพื่อนๆ พันทิปชื่นชมเรื่องนี้กัน ออกโรงมาเจอรอบพอดี มีความคิดว่าขอพิสูจน์ละกัน
ซึ่งปรากฎว่าเซอร์ไพร์มาก หนังตลกไม่หยาบโลน มุกตลกไม่ได้ซ้ำซาก มีความครีเอท ผ่านการคิดมาอย่างดี ฮาจริงคอนเฟิร์ม นอกจากตลกแล้วที่เซอร์ไพร์อีกอย่างคือพาร์ทดราม่าในเรื่องหลายจุด มันทิ่มแทงใจ กระชากความรู้สึกได้ทันที คือแบบเฮ้ยจากหัวเราะๆ มา มีสะอึกแอบปาดน้ำตาได้อีกแหนะ และหนังยังมีประเด็นเรื่อง ความคาดหวังของพ่อแม่ที่กดดันมายังลูก ประเด็นมนุษย์ทำงานเมืองกรุงกับเซฟโซน ที่แม้จะรู้ว่าไม่ชอบงานที่ทำ ทรมานกับชีวิตแบบนี้แค่ไหนก็ยังไม่กล้าทำตามฝัน คือบอกเลยว่านี่เป็น
"หนังไทยน้ำดี ที่ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจอในคราบหนังตลกเต็มตัวแบบนี้" ส่วนตัวรู้สึกว่า ไม่ได้ดูหนังไทยแล้วอิ่มเอมแบบนี้มานานมาก ตอนจบถึงต้องไล่ดูชื่อผู้กำกับกับนักแสดงเลยว่าใคร ซึ่งก็ไม่คุ้นเลย 555 แต่ขอจดจำไว้เลยว่าพวกคุณทำเรื่องต่อไป เราคนนึงแหละที่ไว้ใจไปดูแน่นอน
ส่วนตัวจากที่เคยคิดว่าหนังไทยแผ่วลงไปเยอะ คงเหลือแค่ค่ายหลักอย่าง GDH ที่ยังพอกู้หน้าหนังไทยได้ แต่ขอบอกเลยว่าตอนนี้ค่ายอื่นก็พัฒนาได้ไม่แพ้กันแล้ว ชอบครับ ทั้งสองเรื่องไม่ใช่หนังที่ก็อปใครมา หรือทำเอาสุกเอาเผากิน แต่เป็นหนังที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี การกำกับลงตัว นักแสดงเล่นดี ทั้งสองเรื่องเชื่อว่าคนชาติไหนก็ดูได้ โกอินเตอร์ได้นะ แม้อาจจะยังดูไทยๆ แต่ก็ไม่ขายหน้าแน่นอนครับ (หนังฝรั่งห่วยๆ ก็มีเยอะยังมาขายบ้านเราได้เลย) เชียร์ทั้งสองเรื่องให้คนไปดู อาจจะไม่ดีสุด แต่ก็ไม่ห่วยแน่นอนครับ
The pool นรก 6 เมตร + ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก พัฒนาการของหนังไทยที่น่าชื่นชม เชียร์ให้ไปดูกัน
นี่เป็นพล็อตหนังที่อาจจะไม่ใหม่ในระดับโลก เรื่องการติดในที่ๆ นึงเพื่อเอาตัวรอด แต่ก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับหนังไทยแน่นอน หนังสนุก ตื่นเต้น แอบผสมดราม่าลงไปมากกว่าตัวอย่างที่ให้ดูด้วย ครบรสครับ แต่เสียแค่ว่าบทหนังจงใจใส่ความซวยอย่างต่อเนื่อง ให้กับตัวเอกแบบบังเอิญเยอะไปหน่อย แค่มีจระเข้ไม่พอ ยังมีเรื่องยารักษาโรคของพระเอก หมาพระเอกก็ติดที่สระด้วย มีนั่นนี่อีก ฯลฯ ดูไปลุ้นไปก็จริง แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าตั้งใจ จนขาดความเป็นธรรมชาติไปหน่อย ซึ่งหนังแนวๆ นี้ความสมจริงน่าจะเป็นหัวใจหลักเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละหนังลุ้นทุกช็อตไม่มีแอบยืดยาดเลย (หนังสั้นมากแค่ 90 นาทีรวมเครดิต)
ที่ชอบก็ตอนจบนี่แหละครับ ถือว่าผู้กำกับกล้ามาก ที่เล่นหาทางออกให้กับตัวเอกที่สิ้นหวังแล้ว ยังใช้ความสิ้นหวังนั้นขยี้ซ้ำให้เป็นทางออกในเรื่องได้อีก ซึ่งถ้าไม่จบแบบนี้หนังจะไม่น่าจดจำเลย ผู้กำกับพิง ลำพระเพลิง อัพเกรดงานนี้ของตัวเองได้แมสมาก แตกต่าง สนุก สมกับเป็นหนังไทยรุ่นใหม่ครับ
ส่วนไบค์แมนศักรินทร์ตูดหมึกนี่สารภาพตามตรงว่า "ไม่มีความอยากดูเลยจากที่ดูตัวอย่าง มองยังไงก็เป็นหนังตลกแบบเดิมๆ ของหนังไทย" แต่ด้วยความที่เห็นเพื่อนๆ พันทิปชื่นชมเรื่องนี้กัน ออกโรงมาเจอรอบพอดี มีความคิดว่าขอพิสูจน์ละกัน
ซึ่งปรากฎว่าเซอร์ไพร์มาก หนังตลกไม่หยาบโลน มุกตลกไม่ได้ซ้ำซาก มีความครีเอท ผ่านการคิดมาอย่างดี ฮาจริงคอนเฟิร์ม นอกจากตลกแล้วที่เซอร์ไพร์อีกอย่างคือพาร์ทดราม่าในเรื่องหลายจุด มันทิ่มแทงใจ กระชากความรู้สึกได้ทันที คือแบบเฮ้ยจากหัวเราะๆ มา มีสะอึกแอบปาดน้ำตาได้อีกแหนะ และหนังยังมีประเด็นเรื่อง ความคาดหวังของพ่อแม่ที่กดดันมายังลูก ประเด็นมนุษย์ทำงานเมืองกรุงกับเซฟโซน ที่แม้จะรู้ว่าไม่ชอบงานที่ทำ ทรมานกับชีวิตแบบนี้แค่ไหนก็ยังไม่กล้าทำตามฝัน คือบอกเลยว่านี่เป็น "หนังไทยน้ำดี ที่ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจอในคราบหนังตลกเต็มตัวแบบนี้" ส่วนตัวรู้สึกว่า ไม่ได้ดูหนังไทยแล้วอิ่มเอมแบบนี้มานานมาก ตอนจบถึงต้องไล่ดูชื่อผู้กำกับกับนักแสดงเลยว่าใคร ซึ่งก็ไม่คุ้นเลย 555 แต่ขอจดจำไว้เลยว่าพวกคุณทำเรื่องต่อไป เราคนนึงแหละที่ไว้ใจไปดูแน่นอน
ส่วนตัวจากที่เคยคิดว่าหนังไทยแผ่วลงไปเยอะ คงเหลือแค่ค่ายหลักอย่าง GDH ที่ยังพอกู้หน้าหนังไทยได้ แต่ขอบอกเลยว่าตอนนี้ค่ายอื่นก็พัฒนาได้ไม่แพ้กันแล้ว ชอบครับ ทั้งสองเรื่องไม่ใช่หนังที่ก็อปใครมา หรือทำเอาสุกเอาเผากิน แต่เป็นหนังที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี การกำกับลงตัว นักแสดงเล่นดี ทั้งสองเรื่องเชื่อว่าคนชาติไหนก็ดูได้ โกอินเตอร์ได้นะ แม้อาจจะยังดูไทยๆ แต่ก็ไม่ขายหน้าแน่นอนครับ (หนังฝรั่งห่วยๆ ก็มีเยอะยังมาขายบ้านเราได้เลย) เชียร์ทั้งสองเรื่องให้คนไปดู อาจจะไม่ดีสุด แต่ก็ไม่ห่วยแน่นอนครับ