สำนักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพานิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกในเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 22,794 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.68% ซึ่งเป็นมูลค่าส่งออกต่อเดือนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่ไทยเริ่มมีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ
.
เนื่องจากในภาพรวม 8 เดือนแรกของ 2561 การส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5.8% ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ ขยายตัว 10.2% มาจากสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เพิ่ม 21.8%, รถยนต์และส่วนประกอบ เพิ่ม 19%, เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 50.6%
.
ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น 4.1% มูลค่าการส่งออกขยายตัว 3.9% ซึ่งสินค้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่ม เพิ่ม 30.9%, ผัก ผลไม้สดแช่แข็ง และแปรรูป เพิ่ม 16.1% และข้าวเพิ่ม 9.1% ซึ่งตลาดส่งออกของไทยเกินครึ่งได้เน้นมาทางเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน จีน อินเดีย มากกว่าส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป
.
ส่งผลให้แนวโน้มการส่งออกตลอดทั้งปี อาจจะขยายตัวได้ถึง 9% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้คือ 8% แต่ถึงแม้ว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ดี ก็ยังต้องกังวัลเกี่ยวกับปัจจัยภายนอก ได้แก่ ความไม่มีเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก และเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยมองว่าผู้ส่งออกควรใช้สกุลเงินต่างๆ ในการค้าขายมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ที่มา :
https://www.facebook.com/BLTBangkok/photos/a.1758373324425336/2163115623951102/
เว็บไซต์
http://www.bltbangkok.com
ไทยทุบสถิติการส่งออกสูงสุดในประวัติการณ์ 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
.
เนื่องจากในภาพรวม 8 เดือนแรกของ 2561 การส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5.8% ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ ขยายตัว 10.2% มาจากสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เพิ่ม 21.8%, รถยนต์และส่วนประกอบ เพิ่ม 19%, เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 50.6%
.
ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น 4.1% มูลค่าการส่งออกขยายตัว 3.9% ซึ่งสินค้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่ม เพิ่ม 30.9%, ผัก ผลไม้สดแช่แข็ง และแปรรูป เพิ่ม 16.1% และข้าวเพิ่ม 9.1% ซึ่งตลาดส่งออกของไทยเกินครึ่งได้เน้นมาทางเอเชีย โดยเฉพาะอาเชียน จีน อินเดีย มากกว่าส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป
.
ส่งผลให้แนวโน้มการส่งออกตลอดทั้งปี อาจจะขยายตัวได้ถึง 9% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้คือ 8% แต่ถึงแม้ว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ดี ก็ยังต้องกังวัลเกี่ยวกับปัจจัยภายนอก ได้แก่ ความไม่มีเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก และเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยมองว่าผู้ส่งออกควรใช้สกุลเงินต่างๆ ในการค้าขายมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ที่มา : https://www.facebook.com/BLTBangkok/photos/a.1758373324425336/2163115623951102/
เว็บไซต์ http://www.bltbangkok.com