หลังจากที่หนังฟอร์มใหญ่ช่วงกลางถึงปลาย Summer ต่างประสบความสำเร็จกันทุกเรื่องลากยาวมาจนถึงต้นเดือนกันยายน ในที่สุดเมื่อย่างเข้ากลางเดือนดูเหมือนเหมือนจะได้เหยื่อที่ล้มเหลวบนตาราง Box Office แล้วนั่นก็คือนักล่าจากต่างดาว The Predator นั่นเอง
The Predator ($54.73 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวไปเรียบร้อยสำหรับการกลับมาของยอดนักล่าแห่งจักรวาล The Predator ที่ได้ศิษย์เก่าจากภาคแรก Shane Black นั่งแท่นผู้กำกับในคราวนี้ แต่ผลตอบรับดูเหมือนว่าผู้ชมจะไม่ปลื้ม Predator ภาคใหม่ที่ Fox หวังจะใช้ปูทางสู่การ Reboot แฟรนไชส์นี้ซักเท่าไหร่นัก โดยในอเมริกาเหนือทำรายได้เปิดตัวเพียง $24 ล้าน(ประมาณ) เท่าๆกับรายได้เปิดตัวของ Predators เมื่อ 8 ปีก่อน ในขณะที่โรงฉายเพิ่มขึ้น ค่าเงินเฟ้อสูงขึ้น ค่าตั๋วสูงขึ้น และที่สำคัญทุนสร้างสูงกว่าเดิมลิบลับ The Predator (2018) ทุนสร้าง $88 ล้าน ในขณะที่ Predators (2010) ใช้เพียง $38 ล้านเท่านั้น และ The Predator ยังได้สร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำเพิ่มเติมคือเป็นภาพยนตร์ Live-action ที่เปิดฉายมากกว่า 4,000 โรงที่ทำรายได้เปิดตัวต่ำที่สุดตลอดกาลพ่ายเจ้าของตำแหน่งเดิมคือ The Mummy ($31.6 ล้าน) ขาดลอย
ทางด้านตลาดนอก The Predator ก็โชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกและอาจจะต้องปิดเกมล่าในเร็ววันเพราะทำรายได้เปิดตัวตลาดต่างประเทศไป $30.73 ล้าน ต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำที่สื่อทั้งหลายประเมินไว้ที่ $40 ล้านเสียอีก รวมทั่วโลกทำเงินไป $54.73 ล้านเหรียญ พอๆกับรายได้เปิดตัวในบ้านของ The Nun เพียงตลาดเดียวเท่านั้น โดยตลาดสำคัญๆของโลกนั้น Predator ทำรายได้เป็นอันดับที่ 1 ใน UK = $3.1 ล้าน, Russia = $4.73 ล้าน อันดับที่ 2 ใน Spain = $1.28 ล้าน, Germany = $1.22 ล้าน, , Australia = $1.73 ล้าน, Japan = $2.14 ล้าน, Brazil = $1.32 ล้าน และอันดับที่ 4 ใน South Korea = $1.22 ล้าน
Predator นั้นเปิดตัวไปรวดเดียวเกือบครบทุกประเทศแล้วแต่ยังเหลือกำหนดการฉายในตลาดหลักๆคือ Mexico (21 กันยายน) Italy (11 ตุลาคม) France (17 ตุลาคม) และจีนซึ่งยังไม่กำหนดวันฉาย ดูแล้วอนาคตด้านรายได้ของ Predator ค่อนข้างมืดมน ความหวังเดียวที่เหลืออยู่คือต้องฮิตระเบิในจีน ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบันมีข่าวว่า The Predator ได้ผ่านการตรวจสอบจาดคณะกรรมการเซนเซอร์ของจีนแล้วแต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ รวมทั้งยังไม่มีกำหนดการฉายจากต้นสังกัดในจีนด้วย
The Nun ($228.7 ล้านเหรียญ)
ในขณะที่คู่แข่งซึ่งเลื่อนเวลาฉายมาลงเดือนกันยายนเหมือนกันอย่าง The Predator กำลังย่ำแย่ The Nun ที่เปลี่ยนโปรแกรมจากเดือนกรกฎาคมมาเป็นกันยายนกลับไปได้สวยทั้งในบ้านและนอกบ้าน โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในอเมริกาเหนือผีแม่อาละวาดกวาดเงินไปอีก $18.2 ล้าน(ประมาณ) รวมแล้ว $85 ล้าน ตลาดต่างประเทศสุดสัปดาห์นี้ $33.1 ล้าน รวม $143.6 ล้าน รวมทั่วโลกทำไปแล้ว $228.7 ล้านเหรียญ กำไรใสๆสำหรับหนังต้นทุน $22 ล้านเรื่องนี้ และอนาคตของ Conjure-verse ก็ยิ่งสดใสขึ้นไปอีก
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา The Nun เปิดตัวเพิ่มใน Belgium และทำรายได้เป็นอันดับที่ 1 ที่ $1.35 ล้าน และยังสามารถยึดครองอันดับที่ 1 ในตลาดสำคัญๆอื่นๆอีกคือ Brazil = $3.5 ล้าน รวม $12.6 ล้าน, Mexico = $3.3 ล้าน รวม $17 ล้าน, Spain = $1.9 ล้าน รวม $7.5 ล้าน, Germany = $1.7 ล้าน รวม $5 ล้าน ใน UK ยึดอันดับที่ 2 ที่ $2.3 ล้าน รวม $9.8 ล้าน และที่น่าสนใจคือ Indonesia ซึ่งป็นตลาดหลักของแฟรนไชส์ Conjuring ล่าสุดเก็บไปอีก $1.42 ล้าน รวม $12.7 ล้าน กลายเป็นหนังของ WB ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลใน Indonesia ไปแล้ว
นอกเหนือจากนั้น The Nun ยังมีดาบสองที่จะเข้าฉายในอีก 6 ตลาดสำคัญสุดสัปดาห์นี้คือ France, Italy, Russia, South Korea, Japan และ Hong Kong อีกด้วย เป้าหมาย $300 ล้านเหรียญน่าจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
Mission: Impossible-Fallout ($761 ล้านเหรียญ)
ในที่สุด Tom Cruise ก็พา MI6 ขึ้นครองตำแหน่งภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ Mission: Impossible ที่ทำรายได้ในบ้านมากที่สุดตลอดกาลได้สำเร็จ ล่าสุดรายได้รวมในบ้านอยู่ที่ $216.1 ล้านเหรียญมากกว่า MI2 ที่ทำไป $215.4 ล้านเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่รายได้ตลาดนอกนั้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังทำไปอีก $15.9 ล้าน รวม $544.8 ล้านเหรียญ รวมทั่วโลก $761 ล้านเหรียญ สูงกว่าเป้าหมาย $700 ล้านที่ตั้งไว้มากมายรวมทั้งทะลุ $750 ล้านที่สื่อ Hollywood คาดการณ์กันไว้เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน ตอนนี้ทีมสายลับ IMF กำลังเดินหน้าสู่ $800 ล้านอย่างช้าๆ โดยมีหัวหอกคัญคือตลาดจีนซึ่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเงินไป $12.6 ล้าน รวม $162.3 ล้าน ปัญหาคือ Wolf Warriors 2 กองพันหมาป่าหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของจีนกำลังจะกลับมาฉายใหม่อีกครั้งในวันที่ 19 กันยายนนี้ ก็ต้องคอยดูกันว่า MI6 จะเก็บรายได้เพิ่มอีกแค่ไหนในแดนมังกร
The Meg ($505.3 ล้านเหรียญ)
เจ้าฉลามยักษ์ขย้ำเป้าหมายจมเขี้ยวหลังจากทำเงินตลาดนอกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไป $6.1 ล้าน รวม $368.2 ล้าน รวมทั่วโลก $505.3 ล้านเข้าไปแล้ว ฝ่ายรายได้ในบ้านก็ใช่ย่อยตกลงจากสัปดาห์ที่แล้วไม่ถึง -40% และกวาดรายได้ไปเฉียดๆ $140 ล้านจนถึงขณะนี้ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับหนังแนวนี้ นับว่าการตลาดของ WB ที่เลือกจะโปรโมต The Meg ในแบบ Thriller-Comedy ไม่ใช่หนังฉลามจริงจังได้ผลแบบสุดๆ โดยมีการคาดหมายว่าสุดท้าย WB จะได้กำไร (รวม Home media) จาก The Meg ถึง $75 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
A Simple Favor ($19.5 ล้านเหรียญ)
เมื่อ Anna Kendrick มาประชัน Blake Lively ในหนังตลกร้ายฝีมือ Paul Feig ก็เรียกเงินจากกระเป๋าคนดูในบ้านไป $16 ล้าน บวกกับรายได้ตลาดนอกอีก $3.5 ล้าน รวมเป็น $19.5 ล้านเหรียญ โดยตลาดหลักที่เปิดตัวไปแล้วคือ Australia = $1.5 ล้านเหรียญ ส่วนประเทศอื่นๆมีก็คิวเปิดตัวตามมา UK, Russia สัปดาห์หน้า France, Brazil, Mexico, Spain (27-28 กันยายน) และ Germany (8 พฤศจิกายน)
Johnny English Strikes Again ($3.3 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวกันไปแล้วในบางตลาดสำหรับภาคล่าสุดของสายลับจอมป่วน Johnny English และทำเงินในตลาดโลกไป $3.3 ล้าน นำมาโดย Malaysia ประเทศที่รักหนังตลก $1.89 ล้าน Mexico ตามผีแม่ชีมาในอันดับที่ 2 ที่ 1.06 ล้าน โดยสายลับสุดฮานี้ยังมีคิวทยอยเปิดตัวอีกหลายประเทศ Australia, Russia, Spain, Hong Kong (20-21 กันยายน) Brazil (4 ตุลาคม) UKประจันหน้ากับ A Star IS Born ในวันที่ 5 ตุลาคม France (10 ตุลาคม) Italy (11 ตุลาคม) Germany (18 ตุลาคม) North America (26 ตุลาคม) และ Japan (9 พฤศจิกายน)
Crazy Rich Asians ($187.4 ล้านเหรียญ)
CRA ยังคงวิ่งฉิวให้ WB ยิ้มกว้างกับตลาดในบ้านล่าสุดเก็บไปอีก $8.7 ล้าน รวมแล้ว $149.5 ล้านและยังเดินหน้าสร้างความรวยให้ต้นสังกัดต่อไปเรื่อยๆ โดยคราวนี้เป้าหมายใหม่ในบ้านอยู่ที่ $200 ล้านแล้ว ในขณะที่ตลาดนอกเก็บไปอีก $7.3 ล้าน รวม $37.9 ล้าน รวมทั่วโลก $187.4 ล้านเหรียญ ล่าสุดเปิดตัวใน Indonesia ไป $2.1 ล้าน และ UK $2 ล้านเหรียญ Crazy Rich Asians มีคิวฉายต่อไปที่ Mexico (21 กันยายน) Japan (28 กันยายน) France (10 ตุลาคม) และ Brazil (25 ตุลาคม) โดยที่ Warner Bros. ยังคงลังเลว่าจะส่ง CRA ลงตลาดจีนดีหรือไม่
Disney’s Christopher Robin ($153.7 ล้านเหรียญ)
ไปต่อเรื่อยๆสำหรับขวัญใจเยาวชน Winnie the Pooh หลังจากเก็บรายได้ตลาดนอกไปอีก $5.1 ล้าน รวม $58.7 ล้าน รวมทั่วโลก $153.7 ล้านเหรียญ สัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดตัวในญี่ปุ่นไป $3.5 ล้าน Australia $1.6 ล้าน ด้านรายได้นบ้านก็คืบคลานเข้าใกล้ $100 ล้านเข้าไปทุกทีล่าสุดเก็บไปอีก $2 ล้านรวมเป็น $95 ล้านเหรียญแล้ว และยังมีคิวเปิดตัวใน Spain, South Korea และ France ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนนี้จนถึงตุลาคม
สำหรับเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
Incredibles 2
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $3.6 ล้าน ตลาดนอกรวม $577.8 ล้าน รวมทั่วโลก $1,183.4 ล้านเหรียญ
Hotel Transylvania 3: Summer Vacation
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $3.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $337.8 ล้าน รวมทั่วโลก $503.1 ล้านเหรียญ
Ant-man and the Wasp
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $2.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $401.6 ล้าน รวมทั่วโลก $617 ล้านเหรียญ
Peppermint
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $1.8 ล้าน ตลาดนอกรวม $3.9 ล้าน รวมทั่วโลก $25.6 ล้านเหรียญ
Jurassic World : Fallen Kingdom
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $0.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $886.9 ล้าน รวมทั่วโลก $1,303.1 ล้านเหรียญ
Mama Mia : Here We Go Again
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $3.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $263.3 ล้าน รวมทั่วโลก $383 ล้านเหรียญ
The Equalizer 2
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $4.2 ล้าน ตลาดนอกรวม $78.4 ล้าน รวมทั่วโลก $180.2 ล้านเหรียญ
[BoxOffice WW] The Predator ผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อ The Nun สยอง $228 ล้าน MI6 ฉลุย $761 ล้าน The Meg ทะลุ $500 ล้านลำเร็จ
The Predator ($54.73 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวไปเรียบร้อยสำหรับการกลับมาของยอดนักล่าแห่งจักรวาล The Predator ที่ได้ศิษย์เก่าจากภาคแรก Shane Black นั่งแท่นผู้กำกับในคราวนี้ แต่ผลตอบรับดูเหมือนว่าผู้ชมจะไม่ปลื้ม Predator ภาคใหม่ที่ Fox หวังจะใช้ปูทางสู่การ Reboot แฟรนไชส์นี้ซักเท่าไหร่นัก โดยในอเมริกาเหนือทำรายได้เปิดตัวเพียง $24 ล้าน(ประมาณ) เท่าๆกับรายได้เปิดตัวของ Predators เมื่อ 8 ปีก่อน ในขณะที่โรงฉายเพิ่มขึ้น ค่าเงินเฟ้อสูงขึ้น ค่าตั๋วสูงขึ้น และที่สำคัญทุนสร้างสูงกว่าเดิมลิบลับ The Predator (2018) ทุนสร้าง $88 ล้าน ในขณะที่ Predators (2010) ใช้เพียง $38 ล้านเท่านั้น และ The Predator ยังได้สร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำเพิ่มเติมคือเป็นภาพยนตร์ Live-action ที่เปิดฉายมากกว่า 4,000 โรงที่ทำรายได้เปิดตัวต่ำที่สุดตลอดกาลพ่ายเจ้าของตำแหน่งเดิมคือ The Mummy ($31.6 ล้าน) ขาดลอย
ทางด้านตลาดนอก The Predator ก็โชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกและอาจจะต้องปิดเกมล่าในเร็ววันเพราะทำรายได้เปิดตัวตลาดต่างประเทศไป $30.73 ล้าน ต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำที่สื่อทั้งหลายประเมินไว้ที่ $40 ล้านเสียอีก รวมทั่วโลกทำเงินไป $54.73 ล้านเหรียญ พอๆกับรายได้เปิดตัวในบ้านของ The Nun เพียงตลาดเดียวเท่านั้น โดยตลาดสำคัญๆของโลกนั้น Predator ทำรายได้เป็นอันดับที่ 1 ใน UK = $3.1 ล้าน, Russia = $4.73 ล้าน อันดับที่ 2 ใน Spain = $1.28 ล้าน, Germany = $1.22 ล้าน, , Australia = $1.73 ล้าน, Japan = $2.14 ล้าน, Brazil = $1.32 ล้าน และอันดับที่ 4 ใน South Korea = $1.22 ล้าน
Predator นั้นเปิดตัวไปรวดเดียวเกือบครบทุกประเทศแล้วแต่ยังเหลือกำหนดการฉายในตลาดหลักๆคือ Mexico (21 กันยายน) Italy (11 ตุลาคม) France (17 ตุลาคม) และจีนซึ่งยังไม่กำหนดวันฉาย ดูแล้วอนาคตด้านรายได้ของ Predator ค่อนข้างมืดมน ความหวังเดียวที่เหลืออยู่คือต้องฮิตระเบิในจีน ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบันมีข่าวว่า The Predator ได้ผ่านการตรวจสอบจาดคณะกรรมการเซนเซอร์ของจีนแล้วแต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ รวมทั้งยังไม่มีกำหนดการฉายจากต้นสังกัดในจีนด้วย
The Nun ($228.7 ล้านเหรียญ)
ในขณะที่คู่แข่งซึ่งเลื่อนเวลาฉายมาลงเดือนกันยายนเหมือนกันอย่าง The Predator กำลังย่ำแย่ The Nun ที่เปลี่ยนโปรแกรมจากเดือนกรกฎาคมมาเป็นกันยายนกลับไปได้สวยทั้งในบ้านและนอกบ้าน โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในอเมริกาเหนือผีแม่อาละวาดกวาดเงินไปอีก $18.2 ล้าน(ประมาณ) รวมแล้ว $85 ล้าน ตลาดต่างประเทศสุดสัปดาห์นี้ $33.1 ล้าน รวม $143.6 ล้าน รวมทั่วโลกทำไปแล้ว $228.7 ล้านเหรียญ กำไรใสๆสำหรับหนังต้นทุน $22 ล้านเรื่องนี้ และอนาคตของ Conjure-verse ก็ยิ่งสดใสขึ้นไปอีก
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา The Nun เปิดตัวเพิ่มใน Belgium และทำรายได้เป็นอันดับที่ 1 ที่ $1.35 ล้าน และยังสามารถยึดครองอันดับที่ 1 ในตลาดสำคัญๆอื่นๆอีกคือ Brazil = $3.5 ล้าน รวม $12.6 ล้าน, Mexico = $3.3 ล้าน รวม $17 ล้าน, Spain = $1.9 ล้าน รวม $7.5 ล้าน, Germany = $1.7 ล้าน รวม $5 ล้าน ใน UK ยึดอันดับที่ 2 ที่ $2.3 ล้าน รวม $9.8 ล้าน และที่น่าสนใจคือ Indonesia ซึ่งป็นตลาดหลักของแฟรนไชส์ Conjuring ล่าสุดเก็บไปอีก $1.42 ล้าน รวม $12.7 ล้าน กลายเป็นหนังของ WB ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลใน Indonesia ไปแล้ว
นอกเหนือจากนั้น The Nun ยังมีดาบสองที่จะเข้าฉายในอีก 6 ตลาดสำคัญสุดสัปดาห์นี้คือ France, Italy, Russia, South Korea, Japan และ Hong Kong อีกด้วย เป้าหมาย $300 ล้านเหรียญน่าจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
Mission: Impossible-Fallout ($761 ล้านเหรียญ)
ในที่สุด Tom Cruise ก็พา MI6 ขึ้นครองตำแหน่งภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ Mission: Impossible ที่ทำรายได้ในบ้านมากที่สุดตลอดกาลได้สำเร็จ ล่าสุดรายได้รวมในบ้านอยู่ที่ $216.1 ล้านเหรียญมากกว่า MI2 ที่ทำไป $215.4 ล้านเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่รายได้ตลาดนอกนั้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังทำไปอีก $15.9 ล้าน รวม $544.8 ล้านเหรียญ รวมทั่วโลก $761 ล้านเหรียญ สูงกว่าเป้าหมาย $700 ล้านที่ตั้งไว้มากมายรวมทั้งทะลุ $750 ล้านที่สื่อ Hollywood คาดการณ์กันไว้เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน ตอนนี้ทีมสายลับ IMF กำลังเดินหน้าสู่ $800 ล้านอย่างช้าๆ โดยมีหัวหอกคัญคือตลาดจีนซึ่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเงินไป $12.6 ล้าน รวม $162.3 ล้าน ปัญหาคือ Wolf Warriors 2 กองพันหมาป่าหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของจีนกำลังจะกลับมาฉายใหม่อีกครั้งในวันที่ 19 กันยายนนี้ ก็ต้องคอยดูกันว่า MI6 จะเก็บรายได้เพิ่มอีกแค่ไหนในแดนมังกร
The Meg ($505.3 ล้านเหรียญ)
เจ้าฉลามยักษ์ขย้ำเป้าหมายจมเขี้ยวหลังจากทำเงินตลาดนอกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไป $6.1 ล้าน รวม $368.2 ล้าน รวมทั่วโลก $505.3 ล้านเข้าไปแล้ว ฝ่ายรายได้ในบ้านก็ใช่ย่อยตกลงจากสัปดาห์ที่แล้วไม่ถึง -40% และกวาดรายได้ไปเฉียดๆ $140 ล้านจนถึงขณะนี้ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับหนังแนวนี้ นับว่าการตลาดของ WB ที่เลือกจะโปรโมต The Meg ในแบบ Thriller-Comedy ไม่ใช่หนังฉลามจริงจังได้ผลแบบสุดๆ โดยมีการคาดหมายว่าสุดท้าย WB จะได้กำไร (รวม Home media) จาก The Meg ถึง $75 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
A Simple Favor ($19.5 ล้านเหรียญ)
เมื่อ Anna Kendrick มาประชัน Blake Lively ในหนังตลกร้ายฝีมือ Paul Feig ก็เรียกเงินจากกระเป๋าคนดูในบ้านไป $16 ล้าน บวกกับรายได้ตลาดนอกอีก $3.5 ล้าน รวมเป็น $19.5 ล้านเหรียญ โดยตลาดหลักที่เปิดตัวไปแล้วคือ Australia = $1.5 ล้านเหรียญ ส่วนประเทศอื่นๆมีก็คิวเปิดตัวตามมา UK, Russia สัปดาห์หน้า France, Brazil, Mexico, Spain (27-28 กันยายน) และ Germany (8 พฤศจิกายน)
Johnny English Strikes Again ($3.3 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวกันไปแล้วในบางตลาดสำหรับภาคล่าสุดของสายลับจอมป่วน Johnny English และทำเงินในตลาดโลกไป $3.3 ล้าน นำมาโดย Malaysia ประเทศที่รักหนังตลก $1.89 ล้าน Mexico ตามผีแม่ชีมาในอันดับที่ 2 ที่ 1.06 ล้าน โดยสายลับสุดฮานี้ยังมีคิวทยอยเปิดตัวอีกหลายประเทศ Australia, Russia, Spain, Hong Kong (20-21 กันยายน) Brazil (4 ตุลาคม) UKประจันหน้ากับ A Star IS Born ในวันที่ 5 ตุลาคม France (10 ตุลาคม) Italy (11 ตุลาคม) Germany (18 ตุลาคม) North America (26 ตุลาคม) และ Japan (9 พฤศจิกายน)
Crazy Rich Asians ($187.4 ล้านเหรียญ)
CRA ยังคงวิ่งฉิวให้ WB ยิ้มกว้างกับตลาดในบ้านล่าสุดเก็บไปอีก $8.7 ล้าน รวมแล้ว $149.5 ล้านและยังเดินหน้าสร้างความรวยให้ต้นสังกัดต่อไปเรื่อยๆ โดยคราวนี้เป้าหมายใหม่ในบ้านอยู่ที่ $200 ล้านแล้ว ในขณะที่ตลาดนอกเก็บไปอีก $7.3 ล้าน รวม $37.9 ล้าน รวมทั่วโลก $187.4 ล้านเหรียญ ล่าสุดเปิดตัวใน Indonesia ไป $2.1 ล้าน และ UK $2 ล้านเหรียญ Crazy Rich Asians มีคิวฉายต่อไปที่ Mexico (21 กันยายน) Japan (28 กันยายน) France (10 ตุลาคม) และ Brazil (25 ตุลาคม) โดยที่ Warner Bros. ยังคงลังเลว่าจะส่ง CRA ลงตลาดจีนดีหรือไม่
Disney’s Christopher Robin ($153.7 ล้านเหรียญ)
ไปต่อเรื่อยๆสำหรับขวัญใจเยาวชน Winnie the Pooh หลังจากเก็บรายได้ตลาดนอกไปอีก $5.1 ล้าน รวม $58.7 ล้าน รวมทั่วโลก $153.7 ล้านเหรียญ สัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดตัวในญี่ปุ่นไป $3.5 ล้าน Australia $1.6 ล้าน ด้านรายได้นบ้านก็คืบคลานเข้าใกล้ $100 ล้านเข้าไปทุกทีล่าสุดเก็บไปอีก $2 ล้านรวมเป็น $95 ล้านเหรียญแล้ว และยังมีคิวเปิดตัวใน Spain, South Korea และ France ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนนี้จนถึงตุลาคม
สำหรับเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
Incredibles 2
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $3.6 ล้าน ตลาดนอกรวม $577.8 ล้าน รวมทั่วโลก $1,183.4 ล้านเหรียญ
Hotel Transylvania 3: Summer Vacation
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $3.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $337.8 ล้าน รวมทั่วโลก $503.1 ล้านเหรียญ
Ant-man and the Wasp
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $2.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $401.6 ล้าน รวมทั่วโลก $617 ล้านเหรียญ
Peppermint
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $1.8 ล้าน ตลาดนอกรวม $3.9 ล้าน รวมทั่วโลก $25.6 ล้านเหรียญ
Jurassic World : Fallen Kingdom
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $0.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $886.9 ล้าน รวมทั่วโลก $1,303.1 ล้านเหรียญ
Mama Mia : Here We Go Again
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $3.3 ล้าน ตลาดนอกรวม $263.3 ล้าน รวมทั่วโลก $383 ล้านเหรียญ
The Equalizer 2
ตลาดนอกสุดสัปดาห์ $4.2 ล้าน ตลาดนอกรวม $78.4 ล้าน รวมทั่วโลก $180.2 ล้านเหรียญ