*ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ: "เอมิลี่" (เบลค ไลฟ์ลี) เป็นสุดยอดสาวในวงการแฟชั่นระดับตำนาน และมีชีวิตส่วนตัวที่สุดจะลึกลับยากจะสัมผัสได้

ส่วน "สเตฟานี่" (แอนนา เคนดริก) ก็เป็นคุณแม่ Vlogger แสนธรรมดาที่ไม่มีเหลี่ยมคมใดๆ

สองคนนี้เกิดมาผูกมิตรกันได้โดยบังเอิญ และดูเหมือนพวกเธอจะเข้าใกล้คำว่า "เพื่อน" มากที่สุดแล้ว

แต่แล้วเอมิลี่ก็หายตัวไปแบบไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตส่วนตัวเธอทำอะไร เหตุการณ์นี้มีลับลมคมในอะไรหรือเปล่า สเตฟานี่จะเป็นคนที่หาคำตอบให้คำถามเหล่านั้นให้ได้




1.ถ้าไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ แต่ "เบลคเจิดมากกกกก" คือผมกล้าพูดเลยว่าเบลคแบกหนังเรื่องนี้ไว้จริงๆ ด้วยจริตและเทคนิคการสื่ออารมณ์หลายๆ อย่างทำให้หนังคงความเป็นปริศนาเอาไว้ได้ดี

เรียกได้ว่าทุกย่างก้าวของตัวละครเอมิลี่ล้วนสร้างความใคร่รู้ให้เราได้หมด ไหนจะคอสตูมที่โคตรจะ cool จนเห็นได้ชัดอีก เรียกได้ว่าทุกอย่างของหนังส่งให้ตัวละครเอมิลี่โดดเด่นขึ้นมาเหนือทุกสิ่งจริงๆ

2.อารมณ์ขันของหนังน่าสนใจดี ในช่วงต้นเรื่องถือว่าเรียกเสียงฮาในโรงได้เป็นระยะๆ มันเป็นมุกในสไตล์เสียดสี-ตลกร้ายแบบที่ผมค่อนข้างชอบก็เลยคลิกได้ไม่ยาก ความบันเทิงในอีกแง่มุมหนึ่งก็คือมุกเปิ่นๆ ของแอนนาที่เป็น signature ของนางก็ถือว่าพอได้อยู่โอเค อาจจะไม่เฉียบไปซะทุกมุก แต่มันก็พอไปได้แหละ

3.ในบางช่วงหนังก็สามารถปั้นอารมณ์ของ mystery-thriller ได้น่าสนใจมาก ต้องสารภาพว่าโดยส่วนตัวผมเป็นแฟนหนังสไตล์ Gone Girl มากๆ และหนังเรื่องนี้มันก็มีบางจุดที่มันให้อารมณ์ที่สุดยอดชวนขนลุกได้จริงๆ

มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เราอึ้งกับปริศนาที่เรื่องเปิดเผยออกมาได้ โดยเฉพาะฉาก "จัดตู้เสื้อผ้า" นี่ต้องซูฮกเลยว่าขนลุกมากกกกกกก ถ้าหนังมันคงอารมณ์ตรงนั้นไว้ทั้งเรื่องได้ก็คงดี



1.ผมคิดว่าแอนนา เคนดริกยังไม่พร้อมสำหรับหนังพล็อตจริงจังแบบนี้ จริงอยู่ที่ว่าเธอเป็นทั้งจุดดีและจุดเสียของหนังเรื่องนี้ไปในเวลาเดียวกัน แต่มันก็ยังมีความรู้สึก "ผิดที่ผิดทาง" เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะในฉากสำคัญต่างๆ ที่ต้องสื่ออารมณ์ออกมาให้ได้ แต่ภาพออกมามันก็เห็นได้ชัดๆ เลยว่าตัวละครสเตฟานี่ไม่มีทางวัดมือกับเอมิลี่ได้อยู่แล้ว ของมันแข่งกันไม่ได้จริงๆ

2."ความยาวของหนัง" อาจเป็นปัญหานิดหน่อย ในช่วงองก์ท้ายของหนังมันยืดยาวจนเกินความจำเป็น เนื้อหามันไม่ได้แน่นจนขนาดที่จะต้องลากไปถึง 2 ชั่วโมงแบบนั้น โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้ามัน wrap-up ตัวเองให้เหลือชั่วโมงครึ่งได้มันน่าจะเป็นจังหวะการเล่าเรื่องที่ดีกว่านี้แน่นอน

3.การดำเนินเรื่องอาจจะกระโดดข้ามไปมาผิดจังหวะไป ฉากที่ควรจะ impact กับอารมณ์ของเรามากๆ เช่น "ฉากพี่ชายและสามี" ก็กลับถูกคลี่คลายออกมาในเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสม แถมยังกระชากมู้ดเราไปหาความลั้นลาของสเตฟานี่ต่อในทันที จึงถือว่าน่าเสียดายที่วัตถุดิบที่อาจจะทำให้หนังมันพีคกว่าเดิมได้ถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลืองแบบนั้น




A Simple Favor ถือว่าเป็นหนังที่น่าสนใจ เป็นหนังแนวลึกลับซ่อนเงื่อนที่ไม่ค่อยมีมาฉายในปีนี้เท่าไร สไตล์การเล่าเรื่องอาจจะยังพีคไม่สุดเท่าที่ควร เพราะบารมีของแสดงนำทั้งสองคนยังห่างชั้นกันอยู่นัก

แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบในตัว "เบลก ไลฟ์ลี" อยู่แล้วผมคิดว่ามันเป็นโบนัสชิ้นโตของคุณแน่ๆ ล่ะ เพราะคุณจะได้เห็นนักแสดงสาวชั้นนำเฉิดฉายอย่างที่สุดในหนังเรื้องนี้ บางทีแค่มาดูเบลกเฉยๆ ก็อาจจะคุ้มแล้วก็ได้

#ตั๋วหนังมันแพง #Sponsored #ASimpleFavor