คอน นิ จิ วะ (づ ̄ ³ ̄)づ~~ สวัสดีค่าเพื่อนๆ วันนี้
บลูแพลนเที่ยว ขอทักทายยามบ่ายเป็นภาษาญี่ปุ่นนิดนึงน้า เพื่อให้เข้ากับสถานที่ที่จะพาไปเยือนกันหน่อยจ้าาา หลังจากที่เห็นรูปเปิดกระทู้แล้วก็น่าจะพอรู้กันแล้วใช่ไหมเอ่ยว่าครั้งนี้จะพาไปเที่ยวที่ไหน...ใช่แล้วค่า รอบนี้จะพาไปตะลุยแดนอาทิตย์อุทัย “ประเทศญี่ปุ่น” นั่นเอง Go Go! ซึ่งช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดีเลย แอบกระซิบบอกเลยว่าเป็นฤดูที่โรแมนติกสุดๆ ห้ามพลาดเชียวนา เพราะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูนี้เราก็จะได้เห็นใบไม้เริ่มพากันเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองส้มและสีแดง ก่อนที่จะร่วงหล่นไปจนหมดต้นค่ะ #สวยงามสุดๆ
อ๊ะ...อ๊ะ...ก่อนจะออกตะลุยตามแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ เรามาดูกันสิว่ามีข้อมูลน่ารู้และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างกันดีกว่าค่ะ
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน โดยใบไม้จะค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนสีไล่จากทางภาคเหนือ (ฮอกไกโด) ลงสู่ภาตใต้ของญี่ปุ่น (คิวชู) แต่ช่วงเวลาการเปลี่ยนสีของใบไม้อาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างในแต่ละปีนะคะ เพราะจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพอากาศของปีนั้นๆ ค่ะ
ในฤดูนี้อากาศจะเย็นสบายและอุณหภูมิจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10-20 องศาเซลเซียสค่ะ การแต่งกายจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อุ่นๆ หน่อย เช่น เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคลุม เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อสเวตเตอร์ ผ้าพันคอ กางเกงขายาว กางเกงเลกกิ้งแบบหนา กระโปรงยาว ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า และสวมรองเท้าหุ้มส้นหรือรองเท้าบูทค่ะ
เตรียมตัวกันพร้อมแล้วใช่ไหมเอ่ย งั้นเรามาตะลุยแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นกันเถอะ ไปค่า!
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)
★ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัน (Daisetsuzan National Park) ★
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซันตั้งอยู่ที่เมืองคะมิคะวะ (Kamikawa) ซึ่งที่นี่จะเป็นสถานที่แรกที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีค่ะ โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีไล่จากยอดภูเขาคุโรดาเกะลงมาถึงจุดชมใบไม้แดงที่สวยที่สุดตรงปากทางขึ้นเขา มีชื่อว่า “กินเซ็นได” และในบริเวณนั้นก็ยังมีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่ 10 กว่าแห่ง เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปใช้บริการแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งพร้อมชมใบไม้แดงที่งดงามได้อีกด้วย
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนกันยายน - ปลายเดือนกันยายน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Kamikawa แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
★ สวนสาธารณะมิฮะระชิ (Miharashi Park) ★
สวนสาธารณะมิฮะระชิหรือสวนโคเซ็ตสึเอ็นตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกะดาเตะ (Hakodate) เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเป็นสไตล์แบบสวนญี่ปุ่นอย่างสวยงามด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดรวมกว่า 150 ชนิด ซึ่งที่นี่คือสวนแห่งเดียวในฮอกไกโดที่รัฐบาลประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และเป็นสวนยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยค่ะ เพราะจะมีต้นไม้ชชนิดต่างๆ มากมายทั้งต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) และโดดันทสึทสึจิ (Dodantsutsuji) ต่างก็พากันทยอยเปลี่ยนสีสันสวยสดงดงามทั้งแดงและเหลืองน่าประทับใจมากเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟ JR Limited Express Super Hokuto ไปลงที่สถานี Hakodate ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นโดยสารรถ Hakodate Bus ไปลงที่ป้าย Kosetsuen ใช้เวลา 40 นาที
ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
★ ทะเลสาบโทวาดาโกะ (Towadako Lake) ★
ทะเลสาบโทวาดาโกะตั้งอยู่ที่จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮนชู และเป็นทะเลสาบแบบ Caldera ซึ่งชื่อนี้มาจากภาษาสเปน มีความหมายว่าหม้อ เพราะพื้นที่ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูกนี้มีลักษณะยุบลงเป็นรูปทรงคล้ายหม้อ มีสาเหตุเกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งทะเลสาบโทวาดาโกะถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา จึงสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวชมธรรมชาติและใบไม้แดงโดยรอบของทะเลสาบได้ ถ้าไม่นั่งเรือชมธรรมชาติก็สามารถมาแช่น้ำพุร้อนโทวาดาโกะแทนค่ะ หรือจะไปเก็บแอปเปิ้ลผลไม้ขึ้นชื่อของที่นี่กลับไปเป็นของฝากกลับบ้านก็ได้นะคะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนตุลาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Aomori แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า
★ ซาโอ (Zao) ★
เทือกเขาซาโอตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยามางาตะ (Yamagata) และจังหวัดมิยางิ (Miyagi) เป็นเทือกเขาที่สวยงามและโด่งดังมากในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่นค่ะ และท้องถิ่นนี้ยังมีน้ำพุร้อนชื่อดังอยู่หลายแห่งให้เข้าใช้บริการได้ หรือเพื่อนๆ จะขึ้นไปชมใบไม้แดงจากมุมสูงก็ได้นะคะ โดยสามารถไปใช้บริการกระเช้าของลานสกีฤดูหนาวค่ะ >__<//
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนตุลาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Yamagata แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ภูมิภาคคันโต (Kanto)
★ สวนเมจิจิงงูไกเอง (Meiji Jingu Gaien) ★
สวนเมจิจิงงูไกเองตั้งอยู่ที่จังหวัดโตเกียว (Tokyo) โดยในสวนนี้จะมีต้นอิโจ (แปะก้วย) กว่า 140 ต้น ขึ้นเรียงรายทั้งสองข้างทางอย่างสวยงาม ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้นดิน จนทางเดินกลายเป็นสีเหลืองในที่สุดค่ะ น่าจะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวที่โตเกียวแล้วไม่มีเวลาไปเที่ยวนอกเมือง #เที่ยวในเมืองก็ฟินกับใบไม้เปลี่ยนสีได้น้า
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : สถานีรถไฟ JR Shinanomachi หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Gaienmae
★ น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Waterfall) ★
น้ำตกฟุคุโรดะตั้งอยู่ที่จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) เป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ โดยน้ำตกที่นี่จะไหลผ่านหน้าผาหินยักษ์ที่มีขนาดใหญ่และมีลักษณะของชั้นหินที่ไล่ระดับลงมา 4 ชั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า ‘น้ำตก 4 ชั้น’ เพื่อนๆ สามารถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีและน้ำตกที่สวยงามได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ #งดงามฟินมาก
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Fukuroda แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ภูมิภาคจูบุ (Chubu)
★ ทะเลสาบคาวางุจิโกะ (Kawaguchiko Lake) ★
ทะเลสาบคาวางุจิโกะตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในการชมภูเขาไฟฟูจิ และก็ยังเป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมากอีกด้วยค่ะ เพราะเราจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิที่ยอดเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวแล้วตัดกับสีของใบไม้แดง เป็นภาพวิวที่หลายๆ คนใฝ่ฝันที่อยากมาเห็นกับตาตัวเอง โดยใบไม้แดงในแถบนี้เกือบทั้งหมดเป็นใบของต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) ค่ะ โดยช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มที่หมดก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบโมมิจิขึ้น ซึ่งในงานตอนกลางคืนจะประดับไฟจนถึงเวลาประมาณสี่ทุ่ม #สวยงามไปอีกแบบ แถมละแวกใกล้เคียงแถวนี้ยังมีสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์ศิลปะอยู่หลายแห่งเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : ต้นเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : โดยรถยนต์จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko and Fujikyu ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
★ โครังเค (Korankei) ★
โครังเคเป็นหุบเขาที่อยู่ในจังหวัดไอจิ (Aichi) และขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคจูบุ โดยมีแลนด์มาร์คสำคัญที่พลาดไม่ได้ถ้าไปเที่ยวที่นี่ก็คือ สะพานไม้ไทเกะสึเคียว เพราะเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามและเป็นสะพานสัญลักษณ์ประจำโครังเคนั่นเอง
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Nagoya โดยสารรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Line ไปลงที่สถานี Higashi Okazaki แล้วนั่งรถบัสสาย Meitetsu ต่อไปยัง Korankei
ภูมิภาคคันไซ (Kansai)
★ อะระชิยะมะ (Arashiyama) ★
อะระชิยะมะตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโต (Kyoto) เป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูมิภาคนี้ จนถึงขั้นที่มีบริการรถไฟชมวิวโทร็อกโกะให้ได้นั่งชมวิวกันแบบเพลินๆ หรือจะนั่งเรือล่องแม่น้ำชมวิวก็เป็นอีกบรรยากาศที่น่าลองนะคะ แต่มีแลนด์มาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกคนเมื่อมาเที่ยวที่นี่แล้วต้องไม่พลาดก็คือการถ่ายรูปกับสะพานโทเง็ทสึเคียว โดยมีภูเขาอะระชิยะมะเป็นฉากหลังค่ะ ^___^
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR Saga-Arashiyama ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
★ วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizudera Temple) ★
วัดคิโยะมิซุหรือวัดน้ำใสตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโต (Kyoto) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในเกียวโตและได้เป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วยค่ะ ถือว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน ด้วยทำเลที่ตั้งของวัดอยู่บนเนินเขาและรองรับด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น จึงทำให้เมื่อมองลงมาด้านล่างจากบนศาลาก็จะเห็นใบของต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) เปลี่ยนสีเป็นสีแดงมากมายอย่างสวยงามเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ Kiyomizu Gojo ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
15 แหล่งห้ามพลาด! ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นแบบฟินเว่อร์
คอน นิ จิ วะ (づ ̄ ³ ̄)づ~~ สวัสดีค่าเพื่อนๆ วันนี้ บลูแพลนเที่ยว ขอทักทายยามบ่ายเป็นภาษาญี่ปุ่นนิดนึงน้า เพื่อให้เข้ากับสถานที่ที่จะพาไปเยือนกันหน่อยจ้าาา หลังจากที่เห็นรูปเปิดกระทู้แล้วก็น่าจะพอรู้กันแล้วใช่ไหมเอ่ยว่าครั้งนี้จะพาไปเที่ยวที่ไหน...ใช่แล้วค่า รอบนี้จะพาไปตะลุยแดนอาทิตย์อุทัย “ประเทศญี่ปุ่น” นั่นเอง Go Go! ซึ่งช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดีเลย แอบกระซิบบอกเลยว่าเป็นฤดูที่โรแมนติกสุดๆ ห้ามพลาดเชียวนา เพราะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูนี้เราก็จะได้เห็นใบไม้เริ่มพากันเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองส้มและสีแดง ก่อนที่จะร่วงหล่นไปจนหมดต้นค่ะ #สวยงามสุดๆ
อ๊ะ...อ๊ะ...ก่อนจะออกตะลุยตามแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ เรามาดูกันสิว่ามีข้อมูลน่ารู้และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างกันดีกว่าค่ะ
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน โดยใบไม้จะค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนสีไล่จากทางภาคเหนือ (ฮอกไกโด) ลงสู่ภาตใต้ของญี่ปุ่น (คิวชู) แต่ช่วงเวลาการเปลี่ยนสีของใบไม้อาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างในแต่ละปีนะคะ เพราะจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพอากาศของปีนั้นๆ ค่ะ
ในฤดูนี้อากาศจะเย็นสบายและอุณหภูมิจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10-20 องศาเซลเซียสค่ะ การแต่งกายจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อุ่นๆ หน่อย เช่น เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคลุม เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อสเวตเตอร์ ผ้าพันคอ กางเกงขายาว กางเกงเลกกิ้งแบบหนา กระโปรงยาว ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า และสวมรองเท้าหุ้มส้นหรือรองเท้าบูทค่ะ
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซันตั้งอยู่ที่เมืองคะมิคะวะ (Kamikawa) ซึ่งที่นี่จะเป็นสถานที่แรกที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีค่ะ โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีไล่จากยอดภูเขาคุโรดาเกะลงมาถึงจุดชมใบไม้แดงที่สวยที่สุดตรงปากทางขึ้นเขา มีชื่อว่า “กินเซ็นได” และในบริเวณนั้นก็ยังมีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่ 10 กว่าแห่ง เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปใช้บริการแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งพร้อมชมใบไม้แดงที่งดงามได้อีกด้วย
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนกันยายน - ปลายเดือนกันยายน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Kamikawa แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
สวนสาธารณะมิฮะระชิหรือสวนโคเซ็ตสึเอ็นตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกะดาเตะ (Hakodate) เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเป็นสไตล์แบบสวนญี่ปุ่นอย่างสวยงามด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดรวมกว่า 150 ชนิด ซึ่งที่นี่คือสวนแห่งเดียวในฮอกไกโดที่รัฐบาลประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และเป็นสวนยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยค่ะ เพราะจะมีต้นไม้ชชนิดต่างๆ มากมายทั้งต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) และโดดันทสึทสึจิ (Dodantsutsuji) ต่างก็พากันทยอยเปลี่ยนสีสันสวยสดงดงามทั้งแดงและเหลืองน่าประทับใจมากเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟ JR Limited Express Super Hokuto ไปลงที่สถานี Hakodate ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นโดยสารรถ Hakodate Bus ไปลงที่ป้าย Kosetsuen ใช้เวลา 40 นาที
ทะเลสาบโทวาดาโกะตั้งอยู่ที่จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮนชู และเป็นทะเลสาบแบบ Caldera ซึ่งชื่อนี้มาจากภาษาสเปน มีความหมายว่าหม้อ เพราะพื้นที่ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูกนี้มีลักษณะยุบลงเป็นรูปทรงคล้ายหม้อ มีสาเหตุเกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งทะเลสาบโทวาดาโกะถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา จึงสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวชมธรรมชาติและใบไม้แดงโดยรอบของทะเลสาบได้ ถ้าไม่นั่งเรือชมธรรมชาติก็สามารถมาแช่น้ำพุร้อนโทวาดาโกะแทนค่ะ หรือจะไปเก็บแอปเปิ้ลผลไม้ขึ้นชื่อของที่นี่กลับไปเป็นของฝากกลับบ้านก็ได้นะคะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนตุลาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Aomori แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า
เทือกเขาซาโอตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยามางาตะ (Yamagata) และจังหวัดมิยางิ (Miyagi) เป็นเทือกเขาที่สวยงามและโด่งดังมากในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่นค่ะ และท้องถิ่นนี้ยังมีน้ำพุร้อนชื่อดังอยู่หลายแห่งให้เข้าใช้บริการได้ หรือเพื่อนๆ จะขึ้นไปชมใบไม้แดงจากมุมสูงก็ได้นะคะ โดยสามารถไปใช้บริการกระเช้าของลานสกีฤดูหนาวค่ะ >__<//
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนตุลาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Yamagata แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
สวนเมจิจิงงูไกเองตั้งอยู่ที่จังหวัดโตเกียว (Tokyo) โดยในสวนนี้จะมีต้นอิโจ (แปะก้วย) กว่า 140 ต้น ขึ้นเรียงรายทั้งสองข้างทางอย่างสวยงาม ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้นดิน จนทางเดินกลายเป็นสีเหลืองในที่สุดค่ะ น่าจะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวที่โตเกียวแล้วไม่มีเวลาไปเที่ยวนอกเมือง #เที่ยวในเมืองก็ฟินกับใบไม้เปลี่ยนสีได้น้า
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : สถานีรถไฟ JR Shinanomachi หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Gaienmae
น้ำตกฟุคุโรดะตั้งอยู่ที่จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) เป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ โดยน้ำตกที่นี่จะไหลผ่านหน้าผาหินยักษ์ที่มีขนาดใหญ่และมีลักษณะของชั้นหินที่ไล่ระดับลงมา 4 ชั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า ‘น้ำตก 4 ชั้น’ เพื่อนๆ สามารถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีและน้ำตกที่สวยงามได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ #งดงามฟินมาก
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Fukuroda แล้วนั่งรถบัสมา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ทะเลสาบคาวางุจิโกะตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในการชมภูเขาไฟฟูจิ และก็ยังเป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมากอีกด้วยค่ะ เพราะเราจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิที่ยอดเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวแล้วตัดกับสีของใบไม้แดง เป็นภาพวิวที่หลายๆ คนใฝ่ฝันที่อยากมาเห็นกับตาตัวเอง โดยใบไม้แดงในแถบนี้เกือบทั้งหมดเป็นใบของต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) ค่ะ โดยช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มที่หมดก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบโมมิจิขึ้น ซึ่งในงานตอนกลางคืนจะประดับไฟจนถึงเวลาประมาณสี่ทุ่ม #สวยงามไปอีกแบบ แถมละแวกใกล้เคียงแถวนี้ยังมีสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์ศิลปะอยู่หลายแห่งเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : ต้นเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : โดยรถยนต์จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko and Fujikyu ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
โครังเคเป็นหุบเขาที่อยู่ในจังหวัดไอจิ (Aichi) และขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคจูบุ โดยมีแลนด์มาร์คสำคัญที่พลาดไม่ได้ถ้าไปเที่ยวที่นี่ก็คือ สะพานไม้ไทเกะสึเคียว เพราะเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามและเป็นสะพานสัญลักษณ์ประจำโครังเคนั่นเอง
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Nagoya โดยสารรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Line ไปลงที่สถานี Higashi Okazaki แล้วนั่งรถบัสสาย Meitetsu ต่อไปยัง Korankei
อะระชิยะมะตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโต (Kyoto) เป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูมิภาคนี้ จนถึงขั้นที่มีบริการรถไฟชมวิวโทร็อกโกะให้ได้นั่งชมวิวกันแบบเพลินๆ หรือจะนั่งเรือล่องแม่น้ำชมวิวก็เป็นอีกบรรยากาศที่น่าลองนะคะ แต่มีแลนด์มาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกคนเมื่อมาเที่ยวที่นี่แล้วต้องไม่พลาดก็คือการถ่ายรูปกับสะพานโทเง็ทสึเคียว โดยมีภูเขาอะระชิยะมะเป็นฉากหลังค่ะ ^___^
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR Saga-Arashiyama ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
วัดคิโยะมิซุหรือวัดน้ำใสตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโต (Kyoto) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในเกียวโตและได้เป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วยค่ะ ถือว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน ด้วยทำเลที่ตั้งของวัดอยู่บนเนินเขาและรองรับด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น จึงทำให้เมื่อมองลงมาด้านล่างจากบนศาลาก็จะเห็นใบของต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) เปลี่ยนสีเป็นสีแดงมากมายอย่างสวยงามเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปชม : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ Kiyomizu Gojo ใช้เวลาประมาณ 20 นาที