[หนังโรงเรื่องที่ 176] Mr.Hurt: มือวางอันดับเจ็บ - หนังที่ซันนี่เล่นเป็นซันนี่ และเผือกเล่นเป็นเผือก ; (Ittisak Eusunthornwattana, 2017)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A+ (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : "ดอน" (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) นักเทนนิสดาวรุ่งพุ่งแรงในเวทีระดับโลกต้องมาประสบกับมรสุมชีวิตขั้นรุนแรง ตั้งแต่โดนแฟนดาราสาว "แอนนา" (มารี เบิร์นเนอร์) ทิ้งแบบสายฟ้าแลบ แถมยังประสบอุบัติเหตุทำให้แขนข้างถนัดหักไม่สามารถเล่นเทนนิสได้อีก ... ในขณะที่ชีวิตอยู่ในช่วงตกต่ำนั้น ดอนก็ได้เพื่อนสาววัยเด็ก "ดิว" (หลิน-มชนต) มาเป็นแรงสนับสนุนให้เขาก้าวข้ามปัญหาหัวใจและกลับมายืนผงาดในชีวิตอีกครั้ง
... ไม่ผิดหวังจริงๆ! กับความเป็นซันนี่+เผือกที่แทบจะเป็นชื่อการันตีคุณภาพหนังไปแล้ว อยากจะบอกว่าในตัวอย่างหนังว่าขำคิกคักแล้ว ตัวหนังจริงๆจะลั่นได้มากกว่านั้นเยอะ นี่ขนาดผู้เขียนไม่ใช่คอหนังไทยยังกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า "เป็นหนังรอม-คอมไทยที่สนุกมากที่สุด" เรื่องนึงในรอบหลายๆปีเลย
สิ่งที่ชอบก็คือความฮาจัดเต็มแบบกระอักกระอ่วนจากการเผชิญหน้า (confrontation)ของพระเอกกับแฟนเก่าที่บังเอิ๊ญ บังเอิญเจอกันบ่อยเหลือเกิน เท่านั้นยังไม่พอแฟนเก่ายังพ่วงแฟนใหม่หน้าตาเล้าหรืออย่าง "จิมมี่" (เผือก-พงศธร จงวิลาส) มาให้เขม่นด้วยอีกให้อารมณ์แบบทอมกับเจอรี่ยังไงยังงั้น ซึ่งก็ขอบอกเลยว่าเป็นมวยที่ถูกคู่มากกกกกกก ทั้งซันนี่และเผือกรับ-ส่งมุกกันได้อย่างไม่มีที่ติด้วยสไตล์ที่เป็นลายเซ็นของตัวเองอย่าง 'มุกหน้าตาย' พ่วงกับไดอะล็อกกวนๆที่เรียกเสียงหัวเราะในโรงได้เรื่อยๆ เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย
ในแง่ของเนื้อเรื่องนั้นก็มีจุดที่ชอบตรงที่หลักใหญ่ใจความที่สื่อออกมาแบบเป็นนัยๆว่า "No one is bad here" หรือ "ไม่มีคนผิดในเรื่องนี้" คือไม่ว่าจะเป็นตัวดอน, แอนนา หรือกระทั่งจิมมี่เองที่ถูกนำเสนอออกมาเป็น 'คู่ปรับ' ของพระเอกนั้นก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรในท้ายที่สุด คือในเกมของความรักนั้นแต่ละคนก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง คือถ้ามองจากมุมที่แตกต่างกัน เราอาจจะคิดว่าตัวดอนเองเป็นอดีตคนรักที่เห็นแก่ตัวก็ได้ การที่หนังนำเสนอประเด็นรักสามเศร้าออกมาอย่าง 'เป็นกลาง' (neutral) แบบนี้ก็เลยช่วยให้ตัวละครมันดูจับต้องได้มากขึ้น และทำให้เราอดที่จะ 'เห็นใจ' กับพวกเขาไม่ได้
สิ่งที่ไม่ชอบก็คือช่วงท้ายของหนัง ในซีเควนส์ที่ "พ่อ" ของดอนเปิดเผยความจริงให้ลูกรู้และกลายเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เชื่อมโยงไปถึงตอนจบนั้นมันดูฝืนแปลกๆคือมีความรู้สึกว่าตัวผู้กำกับเนี่ยคงมี "ฉากในใจ" ที่อยากเล่นมากๆในหัวอยู่แล้ว แต่ตัวเนื้อเรื่องเดิมมันไม่อำนวยให้ลากมาถึงฉากนี้อย่างเป็นธรรมชาติได้ พี่แกก็เลยลากยาวมาอีกร่วมสิบนาทีเพียงเพื่อที่จะได้ "เล่น" ฉากนี้ให้สมใจตัวเองได้ (ทั้งที่มันสามารถจบได้แบบสมบูรณ์ในก่อนหน้านี้ไปแล้ว) เลยทำให้ช่วงท้ายของหนังมันเป๋ไปพอสมควร
.
.
"ซันนี่" ในเรื่องนี้ก็คือซันนี่ คือซันนี่สามารถเป็นดอนได้โดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย มันเป็นตัวตนที่เป็นธรรมชาติอย่างที่สุดกับบทบาทผู้ชายหน้าตาย-อารมณ์ร้อนพ่วงความเซนซิทีฟมาอีกหน่อย (เช่นเดียวกับยุ่นในฟรีแลนซ์ฯ) คือไม่มีอะไรให้วิจารณ์จริงๆกับลีลาในเรื่องนี้ ได้แต่ชื่นชมในความเสมอต้นเสมอปลายของดาราชายคนนี้นี่ล่ะ
เช่นเดียวกับ "เผือก" ที่สวมบทบาทนักร้องซุปเปอร์สตาร์กับบุคลิก over-friendly ได้อย่างหมดจดสมกับเป็นตัวละครคู่ปรับของซันนี่จริงๆ ด้วยความ 'เล่นใหญ่' ของนางก็สามารถเรียกเสียงฮาให้กับหนังได้แบบล้นหลาม คือตลอดครึ่งแรกของหนังที่เผือกออกมาทีไรนี่ยอมรับเลยว่าขำจนปวดท้องมาก มันเป็นมุกที่เล่นกับ "ความแปลก" (quirk) ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมันมีคนตบมุกเป็นมนุษย์คิ้วขมวดแบบซันนี่ไง
"หลิน" ชิงสป็อตไลท์ในเรื่องไปได้โดยปริยาย ผู้หญิงอะไรมีส่วนผสมของความน่ารัก+ความสวยได้ลงตัวขนาดนั้นแม่คุณเอ๊ยยยย คือหลินนี่เป็นตัวอย่างของตัวละครเอกที่ดีมาก คือค่อยๆโผล่เข้ามาในฉากแบบแนบเนียน เล่นบทของตัวเองทีละนิด แล้วค่อยๆปล่อยของออกมาออกมาทีละน้อยจนเผลอตัวอีกทีคนดูก็ "หลงรัก" ไปแล้ว แล้วนี่มีฉากนึงทำเอาเราสตันมากตอนที่นางยืนข้างๆกับซันนี่แล้วพึ่งสังเกตเห็นว่า "สองคนนี้มันสูงเกือบเท่ากัน!" คือซันนี่ก็เกือบเหยียบ 190 ไปแล้วนะ
... ท้ายที่สุด "มิสเตอร์เฮิร์ท: มือวางอันดับเจ็บ" ก็ถือว่าเป็นหนังรอม-คอมไทยอีกเรื่องที่สอบผ่านในแง่ของความบันเทิงมากๆ ภายใต้พัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นางที่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ สิ่งที่เน้นชอบเป็นพิเศษก็คือความพยายามที่จะหยิบจับมุกตลกคลาสสิคแบบไทยๆเข้ามาผสมผสานกับมุกใหม่ๆที่ไม่ค่อยได้ถูกใช้ในวงการหนังไทยมาก่อน (เช่นมุกมาเฟียรัสเซีย, มุกงานแต่ง) ซึ่งทำให้มันสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกกลุ่มกว้างมากขึ้น
เรียกได้ว่าคุ้มค่าตั๋วทุกบาททุกสตางค์แน่นอน
ป.ล.มี End Credit สั้นๆ
ป.ล.2 ตลกกับพาโรดี้ล้อเลียนรายการวูดดี้+ภราดรมากๆ มุกนี้ซื้อได้ทั้งเรื่องจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากชื่นชอบรีวิวรบกวนช่วยไลค์ช่วยแชร์เพื่อให้กำลังใจหรือติดตามผลงานได้ที่เพจ https://www.facebook.com/expensivemovie/ นะครับ!
[รีวิว] Mr.Hurt: มือวางอันดับเจ็บ - หนังที่ซันนี่เล่นเป็นซันนี่ และเผือกเล่นเป็นเผือก by ตั๋วหนังมันแพง
[หนังโรงเรื่องที่ 176] Mr.Hurt: มือวางอันดับเจ็บ - หนังที่ซันนี่เล่นเป็นซันนี่ และเผือกเล่นเป็นเผือก ; (Ittisak Eusunthornwattana, 2017)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A+ (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : "ดอน" (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) นักเทนนิสดาวรุ่งพุ่งแรงในเวทีระดับโลกต้องมาประสบกับมรสุมชีวิตขั้นรุนแรง ตั้งแต่โดนแฟนดาราสาว "แอนนา" (มารี เบิร์นเนอร์) ทิ้งแบบสายฟ้าแลบ แถมยังประสบอุบัติเหตุทำให้แขนข้างถนัดหักไม่สามารถเล่นเทนนิสได้อีก ... ในขณะที่ชีวิตอยู่ในช่วงตกต่ำนั้น ดอนก็ได้เพื่อนสาววัยเด็ก "ดิว" (หลิน-มชนต) มาเป็นแรงสนับสนุนให้เขาก้าวข้ามปัญหาหัวใจและกลับมายืนผงาดในชีวิตอีกครั้ง
... ไม่ผิดหวังจริงๆ! กับความเป็นซันนี่+เผือกที่แทบจะเป็นชื่อการันตีคุณภาพหนังไปแล้ว อยากจะบอกว่าในตัวอย่างหนังว่าขำคิกคักแล้ว ตัวหนังจริงๆจะลั่นได้มากกว่านั้นเยอะ นี่ขนาดผู้เขียนไม่ใช่คอหนังไทยยังกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า "เป็นหนังรอม-คอมไทยที่สนุกมากที่สุด" เรื่องนึงในรอบหลายๆปีเลย
สิ่งที่ชอบก็คือความฮาจัดเต็มแบบกระอักกระอ่วนจากการเผชิญหน้า (confrontation)ของพระเอกกับแฟนเก่าที่บังเอิ๊ญ บังเอิญเจอกันบ่อยเหลือเกิน เท่านั้นยังไม่พอแฟนเก่ายังพ่วงแฟนใหม่หน้าตาเล้าหรืออย่าง "จิมมี่" (เผือก-พงศธร จงวิลาส) มาให้เขม่นด้วยอีกให้อารมณ์แบบทอมกับเจอรี่ยังไงยังงั้น ซึ่งก็ขอบอกเลยว่าเป็นมวยที่ถูกคู่มากกกกกกก ทั้งซันนี่และเผือกรับ-ส่งมุกกันได้อย่างไม่มีที่ติด้วยสไตล์ที่เป็นลายเซ็นของตัวเองอย่าง 'มุกหน้าตาย' พ่วงกับไดอะล็อกกวนๆที่เรียกเสียงหัวเราะในโรงได้เรื่อยๆ เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย
ในแง่ของเนื้อเรื่องนั้นก็มีจุดที่ชอบตรงที่หลักใหญ่ใจความที่สื่อออกมาแบบเป็นนัยๆว่า "No one is bad here" หรือ "ไม่มีคนผิดในเรื่องนี้" คือไม่ว่าจะเป็นตัวดอน, แอนนา หรือกระทั่งจิมมี่เองที่ถูกนำเสนอออกมาเป็น 'คู่ปรับ' ของพระเอกนั้นก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรในท้ายที่สุด คือในเกมของความรักนั้นแต่ละคนก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง คือถ้ามองจากมุมที่แตกต่างกัน เราอาจจะคิดว่าตัวดอนเองเป็นอดีตคนรักที่เห็นแก่ตัวก็ได้ การที่หนังนำเสนอประเด็นรักสามเศร้าออกมาอย่าง 'เป็นกลาง' (neutral) แบบนี้ก็เลยช่วยให้ตัวละครมันดูจับต้องได้มากขึ้น และทำให้เราอดที่จะ 'เห็นใจ' กับพวกเขาไม่ได้
สิ่งที่ไม่ชอบก็คือช่วงท้ายของหนัง ในซีเควนส์ที่ "พ่อ" ของดอนเปิดเผยความจริงให้ลูกรู้และกลายเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เชื่อมโยงไปถึงตอนจบนั้นมันดูฝืนแปลกๆคือมีความรู้สึกว่าตัวผู้กำกับเนี่ยคงมี "ฉากในใจ" ที่อยากเล่นมากๆในหัวอยู่แล้ว แต่ตัวเนื้อเรื่องเดิมมันไม่อำนวยให้ลากมาถึงฉากนี้อย่างเป็นธรรมชาติได้ พี่แกก็เลยลากยาวมาอีกร่วมสิบนาทีเพียงเพื่อที่จะได้ "เล่น" ฉากนี้ให้สมใจตัวเองได้ (ทั้งที่มันสามารถจบได้แบบสมบูรณ์ในก่อนหน้านี้ไปแล้ว) เลยทำให้ช่วงท้ายของหนังมันเป๋ไปพอสมควร
.
"ซันนี่" ในเรื่องนี้ก็คือซันนี่ คือซันนี่สามารถเป็นดอนได้โดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย มันเป็นตัวตนที่เป็นธรรมชาติอย่างที่สุดกับบทบาทผู้ชายหน้าตาย-อารมณ์ร้อนพ่วงความเซนซิทีฟมาอีกหน่อย (เช่นเดียวกับยุ่นในฟรีแลนซ์ฯ) คือไม่มีอะไรให้วิจารณ์จริงๆกับลีลาในเรื่องนี้ ได้แต่ชื่นชมในความเสมอต้นเสมอปลายของดาราชายคนนี้นี่ล่ะ
เช่นเดียวกับ "เผือก" ที่สวมบทบาทนักร้องซุปเปอร์สตาร์กับบุคลิก over-friendly ได้อย่างหมดจดสมกับเป็นตัวละครคู่ปรับของซันนี่จริงๆ ด้วยความ 'เล่นใหญ่' ของนางก็สามารถเรียกเสียงฮาให้กับหนังได้แบบล้นหลาม คือตลอดครึ่งแรกของหนังที่เผือกออกมาทีไรนี่ยอมรับเลยว่าขำจนปวดท้องมาก มันเป็นมุกที่เล่นกับ "ความแปลก" (quirk) ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมันมีคนตบมุกเป็นมนุษย์คิ้วขมวดแบบซันนี่ไง
"หลิน" ชิงสป็อตไลท์ในเรื่องไปได้โดยปริยาย ผู้หญิงอะไรมีส่วนผสมของความน่ารัก+ความสวยได้ลงตัวขนาดนั้นแม่คุณเอ๊ยยยย คือหลินนี่เป็นตัวอย่างของตัวละครเอกที่ดีมาก คือค่อยๆโผล่เข้ามาในฉากแบบแนบเนียน เล่นบทของตัวเองทีละนิด แล้วค่อยๆปล่อยของออกมาออกมาทีละน้อยจนเผลอตัวอีกทีคนดูก็ "หลงรัก" ไปแล้ว แล้วนี่มีฉากนึงทำเอาเราสตันมากตอนที่นางยืนข้างๆกับซันนี่แล้วพึ่งสังเกตเห็นว่า "สองคนนี้มันสูงเกือบเท่ากัน!" คือซันนี่ก็เกือบเหยียบ 190 ไปแล้วนะ
... ท้ายที่สุด "มิสเตอร์เฮิร์ท: มือวางอันดับเจ็บ" ก็ถือว่าเป็นหนังรอม-คอมไทยอีกเรื่องที่สอบผ่านในแง่ของความบันเทิงมากๆ ภายใต้พัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นางที่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ สิ่งที่เน้นชอบเป็นพิเศษก็คือความพยายามที่จะหยิบจับมุกตลกคลาสสิคแบบไทยๆเข้ามาผสมผสานกับมุกใหม่ๆที่ไม่ค่อยได้ถูกใช้ในวงการหนังไทยมาก่อน (เช่นมุกมาเฟียรัสเซีย, มุกงานแต่ง) ซึ่งทำให้มันสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกกลุ่มกว้างมากขึ้น
เรียกได้ว่าคุ้มค่าตั๋วทุกบาททุกสตางค์แน่นอน
ป.ล.มี End Credit สั้นๆ
ป.ล.2 ตลกกับพาโรดี้ล้อเลียนรายการวูดดี้+ภราดรมากๆ มุกนี้ซื้อได้ทั้งเรื่องจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้