[CR] After The Rain – อีกครั้งที่หนังโรแมนติคจากญีปุ่น โปรยปรายความรู้สึกดีให้คนดู มากกว่าแค่เรื่องของคู่ แต่คือวัยและความฝัน

*** คำเตือน : มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง แต่จะอ่านก็ได้ ไปดูแล้วจะยิ่ง get สิ่งที่หนังสื่อ ***



ฝนตก บร๊ะเจ้าโจ๊ก ผู้หญิง

After the Rain
หนังจบสวย ว่าด้วยความรักของเด็กกับผู้ใหญ่ ผูกเข้ากับความฝัน มีกลิ่นอาย coming of age เบาๆ คู่ขนานกันไปได้โคตรดี กลายเป็น 1 ใน 3 หนังญี่ปุ่นยกขึ้นหิ้งส่วนตัวเลยทีเดียว


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

After The Rain หนังสัญชาติญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดที่ได้คะแนนเต็มจากคอหนัง Life อย่างผมไปได้ไม่อย่างไม่ยากเย็นภายใต้ความเรียบง่ายของเนื้อหาหลัก ๆ ที่ว่าด้วยคน 2 วัย ผู้หลงลืมความฝันที่เคยวาดหวัง ลืม passion ในสิ่งที่ชอบ แต่นั่นก็คงไม่แปลกหรอก ถ้าหากในไทม์ไลน์ของช่วงชีวิตเราจะมีบางช่วงบางตอนที่เขวไปบ้าง บางคนอาจเขวออกไปแล้วเลยไปเลย แต่บางคนเขวแล้วกลับนึกคิดอะไรบางอย่างได้

หนังค่อย ๆ เผยที่มาที่ไปของตัวละครจนเราได้เห็นมิติที่เป็นปมเขื่องลึก ๆ ข้างในจิตใจของแต่ละตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่พระนางต่างวัยลิบลับ อย่างนางเอก นักเรียนสาวมัธยมวัยใส หน้าตาสะสวย อีกทั้งยังพ่วงมาด้วยดีกรีนักวิ่ง แข่งชนะรางวัลที่ 1 โรงเรียนด้วยสถิติที่คนอื่นยากจะทำลายได้ ออกข่าวสะพัดไปทั่ว จนใคร ๆ ในย่านนี้ก็รู้จักความสามารถที่สุดยอดนี้ของเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งในวันฝนตกได้บังเอิญมาเจอกับ พระเอก ชายวัยสี่สิบกว่า ในตำแหน่งผู้จัดการร้านอาหาร ชีวิตถูกใช้ไปกับงานรูทีนในร้าน หมดวันก็กลับมานอนในอพาร์ทเม้นท์ห้องเล็ก ๆ อย่างโดดเดี่ยวตัวคนเดียว ด้วยสถานะม่ายจากการถูกหย่าจากภรรยา ดูจะตอกย้ำความล้มเหลวของอะไรบางอย่างในตัวเขา ที่เขาเองก็คงครุ่นคิดอยู่เสมอมา ด้วยฐานะทางสังคมและอายุอานามปูนนี้แล้ว สาวที่ไหนก็คงไม่แล จริงไหม?

ก่อนจะลงดีเทลในสิ่งที่ตกผลึกได้จากการรับชม ก่อนอื่น เห็นผ่านตาแว่บ ๆ มาว่ามีเว็บไซต์หนังบางแห่งเขียนโปรโมทเรื่องนี้ไว้ซะ mislead จาก key messagse ที่หนังต้องการจะสื่อสาร จึงขอใช้ย่อหน้านี้มาช่วยแก้ต่างให้แก่คนทำหนังว่า นี่ไม่ใช่หนังผู้ใหญ่กินเด็ก หรือหนังที่ดูแล้วจะมีจิตคิดอกุศลกับเด็กได้เลย เพราะมันไม่ใช่หนังพล็อตกลวง ๆ ประเภทปิ๊ง ๆ กันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ซึ่งมีให้ดูดาษดื่นตามท้องตลาดแล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้ ต้องชมเลยว่าเขา craft พล็อตมาดีจริง ๆ และใส่มิติของปักเจกบุคคล ใส่ความเป็นคนเข้าไป ทำให้ความรักในเรื่องนี้ดูจริงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ มันมีเหตุมีผลรองรับมากมาย

แต่ละตัวละครที่ปรากฏในเรื่อง ดูจะมีรอยแผลจากความฝันใฝ่ ที่ก็ไม่ได้ต่างกับใคร ๆ บนโลกนี้ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งมีอารมณ์ มีความรู้สึก สมหวัง ผิดหวัง คละเคล้ากันไป ทำให้ทุกคนสามารถดูแล้วอินเข้าไปในเนื้อเรื่องอย่างง่ายดาย

ในแง่ของนางเอกที่แม้จะดูไม่ประสีประสากับความรัก ถึงแม้เธอจะอยู่ในวัย puppy love แต่กลับมีความชอบพระเอกอย่างเอาจริงเอาจัง ตอนที่เพื่อนผู้หญิงวัยเดียวกันกับเธอพูดถึงหนุ่ม ๆ ที่น่าจะดึงดูดสาวๆ ได้มากกว่า แต่เธอกับไม่มีทีท่าสนใจหนุ่ม ๆ เหล่านั้น แต่เมื่อพระเอกผู้มีความเป็นผู้ใหญ่ใจดี ทำหน้าที่การงานได้ดี ทำให้เธอเริ่มสนใจในพาร์ทนี้ของพระเอก โดยที่เธอไม่ได้คำนึงไปถึงขั้นว่าเขาเป็นผู้จัดการ หรือเขามีทั้งความสะดวกสบาย เพราะแท้จริง พระเอกก็ไม่ได้ high profile แถมคนรอบข้างพระเอกยังพูดถึงเรื่องกลิ่นตัวที่ไม่พิสมัยกันอยู่เนือง ๆ

ดังนั้น ไม่แปลกนัก ถ้าบางทีความรักจะก่อกำเนิดมาจากความประทับใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เข้ามา ณ ขณะช่วงเวลาที่มันพอเหมาะพอเจาะกับเหตุการณ์ส่วนตัวบางอย่าง นับตั้งแต่ที่นางเอกเจอพระเอกตอนนั้น มันได้ส่งผลให้นางเอกจริงจังกับความรู้สึกของตัวเองขึ้นมา จริง ๆ แล้ว เธออาจเพียงต้องการเพื่อน ไว้คอยให้กำลังใจ ซัพพอร์ทความคิดในมุมที่มืดมิดและเหน็บหนาวอีกด้านหนึ่งของเธอ เด็กสาวจากครอบครัวที่หย่าร้างไป อาจทำให้เธอโหยหาจาก “การขาด” อะไรในสิ่งที่ควรจะได้/หรือเคยได้รับมาจากพ่อก็เป็นได้ ซึ่งตัวนางเอกเองก็พูดไว้ว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อนะ

แล้วมันจะผิดหรือไร? ถ้าเด็กสาวมัธยมวัยแรกแย้มจะเกิดนึกชอบคนอายุที่มากกว่ากันเป็นหลาย ๆ รุ่น อันเนื่องมาจากเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ หากผู้นั้นสามารถปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งแรงบันดาลใจให้งอกงามต่อตัวเธอได้… และถึงแม้ในฝั่งพระเอกจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยรึไม่ก็ตามแต่… ก็ยังไม่แน่หรอกว่าในอีกด้านหนึ่ง คือเขาไม่สามารถจะคิดแบบนั้นได้เลย (ก็อาจจะชอบในใจอยู่ลึก ๆ เพียงแต่โลกความจริงของสังคมกางกั้นกรอบเอาไว้จนกลายเป็นเหมือนความรักที่เป็นไปไม่ได้)

หนังปิดเรื่องสวยงาม นางเอกน่ารัก สวยเลยล่ะ แพ้ผู้หญิงมีขี้แมลงที่หน้า มองแล้วแพ้ แถมคาแรคเตอร์ความเก่งระดับตัว top ของโรงเรียน ทำให้ตกหลุมรักได้ไม่ยาก นอกจากมิติในด้านตัวละคร ผมชอบไดอะล็อก ที่เรียบง่าย คล้ายชีวิตประจำวัน แต่การเอาประโยคเหล่านั้นมาอยู่ในหนังเรื่องนี้ ทำให้ซึมซาบถึงความดีปในความสัมพันธ์ขึ้นเยอะ มุกตลกก็เพียบ มุมหวาน ๆ ก็เยอะ โรแมนติคแบบไม่หวือหวา แต่ทำให้ยิ้มกว้าง ๆ แช่ไว้ได้เลยในหลายฉาก

การลำดับภาพ/ตัดต่อ ทำได้ดีมาก ๆ แต่งสีสวย โปรดักชั่นก็วางเฟรมเก่ง ภาพสวย สื่อความหมายได้ครบถ้วนภายในเฟรมเดียว โดยมีซีนหนึ่งที่งดงามมาก ๆ จนผมคิดอยากกลับไปซื้อตั๋วดูในโรงซ้ำ ๆ นั่นคือ ฝนตกตอนที่พระเอกกลับมาในห้องของตัวเองท่ามกลางกองหนังสือวรรณกรรมกองเรียงราย พระเอกค่อย ๆ พึมพำกวีของราโชมอน แล้วหนังก็ค่อย ๆ เติมเพลงแอมเบียนต์อุ่น ๆ ใส่เข้ามาได้ลงตัวกับภาพมาก อยากกลับไปนั่งดูฉากนั้น และฟังโควตนั้นซ้ำ ๆ เลย ผมแนะนำถ้าเกิดคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการเสพดนตรี score แอมเบียนต์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องนี้น่าจะทำให้คุณได้อุทานเบา ๆ ในใจหลายรอบว่าเพลงโคตรดี

ผมหละชอบหนังเรื่องนี้ตรงที่กระเทาะเปลือกให้เหลือแต่แก่น เอามาแฝงอยู่ในแต่ละคัทซีน ทุก ๆ คัทมีความหมาย มีเรื่องให้อินได้ไม่ยาก ทำให้ความยาว 2 ชั่วโมงของหนังกลับดูกระชับรวดรัดเลยทีเดียว ใช้การเล่าเรื่องสับไปมาให้เห็นอัตลักษณ์ของทั้งสองวัย ได้กลิ่นอายของหนัง coming of age อยู่พอตัว ทำให้เป็นหนังญี่ปุ่นที่ดูไม่ยาก ไม่ต้องมานั่งขบคิดถอดสัญญะอะไรกันมากมาย แถมการใส่เมตาฟอร์ในเรื่องนี้ทำได้ฉลาด กำลังพอดิบพอดี จังหวะได้ ช่วยขับให้เรื่องราวสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

ชอบตอนจบที่เลือกปล่อยเป็นปลายเปิด เป็นการทิ้งอะไรไว้ในใจคนดูได้เลือกตอบตัวเองได้อย่างมีเสน่ห์ ชอบความรู้สึกหลังจากที่หนังจบ เดินออกจากโรงภาพยนตร์ มันอบอวลไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ต่างกับสมัยดู If Cats Disappeared from the World เลยก็ว่าได้ ดังนั้น หากช่วงนี้ คนไหนกำลังถวิลหาหนังดี ๆ ไว้ดูเพื่อปรับอารมณ์ ความคิด ทัศนคติ สักเรื่องที่จะทำให้รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจแบบนั้น ก็คงต้องมาดูเรื่อง After The Rain นี้แล้วล่ะ แล้วหน้าฝนของเราก็จะแปรเปลี่ยนเป็นมุมมองใหม่ได้อย่างน่าประหลาดใจเหลือเกินครับ

โดยสรุปแล้ว นี่จึงเป็นหนังชีวิต ที่ว่าด้วยเรื่องของวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ความรัก หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ ภาระ ความฝัน ที่ผนวกรวมเข้ากันแล้วปั่น blend in เป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างยูนีคมาก ๆ โดยมี “ฝน” เป็นกิมมิคหนึ่งที่เล่นคำได้ดี และเข้าใจแล้วว่าทำไมจึงตั้งชื่อเรื่องไว้อย่างเรียบง่ายเช่นนั้น หากแต่มัน “มีอะไร” ที่ทิ้งไว้ในใจคนดูได้ดีจริง

อย่างน้อยก็คาดเดาอนาคตของทั้งคู่หลังฉากจบกันได้ตามแต่ใจชอบว่า มิตรภาพระหว่างสองคนนั้นก็จะยังมีอยู่ต่อไปอย่างไร แค่ไหน แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ ส่วนตัวผมเองนั้นเชื่อว่าความรักต่างวัยเป็นได้แค่นี้ก็ดีมากมายเท่าไหร่แล้ว การโคจรมาพบเจอกันของคนสองคนต่างบันดาลใจให้กันและกันได้อย่างน่าประหลาด เสมือนไม้ขีดไฟเล็ก ๆ ที่จุดติดประกายกันติดให้ลุกลามขยายสู่เพลิงที่โหมแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้เกิดระหว่างกันได้มหาศาล ซึ่งก็ไม่แน่นะครับ… ณ ตอนนี้ คุณอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครบางคนอยู่โดยไม่รู้ตัวก็เป็นไปได้ สังเกตอย่างรุ่นน้องของนางเอกในเรื่อง ก็ถึงกับมาสารภาพเลยว่า นางเอกเป็นแรงผลักดันให้เธอมาฝึกซ้อมวิ่งแม้จะเคยบาดเจ็บ

ดังนั้น ถ้าคิดว่ายังไหว ก็ทำมันต่อไป ไม่ใช่เพื่อคนที่ยกยอปอปั้นเราอยู่หรอกนะ หากแต่เป็นเพื่อตัวเราเองต่างหาก เจ้าความรู้สึกเวลาเราได้ไปอยู่บนยอดพีระมิดแห่งตน อย่างที่นักจิตวิทยาเรียกมันว่า Self-actualization มันช่างดีต่อใจเสียจริง

สุดท้าย เราทุกคนพึงตระหนักถึงเวลาที่มีเหลือในชีวิตนี้ ที่ก็กำลังค่อย ๆ “เคลื่อนผ่าน” ไปในแต่ละฤดูกาล ชีวิตอยู่ภายใต้วัฏจักรนี้ ไม่มีใครเลี่ยงได้ มีหน้าฝน มีหน้าร้อน มีหน้าหนาว เวลากำลังก้าวเดินอยู่ โดยที่ทุกคนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในฤดูฝนถัดไป.


________________________________________
Score: 10/10  A+
Full review: https://blog.folkdo.com/aftertherain/
เยี่ยม
________________________________________


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   ภาพยนตร์ After The Rain (2018) หนังญี่ปุ่น
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่