สวัสดีครับสมาชิกพันทิปทุกท่าน หลังจาก oppo F9 เปิดจำหน่ายไปซักระยะ ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ด้วยสเปคที่ให้มาถือว่าคุ้มค่ามาก โดยเฉพาะเรื่องการชาร์จแบต ถือว่าเป็นรุ่นแรกของ OPPO ซีรี่ย์ F ที่ใส่ระบบชาร์จเร็ว VOOC flash charge  มาให้ ชาร์จ 5 นาที โทรได้สองชั่วโมง

ใช้งานปลอดภัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัยถึง 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ สายไฟต่อพ่วง ยันตัวเครื่อง ถ้าอุปกรณ์ชิ้นไหนไม่ได้มาตราฐานของ oppo ระบบ VOOC จะไม่ทำงานโดยเด็ดขาด
แบตเตอรี่ 3500 mAh ใช้งานได้ยาวนานครบวันสบายๆครับ ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่แบตใช้งานได้ยาวนานพอสมควร แม้จะถ่ายรูปหรือเล่นเกมส์ สำหรับคนท่องโซลเชียลไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปเรื่องแบตหมดกลางทาง ท่องได้ยาวนานแน่นอน

อุปกรณ์ภายในกล่องก็มีมาให้ครบเพียงแกะกล่องก็พร้อมใช้งานได้ทันที ตัวเครื่องติดฟิมล์หน้าจอมาให้เรียบร้อย ชุด VOOC flash charge ก็มีมาให้ภายในกล่อง และเคสซิลิโคนแบบใสด้วยครับ


รอยบากหน้าจอแบบหยดน้ำ(Waterdrop Screen) แรงบันดาลมาจากธรรมชาติทำให้ได้พื้นที่หน้าจอแสดงผลที่เต็มตากว่า ขอบจอด้านข้างเหลือพื้นที่น้อยมากๆ ตรงบริเวณรอยบากจะมีกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์วัดแสงต่างๆ หนือบริเวณขอบจอจะมีลำโพงสนทนามาให้

หน้าจอ TFT-LTPS ขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด FHD+ 2340×1080 พิกเซล  409 ppi กระจกแบบ Corning Gorilla Glass สัดส่วนจอ 90.8% ขอบข้างหน้าจอทั้งซ้ายและขวาบางจนเหลือแค่ 1.7 มม. ทำให้ขนาดตัวเครื่องเล็กลง การแสดงผลก็ถือว่าสวยงามเลยนะ แต่ทัชแอบหนืดๆนิดไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟิมล์ที่ติดมากับเครื่องไหม

การออกแบบตัวเครื่องจะใช้ฝาหลังแบบการไล่เฉดสีเข้ามาช่วยและช่วยให้เกิดแสงสะท้อนที่สวยงาม ลวดลายแบบกลีบดอกไม้ ช่วยให้ตัวเครื่องน่าถือใช้งานมากขึ้น


ตำแหน่งของปุ่มสแกนลายนิ้วมือ  (Fingerprint Scanner) จะอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง สะดวกมากเวลาหยิบขึ้นมาใช้งาน และมีระบบปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้าอีกทีครับ

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้าขนาด 25 ล้านพิกเซล f2.0 ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI Beauty 2.1 สามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้ถึง 296 จุด 25 โซน รวมถึงวิเคราะห์ลักษณะใบหน้า ผิวพรรณ และเพศได้ด้วย กล้องหน้ามี HDR ช่วยชดเชยแสงให้การเซลฟี่ที่แสงน้อยให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สวยแม้แสงน้อยนั้นเอง และจะมี AR เข้ามาช่วยให้การเซลฟี่สนุกยิ่งขึ้นนั้นเอง







กล้องหลังคู่ Dual Camera ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล F1.8 และ f2.4 พร้อมกับระบบกันสั่น EIS (Electronic image stabilization) มาพร้อมกับโหมดกล้องหลังคู่ AI Scene Recognition สามารถถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัด-หลังเบลอ ให้ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น และยังมี AI Beauty 2.1 ในโหมดกล้องหลังเช่นกัน

ปรับแต่งภาพได้ตามใจ

- Super Vivid Mode ช่วยแต่งเติมแสงไฟและสีสันให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เฉดสีที่แยกชัดเจนระหว่างตัวบุคคลและพื้นหลัง โดยนอกจากจะสามารถใช้ในโหมดภาพนิ่งแล้ว ยังสามารถใช้ในโหมดบันทึกวิดีโอได้อีกด้วย
- AR Sticker OPPO F9 มาพร้อมกับ AR Sticker แบบใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น ทั้งในรูปแบบวิดีโอและรูปภาพ รวมถึงใส่เพลงคลอไปได้อีกด้วย
- Slow motion  OPPO F9 มาพร้อมกับฟีเจอร์บันทึกวิดีโอแบบ Slow motion ได้ที่ 120fps ความละเอียด 720p พร้อมด้วยระบบกันสั่น EIS จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถเนรมิตโมเม้นสนุกๆ แม้มีการสั่นไหว
- Google Lens เลนส์กล้องสามารถระบุวัตถุได้ พร้อมค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุนั้นๆ


ภาพบุคคล




ภาพ auto AI Scene Recognition



















โหมดเลือกปรับเอง


ประสิทธิภาพการทำงาน
oppo F9 มาพร้อมกับชิปประมวลผล MTK P60 Octa-core 2.0 GHz หน่วยความจำ RAM 6 GB / ROM 64 GB และยังรองรับหน่วยความจำแบบ microSD Card ได้สูงสุด 256GB ถาดซิมแบบ 3 สล็อตแยกกันทำงานชัดเจน

ชิประมวลผลชุดนี้ถือว่าแรงใช้ได้เลยครับ สามารถเอาไปเล่นเกมส์โหมด 3D โหดๆได้ อาจจะไม่ลื่นเหมือนเรือธง แต่ก็พอเล่นได้ดีในงบหมื่นต้นๆกันเลย แถมมีระบบการจัดการที่ดีเยี่ยมอีกด้วย



รองรับ Dual 4G LTE / Dual VoLTE และ WiFi 5.0 ส่วนเซ็นเซอร์ต่างๆทีจำเป็นก็มีมาให้ครบ และระบบนำทางด้วย GPS ก็ถือว่าแม่นยำ จับสัญญาณได้เร็วด้วย


OPPO F9 มากับ Android 8.1 (Oreo) ครอบทับด้วย Color OS 5.2 หน้าตา UI และการตั้งค่าเน้นความเรียบง่าย และมีธีมสวยๆไว้ให้โหลดใช้งานฟรีเช่นเดิม การแจ้งเตือนต่างๆทำได้ดีครับ ไม่พลาดการติดต่อแน่นอน และรองรับการใช้งานแอพคู่ด้วย

สรุป

หลังจากที่ผมได้มีโอกาสใช้ OPPO F9 ครบหนึ่งเดือนเศษๆ ต้องยอมรับว่า OPPO F9 ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากๆ หน้าจอแสดงผลได้สีสันสวยงาม แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องยาวนานแถมมีระบบชาร์จเร็วเข้ามาช่วย และที่ประทับจับสุดๆคงเป็นกล้องถ่ายภาพครับ วางใจได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้วยชื่อเสียงของ OPPO เรื่องการถ่ายเซลฟี่ต้องยกให้เขาครับ ทำงานได้ฉลาดขึ้น มี HDR เข้ามาช่วยในการเซลฟี่แสงน้อยให้ตัวบุคคลโดดเด่นยิ่งขึ้น สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้เช่นกัน ส่วนกล้องหลัง สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเงาและแสงก็สามารถถ่ายออกมาสวยได้เช่นกัน เพราะ OPPO F9 จะทำงานร่วมกับ AI จะมีซีนถ่ายภาพ auto มาให้ภายในตัวเครื่อง เพียงชี้กล้องไปที่ไหนมันก็จะประมวลผลให้ว่าควรเลือกใช้ซีนไหนนั้นเอง คือแทบจะไม่ต้องไปตั้งค่าเพิ่มเติมเลยครับ ภาพที่ออกมาถือว่าสวยเลย สำหรับคนที่เน้นกล้องหน้าและกล้องหลัง ไว้ใจได้เลยครับในงบนี้ทำผลงานได้ดีจริง

ชิปประมวลผลทำงานได้ดี พร้อมกับหน่วยความจำ RAM 6 GB ทำงานได้ราบรื่นไม่มีสะดุดแม้เปิดแอ๊พทิ้งไว้พร้อมๆกันหลายหน้า  และ ROM 64 GB น่าจะเพียงพอสำหรับการเก็บไฟล์ต่างๆ ถ้าไม่พอก็สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้อีกถึง 256 GB

ด้วยค่าตัวที่ 10,990 บาท ได้หน้าจอที่สวยงาม รองรับ Dual 4G LTE / Dual VoLTE และ WiFi 5.0 ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบต 3500 mAh และมีระบบชาร์จเร็วมาให้ กล้องหน้าและหลังที่วางใจได้ ผมถือว่าคุ้มจริง

ข้อพิจารณา
ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฟิมล์หน้าจอไหม ทำให้การทัชไม่ค่อยลื่นเท่าที่ควร แต่ยอมรับว่าการแสดงผลหน้าจอ สีสวยมาก ในงบหมื่นต้นๆ / ฝาหลังแนะนำให้ใส่เคสที่แถมมานะครับ เพราะค่อยข้างจะเป็นรอยง่าย

ขอขอบคุณเพจ oppo east thailand ที่ชวนไปเที่ยวพัทยาและได้เก็บภาพสวยๆมาฝากสมาชิกด้วยครับ