อย่างที่หลายๆท่านทราบกันดีกว่า กองทัพแห่งจักรวรรดิบริติชนั้นประกอบด้วยหลายเชื้อชาติไม่ว่าจะ ไอริช สก็อตแลนด์ แขกซีปอย ฯลฯ และ 1 ในนั้นก็มีหน่วยทหารหน่วยหนึ่งซึ่งมีการจัดระบบเป็นกรมทหารหลายแบบทั้ง ราบ ม้า ปืน และที่สำคัญคือพวกเขามีสัญชาติเยอรมัน เราจะเรียกพวกเขารวมๆว่า King's German Legion
แต่เดิมรัฐแห่งผู้คัดเลือกฮันโนเวอร์ มีกษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขด้วยนับตั้งแต่สมัยพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งราชวงศ์ฮันโนเวอร์ (ฮันโนเวอร์เป็นรัฐทางตอนเหนือเยอรมัน ประชากรก็เป็นเยอรมัน) จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1803 กองทัพฝรั่งเศสได้เข้ายึดครองฮันโนเวอร์ เป็นผลทำให้รัฐผู้คัดเลือกแห่งฮันโนเวอร์ถูกยุบรวมกับฝรั่งเศส นายทหารฮันโนเวอร์หลายนายหนีไปยังอังกฤษ ต่อมาพันตรี Colin Halkett และ พันเอก Johann Friedrich von der Decken ได้ทำการรวบรวมบรรดาทหารฮันโนเวอร์เก่าที่หนีมาจัดตั้งเป็น กรมทหารราบเบา King's German ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.1803 ต่อมาทั้ง Decken และ Halkett ได้รวบรวมอาสาสมัครเยอรมันมากขึ้นจัดตั้งกรมทหารผสม ทั้งม้าทั้งราบ และสถาปนาใหม่เป็นกลุ่มกองกำลัง King's German Legion
พวกเขาขึ้นชื่อว่ามีระเบียบวินัยและฝีมือเยี่ยมไม่แพ้ทหารอังกฤษ ทหารม้าของ King's German Legion ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ในหน่วยทหารม้าที่ดีที่สุดในอังกฤษ ตลอดห้วงสงครามนโปเลียน King's German Legion ประกอบด้วย กำลังพลดังนี้
ทหารราบ
- กองพันทหารราบเบาที่ 1
- กองพันทหารราบเบาที่ 2
- กองพันทหารราบที่ 1
- กองพันทหารราบที่ 2
- กองพันทหารราบที่ 3
- กองพันทหารราบที่ 4
- กองพันทหารราบที่ 5
- กองพันทหารราบที่ 6
- กองพันทหารราบที่ 7
- กองพันทหารราบที่ 8
ทหารม้า
- กรมทหารม้า Hussar ที่ 1
- กรมทหารม้า Hussar ที่ 2
- กรมทหารม้า Hussar ที่ 3
- กรมทหารม้า Dragoon ที่ 1 (สวมแจ๊กแก็ตแดง) ต่อมาในปี ค.ศ.1812 เปลี่ยนเป็น กรมทหารม้า Light Dragoon ที่ 1 (แจ๊กเก็ตเขียว)
- กรมทหารม้า Dragoon ที่ 2 (สวมแจ๊กแก็ตแดง) ต่อมาในปี ค.ศ.1812 เปลี่ยนเป็น กรมทหารม้า Light Dragoon ที่ 2 (แจ๊กเก็ตเขียว)
ทหารปืนใหญ่
- 2 กองร้อยปืนใหญ่สนามเคลื่อนที่เร็ว
- 4 กองร้อยปืนใหญ่สนาม
ในช่วงแรกๆกองกำลังนี้มีทหารทั้งสิ้น 14,000 นายและเคยมากสุดถึง 28,000 นาย นายทหารใน King's German Legion ในช่วงแรกจะได้รับติดยศชั่วคราว แต่เมื่อสงครามทวีนานขึ้นและการที่อยากทำให้พวกมีแรงกระตุ้นในการรบจึงได้มีการเลื่อนยศถาวรให้ นายทหารใน King's German Legion พวกเขาเริ่มมีส่วนร่วมสำคัญในการปราบจลาจลในไอแลนด์เมื่อปี ค.ศ.1806 และเดินทางตามท่าน Sir Arthur Wellesley ไปทำสงครามในเดนมาร์ก และพวกเขามีบทบาทอย่างมากในสงครามคาบสมุทร และกายุทธที่ Waterloo เมื่อปี ค.ศ.1815 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฟาร์ม Hougoumont ทหารราบเบาของ King’s German Legion ป้องกันฟาร์มอย่างเหนียวแน่นทำให้ผู้รุกรานฝรั่งเศสเสียไพร่พลไปมาก หลังจากการประชุม Congress ที่เวียนนา ราชอาณาจักรฮันโนเวอร์ถูกตั้งขึ้นมาใหม่ และ King’s German Legion ก็ถูกยุบรวมกับกองทัพของราชอาณาจักรฮันโนเวอร์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1816
King's German Legion ทหารสัญชาติเยอรมันภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ
แต่เดิมรัฐแห่งผู้คัดเลือกฮันโนเวอร์ มีกษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขด้วยนับตั้งแต่สมัยพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งราชวงศ์ฮันโนเวอร์ (ฮันโนเวอร์เป็นรัฐทางตอนเหนือเยอรมัน ประชากรก็เป็นเยอรมัน) จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1803 กองทัพฝรั่งเศสได้เข้ายึดครองฮันโนเวอร์ เป็นผลทำให้รัฐผู้คัดเลือกแห่งฮันโนเวอร์ถูกยุบรวมกับฝรั่งเศส นายทหารฮันโนเวอร์หลายนายหนีไปยังอังกฤษ ต่อมาพันตรี Colin Halkett และ พันเอก Johann Friedrich von der Decken ได้ทำการรวบรวมบรรดาทหารฮันโนเวอร์เก่าที่หนีมาจัดตั้งเป็น กรมทหารราบเบา King's German ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.1803 ต่อมาทั้ง Decken และ Halkett ได้รวบรวมอาสาสมัครเยอรมันมากขึ้นจัดตั้งกรมทหารผสม ทั้งม้าทั้งราบ และสถาปนาใหม่เป็นกลุ่มกองกำลัง King's German Legion
พวกเขาขึ้นชื่อว่ามีระเบียบวินัยและฝีมือเยี่ยมไม่แพ้ทหารอังกฤษ ทหารม้าของ King's German Legion ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ในหน่วยทหารม้าที่ดีที่สุดในอังกฤษ ตลอดห้วงสงครามนโปเลียน King's German Legion ประกอบด้วย กำลังพลดังนี้
ทหารราบ
- กองพันทหารราบเบาที่ 1
- กองพันทหารราบเบาที่ 2
- กองพันทหารราบที่ 1
- กองพันทหารราบที่ 2
- กองพันทหารราบที่ 3
- กองพันทหารราบที่ 4
- กองพันทหารราบที่ 5
- กองพันทหารราบที่ 6
- กองพันทหารราบที่ 7
- กองพันทหารราบที่ 8
ทหารม้า
- กรมทหารม้า Hussar ที่ 1
- กรมทหารม้า Hussar ที่ 2
- กรมทหารม้า Hussar ที่ 3
- กรมทหารม้า Dragoon ที่ 1 (สวมแจ๊กแก็ตแดง) ต่อมาในปี ค.ศ.1812 เปลี่ยนเป็น กรมทหารม้า Light Dragoon ที่ 1 (แจ๊กเก็ตเขียว)
- กรมทหารม้า Dragoon ที่ 2 (สวมแจ๊กแก็ตแดง) ต่อมาในปี ค.ศ.1812 เปลี่ยนเป็น กรมทหารม้า Light Dragoon ที่ 2 (แจ๊กเก็ตเขียว)
ทหารปืนใหญ่
- 2 กองร้อยปืนใหญ่สนามเคลื่อนที่เร็ว
- 4 กองร้อยปืนใหญ่สนาม
ในช่วงแรกๆกองกำลังนี้มีทหารทั้งสิ้น 14,000 นายและเคยมากสุดถึง 28,000 นาย นายทหารใน King's German Legion ในช่วงแรกจะได้รับติดยศชั่วคราว แต่เมื่อสงครามทวีนานขึ้นและการที่อยากทำให้พวกมีแรงกระตุ้นในการรบจึงได้มีการเลื่อนยศถาวรให้ นายทหารใน King's German Legion พวกเขาเริ่มมีส่วนร่วมสำคัญในการปราบจลาจลในไอแลนด์เมื่อปี ค.ศ.1806 และเดินทางตามท่าน Sir Arthur Wellesley ไปทำสงครามในเดนมาร์ก และพวกเขามีบทบาทอย่างมากในสงครามคาบสมุทร และกายุทธที่ Waterloo เมื่อปี ค.ศ.1815 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฟาร์ม Hougoumont ทหารราบเบาของ King’s German Legion ป้องกันฟาร์มอย่างเหนียวแน่นทำให้ผู้รุกรานฝรั่งเศสเสียไพร่พลไปมาก หลังจากการประชุม Congress ที่เวียนนา ราชอาณาจักรฮันโนเวอร์ถูกตั้งขึ้นมาใหม่ และ King’s German Legion ก็ถูกยุบรวมกับกองทัพของราชอาณาจักรฮันโนเวอร์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1816