แสงแรกจากนักล่าดวงดาว age of the tess

ยุคของแสงสว่างจะเริ่มต้นใหม่

ข้าขอไปสู่ฟ้าใกล ไม่หวนกลับ

แม้สุดท้ายแสงสว่างจะลาลับ

ตะวันจะไม่ดับ ตลอดกาล


นักล่าดาวเคราะห์รายใหม่ของนาซา นามนี้คงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด สำหรับเจ้า TESS ซึ่งนามของมันย่อมาจาก กล้องอวกาศผู้ตรวจจับการเคลื่อนที่ของ
ดาวเคราะห์ฺนอกระบบ หรือ  Transiting Exoplanet Survey Satellite ซึ่ง tess เอง จะถูกเปลื่ยนให้กลายเป็นแหล่งข้อมูล
ที่มีค่า เพื่อช่วยเหลือนักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ ในการค้นพบและศึกษา เหล่าดาวเคราะห์นอกระบบ ซึ่งอาจถูกเปลื่ยน
ให้กลายเป็นบ้านดวงใหม่ สำหรับเป้าหมายของมนุษย์ชาติเราในอนาคตก็เป็นได้นะครับ ข้อมูลบางส่วน
จากเพียงแค่การปรากฏตัวบนฟ้าครั้งแรกของ tess ที่พุ่งผ่านวงโคจร มันก็ได้จัดการส่งรายละเอียด ของภาพ
ฟากฟ้าด้านใต้ พร้อมภาพถ่ายของระบบดาวจำนวนมาก มาให้กับเรา ภาพถ่ายวิทยาศาสตร์ของแสงแรกนี้ รวมภาพ
ของดาวฤกษ์จำนวนมหาศาล  รวมถึงระบบที่เราทราบแล้วแน่ๆ ว่ามีดาวเคราะห์นอกระบบอยู่แล้ว

คุณพอล เฮิร์ทซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายดาราศาสตร์ฟีสิกส์ จากศูนย์การปฏิบัติการณ์ของนาซา
กล่าวใว้ว่า" ในทะเลของดาวฤกษ์จำนวนมหาศาลนั้น มันแฝงไปด้วยโลกใบใหม่ โลกที่เราสมควรจะไปค้นหา
โปรเจค tess กำลังสร้างข่ายใยเพื่อดักจับดาวเคราะห์ที่มีความน่าสนใจเพื่อเอาไปศึกษาต่อครับ"
ภาพวิทยาศาสตร์ first light นี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่น่าเหลื่อเชื่อของกล้อง tess
และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการตามล่าดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะด้วย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
TESS ได้รับภาพโดยการใช้งานกล้องทั้งสี่ตัว ในระยะเวลา 30 นาที ของวันอังคารที่ 7 สิงหาคม
สายสีดำในภาพ คือช่องโหว่ระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับของกล้อง ภาพนี้รวมถึงกระจุกดาว และวัตถุท้องฟ้าจำนวนมาก
ที่อยู่ระหว่างกลุ่มดาว แพะทะเลจนถึงกลุ่มดาวขาตั้งภาพ และในภาพปรากฏทั้งเมฆแมกแจลเลนเล็ก และ เมฆแมกแจนแลนใหญ่ ซึ่ง
เป็นกาแล็คซี่ที่อยู่ใกล้เราที่สุดอีกด้วย จุดเล็ก ๆ บนเมฆแมคเจลแลนเล็กเป็นกระจุกดาวทรงกลมซึ่งเป็นดาวฤกษ์หลายร้อยหลายพันดวงที่เรียกว่า NGC 104 เรียกอีกอย่างว่า 47 Tucanae เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ในภาคใต้ของ Toucana, กลุ่มดาวนกเงือก ดาวสุกสว่างสองดวง Beta Gruis และ R Doradus สว่างมากจนกินพึ้นที่คอลัมน์ทั้งหมดของพิกเซลบนเครื่องตรวจจับกล้องสองและสี่ของ TESS ทำให้เกิดแสงที่ยาวปรากฏในภาพ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
"จอห์นริคเกอร์นักวิจัยหลักของ TESS จากสถาบัน Kavli สถาบันฟิสิกส์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ (Massachusetts Institute of Technology - MIT) สถาบัน Kavli จาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) กล่าวว่าดาวหางดวงนี้มีดาวฤกษ์มากกว่าหนึ่งโหลที่เรารู้ว่ามีการเดินทางผ่านดาวเคราะห์มาจากการศึกษาก่อนหน้านี้จากหอสังเกตการณ์พื้นดิน การวิจัยในเคมบริดจ์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ส่วนกล้องของ TESS ออกแบบและสร้างโดยห้องปฏิบัติการลินคอล์นของ MIT ในเล็กซินตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์และ MIT Kavli Institute ตรวจสอบพื้นที่ขนาดใหญ่บนท้องฟ้าเพื่อค้นหาการเคลื่อนที่ตัดหน้าอันทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงของแสง การเดินทางเกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์ดวงหนึ่งผ่านหน้าดาวฤกษ์ที่มันโคจรรอบ ทำให้ดาวฤกษ์เมื่อมองจากมุมมองของดาวเทียมทำให้เกิดความสว่างปกติของดาวเปลื่ยนแปลงไป

TESS จะใช้เวลาสองปีในการตรวจสอบ 26 ส่วนขิงท้องฟ้าดังกล่าวเป็นเวลา 27 วันโดยครอบคลุม 85 เปอร์เซ็นต์ของท้องฟ้า ในช่วงปีแรกของการดำเนินงานดาวเทียมจะศึกษา 13 ส่วนที่นักวิทยาศาสตร์ทำการแบ่งส่วนทางตอนใต้ของท้องฟ้า จากนั้น TESS จะหันไปหาภาค 13 แห่งท้องฟ้าภาคเหนือเพื่อทำการสำรวจครั้งที่สองเป็นเวลานานร่วมปี(2 ปี จะได้ภาพท้องฟ้ามาถึง 85% เจ๋งใช่มั้ยละครับ)

เอ็มไอทีประสานกับ Northrop Grumman ในฟอลส์เชิร์ชรัฐเวอร์จิเนียเพื่อกำหนดตารางการสังเกตทางวิทยาศาสตร์ TESS ส่งภาพทุกๆ 13.7 วันโดยแต่ละครั้งจะมันจะโคจรใกล้กับโลกมากที่สุด เครือข่าย Deep Space ของ NASA ได้รับและส่งต่อข้อมูลไปยัง TESS Payload Operations Center ของ MIT เพื่อประเมินและวิเคราะห์เบื้องต้น การประมวลผลและการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดเกิดขึ้นภายในท่อของ Science Processing and Operations Center ที่ศูนย์วิจัย Ames ของ NASA ใน Silicon Valley รัฐ California ซึ่งจะให้ภาพที่ได้รับการปรับเทียบและสังเกติการโค้งงอของแสงซึ่งนักวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์เพื่อหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่มีแนวโน้มว่าจะโคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์

TESS สร้างขึ้นจากมรดกของกล้องโทรทรรน์อวกาศเคปเลอร์ของนาซ่าซึ่งใช้การเดินทางข้ามเพื่อค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบ ดาวฤกษ์เป้าหมายของ TESS อยู่ห่างออกไป 30 ถึง 300 ปีแสงและสว่างกว่าเป้าหมายของเคปเลอร์ประมาณ 30 ถึง 100 เท่าซึ่งห่างออกไป 300 ถึง 3,000 ปีแสง ความสว่างของเป้าหมายของ TESS ทำให้พวกเขาเป็นผู้สมัครที่เหมาะสำหรับการศึกษาต่อเนื่องด้วยการสเปคโทรสโกรการศึกษาว่าปฏิกิริยาของสสารกับแสงมีผลกระทบอย่างไร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโออนิเมชั่น ในวีดีโอข้างบนนี้ แสดงให้เห็นถึงการโคจรตัดผ่านหน้าดาวฤกษ์ ของดาวเคราห์นอกระบบ และแสดง
ให้เห็นว่ากล้อง tess จะทำการสำรวจท้องฟ้า เพื่อเอาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อันมีค่า มาให้เราได้อย่างไร


กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์และพื้นที่อื่น ๆ จะใช้สเปคโทรสเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวเคราะห์ TESS พบรวมทั้งองค์ประกอบของบรรยากาศ องค์ประกอบของเนึ้อสารของดวงดาว มวล และความหนาแน่น

TESS ได้เริ่มสังเกตการณ์ที่ร้องขอผ่าน TESS Guest Investigator Program ซึ่งช่วยให้ชุมชนวิทยาศาสตร์ในวงกว้างสามารถวิจัยโดยใช้ดาวเทียมได้

"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับข้อเสนอของกลุ่มนักวิจัยผู้มีเกียรติที่ได้รับและ เราคัดเลือกโปรแกรมที่หลากหลายสำหรับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่การสำรวจกาแลคซีที่ทำการเกิดปฏิกิริยาอยู่ห่างใกล จนถึงดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกในระบบสุริยะของเราเอง" Padi Boyd นักวิทยาศาสตร์โครงการ TESS กล่าว ศูนย์การบินอวกาศ Goddard ของ NASA ในเมือง Greenbelt รัฐแมรี่แลนด์ "และแน่นอนว่าดาวเคราะห์นอกระบบที่น่าสนใจและโครงสร้างของดาวฤกษ์อีกด้วย ชุมชนวิทยาศาสตร์มีการพุ่งเข้ามาสำรวจข้อมูลที่เก็บมาได้พื่อดูข้อมูลที่น่าทึ่งที่ TESS จะผลิตและค้นพบวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นสำหรับ exoplanets และอื่นๆ"
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
TESS เปิดตัวจาก NASA's Kennedy Space Center ใน Cape Canaveral รัฐฟลอริด้าเมื่อวันที่ 18 เมษายนบนเรือ SpaceX Falcon 9 และใช้ flyby ของดวงจันทร์ในวันที่ 17 พฤษภาคมเพื่อมุ่งหน้าสู่วงโคจรของวิทยาศาสตร์ TESS เริ่มเก็บรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมหลังจากตรวจสอบเครื่องมือต่างๆอย่างกว้างขวางและละเอียดรอบคอบ

TESS เป็นภารกิจของ NASA Astrophysics Explorer ที่นำโดย MIT ในเคมบริดจ์แมสซาชูเซตส์และดำเนินการโดยศูนย์การบินอวกาศ Goddard ของ NASA ในเมือง Greenbelt รัฐแมรี่แลนด์ ดร. จอร์จริกเกอร์แห่งสถาบันฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฟิสิกส์และการวิจัยอวกาศของสถาบัน MIT ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบหลักของภารกิจ หุ้นส่วนเพิ่มเติม ได้แก่ Northrop Grumman ซึ่งตั้งอยู่ที่ฟอลส์เชิร์ชรัฐเวอร์จิเนีย; ศูนย์วิจัย Ames ของ NASA ใน Silicon Valley ของแคลิฟอร์เนีย; ศูนย์ดาราศาสตร์ฟิสิกส์ฮาร์วาร์ด - สมิ ธ โซเนียนในเคมบริดจ์แมสซาชูเซตส์; ห้องปฏิบัติการลิงคอล์นของ MIT ใน Lexington, Massachusetts; และสถาบันวิทยาศาสตร์กล้องโทรทรรศน์อวกาศในบัลติมอร์ มหาวิทยาลัยและสถาบันการวิจัยและหอสังเกตการณ์ทั่วโลกกว่าสิบแห่งมีส่วนร่วมในภารกิจนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://exoplanets.nasa.gov/news/1523/first-light-tess-shares-first-science-image-in-hunt-to-find-new-worlds/
https://www.nasa.gov/tess-transiting-exoplanet-survey-satellite
http://space.mit.edu/
https://heasarc.gsfc.nasa.gov/docs/tess/proposing-investigations.html
https://www.youtube.com/watch?v=-AIbD2WxyN8&feature=youtu.be
https://www.spacex.com/
https://www.spacex.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่