สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ "พี่หยอดวัดยาง" จะพาไปเสพงานอาร์ทกันค่ะ
เมื่อไปเยือน Tokyo หนึ่งในงานแสดงศิลปะที่เรียกได้ว่าน่าสนใจและเป็นที่นิยมมากที่สุดตอนนี้ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก teamLab Borderless พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอล ที่กลายเป็นอีกหนึ่ง landmark ของ Tokyo ที่ทุกคนต้องไปเยือน
▪️◽️▪️
MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless▪️◽️▪️
เพื่อนๆ น่าจะคุ้นชื่อกับ teamLab กันอยู่แล้ว เพราะพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลรูปแบบใหม่นี้ มีการเวียนไปจัดตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกเลย
ที่เมืองไทยก็เคยเวียนมาจัดเช่นกัน บางที่จัดแบบชั่วคราว แต่บางที่ก็จัดแบบถาวรไปเลย แบบที่ Tokyo นี้เป็นต้นค่ะ
ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage
“เที่ยวรัวรัว” https://www.facebook.com/travelruarua/
พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลแห่งนี้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้นแสง สี เสียง มาสร้างสรรค์งานศิลปะรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยมีแนวคิดBorderless หรือไร้กำแพง ไร้พรมแดน คือเราสามารถเดินชมงานได้เรื่อยๆ ทะลุห้องโน้นมาห้องนี้ วนไปวนมา แบบไร้แผนที่ให้เดินตาม ไร้เส้นทางการเดินที่ชัดเจน เพราะบางทีวนกลับมาห้องเดิม แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่เหมือนเดิม
สรุปคือเราสามารถใช้เวลาอยู่ภายในงาน teamLab Borderless นี้ได้แทบจะทั้งวันค่ะ เพราะเดินวนไปเรื่อยๆ ก็จะเจองานศิลปะดิจิตอลที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เพลินมากจริงๆ และที่สำคัญมีห้องให้นั่งพักสายตาด้วย เผื่อว่าอยู่ในที่มืดดูแสงสีนานๆ ตาอาจจะลายได้ 555
แต่ละห้องที่จัดแสดง ก็จะมี gimmick และ interaction กับผู้เข้าชมที่แตกต่างกันไปค่ะ มันคือความว้าววววของเทคโนโลยีจริงๆ ทำให้ตัวเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะไปโดยปริยาย เช่น ห้องนึงเป็นเหมือนน้ำตก ที่จะกระเด็นกระทบตัวเราถ้าเราไปยืนขวาง หรือแม้แต่การที่เราสามารถวาดภาพตามจิตนาการเพื่อนำขึ้นไปโชว์บนผนัง โดยการจัดแสดงก็แบ่งออกเป็นหลากหลายโซนค่ะ เช่น
🔅 Borderless World โซนไฮไลท์ห้องแรกๆ ที่เห็นเลยค่ะ จะมีเนินสูงกลางห้องและรอบๆ จะเปลี่ยนภาพ mapping ไปเรื่อยๆ ตอนที่เป็นน้ำตกลงมาสวยงามมากมาย
🔅 Crystal World โซนห้องคริสตอลระยิบระยับ ที่จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ สวยมากกกก
🔅 Athletics Forest / Graffiti Nature – High Mountains and Deep Valleysโซนนี้จะเป็น landscape แบบเนินๆ ให้เราสามารถเดินไปทั่วๆ มี interact กับงานศิลปะได้ตลอดเวลา
🔅 Giant Connecting Block Town โซนสร้างเมืองด้วยตัวเราเองโดยบล็อกต่างๆ
🔅 Weightless Forest of Resonating Life โซนบอลลูนที่จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ
🔅 Forest of Lamps โซนนี้คืออีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาเก็บภาพเลยค่ะ ทั้งห้องถูกประดับไปด้วยโคมไฟนับพัน เปลี่ยนสีไปมาถ่ายรูปออกมาอย่างงามเลย
อย่างที่บอกไปว่า MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless มีพื้นที่จัดแสดงค่อนข้างกว้างและเป็นที่นิยมอย่างมากกกกกกในหมู่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ภายในงานจะมีการจัดแสดง 2 ชั้นค่ะ (ต้องหาทางขึ้นกันดีๆ นะ) บางห้องนี่ต้องต่อคิวเพื่อเข้าไปชมกันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้รอคิวนานมากค่ะ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่บริหารจัดการคิวให้ตลอดเวลา ใครมีโอกาสไปเที่ยว Tokyo อย่าลืมแวะไปชมความชิคนี้ให้ได้นะคะ
เอาภาพบรรยากาศภายใน MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless มาให้ดูกันค่ะ
นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนนะคะ
📍Location : MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: teamLab Borderless
Odaiba Palette Town, 1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo, Japan
https://goo.gl/maps/aHfSeL1nzhjCkiHz5
🕙 Open : 10.00-19.00 น. ทุกวัน (ปิดทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของเดือน)
🎟 Ticket : 3,200 JPY
📝 Official Website : teamLab Borderless / チームラボボーダレス
https://borderless.teamlab.art/
------------------------------------------------------------
คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจไปชม teamLab Borderless :
❗️ จองตั๋วล่วงหน้าทาง link นี้
https://ticket.teamlab.art/#/order?lang=en บางวันจะเต็มนะคะ ลองหาวันที่เหมาะๆ (จองได้ล่วงหน้า 2 เดือน)
❗️ เมื่อจองตั๋ว online แล้ว จะได้ link ส่งมาให้ทางเมล์ และจะมี QR CODE ปรากฏขึ้นในช่วงเช้าของวันที่เราจองเพือใช้สแกนผ่านหน้างาน
❗️ ถ้า advance ticket ขายหมด ก็จะไม่มีตั๋วขายหน้างานแบบ walk-in
❗️ ควรไปเข้าคิวก่อนเวลาเปิดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง (หากมีเวลา)
❗️ ไม่ควรใส่กระโปรงค่ะ เพราะบางห้องตรงพื้นที่เป็นกระจก
❗️ ใส่รองเท้าที่กระชับ เช่น รองเท้าผ้าใบ (ไม่แนะนำส้นสูง) เพราะพื้นที่ด้านในมืดมากและพื้นจะมีส่วนที่ลาดชัน ระวังสะดุด
❗️ ด้านในไม่มีอาหารขายนะคะ ทานอะไรรองท้องไปก่อน แต่มีน้ำขายเป็นแบบกดตู้
❗️ ด้านในมีห้องน้ำ ไม่ต้องห่วงถ้าจะเดินอยู่ในนั้นนานๆ
❗️ มีตู้ locker ฝากสัมภาระด้านนอก ทางที่ดีเอาไปน้อยๆดีกว่า
❗️ ใส่เสื้อสีพื้นจะถ่ายรูปออกมาได้สวย
❗️ กล้องมือถือถ่ายง่ายและสะดวก เพราะคนเยอะมาก ไม่มีเวลาเล็งนาน
❗️ ห้ามใช้ flash เวลาถ่ายภาพ
สุดท้ายนี้ เอา Vlog มาฝากค่ะ...คลิกไปชมกันรัวรัว
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
อ่านรีวิวอื่นๆ เพิ่มเติม เข้าไปดูกันได้ที่
"เที่ยวรัวรัว" https://www.facebook.com/travelruarua/
[CR] เที่ยวรัวรัว : teamLab Borderless TOKYO ยืนงงในดงแสงสี
เมื่อไปเยือน Tokyo หนึ่งในงานแสดงศิลปะที่เรียกได้ว่าน่าสนใจและเป็นที่นิยมมากที่สุดตอนนี้ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก teamLab Borderless พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอล ที่กลายเป็นอีกหนึ่ง landmark ของ Tokyo ที่ทุกคนต้องไปเยือน
▪️◽️▪️ MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless▪️◽️▪️
เพื่อนๆ น่าจะคุ้นชื่อกับ teamLab กันอยู่แล้ว เพราะพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลรูปแบบใหม่นี้ มีการเวียนไปจัดตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกเลย
ที่เมืองไทยก็เคยเวียนมาจัดเช่นกัน บางที่จัดแบบชั่วคราว แต่บางที่ก็จัดแบบถาวรไปเลย แบบที่ Tokyo นี้เป็นต้นค่ะ
ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว” https://www.facebook.com/travelruarua/
พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลแห่งนี้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้นแสง สี เสียง มาสร้างสรรค์งานศิลปะรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยมีแนวคิดBorderless หรือไร้กำแพง ไร้พรมแดน คือเราสามารถเดินชมงานได้เรื่อยๆ ทะลุห้องโน้นมาห้องนี้ วนไปวนมา แบบไร้แผนที่ให้เดินตาม ไร้เส้นทางการเดินที่ชัดเจน เพราะบางทีวนกลับมาห้องเดิม แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่เหมือนเดิม
สรุปคือเราสามารถใช้เวลาอยู่ภายในงาน teamLab Borderless นี้ได้แทบจะทั้งวันค่ะ เพราะเดินวนไปเรื่อยๆ ก็จะเจองานศิลปะดิจิตอลที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เพลินมากจริงๆ และที่สำคัญมีห้องให้นั่งพักสายตาด้วย เผื่อว่าอยู่ในที่มืดดูแสงสีนานๆ ตาอาจจะลายได้ 555
แต่ละห้องที่จัดแสดง ก็จะมี gimmick และ interaction กับผู้เข้าชมที่แตกต่างกันไปค่ะ มันคือความว้าววววของเทคโนโลยีจริงๆ ทำให้ตัวเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะไปโดยปริยาย เช่น ห้องนึงเป็นเหมือนน้ำตก ที่จะกระเด็นกระทบตัวเราถ้าเราไปยืนขวาง หรือแม้แต่การที่เราสามารถวาดภาพตามจิตนาการเพื่อนำขึ้นไปโชว์บนผนัง โดยการจัดแสดงก็แบ่งออกเป็นหลากหลายโซนค่ะ เช่น
🔅 Borderless World โซนไฮไลท์ห้องแรกๆ ที่เห็นเลยค่ะ จะมีเนินสูงกลางห้องและรอบๆ จะเปลี่ยนภาพ mapping ไปเรื่อยๆ ตอนที่เป็นน้ำตกลงมาสวยงามมากมาย
🔅 Crystal World โซนห้องคริสตอลระยิบระยับ ที่จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ สวยมากกกก
🔅 Athletics Forest / Graffiti Nature – High Mountains and Deep Valleysโซนนี้จะเป็น landscape แบบเนินๆ ให้เราสามารถเดินไปทั่วๆ มี interact กับงานศิลปะได้ตลอดเวลา
🔅 Giant Connecting Block Town โซนสร้างเมืองด้วยตัวเราเองโดยบล็อกต่างๆ
🔅 Weightless Forest of Resonating Life โซนบอลลูนที่จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ
🔅 Forest of Lamps โซนนี้คืออีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาเก็บภาพเลยค่ะ ทั้งห้องถูกประดับไปด้วยโคมไฟนับพัน เปลี่ยนสีไปมาถ่ายรูปออกมาอย่างงามเลย
อย่างที่บอกไปว่า MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless มีพื้นที่จัดแสดงค่อนข้างกว้างและเป็นที่นิยมอย่างมากกกกกกในหมู่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ภายในงานจะมีการจัดแสดง 2 ชั้นค่ะ (ต้องหาทางขึ้นกันดีๆ นะ) บางห้องนี่ต้องต่อคิวเพื่อเข้าไปชมกันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้รอคิวนานมากค่ะ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่บริหารจัดการคิวให้ตลอดเวลา ใครมีโอกาสไปเที่ยว Tokyo อย่าลืมแวะไปชมความชิคนี้ให้ได้นะคะ
เอาภาพบรรยากาศภายใน MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless มาให้ดูกันค่ะ
นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนนะคะ
📍Location : MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: teamLab Borderless
Odaiba Palette Town, 1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo, Japan
https://goo.gl/maps/aHfSeL1nzhjCkiHz5
🕙 Open : 10.00-19.00 น. ทุกวัน (ปิดทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของเดือน)
🎟 Ticket : 3,200 JPY
📝 Official Website : teamLab Borderless / チームラボボーダレス
https://borderless.teamlab.art/
------------------------------------------------------------
คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจไปชม teamLab Borderless :
❗️ จองตั๋วล่วงหน้าทาง link นี้ https://ticket.teamlab.art/#/order?lang=en บางวันจะเต็มนะคะ ลองหาวันที่เหมาะๆ (จองได้ล่วงหน้า 2 เดือน)
❗️ เมื่อจองตั๋ว online แล้ว จะได้ link ส่งมาให้ทางเมล์ และจะมี QR CODE ปรากฏขึ้นในช่วงเช้าของวันที่เราจองเพือใช้สแกนผ่านหน้างาน
❗️ ถ้า advance ticket ขายหมด ก็จะไม่มีตั๋วขายหน้างานแบบ walk-in
❗️ ควรไปเข้าคิวก่อนเวลาเปิดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง (หากมีเวลา)
❗️ ไม่ควรใส่กระโปรงค่ะ เพราะบางห้องตรงพื้นที่เป็นกระจก
❗️ ใส่รองเท้าที่กระชับ เช่น รองเท้าผ้าใบ (ไม่แนะนำส้นสูง) เพราะพื้นที่ด้านในมืดมากและพื้นจะมีส่วนที่ลาดชัน ระวังสะดุด
❗️ ด้านในไม่มีอาหารขายนะคะ ทานอะไรรองท้องไปก่อน แต่มีน้ำขายเป็นแบบกดตู้
❗️ ด้านในมีห้องน้ำ ไม่ต้องห่วงถ้าจะเดินอยู่ในนั้นนานๆ
❗️ มีตู้ locker ฝากสัมภาระด้านนอก ทางที่ดีเอาไปน้อยๆดีกว่า
❗️ ใส่เสื้อสีพื้นจะถ่ายรูปออกมาได้สวย
❗️ กล้องมือถือถ่ายง่ายและสะดวก เพราะคนเยอะมาก ไม่มีเวลาเล็งนาน
❗️ ห้ามใช้ flash เวลาถ่ายภาพ
สุดท้ายนี้ เอา Vlog มาฝากค่ะ...คลิกไปชมกันรัวรัว
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
อ่านรีวิวอื่นๆ เพิ่มเติม เข้าไปดูกันได้ที่ "เที่ยวรัวรัว" https://www.facebook.com/travelruarua/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้