สวัสดีครับทุกคน กว่าเรื่องราวในทริปนี้จะออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ผมใช้เวลานานมากในการเขียน เพราะเที่ยวเยอะไปหน่อย งานก็เลยมารอตอนรับเยอะเลยทีเดียว ทำให้ใช้ระยะเวลาในการถ่ายทอดเรื่องราวนี้กว่า 5 เดือน ฮ่าๆ นานโครตเลยทีเดียว ตอนนี้ผมพร้อมละ ไปอ่านตัวอักษรมากกว่า 7 บรรทัดกันครับ กับ ห า ย ไ ป พั ก : ณ I c e แ ล น ด์
ก็ตามหัวข้อและรูปนะครับ ผมว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมจะพา “ห า ย ไ ป พั ก” กันที่ไหน ทริปนี้ผมเองและเพื่อนชาวคณะกว่า 9 ชีวิต plan และ เตรียมความพร้อมประมาณ 1 ปี ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นแผนการเดินทาง ข้อมูลต่างๆ และ ที่สำคัญ คือ ผมเก็บตังครับ ฮ่าๆ คนอื่นไม่รู้ แต่ผม ทำงานหาตังวนไปเพื่อทริปนี้
ทริปนี้เป็นมากกว่าการเดินทาง เพราะ มันคือความฝันของผมเองที่จะไปเยื่อนประเทศนี้ ประเทศที่เป็นเกาะ ประเทศที่มีแต่น้ำตก ประเทศที่มีแต่ทุ่งหญ้า ประเทศที่มีประชากรแค่ 348,580 คน ประเทศที่มีขนาดพื้นที่แค่ 103,000 ตารางกิโลเมตร ประเทศที่ปีนี้ได้ไปบอลโลก (2018) และ ทั้งหมดนี้ คือ ประเทศ “ไอซ์แลนด์” ครับ
สำหรับการเดินทางในทริปนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การวางแผน ครับ ผมและผู้ร่วมเดินทางทุกคน วางแผนจะท่องเที่ยวรอบเกาะ ซึ่งสถานที่เที่ยวต่างๆ จะถูกปักหมุดไว้ เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะไปเที่ยวครบทุกที่ ที่เราวางแผนกันไว้ ก็ตามรูปด้านล่างนะครับ
ช่วงเวลาเดินทางที่เลือกกัน คือ ช่วงสงกรานต์ซึ่งมีวันหยุดยาว (12 เมษายน – 22 เมษายน 2561) ทำให้ผมเองไม่ต้องลางานเยอะ และ สามารถมีเวลามากพอที่จะท่องเที่ยว (ตารางเที่ยวง่ายๆ ก็ตามนี้ครับ)
DAY 00: 12 Apr 18 : Bangkok – Helsinki – Reykjavik
DAY 01: 13 Apr 18 : Reykjavik – Kerid Crater – Bruarfoss – Geysir – Gullfoss
DAY 02: 14 Apr 18 : Seljalandsfoss – Skógafoss – Dyrholaey – Vik – Reynisdrangar
DAY 03: 15 Apr 18 : Skaftafell – Svartifoss – Jökulsárlón Glacier Lagoon – Diamond Beach – Hofn
DAY 04 : 16 Apr 18 : Seydisfjordur
DAY 05 : 17 Apr 18 : Seydisfjordur – Husavik
DAY 06 : 18 Apr 18 : Husavik – Akureyri – Hvitserkul
DAY 07 : 19 Apr 18 : Laugarbakki – Stykkishólmur – Kirkjufell
DAY 08 : 20 Apr 18 : Hellnar – Reykjavik
DAY 09 : 21 Apr 18 : Reykjavik – Blue Lagoon
DAY 10 : 22 Apr 18 : Reykjavik – Bangkok Thailand
DAY 00: 12 Apr 18 : Bangkok – Helsinki – Reykjavik :
ผมได้เริ่มเดินทางในคืนของวันที่ 12 เมษายน (23:35) ด้วยการนั่งเครื่องบินจากประเทศบ้านเกิดมุ่งสู่เมือง Helsinki ประเทศ Finland และ ทำการต่อเครื่องไปยังปลายทางของเรา คือ เมือง Reykjavik ด้วยสายการบิน Finair จาก Bangkok – Helsinki ใช้เวลาบิน 10h 10m และ ต่อเครื่องไป Reyjavik ใช้เวลาอีก 3h 42m ร่วมๆ 15 ชั่วโมง ได้กว่าจะถึง นั่งกันเพลิน หลับไม่รู้กี่ตื่น
DAY 01: 13 Apr 18 : Reykjavik – Kerid Crater – Bruarfoss – Geysir – Gullfoss :
(ระยะทางวันนี้ประมาณ 225 KM ครับ)
เครื่องลงเวลาประมาณ 07:30 แต่เช้าเลย สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ไปรับรถที่เราจองไว้ ด้วยความที่ว่าทริปนี้ ผู้ร่วมเดินทางเยอะ เราจึงต้องจองรถไว้ถึง 2 คัน และ เราก็ได้ยานพาหนะ ที่จะพาเราเที่ยวละครับ
สถานที่แรก ที่เราเดินทางไปนั้น คือ Kerid Crater ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วอยู่ทางตะวันออกของเมือง Reykjavik ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึงครับ
จุดหมายที่ 2 คือ น้ำตก Bruarfoss สถานที่เด่นของเราเลยในทริปนี้ เนื่องจาก ยังไม่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากนัก น้ำตกนี้เรียกได้ว่าเป็น hidden gem เลยก็ว่าได้ เพราะ การเดินทางไปยากนิดนึงครับ ต้องเปิดแผนที่ดูดีๆ ขนาดดูดีๆ ยังหลงเลยครับ ฮ่าๆ และยังต้องจอดรถแล้วเดินต่อเพื่อค้นหา แต่มันก็คุ้มค่ามากครับ เพราะ มันสวยมากกกกก รูปว่าสวยแล้วของจริงสวยกว่าในรูปมากกกกกก ครับ
จุดหมายที่ 3 คือ Geysir อยู่ที่ Stokkur ครับ เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินครับ อากาศหนาวๆ เจอน้ำพุร้อนๆ ฟินนน ครับ
หลังจากลงเครื่องกันมาก็ขับรถเที่ยวเลย ทำให้เกิดอาการหิวซิครับ ที่ Geysir ยังมีร้านอาหารที่อร่อยด้วย เราเลยแวะทานอาการกลางวันกันที่นี่ครับ และ ของดีของที่นี่คือ ซุปแกะ ครับ อร่อยมากแถมไม่เหม็นเลยครับ หลังจากอิ่มแล้ว ก็เดินทางต่อครับ
ภายในร้านครับ
ซุปแกะร้อนๆ กับ อากาศหนาวๆ
จุดหมายที่ 4 คือ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ซึ่งชื่อของสถานที่นี้ ในภาษาอังกฤษก็มีความหมายว่า “น้ำตกสีทอง” นั่นเองครับ เป็นน้ำตกที่ทั้งสวย ลมแรง และ ยิ่งใหญ่มากครับ
เสร็จจากที่นี่ ก็ขับรถลุยกันต่อครับ เพื่อที่จะไปที่พัก ระหว่างทางที่ขับไปนั้น ถนนหนทางสวยงามมากครับ มองไปทางไหนก็สุดสายตาเสมอ วันนี้พอก่อนพรุ่งนี้ลุยใหม่ครับ
DAY 02: 14 Apr 18 : Seljalandsfoss – Skógafoss – Dyrholaey – Vik – Reynisdrangar :
(ระยะทางวันนี้ประมาณ 222 KM ครับ)
วันนี้เราไปกันหลายที่เลยครับ ประมาณ 5 ที่ ที่เราจะเดินทางกันครับ ปลายทางของเราอยู่ที่ Nupar ครับ
สถานที่แรก คือ น้ำตกเซลยาลันฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่มากอีกเช่นกัน และ ได้รับความนิยมมากๆ จากนักท่องเที่ยวครับ
แอบเอากล้องฟิล์มไปด้วย
จุดหมายที่ 2 คือ น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ (Skogafoss) นอกจากความสวยงามแล้ว สามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนเพื่อได้ชมความงามของแม่น้ำ Skóga ได้ด้วยครับ
จุดชมวิวข้างบนครับ
แม่น้ำ Skóga
สูงไหม ถามใจเทอดู
สถานที่ ที่ 3 คือ Dyrholaey แหลมที่ยื่นออกไปเหนือมหาสมุทรครับ และ ข้างล่างนั้น คือ Black Beach หรือ ชายหาดสีดำครับ
พักกลางวันทานข้าวกันดีกว่าครับ เราพักกันที่ร้าน Halldórskaffi เพื่อทานเนื้อแกะกันครับ
สถานที่ ที่ 5 คือ ชายหาด Reynisfjara ความพิเศษของชายหาดแห่งนี้ก็คือหาดที่เต็มไปด้วยทรายสีดำ ดำแบบดำจริงๆครับ
จบวันที่ 2 ครับ เราก็มุ่งหน้าสู่โรงแรม ซึ่งคืนนี้เราพักกันที่ Fosshotel Nupar ครับ
[CR] ห า ย ไ ป พั ก : ณ I c e แ ล น ด์
ก็ตามหัวข้อและรูปนะครับ ผมว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมจะพา “ห า ย ไ ป พั ก” กันที่ไหน ทริปนี้ผมเองและเพื่อนชาวคณะกว่า 9 ชีวิต plan และ เตรียมความพร้อมประมาณ 1 ปี ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นแผนการเดินทาง ข้อมูลต่างๆ และ ที่สำคัญ คือ ผมเก็บตังครับ ฮ่าๆ คนอื่นไม่รู้ แต่ผม ทำงานหาตังวนไปเพื่อทริปนี้
ทริปนี้เป็นมากกว่าการเดินทาง เพราะ มันคือความฝันของผมเองที่จะไปเยื่อนประเทศนี้ ประเทศที่เป็นเกาะ ประเทศที่มีแต่น้ำตก ประเทศที่มีแต่ทุ่งหญ้า ประเทศที่มีประชากรแค่ 348,580 คน ประเทศที่มีขนาดพื้นที่แค่ 103,000 ตารางกิโลเมตร ประเทศที่ปีนี้ได้ไปบอลโลก (2018) และ ทั้งหมดนี้ คือ ประเทศ “ไอซ์แลนด์” ครับ
สำหรับการเดินทางในทริปนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การวางแผน ครับ ผมและผู้ร่วมเดินทางทุกคน วางแผนจะท่องเที่ยวรอบเกาะ ซึ่งสถานที่เที่ยวต่างๆ จะถูกปักหมุดไว้ เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะไปเที่ยวครบทุกที่ ที่เราวางแผนกันไว้ ก็ตามรูปด้านล่างนะครับ
ช่วงเวลาเดินทางที่เลือกกัน คือ ช่วงสงกรานต์ซึ่งมีวันหยุดยาว (12 เมษายน – 22 เมษายน 2561) ทำให้ผมเองไม่ต้องลางานเยอะ และ สามารถมีเวลามากพอที่จะท่องเที่ยว (ตารางเที่ยวง่ายๆ ก็ตามนี้ครับ)
DAY 00: 12 Apr 18 : Bangkok – Helsinki – Reykjavik
DAY 01: 13 Apr 18 : Reykjavik – Kerid Crater – Bruarfoss – Geysir – Gullfoss
DAY 02: 14 Apr 18 : Seljalandsfoss – Skógafoss – Dyrholaey – Vik – Reynisdrangar
DAY 03: 15 Apr 18 : Skaftafell – Svartifoss – Jökulsárlón Glacier Lagoon – Diamond Beach – Hofn
DAY 04 : 16 Apr 18 : Seydisfjordur
DAY 05 : 17 Apr 18 : Seydisfjordur – Husavik
DAY 06 : 18 Apr 18 : Husavik – Akureyri – Hvitserkul
DAY 07 : 19 Apr 18 : Laugarbakki – Stykkishólmur – Kirkjufell
DAY 08 : 20 Apr 18 : Hellnar – Reykjavik
DAY 09 : 21 Apr 18 : Reykjavik – Blue Lagoon
DAY 10 : 22 Apr 18 : Reykjavik – Bangkok Thailand
DAY 00: 12 Apr 18 : Bangkok – Helsinki – Reykjavik :
ผมได้เริ่มเดินทางในคืนของวันที่ 12 เมษายน (23:35) ด้วยการนั่งเครื่องบินจากประเทศบ้านเกิดมุ่งสู่เมือง Helsinki ประเทศ Finland และ ทำการต่อเครื่องไปยังปลายทางของเรา คือ เมือง Reykjavik ด้วยสายการบิน Finair จาก Bangkok – Helsinki ใช้เวลาบิน 10h 10m และ ต่อเครื่องไป Reyjavik ใช้เวลาอีก 3h 42m ร่วมๆ 15 ชั่วโมง ได้กว่าจะถึง นั่งกันเพลิน หลับไม่รู้กี่ตื่น
DAY 01: 13 Apr 18 : Reykjavik – Kerid Crater – Bruarfoss – Geysir – Gullfoss :
(ระยะทางวันนี้ประมาณ 225 KM ครับ)
เครื่องลงเวลาประมาณ 07:30 แต่เช้าเลย สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ไปรับรถที่เราจองไว้ ด้วยความที่ว่าทริปนี้ ผู้ร่วมเดินทางเยอะ เราจึงต้องจองรถไว้ถึง 2 คัน และ เราก็ได้ยานพาหนะ ที่จะพาเราเที่ยวละครับ
สถานที่แรก ที่เราเดินทางไปนั้น คือ Kerid Crater ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วอยู่ทางตะวันออกของเมือง Reykjavik ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึงครับ
จุดหมายที่ 2 คือ น้ำตก Bruarfoss สถานที่เด่นของเราเลยในทริปนี้ เนื่องจาก ยังไม่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากนัก น้ำตกนี้เรียกได้ว่าเป็น hidden gem เลยก็ว่าได้ เพราะ การเดินทางไปยากนิดนึงครับ ต้องเปิดแผนที่ดูดีๆ ขนาดดูดีๆ ยังหลงเลยครับ ฮ่าๆ และยังต้องจอดรถแล้วเดินต่อเพื่อค้นหา แต่มันก็คุ้มค่ามากครับ เพราะ มันสวยมากกกกก รูปว่าสวยแล้วของจริงสวยกว่าในรูปมากกกกกก ครับ
จุดหมายที่ 3 คือ Geysir อยู่ที่ Stokkur ครับ เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินครับ อากาศหนาวๆ เจอน้ำพุร้อนๆ ฟินนน ครับ
หลังจากลงเครื่องกันมาก็ขับรถเที่ยวเลย ทำให้เกิดอาการหิวซิครับ ที่ Geysir ยังมีร้านอาหารที่อร่อยด้วย เราเลยแวะทานอาการกลางวันกันที่นี่ครับ และ ของดีของที่นี่คือ ซุปแกะ ครับ อร่อยมากแถมไม่เหม็นเลยครับ หลังจากอิ่มแล้ว ก็เดินทางต่อครับ
จุดหมายที่ 4 คือ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ซึ่งชื่อของสถานที่นี้ ในภาษาอังกฤษก็มีความหมายว่า “น้ำตกสีทอง” นั่นเองครับ เป็นน้ำตกที่ทั้งสวย ลมแรง และ ยิ่งใหญ่มากครับ
เสร็จจากที่นี่ ก็ขับรถลุยกันต่อครับ เพื่อที่จะไปที่พัก ระหว่างทางที่ขับไปนั้น ถนนหนทางสวยงามมากครับ มองไปทางไหนก็สุดสายตาเสมอ วันนี้พอก่อนพรุ่งนี้ลุยใหม่ครับ
DAY 02: 14 Apr 18 : Seljalandsfoss – Skógafoss – Dyrholaey – Vik – Reynisdrangar :
(ระยะทางวันนี้ประมาณ 222 KM ครับ)
วันนี้เราไปกันหลายที่เลยครับ ประมาณ 5 ที่ ที่เราจะเดินทางกันครับ ปลายทางของเราอยู่ที่ Nupar ครับ
สถานที่แรก คือ น้ำตกเซลยาลันฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่มากอีกเช่นกัน และ ได้รับความนิยมมากๆ จากนักท่องเที่ยวครับ
จุดหมายที่ 2 คือ น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ (Skogafoss) นอกจากความสวยงามแล้ว สามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนเพื่อได้ชมความงามของแม่น้ำ Skóga ได้ด้วยครับ
สถานที่ ที่ 3 คือ Dyrholaey แหลมที่ยื่นออกไปเหนือมหาสมุทรครับ และ ข้างล่างนั้น คือ Black Beach หรือ ชายหาดสีดำครับ
พักกลางวันทานข้าวกันดีกว่าครับ เราพักกันที่ร้าน Halldórskaffi เพื่อทานเนื้อแกะกันครับ
สถานที่ ที่ 5 คือ ชายหาด Reynisfjara ความพิเศษของชายหาดแห่งนี้ก็คือหาดที่เต็มไปด้วยทรายสีดำ ดำแบบดำจริงๆครับ
จบวันที่ 2 ครับ เราก็มุ่งหน้าสู่โรงแรม ซึ่งคืนนี้เราพักกันที่ Fosshotel Nupar ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น