หลายคนทราบดีว่า โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในที่ที่มีนิทรรศการเจ๋งๆอยู่เต็มไปหมด เนื่องจากในครั้งนี้ผมมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นในหน้าร้อนซึ่งไม่ค่อยมีใครเลือกที่จะไปกัน(เพราะมันร้อนโครตๆ ร้อนกว่าเมืองไทยไปอี๊กกก) แถมในปีนี้ยังมีพายุฤดูร้อนที่รุนแรงกว่าปีอื่นๆด้วย แต่!!!การได้ตั๋วโปรราคาถูกมากๆก็ทำให้เรานั้นอดใจไม่ไหว และหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของทริปแห่งการหลบแดดและฝนนี้ก็คือ การเที่ยวในมิวเซี่ยม และนิทรรศการในร่มต่างๆนั้นเอง
เมื่อมองหานิทรรศการดีๆในโตเกียว ผมก็นึกถึงTeamlab โดยTeamlabเป็นทีมที่ทำนิทรรศการแนวสร้างสรรค์ออกมามากมายโดยใช้ความสามารถจากคนเก่งหลายแขนง เพราะไม่ได้เพียงแสดงผลงานแค่บนกระดาษหรือผ้าใบ แต่ใช้เทคนิคและเทคโนโลยีมาร่วมสร้างงานอาร์ตด้วย ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียง หรือการรับรู้จากประสาทสัมผัสต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็มีงานที่ชื่อ Teamlab Planet และในปี 2018 นี้ ล่าสุดก็มี Teamlab borderless มาให้ได้สนุกกัน ซึ่งนั้นทำให้ผมตัดสินใจซื้อตั๋วชมนิทรรศการ ก่อนจองตั๋วเครื่องบินเสียอีก
การเดินทาง
MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: teamLab Borderless
Odaiba Palette Town, 1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo, Japan
ขึ้นสายyamanote line ไปสถานีAomi
เนื่องจากพื้นที่แสดงนิทรรศการค่อนข้างใหญ่ แนะนำว่าควรใช้เวลาทั้งวันในการชม จะได้คุ้มค่าบัตร และทางทีมแล็ปแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการเข้าชมในช่วงเวลาเปิด เวลาที่ดีคือหลังบ่ายสองโมงเย็นเพราะว่าคนเยอะมาก! ต้องใช้เวลาต่อแถวเข้านาน ความยากอีกอย่างของการเข้าชมนิทรรศการคือ มีการจัดแสดงหลากหลายห้อง และไม่มีแปลนให้เดินตาม ต้องเดินไปเรื่อยจนกว่าจะครบห้องบนพื้นที่ขนาดกว่า 10,000 ตารางเมตร ซึ่งกว่าจะครบก็ทำเอางงพอสมควร ซึ่งโซนแรกที่เข้าในภาพด้านบนก็คือโซน "Borderless World" โลกที่ไม่มีเขตแดน เป็นห้องที่เต็มไปด้วยจินตนาการจากแสงสี กราฟฟิคเป็นลวดลายดอกไม้และสัตว์นานาชนิด ที่เจ๋งไปยิ่งกว่านั้นคือกราฟฟิคเหล่านั้น มีปฎิสัมพันธ์กับคนในสเปซด้วย
แต่ละห้องจะมีการแสดงแสงสีเสียงที่แตกต่างกันออกไป สามารถถ่ายภาพได้แต่ห้ามใช้แฟรช บางห้องคิวแนวต้องต่อแถวเข้าชม 10-20 นาที แต่ก็คุ้มค่านะครับ ความคูลของที่นี่คือการที่เราสามารถมีส่วนร่วม หรือมีinteraction กับตัวงานได้ทั้งหมด พฤติกรรมของเราจะส่งผลต่อชิ้นงาน เช่น ถ้าเอามือไปเตะผนังกราฟฟิคก็จะเปลี่ยนไปตามแอคชั่นของเรา ฯลฯ อย่างในภาพด้านบนชื่อห้องว่า "Weightless Forest of Resonating Life" ผู้ออกแบบจะเติมสเปซด้วยลูกโปร่งรูปร่างคล้ายบอลลูนสีขาวพรุดออกมาจากพื้นและเพดาคล้ายกับว่าไร้น้ำหนัก ขยับ ลอย และเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ (ห้องนี้ถ่ายรูปมันมาก) และออกแบบพพื้นเป็นเบาะนิ่มๆเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
ห้องในภาพด้านบนเป็นงาน Light Sculpture ที่ใช้ไฟเยอะมาก สวยและน่าตื่นเต้นดี ไฟจะขยับและสร้างฟอร์มไปตามเสียงเพลงโดยมีพื้นด้านล่างเป็นกระจกสะท้อนงานด้านบนอีกที แต่เนื่องจากใช้ไฟค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ห้องมีอุณหภูมิร้อนหน่อยๆ แต่ก็เท่ดี
"Black Waves" ห้องนี่คือห้องที่ผมชอบมากที่สุด ออกแบบกราฟฟิคได้สวยงาม มีบีนแบ็กให้นั่งชมคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่ไหลผ่านผนังไป ประกอบกับเสียงดนตรี ทำให้รู้สึกผ่อนคลายแล้วก็สงบมากๆ และห้องสุดท้ายที่เก็บภาพมาฝากก็คือ ห้อง "Wander Through the Crystal World" เป็นห้องที่สาวๆจะต้องชอบแน่ ในห้องเป็นเหมือนเขาวงกตที่มีไฟคริสตัลสูงจากพื้นจรดเพดาน ปรับแสงไฟตามรูปแบบที่ได้รับคำสั่งจากแอปพลิเคชันของ teamLab (มีให้โหลดหน้าห้อง มีคิวอาร์โค้ด มีทุกอย่างจนเล่นไม่หมด555)
ที่ถ่ายมาให้ชมเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ถ้าจะให้ดีต้องบินไปสัมผัสด้วยตัวเอง บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ และนี่คืออีกหนึ่งที่ในโตเกียวที่ไม่ควรพลาด!
ยังไงฝากติดตามyoutube channel และเพจfacebook ในชื่อเดียวกันที่ : POHTRIT นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
[CR] "Teamlab borderless หนึ่งในนิทรรศการที่เจ๋งที่สุดในโตเกียวที่ไม่ควรพลาด"
เมื่อมองหานิทรรศการดีๆในโตเกียว ผมก็นึกถึงTeamlab โดยTeamlabเป็นทีมที่ทำนิทรรศการแนวสร้างสรรค์ออกมามากมายโดยใช้ความสามารถจากคนเก่งหลายแขนง เพราะไม่ได้เพียงแสดงผลงานแค่บนกระดาษหรือผ้าใบ แต่ใช้เทคนิคและเทคโนโลยีมาร่วมสร้างงานอาร์ตด้วย ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียง หรือการรับรู้จากประสาทสัมผัสต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็มีงานที่ชื่อ Teamlab Planet และในปี 2018 นี้ ล่าสุดก็มี Teamlab borderless มาให้ได้สนุกกัน ซึ่งนั้นทำให้ผมตัดสินใจซื้อตั๋วชมนิทรรศการ ก่อนจองตั๋วเครื่องบินเสียอีก
MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: teamLab Borderless
Odaiba Palette Town, 1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo, Japan
ขึ้นสายyamanote line ไปสถานีAomi
แนะนำว่าควรจะจองก่อนในเวปไซด์ก่อนไป เพราะจะมีช่วงเวลาเฉพาะ เค้าไม่ได้เปิดทุกวัน รวมถึงมีหลายวันที่บัตรเต็ม :https://borderless.teamlab.art/#ticket
เนื่องจากพื้นที่แสดงนิทรรศการค่อนข้างใหญ่ แนะนำว่าควรใช้เวลาทั้งวันในการชม จะได้คุ้มค่าบัตร และทางทีมแล็ปแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการเข้าชมในช่วงเวลาเปิด เวลาที่ดีคือหลังบ่ายสองโมงเย็นเพราะว่าคนเยอะมาก! ต้องใช้เวลาต่อแถวเข้านาน ความยากอีกอย่างของการเข้าชมนิทรรศการคือ มีการจัดแสดงหลากหลายห้อง และไม่มีแปลนให้เดินตาม ต้องเดินไปเรื่อยจนกว่าจะครบห้องบนพื้นที่ขนาดกว่า 10,000 ตารางเมตร ซึ่งกว่าจะครบก็ทำเอางงพอสมควร ซึ่งโซนแรกที่เข้าในภาพด้านบนก็คือโซน "Borderless World" โลกที่ไม่มีเขตแดน เป็นห้องที่เต็มไปด้วยจินตนาการจากแสงสี กราฟฟิคเป็นลวดลายดอกไม้และสัตว์นานาชนิด ที่เจ๋งไปยิ่งกว่านั้นคือกราฟฟิคเหล่านั้น มีปฎิสัมพันธ์กับคนในสเปซด้วย
แต่ละห้องจะมีการแสดงแสงสีเสียงที่แตกต่างกันออกไป สามารถถ่ายภาพได้แต่ห้ามใช้แฟรช บางห้องคิวแนวต้องต่อแถวเข้าชม 10-20 นาที แต่ก็คุ้มค่านะครับ ความคูลของที่นี่คือการที่เราสามารถมีส่วนร่วม หรือมีinteraction กับตัวงานได้ทั้งหมด พฤติกรรมของเราจะส่งผลต่อชิ้นงาน เช่น ถ้าเอามือไปเตะผนังกราฟฟิคก็จะเปลี่ยนไปตามแอคชั่นของเรา ฯลฯ อย่างในภาพด้านบนชื่อห้องว่า "Weightless Forest of Resonating Life" ผู้ออกแบบจะเติมสเปซด้วยลูกโปร่งรูปร่างคล้ายบอลลูนสีขาวพรุดออกมาจากพื้นและเพดาคล้ายกับว่าไร้น้ำหนัก ขยับ ลอย และเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ (ห้องนี้ถ่ายรูปมันมาก) และออกแบบพพื้นเป็นเบาะนิ่มๆเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
ห้องในภาพด้านบนเป็นงาน Light Sculpture ที่ใช้ไฟเยอะมาก สวยและน่าตื่นเต้นดี ไฟจะขยับและสร้างฟอร์มไปตามเสียงเพลงโดยมีพื้นด้านล่างเป็นกระจกสะท้อนงานด้านบนอีกที แต่เนื่องจากใช้ไฟค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ห้องมีอุณหภูมิร้อนหน่อยๆ แต่ก็เท่ดี
"Black Waves" ห้องนี่คือห้องที่ผมชอบมากที่สุด ออกแบบกราฟฟิคได้สวยงาม มีบีนแบ็กให้นั่งชมคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่ไหลผ่านผนังไป ประกอบกับเสียงดนตรี ทำให้รู้สึกผ่อนคลายแล้วก็สงบมากๆ และห้องสุดท้ายที่เก็บภาพมาฝากก็คือ ห้อง "Wander Through the Crystal World" เป็นห้องที่สาวๆจะต้องชอบแน่ ในห้องเป็นเหมือนเขาวงกตที่มีไฟคริสตัลสูงจากพื้นจรดเพดาน ปรับแสงไฟตามรูปแบบที่ได้รับคำสั่งจากแอปพลิเคชันของ teamLab (มีให้โหลดหน้าห้อง มีคิวอาร์โค้ด มีทุกอย่างจนเล่นไม่หมด555)
ที่ถ่ายมาให้ชมเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ถ้าจะให้ดีต้องบินไปสัมผัสด้วยตัวเอง บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ และนี่คืออีกหนึ่งที่ในโตเกียวที่ไม่ควรพลาด!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น