สวัสดีชาวโลก ... ชาวรัชดา พันทิป ... ครับ
ผมเพิ่งจะลองเปลี่ยน น้ำมันเครื่องรถยนต์เองเป็นครั้งที่ 2 นะครับ
ก่อนหน้านี้ เคยทำไปแล้ว ก็พบกับอุปสรรค+ปัญหามากมาย เกือบถอดใจขายเครื่องมือไปหมดแล้ว
พอดีได้กำลังใจจากชาวพันทิปนี่แหละ คราวนี้ ... เลยต้องศึกษาอุปสรรคเดิม แล้วเตรียมตัว เตรียมข้อมูลมาพร้อมนะครับ
ซึ่งคราวนี้ก็ทบทวนปัญหาเดิมที่เกิดขึ้น หาแนวทางแก้ไขไว้ก่อน แล้วทำทดลองซ้ำอีกที ปรากฎว่าปัญหาลดลง
สุดท้ายจบงานชิ้นนี้ได้ด้วยตัวเอง นะครับ (คราวที่แล้ว ... ไปขอแรงช่างมาช่วยถอดกรองออกให้)
ผมก็เลยเอามาลงรีวิว ช่วยป้องกันการหลงลืม และป้องกันการผิดพลาดซ้ำๆ อีกด้วยครับ
หากรีวิวนี้ท่านใดมีข้อแนะนำเพิ่มเติมฝากลง คห ต่อๆไว้ด้วยครับ หากท่านใดไม่เคยทำก็อ่านก่อนลงมือนะครับ
...อุปสรรค มีไว้ให้แก้ ...เป้าหมาย มีไว้ให้พุ่งชน
...ความสำเร็จ กำลังรอผู้กล้าอยู่
ข้อมูลรถยนต์
รถยนต์ อัลติส 2013 อี 85 รุ่น อั้ม พัชราภา นะครับ
เครื่องยนต์ เบนซิน 1800 ซีซี DualVVTI วิ่งมาแล้ว 80000 กม.
รายละเอียดน้ำมันเครื่อง
Havoline Pro DS 5W-30
อุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ ...
1. ประแจแหวนคู่ เบอร์ 14
2. ด้ามขันฟรี + ลูกบล๊อก เบอร์ 14
3. ด้ามขันงอ 12 นิ้ว + ฝาถอดกรองน้ำมันเครื่อง เบอร์ 901
4. กรวยเติมน้ำมันเครื่อง
5. กระดาษนสพ. กระดาษซับน้ำมัน กล่องกระดาษรองนอน ผ้าเช็ดน้ำมัน
6. กะละมัง แกลลอนผ่ารองน้ำมัน แกลลอนเปล่า
7. น้ำมันเครื่องที่จะเติม 4 ลิตร + ของเดิมเหลือ 600 ซีซี
8. กรองน้ำมันเครื่อง แท้ พร้อมโอริง
9. ประเก็น โบลต์ถังถ่ายน้ำมันเครื่อง
10. แม่แรงยกรถ พร้อม ขาตั้งรองรับ + ด้ามขันแม่แรง
11. ที่รองล้อกันไหล / ก้อนอิฐ
12. อะไหล่กรองแอร์ และ กรองอากาศ เทียบ
13. ถุงมือผ้า
เครื่องมือบางอันไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ ผมแรงน้อยเลยจัดเต็ม ครับ
อัปเกรด ... ชุดประแจบล๊อกของโทน ได้มือสอง ชุดใหญ่มาทดลองงานแรกเลย
เมื่อเตรียมของครบแล้ว ก็ลงมือทำเลย เริ่มจากอุ่นเครื่องยนต์ให้น้ำมันเครื่องอุ่นๆ ก่อน ซัก 3-5 นาที
คราวนี้ผมกลับจากทำธุระมาก็ทิ้งไว้ 2 ชม. เปิดฝาครอบระบายอากาศไว้ พออุ่นๆ ลองเอามือสัมผัสใกล้เครื่องยนต์ได้
ตามข้อมูลที่อ่านมาเขาว่าน้ำมันเครื่องที่อุ่นๆ จะไหลดีกว่า แบบเย็นๆ นะครับ
1) ผมเริ่มจาก ก่อนยกรถขึ้น ใช้ที่ห้ามล้อ หรือ ก้อนอิฐ หนุนรองล้อหลังไว้กันรถไหล(ลูกศรเหลืองล้อหลัง)
ใส่เบรกมือด้วยครับแล้วใช้แม่แรงที่ติดรถยนต์ ยกขึ้นที่ด้านข้าง ตำแหน่งหลังล้อหน้า นิดนึง ก้มดูจะมีร่องบาก
ไว้ 2 จุด ตามตำแหน่งตามที่คู่มือระบุ พอยกขึ้นสูงแล้วใช้ขาตั้งมารองใกล้ๆตำแหน่งที่ยกขึ้น (อันนี้ผมหาตำแหน่ง
รองขาตั้งในคู่มือไม่เจอนะครับ ใครทราบช่วยบอกที) แล้วผ่อนแม่แรงลงให้นำหนักลงที่ขาตั้งด้วย ทำแบบนี้สองข้างเลยครับ
ผมมีแม่แรงยก 2 ชุด ก็ยกขึ้นแล้วคาเอาไว้เลย สรุป ผมมีตัวค้ำยันรถยนต์ถึง 4 ตัวเลย
คราวที่แล้ว อุปสรรคก็คือ ผมยกขึ้นข้างเดียว พบปัญหา เนื่องจากด้ามแข็งงอต่อฝาถอดกรองของผม
มีความยาวเกินไป ยันพื้น ทำให้ขันกรองน้ำมันเครื่องไม่สะดวก จนขันไม่ออกนะครับ
คราวนี้เลยยกรถให้สูงขึ้นกว่าเดิม แถมขึ้น 2 ข้างเลย จะได้ทำงานสะดวก
ต่อไปก็ลองตรวจดูรอบๆ พร้อมขยับรถดูว่ามั่นคงดีมั๊ย จะล้มมั๊ย เมื่อมั่นใจแล้ว ก็พร้อมมุดเข้าไปใต้รถ
ผมบอกแฟนว่าอย่าเข้าใกล้รถมันอันตราย
2) ปูกล่องกระดาษแข็งรองหลัง นำกะละมัง กับแกลลอนที่ผ่าไว้ รองใกล้แท้งถ่ายน้ำมันเครื่อง
มีกระดาษ นสพ.กับกระดาษซับน้ำมันไว้ใกล้ๆ ก็ดีครับ (คราวที่แล้ว มันไหลออกนอกแกลลอน นองพื้นเต็มไปหมดเลย)
เนื่องจาก นานๆ เปลี่ยนเองที ผ่านมา 1 ปี (ระหว่างนั้นไปทำที่อู่มาด้วย) จำไม่ได้ว่าใช้ประแจเบอร์อะไร
ก็หยิบมาหลายๆ เบอร์ เทียบกับหัวโบลต์ถ่ายน้ำมันเครื่องดูครับ สรุป ได้เบอร์ 14
เริ่มจากใช้ประแจด้ามฟรีใส่บล๊อกเบอร์ 14 ขันออก ... ผมใช้ด้ามฟรี จะได้ไม่หลงทิศ ตอนมุดแล้วเงยหน้าขึ้นมา
มันจะงงๆ นะครับ แต่... ถ้าใช้ ด้ามขันฟรี เราปรับด้านหมุนไปด้านหมุนออกเตรียมไว้แล้ว ทีนี้ก็เลิกงง ... ไม่พลาดขันเข้าแน่ๆ
พอคลายตัวไม่แน่นแล้ว
ก็เปลี่ยนมาใช้ประแจแหนวคู่ เบอร์ 14 /16 ถ้าไม่อยากให้ประแจด้ามฟรีกับลูกบล๊อกเลอะน้ำมันเครื่อง
ค่อยๆ ขันโบลต์แท็งค์น้ำเครื่องออกมา ก่อนน้ำมันเครื่องจะไหลพุ่งออกมา เอานิ้วดันโบลต์ไว้ก่อน ค่อยๆลากกะละมัง
รองรับ เอามาให้พอดีตำแหน่ง แล้วใช้นิ้วหมุนโบลต์ออกมา อย่าให้หล่นนะครับ ใช้ นสพ.กับกระดาษซับ น้ำมันที่เลอะโบลต์กับมือ
3) ปล่อยให้น้ำมันเครื่องไหลออกมาจนหยดน้ำมันช้ามากๆ ตอนนี้ให้เปิดฝาด้านบนที่เครื่องยนต์
จะได้ไหลออกมาเพิ่มขึ้น ผมทิ้งไว้เกือบ 40 นาที พบว่า... ที่โบลต์ไม่มีประเก็นเดิม สงสัยอู่ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
ให้คราวที่แล้วไม่ได้ใส่ไว้ให้ ถัดมาก็มาเตรียมไส้กรองน้ำมันเครื่อง ผมใช้อะไหล่แท้ เบิกร้านค้าย่านวรจักร
ซื้อประเก็นแท้ มาเผื่อไว้ด้วยครับ เป็นไส้กรองกระดาษมีโอริง ติดมาด้วย 1 อัน
พอน้ำมันเครื่องไหลออกมามากจนพอใจแล้ว ก็ต้องขันโบลต์ปิดแท็งค์ สวมประเก็นใหม่เข้าไปในโบลต์เลย
ขันด้วยมือก่อนแล้ว จึงขันแน่นด้วยประแจแหวนคู่ สุดท้ายเอาประแจขันฟรีขันแน่นพอตึงมือ อย่าลืมปรับทิศทางนะ
ทีนี้ก็มาถอดฝาครอบกรองน้ำมันเครื่องเพื่อใส่ไส้กรองใหม่ด้วย ผมใช้ฝาถอดกรองน้ำมันเครื่องสำหรับรถโตโยต้า
อัลติส เบอร์ 901 นะครับ ได้มาจากย่านคลองถม ... ใครสะดวกเลือกแบบโซ่รัด หนังรัด ก็ได้ตามสะดวกเลยครับ
ใช้ด้ามแข็งงอแกน ½ นิ้ว ยาว 12 นิ้ว เสียบแกนฝาถอด แล้วสวมลงบนฝาครอบ ให้คลุมแนบสนิทกัน
ใช้แรงที่มีขันออก(ทวนเข็ม / ดันปลายด้ามขันไปท้ายรถ) พอเริ่มขันสะดวกแล้ว ผมเปลี่ยนเอาด้ามขันฟรี มาเสียบแทน
จะได้ไม่ต้องยกฝาถอดบ่อยๆ อ้อทิศทางด้ามขันฟรี ต้องปรับอีกที ปัญหาเดิมที่เจอมา คือ ขันฝาครอบกรอง ... ไม่ออก
ก็แก้ไขได้แล้ว เพราะยกรถสูงขึ้นกว่าเดิม แถมยก 2 ข้างเลย ครับ คราวนี้ไม่ยันพื้นแล้ว ถอดฝาครอบออกสบายๆ แล้วครับ
4) เตรียมกะละมังไว้รองน้ำมันเครื่องที่ไหลออกมาด้วยครับ เอากระดาษ นสพ. รองรับกรองเดิม มาเปลี่ยนไส้ใหม่
วิธีเปลี่ยนไส้กรองใหม่ ตามที่ระบุข้ากล่อง ให้เอาน้ำมันเครื่องใหม่ทารอบๆโอริง แล้วสวมเขาตำแหน่งที่ถอดโอริง
ออกมาจากฝาครอบนะครับ อย่าสวมใส่ผิดที่ มันจะรั่วออกมาภายหลัง เอาไส้กรองสวมแทนของเดิม
แล้วนำไปขันเข้าที่เดิมที่ถอดออกมา ก่อนมุดไปปรับด้ามฟรีให้เป็นขันเข้าก่อน เริ่มใส่ฝาครอบโดยใช้มือขันเข้าไป
หลายๆรอบก่อนระวังปีนเกลียว แล้วเอาฝาถอดกรองสวมกับด้ามขันฟรี ค่อยๆขันแน่น พอตึงมือครับ มีโอริงอยู่แล้ว ไม่ต้อง
แน่นเกินไป ไม่รั่วครับ
ดูสีน้ำมันเครื่องเดิม ดำดี มองไม่เห็นก้นแกลลอนเลย
5) ทีนี้ก็เติมน้ำมันเครื่องใหม่ลงไป โดยใช้กรวยเติมน้ำมันช่วยกันหกเลอะเทอะ ค่อยๆ เติมช้าๆ ปล่อยให้ไหลเข้าไปทีเล็กน้อย
กันสำลัก และปริมาณมากเกินไป ผมถ่ายออกมาเกิน 4 ลิตรแน่ๆ เพราะ ที่รองเอาไว้มันล้นแกลลอนที่ผ่ารองไว้ โดยใส่น้ำมันเครื่อง
ที่เหลือเดิมก่อน แล้วใส่แกลลอนใหม่ ให้เหลือน้อยกว่า 1 ลิตรเล็กน้อยก่แน จึงปิดฝาครอบ
ของแท้แน่นอน...
6) เมื่อมั่นใจว่าใต้รถไม่รั่วซึม น้ำมันเครื่องมีพอเพียง ก็เอาแม่แรงลง ขาตั้งออกมา ที่รองล้อกันไหลออก แล้วสตาร์ท
เครื่องซัก3-5 นาที น้ำมันเครื่องไหลเวียนดีแล้ว ก็ดึงก้านวัดออกมาเช็ดด้วยกระดาษซับน้ำมัน แล้วเสียบลงไปวัดระดับ
น้ำมันเครื่องอีกที ให้น้ำมันเครื่องอยู่ในระดับพอดีๆ กับปุ่มบน ถ้ายังต่ำกว่าก็เปิดฝาครอบบนเครื่องยนต์ เติมให้ได้ระดับที่ต้องการ
เน้นตามคู่มือระบุ
ตรวจดูด้านใต้รถยนต์ ถ้าพบว่ามีน้ำมันเครื่องรั่วซึมออกมา ก็ขันโบลต์ให้แน่นเพิ่มขึ้น นะครับ ผมก็เจอมา รั่วนิดๆ ขันแล้วก็ไม่ซึมออกมาแล้ว
*************** เสร็จแล้วครับ คราวนี้ไม่หกเลอะเทอะ ถอดเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องเองได้แล้ว ***************
7) แถมท้ายมาเปลี่ยนไส้กรองอากาศเข้าเครื่องยนต์ด้วย ... ช่วงนี้ไม่ต้องใช้เครื่องมือเลย
หันหน้าเข้ารถยนต์ จะอยู่ด้านขวามือนะครับ กล่องดำๆ มีสปริงล๊อก 2 ตัว จับโยกปลอล๊อก แล้วค่อยๆ ขยับไส้กรองอากาศเดิม
ออกมา จำมุมที่ใส่ไว้ให้ดี แล้วนำไส้กรองอากาศใหม่ใส่แทน ปิดฝา ล๊อกด้วยสปริง 2 ตัว ลองขยับดูว่าแน่นดีแล้ว
8) ต่อไปก็มาเปลี่ยนไส้กรองแอร์ ครับ
ในรถฝั่งด้านข้างคนขับ เปิดถาดใส่ของออกมา ด้านข้างซ้ายมือล่าง จะเห็นเดือยยึดหด Actuator
ใช้นิ้วบีบปลายเข้าหากันแล้วดันรอดช่องให้ปลาย Actuator หลุดออกมา แล้วค่อยๆยกโยกดันดึงให้ตัวยึด
ด้านใต้ถาดหลุดจากข้อพับ อย่างเบามือนะครับ มี 4 จุดสอดใส่ไว้ง่ายๆ แต่อย่าฝืนมากเดี๋ยวจะหัก
พอถอดถาดนี้ออกมาวางไว้ที่พัก จะเห็นกล่องดำๆ มีตัว R ตรงนั้นมีที่กดปลดล๊อก เปิดเป็นบานพับออกมาได้
ข้างในมีไส้กรองแอร์เก่าๆ อยู่ นำออกมา ใส่อันใหม่เข้าไปตามทิศทางที่ดึงออกมา ของเดิมมีลูกศร บน ล่าง
ของใหม่ผมยึดตามตัวอักษรให้อ่านออกไม่กลับหัว นะครับ
ดำเชียว มีหยากใยติดด้วย คงไม่ได้เปลี่ยนนานแล้ว นะครับ เพิ่งเปลี่ยนเองครั้งแรก แต่ เคยถอดออกมาเป่าฝุ่นบ้าง
นานมากซะจำไม่ได้แล้วนะครับ ปิดฝาล๊อกไส้กรองแอร์ให้แน่น เอาถาดออกมาเช็ดปัดฝุ่นด้านในนอกซะก่อน เสร็จแล้ว
ก็ยกถาดมาใส่ให้ตัวล๊อกด้านล่างเข้าที่เดิม และยกให้จุดเกี่ยวแกนหมุนก็ค่อยๆสอดเข้าไปที่ช่องซ้ายขวา แล้วสุดท้าย
นำActuator มาใส่ร่องเดือยซะ ทดลองเปิดปิดเบาๆ ถ้าหมุนคล่องตัวก็ใช้ได้
ป้ายเตือนก็ติดไว้ด้วยครับ...
ค่าใช้จ่าย...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นมค. 4 ลิตร 755.-
กรอง นมค.แท้ 175.-
กรองแอร์ เทียบ 100.-
กรองอากาศ เทียบ 150.-
ประเก็น แท้ 5.-
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ สำหรับผมเองก็เก็บไว้อีก 10000 กม. ค่อยกลับมาอ่านอีกที...
:-) D I¥ ง่ายๆ แต่มีคุณภาพ ... ขั้นตอนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์เอง แถมเปลี่ยนไส้กรองแอร์ กรองอากาศให้ด้วย (-:
ผมเพิ่งจะลองเปลี่ยน น้ำมันเครื่องรถยนต์เองเป็นครั้งที่ 2 นะครับ
ก่อนหน้านี้ เคยทำไปแล้ว ก็พบกับอุปสรรค+ปัญหามากมาย เกือบถอดใจขายเครื่องมือไปหมดแล้ว
พอดีได้กำลังใจจากชาวพันทิปนี่แหละ คราวนี้ ... เลยต้องศึกษาอุปสรรคเดิม แล้วเตรียมตัว เตรียมข้อมูลมาพร้อมนะครับ
ซึ่งคราวนี้ก็ทบทวนปัญหาเดิมที่เกิดขึ้น หาแนวทางแก้ไขไว้ก่อน แล้วทำทดลองซ้ำอีกที ปรากฎว่าปัญหาลดลง
สุดท้ายจบงานชิ้นนี้ได้ด้วยตัวเอง นะครับ (คราวที่แล้ว ... ไปขอแรงช่างมาช่วยถอดกรองออกให้)
ผมก็เลยเอามาลงรีวิว ช่วยป้องกันการหลงลืม และป้องกันการผิดพลาดซ้ำๆ อีกด้วยครับ
หากรีวิวนี้ท่านใดมีข้อแนะนำเพิ่มเติมฝากลง คห ต่อๆไว้ด้วยครับ หากท่านใดไม่เคยทำก็อ่านก่อนลงมือนะครับ
...อุปสรรค มีไว้ให้แก้ ...เป้าหมาย มีไว้ให้พุ่งชน ...ความสำเร็จ กำลังรอผู้กล้าอยู่
ข้อมูลรถยนต์
รถยนต์ อัลติส 2013 อี 85 รุ่น อั้ม พัชราภา นะครับ
เครื่องยนต์ เบนซิน 1800 ซีซี DualVVTI วิ่งมาแล้ว 80000 กม.
รายละเอียดน้ำมันเครื่อง
Havoline Pro DS 5W-30
อุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ ...
1. ประแจแหวนคู่ เบอร์ 14
2. ด้ามขันฟรี + ลูกบล๊อก เบอร์ 14
3. ด้ามขันงอ 12 นิ้ว + ฝาถอดกรองน้ำมันเครื่อง เบอร์ 901
4. กรวยเติมน้ำมันเครื่อง
5. กระดาษนสพ. กระดาษซับน้ำมัน กล่องกระดาษรองนอน ผ้าเช็ดน้ำมัน
6. กะละมัง แกลลอนผ่ารองน้ำมัน แกลลอนเปล่า
7. น้ำมันเครื่องที่จะเติม 4 ลิตร + ของเดิมเหลือ 600 ซีซี
8. กรองน้ำมันเครื่อง แท้ พร้อมโอริง
9. ประเก็น โบลต์ถังถ่ายน้ำมันเครื่อง
10. แม่แรงยกรถ พร้อม ขาตั้งรองรับ + ด้ามขันแม่แรง
11. ที่รองล้อกันไหล / ก้อนอิฐ
12. อะไหล่กรองแอร์ และ กรองอากาศ เทียบ
13. ถุงมือผ้า
เครื่องมือบางอันไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ ผมแรงน้อยเลยจัดเต็ม ครับ
อัปเกรด ... ชุดประแจบล๊อกของโทน ได้มือสอง ชุดใหญ่มาทดลองงานแรกเลย
เมื่อเตรียมของครบแล้ว ก็ลงมือทำเลย เริ่มจากอุ่นเครื่องยนต์ให้น้ำมันเครื่องอุ่นๆ ก่อน ซัก 3-5 นาที
คราวนี้ผมกลับจากทำธุระมาก็ทิ้งไว้ 2 ชม. เปิดฝาครอบระบายอากาศไว้ พออุ่นๆ ลองเอามือสัมผัสใกล้เครื่องยนต์ได้
ตามข้อมูลที่อ่านมาเขาว่าน้ำมันเครื่องที่อุ่นๆ จะไหลดีกว่า แบบเย็นๆ นะครับ
1) ผมเริ่มจาก ก่อนยกรถขึ้น ใช้ที่ห้ามล้อ หรือ ก้อนอิฐ หนุนรองล้อหลังไว้กันรถไหล(ลูกศรเหลืองล้อหลัง)
ใส่เบรกมือด้วยครับแล้วใช้แม่แรงที่ติดรถยนต์ ยกขึ้นที่ด้านข้าง ตำแหน่งหลังล้อหน้า นิดนึง ก้มดูจะมีร่องบาก
ไว้ 2 จุด ตามตำแหน่งตามที่คู่มือระบุ พอยกขึ้นสูงแล้วใช้ขาตั้งมารองใกล้ๆตำแหน่งที่ยกขึ้น (อันนี้ผมหาตำแหน่ง
รองขาตั้งในคู่มือไม่เจอนะครับ ใครทราบช่วยบอกที) แล้วผ่อนแม่แรงลงให้นำหนักลงที่ขาตั้งด้วย ทำแบบนี้สองข้างเลยครับ
ผมมีแม่แรงยก 2 ชุด ก็ยกขึ้นแล้วคาเอาไว้เลย สรุป ผมมีตัวค้ำยันรถยนต์ถึง 4 ตัวเลย
คราวที่แล้ว อุปสรรคก็คือ ผมยกขึ้นข้างเดียว พบปัญหา เนื่องจากด้ามแข็งงอต่อฝาถอดกรองของผม
มีความยาวเกินไป ยันพื้น ทำให้ขันกรองน้ำมันเครื่องไม่สะดวก จนขันไม่ออกนะครับ
คราวนี้เลยยกรถให้สูงขึ้นกว่าเดิม แถมขึ้น 2 ข้างเลย จะได้ทำงานสะดวก
ต่อไปก็ลองตรวจดูรอบๆ พร้อมขยับรถดูว่ามั่นคงดีมั๊ย จะล้มมั๊ย เมื่อมั่นใจแล้ว ก็พร้อมมุดเข้าไปใต้รถ
ผมบอกแฟนว่าอย่าเข้าใกล้รถมันอันตราย
2) ปูกล่องกระดาษแข็งรองหลัง นำกะละมัง กับแกลลอนที่ผ่าไว้ รองใกล้แท้งถ่ายน้ำมันเครื่อง
มีกระดาษ นสพ.กับกระดาษซับน้ำมันไว้ใกล้ๆ ก็ดีครับ (คราวที่แล้ว มันไหลออกนอกแกลลอน นองพื้นเต็มไปหมดเลย)
เนื่องจาก นานๆ เปลี่ยนเองที ผ่านมา 1 ปี (ระหว่างนั้นไปทำที่อู่มาด้วย) จำไม่ได้ว่าใช้ประแจเบอร์อะไร
ก็หยิบมาหลายๆ เบอร์ เทียบกับหัวโบลต์ถ่ายน้ำมันเครื่องดูครับ สรุป ได้เบอร์ 14
เริ่มจากใช้ประแจด้ามฟรีใส่บล๊อกเบอร์ 14 ขันออก ... ผมใช้ด้ามฟรี จะได้ไม่หลงทิศ ตอนมุดแล้วเงยหน้าขึ้นมา
มันจะงงๆ นะครับ แต่... ถ้าใช้ ด้ามขันฟรี เราปรับด้านหมุนไปด้านหมุนออกเตรียมไว้แล้ว ทีนี้ก็เลิกงง ... ไม่พลาดขันเข้าแน่ๆ
พอคลายตัวไม่แน่นแล้ว
ก็เปลี่ยนมาใช้ประแจแหนวคู่ เบอร์ 14 /16 ถ้าไม่อยากให้ประแจด้ามฟรีกับลูกบล๊อกเลอะน้ำมันเครื่อง
ค่อยๆ ขันโบลต์แท็งค์น้ำเครื่องออกมา ก่อนน้ำมันเครื่องจะไหลพุ่งออกมา เอานิ้วดันโบลต์ไว้ก่อน ค่อยๆลากกะละมัง
รองรับ เอามาให้พอดีตำแหน่ง แล้วใช้นิ้วหมุนโบลต์ออกมา อย่าให้หล่นนะครับ ใช้ นสพ.กับกระดาษซับ น้ำมันที่เลอะโบลต์กับมือ
3) ปล่อยให้น้ำมันเครื่องไหลออกมาจนหยดน้ำมันช้ามากๆ ตอนนี้ให้เปิดฝาด้านบนที่เครื่องยนต์
จะได้ไหลออกมาเพิ่มขึ้น ผมทิ้งไว้เกือบ 40 นาที พบว่า... ที่โบลต์ไม่มีประเก็นเดิม สงสัยอู่ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
ให้คราวที่แล้วไม่ได้ใส่ไว้ให้ ถัดมาก็มาเตรียมไส้กรองน้ำมันเครื่อง ผมใช้อะไหล่แท้ เบิกร้านค้าย่านวรจักร
ซื้อประเก็นแท้ มาเผื่อไว้ด้วยครับ เป็นไส้กรองกระดาษมีโอริง ติดมาด้วย 1 อัน
พอน้ำมันเครื่องไหลออกมามากจนพอใจแล้ว ก็ต้องขันโบลต์ปิดแท็งค์ สวมประเก็นใหม่เข้าไปในโบลต์เลย
ขันด้วยมือก่อนแล้ว จึงขันแน่นด้วยประแจแหวนคู่ สุดท้ายเอาประแจขันฟรีขันแน่นพอตึงมือ อย่าลืมปรับทิศทางนะ
ทีนี้ก็มาถอดฝาครอบกรองน้ำมันเครื่องเพื่อใส่ไส้กรองใหม่ด้วย ผมใช้ฝาถอดกรองน้ำมันเครื่องสำหรับรถโตโยต้า
อัลติส เบอร์ 901 นะครับ ได้มาจากย่านคลองถม ... ใครสะดวกเลือกแบบโซ่รัด หนังรัด ก็ได้ตามสะดวกเลยครับ
ใช้ด้ามแข็งงอแกน ½ นิ้ว ยาว 12 นิ้ว เสียบแกนฝาถอด แล้วสวมลงบนฝาครอบ ให้คลุมแนบสนิทกัน
ใช้แรงที่มีขันออก(ทวนเข็ม / ดันปลายด้ามขันไปท้ายรถ) พอเริ่มขันสะดวกแล้ว ผมเปลี่ยนเอาด้ามขันฟรี มาเสียบแทน
จะได้ไม่ต้องยกฝาถอดบ่อยๆ อ้อทิศทางด้ามขันฟรี ต้องปรับอีกที ปัญหาเดิมที่เจอมา คือ ขันฝาครอบกรอง ... ไม่ออก
ก็แก้ไขได้แล้ว เพราะยกรถสูงขึ้นกว่าเดิม แถมยก 2 ข้างเลย ครับ คราวนี้ไม่ยันพื้นแล้ว ถอดฝาครอบออกสบายๆ แล้วครับ
4) เตรียมกะละมังไว้รองน้ำมันเครื่องที่ไหลออกมาด้วยครับ เอากระดาษ นสพ. รองรับกรองเดิม มาเปลี่ยนไส้ใหม่
วิธีเปลี่ยนไส้กรองใหม่ ตามที่ระบุข้ากล่อง ให้เอาน้ำมันเครื่องใหม่ทารอบๆโอริง แล้วสวมเขาตำแหน่งที่ถอดโอริง
ออกมาจากฝาครอบนะครับ อย่าสวมใส่ผิดที่ มันจะรั่วออกมาภายหลัง เอาไส้กรองสวมแทนของเดิม
แล้วนำไปขันเข้าที่เดิมที่ถอดออกมา ก่อนมุดไปปรับด้ามฟรีให้เป็นขันเข้าก่อน เริ่มใส่ฝาครอบโดยใช้มือขันเข้าไป
หลายๆรอบก่อนระวังปีนเกลียว แล้วเอาฝาถอดกรองสวมกับด้ามขันฟรี ค่อยๆขันแน่น พอตึงมือครับ มีโอริงอยู่แล้ว ไม่ต้อง
แน่นเกินไป ไม่รั่วครับ
ดูสีน้ำมันเครื่องเดิม ดำดี มองไม่เห็นก้นแกลลอนเลย
5) ทีนี้ก็เติมน้ำมันเครื่องใหม่ลงไป โดยใช้กรวยเติมน้ำมันช่วยกันหกเลอะเทอะ ค่อยๆ เติมช้าๆ ปล่อยให้ไหลเข้าไปทีเล็กน้อย
กันสำลัก และปริมาณมากเกินไป ผมถ่ายออกมาเกิน 4 ลิตรแน่ๆ เพราะ ที่รองเอาไว้มันล้นแกลลอนที่ผ่ารองไว้ โดยใส่น้ำมันเครื่อง
ที่เหลือเดิมก่อน แล้วใส่แกลลอนใหม่ ให้เหลือน้อยกว่า 1 ลิตรเล็กน้อยก่แน จึงปิดฝาครอบ
ของแท้แน่นอน...
6) เมื่อมั่นใจว่าใต้รถไม่รั่วซึม น้ำมันเครื่องมีพอเพียง ก็เอาแม่แรงลง ขาตั้งออกมา ที่รองล้อกันไหลออก แล้วสตาร์ท
เครื่องซัก3-5 นาที น้ำมันเครื่องไหลเวียนดีแล้ว ก็ดึงก้านวัดออกมาเช็ดด้วยกระดาษซับน้ำมัน แล้วเสียบลงไปวัดระดับ
น้ำมันเครื่องอีกที ให้น้ำมันเครื่องอยู่ในระดับพอดีๆ กับปุ่มบน ถ้ายังต่ำกว่าก็เปิดฝาครอบบนเครื่องยนต์ เติมให้ได้ระดับที่ต้องการ
เน้นตามคู่มือระบุ
ตรวจดูด้านใต้รถยนต์ ถ้าพบว่ามีน้ำมันเครื่องรั่วซึมออกมา ก็ขันโบลต์ให้แน่นเพิ่มขึ้น นะครับ ผมก็เจอมา รั่วนิดๆ ขันแล้วก็ไม่ซึมออกมาแล้ว
*************** เสร็จแล้วครับ คราวนี้ไม่หกเลอะเทอะ ถอดเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องเองได้แล้ว ***************
7) แถมท้ายมาเปลี่ยนไส้กรองอากาศเข้าเครื่องยนต์ด้วย ... ช่วงนี้ไม่ต้องใช้เครื่องมือเลย
หันหน้าเข้ารถยนต์ จะอยู่ด้านขวามือนะครับ กล่องดำๆ มีสปริงล๊อก 2 ตัว จับโยกปลอล๊อก แล้วค่อยๆ ขยับไส้กรองอากาศเดิม
ออกมา จำมุมที่ใส่ไว้ให้ดี แล้วนำไส้กรองอากาศใหม่ใส่แทน ปิดฝา ล๊อกด้วยสปริง 2 ตัว ลองขยับดูว่าแน่นดีแล้ว
8) ต่อไปก็มาเปลี่ยนไส้กรองแอร์ ครับ
ในรถฝั่งด้านข้างคนขับ เปิดถาดใส่ของออกมา ด้านข้างซ้ายมือล่าง จะเห็นเดือยยึดหด Actuator
ใช้นิ้วบีบปลายเข้าหากันแล้วดันรอดช่องให้ปลาย Actuator หลุดออกมา แล้วค่อยๆยกโยกดันดึงให้ตัวยึด
ด้านใต้ถาดหลุดจากข้อพับ อย่างเบามือนะครับ มี 4 จุดสอดใส่ไว้ง่ายๆ แต่อย่าฝืนมากเดี๋ยวจะหัก
พอถอดถาดนี้ออกมาวางไว้ที่พัก จะเห็นกล่องดำๆ มีตัว R ตรงนั้นมีที่กดปลดล๊อก เปิดเป็นบานพับออกมาได้
ข้างในมีไส้กรองแอร์เก่าๆ อยู่ นำออกมา ใส่อันใหม่เข้าไปตามทิศทางที่ดึงออกมา ของเดิมมีลูกศร บน ล่าง
ของใหม่ผมยึดตามตัวอักษรให้อ่านออกไม่กลับหัว นะครับ
ดำเชียว มีหยากใยติดด้วย คงไม่ได้เปลี่ยนนานแล้ว นะครับ เพิ่งเปลี่ยนเองครั้งแรก แต่ เคยถอดออกมาเป่าฝุ่นบ้าง
นานมากซะจำไม่ได้แล้วนะครับ ปิดฝาล๊อกไส้กรองแอร์ให้แน่น เอาถาดออกมาเช็ดปัดฝุ่นด้านในนอกซะก่อน เสร็จแล้ว
ก็ยกถาดมาใส่ให้ตัวล๊อกด้านล่างเข้าที่เดิม และยกให้จุดเกี่ยวแกนหมุนก็ค่อยๆสอดเข้าไปที่ช่องซ้ายขวา แล้วสุดท้าย
นำActuator มาใส่ร่องเดือยซะ ทดลองเปิดปิดเบาๆ ถ้าหมุนคล่องตัวก็ใช้ได้
ป้ายเตือนก็ติดไว้ด้วยครับ...
ค่าใช้จ่าย...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ สำหรับผมเองก็เก็บไว้อีก 10000 กม. ค่อยกลับมาอ่านอีกที...