เปรียบเทียบการแสกนหน้าของ iPhone XS (Face ID) เทียบกับ Samsung Note 9 (Intelligent Scan)

กระทู้สนทนา
บทความนี้ได้แปลมาจากวิดีโอที่ทดสอบเปรียบเทียบการแสกนหน้าของ iPhone XS (Face ID) เทียบกับ Samsung Note 9 (Intelligent Scan) ได้อย่างเป็นกลางครับ ถ้าหากใครไม่สนใจบทความแปลของ จขกท. หรือสามารถฟังภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วอยู่แล้วสามารถกดเล่นวิดีโอได้เลยครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบการแสกนหน้าของ iPhone XS (Face ID) เทียบกับ Samsung Note 9 (Intelligent Scan) นะครับ
ถึงแม้ว่ามือถือทั้งคู่จะพยายามทำสิ่งที่เหมือนกัน แต่มีแนวทางที่ต่างกัน โดย Intelligent Scan จะมีทั้งการแสกนหน้าและแสกนม่านตา ส่วน Face ID จะมีเพียงการแสกนหน้าเพียงอย่างเดียว โดยสิ่งที่ Intelligent Scan ทำคือจะเริ่มแสกนหน้าก่อนที่จะแสกนม่านตา แต่ถ้าอยู่ในที่ที่มีแสงน้อยหรือกลางแสงแดดที่แสกนหน้าแล้วล้มเหลวถึงจะเปลี่ยนมาแสกนม่านตา ( iris scanner) เพียงอย่างเดียว ถ้าหากยังแสกนล้มเหลวอีกถึงจะเริ่มแสกนหน้าและแสกนม่านตา การแสกนม่านตาจะช้ากว่าการแสกนด้วยขั้นตอนแบบอื่น แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่ใช้งานได้ในที่มืด

ส่วน iPhone XS จะมี  Dot projecter ที่จะฉายจุด 30,000 จุดบนใบหน้าก่อนให้เซ็นเซอร์อินฟราเรดตรวจจับจุดนั้นๆ แล้วส่งข้อมูลไปในชิปข้างในมือถือเพื่อประมวลผล

ก่อนที่จะเข้าการทดสอบต้องแยกก่อนนะครับว่าการแสกนหน้าของ iPhone XS เป็นการจำหน้าแบบสามมิติ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ส่วนการแสกนหน้าของ Samsung Note 9 จะเป็นเพียงการจำหน้าเพียงสองมิติเท่านั้น (Facial recognition)
http://www.iphonehacks.com/2018/03/iphone-x-face-id-vs-galaxy-s9-intelligent-scan-differences-explained.html

การทดสอบแรกคือการทดสอบ
1. ขอบเขตการมองเห็น
โดยจะวัดตั้งแต่เริ่มมองเห็นและจะเลิกวัดเมื่อกลับไปมองไม่เห็นอีกครั้ง
Samsung Note 9
สามารถมองเห็นได้กว้าง 30 องศา

iPhone XS
สามารถมองเห็นได้กว้าง 45 องศา

2.ความปลอดภัย
Face ID ของ iPhone XS สามารถใช้เพื่อจ่ายเงินได้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ส่วนการแสกนหน้าของ Samsung Note 9 ไม่สามารถแสกนเพื่อจ่ายเงินได้ ต้องใช้การแสกนม่านตาแทน เพราะซัมซุงไม่มั่นใจว่าการแสกนหน้านั้นปลอดภัยเพียงพอ
https://bgr.com/2018/03/01/galaxy-s9-vs-galaxy-s8-face-unlock-iphone-x/
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ในวิดีโอการทดสอบมือถือทั้งสองรุ่นไม่สามารถหลอกได้ด้วยการใช้รูปถ่าย

แต่ต้องขอขอบคุณท่าน teeShutterB ที่ทำการทดสอบให้เห็นชัดเจนว่าในกรณีไหนที่เราสามารถหลอกตัวแสกนหน้าของ Samsung Note 9 ได้ และกรณีไหนที่มันรู้ว่าเรากำลังหลอกมันและแสกนไม่ผ่านครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
3.การแสกนในที่มืดปิดไฟแสงไม่เพียงพอ
Face ID ของ iPhone XS สามารถใช้งานได้ตามปกติ แสกนผ่านได้ทุกครั้งไม่ต่างจากการแสกนกลางแสงแดด

การแสกนหน้าของ Samsung Note 9 จะปิดการแสกนหน้าไปและใช้การแสกนม่านตาอย่างเดียวเท่านั้น
เมื่อต้องแสกนม่านตา ถึงแม้จะพยายามปรับหน้าจอให้แสงต่ำสุดแล้วก็ตาม Samsung Note 9 จะพยายามเพิ่มแสงของหน้าจอเพื่อทำให้หน้าสว่างขึ้น

แต่ Samsung Note 9 พยายามทำให้สภาวะภายนอกเหมาะแก่การแสกนม่านตาแล้วก็ตาม ก็ยังแสกนผ่านเพียง 3 ใน 10 ครั้ง
แต่สิ่งที่ Samsung Note 9 มีและ iPhone XS ไม่มีก็คือการแสกนด้วยนิ้ว

3. การแต่งตัว

จะมีการทดสอบแรกคือการสวมหมวกซึ่งมือถือทั้งสองผ่านการทดสอบไปได้ด้วยดี
เมื่อใส่หมวกและแว่นกันแดด (ปกปิดใบหน้าไปเกิน 20%)
iPhone XS หากปิดในส่วน Require attention ก็ยังสามารถแสกนผ่านได้ปกติ

Samsung Note 9 ไม่สามารถจำใบหน้าได้ และแสกนม่านตาไม่ได้เพราะถูกแว่นกันแดดสะท้อน

ดังนั้นถ้าใครใช้แว่นกันแดดบ่อยๆก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจนะครับ

4.ความเร็ว
ตรงส่วนนี้ถือว่าต้องดูที่ความสนใจว่าการปลดล็อคควรจะเป็นอย่างไร
iPhone XS จะมีการปลดล็อคสองขั้นตอนการการแสกนหน้าและโชว์การแจ้งเตือนบนมือถือให้เห็น ถ้าต้องการใช้งานมือถือต้องปัดขึ้น 1 ครั้งก่อนจะเข้าสู้หน้าเริ่มต้น
Samsung Note 9 จะแสกนเพื่อปลดล็อคและเข้าสูหน้าเริ่มต้นทันที ถ้าต้องการเช็คการแจ้งเตือนจึงจะปัดลงมาดู
ถ้าเน้นเรื่องความเร็วในการเช็คการแจ้งเตือนบนมือถือ iPhone XS เร็วกว่า 9 ใน 10 ครั้ง
ถ้าเน้นเรื่องความเร็วในการเข้าสู่หน้าเริ่มต้น Samsung Note 9 เร็วกว่าเพราะ iPhone XS ต้องปัดขั้น 1 ครั้งก่อน

สิ่งที่ iPhone XS สามารถทำได้และ Samsung Note 9 ทำไม่ได้คือ
1.การลดแสงและลดความดังเมื่อมีการแจ้งเตือนหรือโทรเข้าเมื่อเรามองหน้าจอ (Attention aware)
2.การใช้งานร่วมกันระหว่าง App การเงินและการแสกนหน้าแทนการใส่รหัสผ่าน

ถ้าใครมีความเห็นเพิ่มเติม หรือเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยตรงไหนสามารถแชร์กันได้เลยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่