เรามักได้ยินคำว่า นิติรัฐ กันบ่อย ๆ
ว่าบ้านเมืองต้องยึดหลักกฎหมาย เป็นนิติรัฐที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการดำรงอยู่ร่วมกัน
แต่แปลก เรากลับไม่เน้นหนักการเรียนการสอนเรื่องกฎหมาย
กฎหมายกลายเป็นเรื่อง "พิเศษ" สำหรับคนที่ร่ำเรียนไปซะอย่างนั้น
ทั้งที่ควรเป็นเรื่องเบสิค ๆ ที่ทุกคนควรรู้ เข้าใจ ใช้เป็น และรู้จักระมัดระวังพฤติกรรมตัวเองหากจะทำอะไรขัดกฎหมาย
ประเทศไทย ปัญหาสังคมและคอร์รัปชั่น เกิดขึ้นง่ายเพราะความไม่รู้กฎหมายของประชาชน
ไม่รู้ว่าทำแล้วจะผิดกฎหมาย กฎหมายจะลงโทษ เราไม่เน้น ไม่ซึมซับกันในเรื่องตัวบทกฎหมาย
เราไปเน้นแบบหลงทางกับเรื่องจริยธรรมคุณธรรม อันเป็นรูปธรรมที่ไม่ทำไม่มีความผิด
หรือระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เมื่อประชาชนไม่รู้กฎหมาย ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐฉวยโอกาส มีโอกาสคอร์รัปชั่นได้ง่าย ๆ
อย่างไปติดต่อราชการ รอครึ่งวัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่โผล่ อย่างนี้ หากประชาชนรู้กฎหมาย รู้วิธีเอาเรื่อง
เจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะไม่กล้า ไม่เช้าชามเย็นชาม มีประชาชนที่รู้กฎหมายเป็นผู้กำกับควบคุมทางอ้อม
กฎหมายง่าย ๆ อย่างเรื่องกฎจราจร เรายังไม่รู้กัน ไม่ศึกษากัน โดนรีดโดนไถก็โวยเป็นครั้ง ๆ ไป
และกฎหมายอื่น ๆ อีกเยอะแยะที่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้
นิติรัฐ ควรเป็นเรื่องที่คนทุกคนมีความรู้ เข้าใจในเรื่องกฎหมาย
ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องยึดหลักกฎหมายในการปกครองเท่านั้น
อย่างบางประเทศ จะอึจะตด ก็รอฟังเนติบริกรก่อนว่าจะเอาไง
เหมือนเนติบริกรเป็นกฎหมายของบ้านเมืองซะเอง
กฎหมายสำคัญสำหรับประชาชนที่ควรรู้ เวลาติดต่อกับเจ้าหน้ารัฐ ขอยกตัวอย่างมา 2 มาตรา ครับ
คือกฎหมายอาญามาตรา 157 และ มาตรา 200
มาตรา 157
ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 200
ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลงต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้นเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
สองมาตรานี้สำคัญนะครับ เห็นเจ้าพนักงานคนใดแสดงอาการมีนอกมีในล่ะก็
ยกกฎหมายอาญาสองมาตรานี้เล่นงานได้เลย
แต่เพราะคนไทยไม่รู้กฎหมาย เจอเจ้าพนักงานขู่ข่ม ชี้นำ บังคับ หลอก ก็ทำตามเอาง่าย ๆ
ถึงขั้นติดคุกเพราะโดนหลอกให้สารภาพก็เยอะ
หากรู้กฎหมาย เจอเจ้าพนักงานแสดงพฤติกรรมไม่ซื่อล่ะก็ เจ้าพนักงานนั่นแหละครับจะติดคุกซะเอง
เพราะเจ้าพนักงานต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎ ระเบียบ กฎหมายเป๊ะ ผิดจากนี้ คือหมดอนาคต
อย่างกับตำรวจนั่นแหละครับ ในคดีอาญานี่ ตำรวจต้องเดินตาม ป.วิ อาญา เป๊ะ ๆ ไม่ใช่จะใช้อำนาจยังไงก็ได้
จะมาเล่นนอกลู่ ใช้อำนาจแบบผิด ๆ ไม่ได้
สำหรับประชาชน เกี่ยวโยงกับปัญหาสังคม กฎหมายที่ควรรู้ ขอยกตัวอย่าง 2 มาตราเหมือนกันครับ
คือมาตรา 172 และ มาตรา 174
มาตรา 172
ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 174
ถ้าการแจ้งข้อความตาม มาตรา 172 หรือ มาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท
ถ้าการแจ้งตามความในวรรคแรกเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ถ้ารู้กฎหมาย การกลั่นแกล้งกันก็จะไม่เกิด หากจะดำเนินการทางกฎหมาย ก็ต้องรู้กฎหมาย ทำตามกฎหมาย
ไม่ใช่นึกอยากแจ้งความก็แจ้ง อาศัยรู้จักมักคุ้น หรือยัดเงินเจ้าพนักงานให้ปั้นคดี
ติดคุกทั้งคนแจ้งความ ติดคุกทั้งเจ้าพนักงานครับ
มีตัวบทกฎหมายอีกเยอะ ที่ประชาชนควรรู้ ควรศึกษา
เพื่อจะได้เท่าทันเจ้าหน้าของรัฐ ไม้ให้กระทำการใด ๆ นอกลู่นอกทาง อันนำไปสู่ปัญหาสังคมและการคอร์รัปชั่น
ใครไม่รู้กฎหมาย ก็อาศัยนักกฎหมาย อย่าไปอาศัยนักหมายกด
จะหมดทางเดิน เพราะต้องไปอยู่ในเรือนจำแทน
ประชาชนโดนเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ กลัวเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เพราะไม่รู้กฎหมาย
หากประชาชนรู้กฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐจะกลัวประชาชน คอร์รัปขั่นจะลด
มาศึกษากฎหมายกันเถอะครับ
ถ้าประชาชนรู้กฎหมาย ปัญหาสังคมและการคอร์รัปชั่นจะหายไปกว่าครึ่ง ..................... โดย ตระกองขวัญ
ว่าบ้านเมืองต้องยึดหลักกฎหมาย เป็นนิติรัฐที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการดำรงอยู่ร่วมกัน
แต่แปลก เรากลับไม่เน้นหนักการเรียนการสอนเรื่องกฎหมาย
กฎหมายกลายเป็นเรื่อง "พิเศษ" สำหรับคนที่ร่ำเรียนไปซะอย่างนั้น
ทั้งที่ควรเป็นเรื่องเบสิค ๆ ที่ทุกคนควรรู้ เข้าใจ ใช้เป็น และรู้จักระมัดระวังพฤติกรรมตัวเองหากจะทำอะไรขัดกฎหมาย
ประเทศไทย ปัญหาสังคมและคอร์รัปชั่น เกิดขึ้นง่ายเพราะความไม่รู้กฎหมายของประชาชน
ไม่รู้ว่าทำแล้วจะผิดกฎหมาย กฎหมายจะลงโทษ เราไม่เน้น ไม่ซึมซับกันในเรื่องตัวบทกฎหมาย
เราไปเน้นแบบหลงทางกับเรื่องจริยธรรมคุณธรรม อันเป็นรูปธรรมที่ไม่ทำไม่มีความผิด
หรือระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เมื่อประชาชนไม่รู้กฎหมาย ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐฉวยโอกาส มีโอกาสคอร์รัปชั่นได้ง่าย ๆ
อย่างไปติดต่อราชการ รอครึ่งวัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่โผล่ อย่างนี้ หากประชาชนรู้กฎหมาย รู้วิธีเอาเรื่อง
เจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะไม่กล้า ไม่เช้าชามเย็นชาม มีประชาชนที่รู้กฎหมายเป็นผู้กำกับควบคุมทางอ้อม
กฎหมายง่าย ๆ อย่างเรื่องกฎจราจร เรายังไม่รู้กัน ไม่ศึกษากัน โดนรีดโดนไถก็โวยเป็นครั้ง ๆ ไป
และกฎหมายอื่น ๆ อีกเยอะแยะที่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้
นิติรัฐ ควรเป็นเรื่องที่คนทุกคนมีความรู้ เข้าใจในเรื่องกฎหมาย
ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องยึดหลักกฎหมายในการปกครองเท่านั้น
อย่างบางประเทศ จะอึจะตด ก็รอฟังเนติบริกรก่อนว่าจะเอาไง
เหมือนเนติบริกรเป็นกฎหมายของบ้านเมืองซะเอง
กฎหมายสำคัญสำหรับประชาชนที่ควรรู้ เวลาติดต่อกับเจ้าหน้ารัฐ ขอยกตัวอย่างมา 2 มาตรา ครับ
คือกฎหมายอาญามาตรา 157 และ มาตรา 200
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 200 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลงต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้นเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
สองมาตรานี้สำคัญนะครับ เห็นเจ้าพนักงานคนใดแสดงอาการมีนอกมีในล่ะก็
ยกกฎหมายอาญาสองมาตรานี้เล่นงานได้เลย
แต่เพราะคนไทยไม่รู้กฎหมาย เจอเจ้าพนักงานขู่ข่ม ชี้นำ บังคับ หลอก ก็ทำตามเอาง่าย ๆ
ถึงขั้นติดคุกเพราะโดนหลอกให้สารภาพก็เยอะ
หากรู้กฎหมาย เจอเจ้าพนักงานแสดงพฤติกรรมไม่ซื่อล่ะก็ เจ้าพนักงานนั่นแหละครับจะติดคุกซะเอง
เพราะเจ้าพนักงานต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎ ระเบียบ กฎหมายเป๊ะ ผิดจากนี้ คือหมดอนาคต
อย่างกับตำรวจนั่นแหละครับ ในคดีอาญานี่ ตำรวจต้องเดินตาม ป.วิ อาญา เป๊ะ ๆ ไม่ใช่จะใช้อำนาจยังไงก็ได้
จะมาเล่นนอกลู่ ใช้อำนาจแบบผิด ๆ ไม่ได้
สำหรับประชาชน เกี่ยวโยงกับปัญหาสังคม กฎหมายที่ควรรู้ ขอยกตัวอย่าง 2 มาตราเหมือนกันครับ
คือมาตรา 172 และ มาตรา 174
มาตรา 172 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 174 ถ้าการแจ้งข้อความตาม มาตรา 172 หรือ มาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท
ถ้าการแจ้งตามความในวรรคแรกเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ถ้ารู้กฎหมาย การกลั่นแกล้งกันก็จะไม่เกิด หากจะดำเนินการทางกฎหมาย ก็ต้องรู้กฎหมาย ทำตามกฎหมาย
ไม่ใช่นึกอยากแจ้งความก็แจ้ง อาศัยรู้จักมักคุ้น หรือยัดเงินเจ้าพนักงานให้ปั้นคดี
ติดคุกทั้งคนแจ้งความ ติดคุกทั้งเจ้าพนักงานครับ
มีตัวบทกฎหมายอีกเยอะ ที่ประชาชนควรรู้ ควรศึกษา
เพื่อจะได้เท่าทันเจ้าหน้าของรัฐ ไม้ให้กระทำการใด ๆ นอกลู่นอกทาง อันนำไปสู่ปัญหาสังคมและการคอร์รัปชั่น
ใครไม่รู้กฎหมาย ก็อาศัยนักกฎหมาย อย่าไปอาศัยนักหมายกด
จะหมดทางเดิน เพราะต้องไปอยู่ในเรือนจำแทน
ประชาชนโดนเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ กลัวเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เพราะไม่รู้กฎหมาย
หากประชาชนรู้กฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐจะกลัวประชาชน คอร์รัปขั่นจะลด
มาศึกษากฎหมายกันเถอะครับ