คนที่มีชีวิตที่ไม่ค่อยดิ้นรนมาตั้งแต่เกิด คิดบ้างไหมครับ ว่าเราจะไปแข่งกับคนอื่นให้มันเหนื่อยทำไม

สมมติตั้งแต่เกิดมาคุณเป็นคนที่ไม่ต้องขัดสน ดิ้นรนอะไรเลย แม้ว่าจะไม่ร่ำรวยร้อยล้านพันล้าน แต่ก็ไม่ได้เห็นว่าการร่ำรวยร้อยล้านพันล้านมันจะมีความหมายอะไรต่อชีวิตเท่าไหร่นัก และอนาคตหลังจากนี้ก็ไม่ได้จะอดอยาก ลำบาก หรือมีภาระต้องส่งเสียเลี้ยงดูใคร

บางคนอาจมองว่าคนที่คิดอะไรแบบนี้ เป็นคนไม่มีแรงผลักดัน เป็นคนล่องลอยอยู่ไปวันๆ ปล่อยลมหายใจทิ้ง ชีวิตจืดชืด หรือแม้กระทั่งเสียชาติเกิด

แต่มันก็เป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่จะคิดไม่เหมือนกัน ใช่ไหมครับ พอนึกดูแล้ว ชีวิตคนเราก็สั้น และก็ไม่ได้สลักสำคัญ ต่อโลก สัตว์ร่วมโลก หรือธรรมชาติอะไรมากมาย แค่อยู่ไปในสังคม ที่ถูกครอบด้วยค่านิยม ความเชื่อ สมมติที่สร้างบรรทัดฐานอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาในสังคม เช่น สมรส มีครอบครัว มีชื่อเสียง ครอบครองทรัพย์ มีสถานะทางสังคม มีตัวตนในโลกทางวิชาการ หรือในทางสังคมการเมือง

ผมเคยดูตลกรายการ บริษัทฮาไม่จำกัด ที่เชิญพ่อดม (อุดม ชวนชื่น) มา นั่งดูไปเรื่อยๆ พอถึงตอนที่ให้พ่อดมฝากข้อคิดอะไรถึงคนดูทางบ้าน หลังจากที่ตัวเองได้ใช้ชีวิตอยู่จนป่านนี้ ตอนนั้นพ่อดมพูดอะไรสักอย่างที่ฟังแล้ว ดูเรียบง่าย ธรรมดา แต่มันเข้าไปถึงแก่นแท้ของชีวิตมากเลย

แกพูดคล้ายๆ กับว่า คนเราก็มีบุญวาสนา เท่าที่ตัวเองจะมีได้ในตอนนี้เท่านั้นแหละ แค่มีความสุขกับสิ่งที่มี ไม่ต้องไปเห็นว่าคนอื่นดีกว่า คนอื่นเป็นยังไง เพราะมันก็เอามาทุกข์ในใจเราเปล่าๆ

ทั้งที่มันเป็นคำพูดเชยๆ ที่เคยได้ยินซ้ำๆ มาก่อนแล้ว แต่ฟังพ่อดมพูดตอนนั้น แล้วมันกระแทกใจบอกไม่ถูก แค่รู้สึกว่า คนที่มีชีวิตอยู่จนถึงป่านนี้ แล้วตกผลึกสิ่งนี้มาบอกคนอื่นได้ มันลึกซึ้งอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนมักลืมๆ กันไป

บางครั้งการรู้สึกพอ มันเป็นสิ่งที่ยากมาก และคนที่เข้าถึงตรงนี้ได้ ผมรู้สึกว่าเขาโชคดีมากๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็คงเป็นเรื่องนานาจิตตัง ที่คงเอามาวัดกับทุกคนไม่ได้ แล้วคุณคิดว่า สำหรับตัวคุณเอง รู้สึกพอ หรือรู้สึกไม่อยากขวนขวายอะไรอีกแล้วบ้างไหมครับ เพราะในชีวิตจริง ถ้าเรายังไม่อายุถึงพ่อดม ไม่มีอะไรที่คนตั้งบรรทัดฐานไว้ว่านั่นคือความสำเร็จ แต่มาพูดว่าตัวเองรู้สึกพอแล้ว มันคงอหังการ์มากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่