สวัสดีค่า ตอนนี้ก็ล่วงเลยมาช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีแล้ว
และก็กำลังจะเข้าใกล้วันเกิดของกวาง ที่กวางอาศัยชีวิตบนเลข 3 มา 2 ปีแล้ววว
กวางเลยอยากมาอัพเดทสกินแคร์ของตัวเองที่ใช้ในช่วงวัยเลข 3
ต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่เฉพาะคนเลข 3 ถึงจะใช้ได้นะ
แต่ที่อยากจะบอกก็คือ สิ่งเหล่านี้เอาชนะความท้าทายของปัญหาผิวหน้าต่างๆที่จะเกิดขึ้น
ยิ่งดูแลเร็ว ก็ยิ่งมีชัยไปกว่าครึ่งนะจ้ะ
ผู้หญิงยุคใหม่จะต้องอยู่เหนือกาลเวลา และทำตัวให้มีค่า
ไม่ว่าจะเป็น ค่าครีม ค่าเครื่องสำอาง ค่าเสื้อผ้า แฮร่!!
หลักๆ ก็จะเป็นคลีนซิ่ง กับบำรุงนะคะ จริงๆ ที่สำคัญอีกอย่างคือกันแดด
แต่วันนี้กวางมีแปะกันแดดมาแค่ 1 ยี่ห้อถ้วน เอาเป็นว่ากันแดดใครชอบอะไร ก็ใช้เลย
เน้นว่า กันแดดยังไงก็ต้องใช้นะคะ ย้ำๆๆๆ จะไม่ทาอะไร ก็ต้องทากันแดดเด้อ
ถ้าใครติดตามกวาง ก็จะรู้เลยว่า
กวางเป็นคนผิวผสม ที่ค่อนข้างแพ้ง่ายมาก ถึงมากที่สุด ผิวบอบบางมากเว่อ แถมแห้งขุยง่ายขาดน้ำ แต่หน้ามัน 555+ มีความย้อนแย้งในผิวตัวเองสูง
แถมต้องบอกก่อนว่า ตอนอายุ 20 กลางๆ ผิวหน้าแก่กว่าตอนนี้หลายขุม 555+
นี่คือสภาพผิวหน้าตอนที่อยู่ในช่วงเบญจเพส ที่เธอควรสวยสะพรั่ง แต่กลับเป็นช่วงที่พังมากกที่สุด
เอาเป็นว่ารอดมาได้ก็เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ที่กวางใช้มาอย่างต่อเนื่องค่ะ
บางทีก็นอกใจ เพราะชอบลองของ แล้วเราก็แพ้ แล้วหน้าก็แย่ ก็กลับมาใช้ใหม่ไง วนเวียนตายรัง
เอาเป็นว่าอันดับแรกที่กวางอยากจะบอกเพื่อนๆ ก่อนเลยก็คือ เราต้องรู้สภาพผิวหน้าตัวเองก่อน
แล้วยิ่งสภาพอากาศตอนนี้ ทั้งร้อนมากกกก ทั้งฝนชุกกกก มันก็จะมีความเหนอะๆ มันๆ หน่อย
กวางก็จะยิ่งหยิบไอเท็มเหล่านี้ มาใช้บ่อยๆ ในช่วงนี้ ซึ่ง
เหมาะกับผิวผสมถึงผิวมัน และดีกับผิวที่เป็นสิวง่ายด้วย
และที่ต้องเข้าใจอีกอย่างของสาวเลข 3 คือริ้วรอย
อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน เพราะหลายคนยังเข้าใจผิด ว่าตัวเองหน้ามัน ต้องใช้อะไรที่คุมมัน
เอะอะ อะไรๆ ก็ Oil Control แม้เวลาแต่งหน้า หรือระหว่างวันก็ซับมันตลอดเว
แต่ก่อนกวางก็เป็นแบบนี้เลย ยิ่งช่วงตอนที่สิวเห่อเยอะ ยิ่งใช่เลย
ใช้จนหน้าแห้งเป็นขุย ลอกเป็นแผล บอบบาง ริ้วรอยมาเพราะผิวแห้ง แต่หน้ายังมัน
ซึ่งเป็นเพราะขาดความรู้ และมีความเชื่อผิดๆ ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยจ้า
จนได้คุยกับหมอผิวหนัง ก็ถึงบางอ้อทันที ต้องเปลี่ยนวิธีดูแลผิวหน้าใหม่หมดเลยทีเดียว
เพราะจริงๆ แล้ว
ผิวมัน คือผิวที่ขับน้ำมันออกมามากเกินไป เพราะเกิดจากผิวของเราไม่สมดุล
ถ้ายิ่งเราไปควบคุมให้หน้าแห้ง หน้าก็จะยิ่งผลิตน้ำมัน เพราะคิดว่าตัวเองผิวแห้งเลยต้องสร้างความมัน
กลายเป็นว่า หน้ามัน แต่ขาดน้ำอย่างที่กวางเป็นนั่นเอง
ทางออกของกวาง คือ การทำให้หน้าเกิดความสมดุล และผิวอิ่มน้ำมากที่สุด
ทั้งขั้นตอนคลีนซิ่ง บำรุง และกันแดด ต้องควบคุมความมันแต่ทำให้ผิวชุ่มชื่น
เพราะพื้นฐานผิวที่ดี คือผิวที่สมดุล ชุ่มชื่น อิ่มน้ำ
มาเริ่มดูตั้งแต่ขั้นตอนคลีนซิ่ง ว่ากวางใช้อะไรบ้าง
BIODERMA Sensibio H2O
Make-up removing micelle solution
ปริมาณ 500 ml. ราคา 850 บาท
เริ่มที่ตัวแรกก็เจอกับตัวยอดฮิตของ Bioderma Cleaning Water
ฝาชมพู สูตรยอดนิยม ฮิตติดลมบนและเคลมกันว่าอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย
ผิวแห้ง-ธรรมดา และผิวที่มีรอยแดงหรือการอักเสบด้วย ตรงกับผิวกวางมากกก
เหตุผลที่เหมาะ เพราะเขามีสาร Laminiaria และ Enoxolone ที่ช่วยต้านและยับยั้งการอักเสบ และลดอาการแดงของผิว
เป็นสูตร Non-rinse, ไม่มีพาราเบน และ Hypoallergenic ด้วย
ขวดที่กวางใช้จะเป็นแบบฝาปั๊ม สะดวกไม่ต้องยกขวดเท เอาสำลีแปะและกดๆ เอาเลย
แต่ขวดนี้กวางไม่พกไปไหนมาไหนนะคะ เคยฝากเพื่อนซื้อจากฝรั่งเศส เพื่อนถึงกับด่าทอ
ส่วน Texture ก็จะเป็นน้ำใสๆ อย่างที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไม่ได้กลิ่นอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
ใช้แล้วไม่แสบผิว คือรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนมากกกก
ที่จริงแล้วเขาเขียนไว้ว่าไม่ต้องใช้น้ำล้างออก แต่เพื่อความสะอาดกวางก็จะล้างหน้าอยู่ดี
ตัวนี้สามารถใช้กะตา (ไม่ใช่ แฟนยาย แฮ่!!) หมายถึงรอบดวงตาเรา
แต่กวางจะรู้สึกว่าอ่อนโยนเกินจะรีมูฟ อายไลเนอร์ได้
ใช้ตัวนี้แล้วหน้าไม่แห้งเลย ชุ่มชื้นดีมาก รู้สึกผิวหน้าสะอาดมากด้วย ใสมากด้วย
ใช้ซ้ำมาตลอด ถึงแม้ราคาอาจจะสะเทือนกระเป๋งตังค์อยู่บ้าง
ที่เจ็บใจหนักกว่าคือ วันนั้นซื้อในวัตสันมาแล้วที่ราคา 850 บาท แล้วมาเดินเจอร้านข้างนอกขายอยู่ 650 บาท ฮือออ~
BIORE Makeup Remover
Perfect Cleansing Water Acne Care
ปริมาณ 90 ml. ราคา 129 บาท
สำหรับเจ้าตัวนี้ ออกมาเมื่อประมาณปีที่แล้ว ได้เอามาใช้เป็นผู้ช่วยแก้ขัดแทน BIODERMA เวลากระเป๋าตังค์เบาๆ
แล้วก็ไว้ใช้เวลาเดินทางด้วย จริงๆ มี 2 ขนาด แต่เนื่องด้วยเอาไว้เดินทางก็จะใช้ขนาดเล็ก
ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งน้ำเกลือชิโซะมินท์ ก็เห็นใครๆ ใช้น้ำเกลือล้างแผลเช็ดหน้ากัน ตัวนี้ก็คงมาในคอนเซปนั้น
แต่เจ้าตัวนี้ก็จะมี Micelles (ไมเซล่า) ช่วยดูดจับคราบเมคอัพ และสิ่งสกปรกอุดตันตามร่องรูขุมขนได้
ผสมน้ำเกลือธรรมชาติอ่อนโยนต่อผิว พร้อมสารสกัดจากใบชิโซะมินท์ ช่วยลดแบคทีเรีย สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวด้วยยย
วิธีการใช้ก็เปิดฝา หยดๆ ใส่สำลีกันไป
เช่นเดียวกับ BIODERMA Cleaning Water ตัวด้านบนก็คือ Texture จะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีกลิ่น
เช็ดง่ายมาก ออกง่าย ไม่ต้องออกแรงถูให้ตาช้ำ ปากฉีก
รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยน ไม่แสบหน้าเลย และที่สำคัญไม่แพ้ รู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา
เพราะด้วยขนาดที่เล็ก ราคาก็จะแค่หลักร้อยต้นๆ จ่ายไหวในช่วงสิ้นเดือน
(แต่อย่าเทียบราคา/ml. แทบไม่ต่างจาก BIODERMA เท่าไหร่)
Klean & Kare
ปริมาณ 200 ml. ราคา 30 - 40 บาท
น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไอเท็มเด็ดชิ้นนี้ ก็คือ น้ำเกลือล้างแผลธรรมดา
ที่แสนจะสารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นล้างคอนแทคเลนส์ เช็ดแผลล้างแผล และสุดท้ายยังเช็ดหน้าได้ด้วย
ต้องบอกก่อนว่าน้ำเกลือล้างแผลนี้ ไม่ได้ผสมสารฆ่าเชื้อโรคแต่อย่างใดนะคะ
แต่เป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ เป็นน้ำเกลือปราศจากเชื้อเข้มข้น 0.9% ไม่ใส่วัตถุกันเสีย
และแน่นอนที่สุดว่า ไม่น่าจะมีใครแพ้เจ้าตัวนี้ ไม่อย่างงั้นจะล้างแผลกันได้เยี่ยงใด
แถมมีความเข้มข้นที่ระดับเดียวกับน้ำในเซลล์ผิวด้วย ก็จะไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ
สำหรับน้ำเกลือตัวนี้คือตัวก่อนการที่พัฒนาไปเป็น BIORE Cleansing Water Acne Care
แต่ว่าก็ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะจะใช้เป็นโทนเนอร์ไปเลย เช็ดได้ทั้งก่อนและหลังล้างหน้า
ใครอยากสดชื่นๆ ก็ลองเอาไปแช่ในตู้เย็นกันได้นะคะ จะรู้สึกดีมากกกเว่อออออ
แล้วตัวนี้ไม่แพ้ ไม่น่าจะมีใครแพ้นะ หรือมีก็ไม่รู้แต่ไม่เคยเจอ แล้วรักษาสมดุลน้ำของผิวได้ดี
แถมตอนที่เปนสิว บีบสิว สิวเป็นแผล รู้สึกว่าแผลจะแห้งเร็วขึ้นด้วย
บอกได้เลยว่า เวลาใช้น้ำเกลือล้างแผลนี้ เทไม่เคยเบามือเลย
เพราะว่ามันถูกมากกกก อย่างขวด 500 ml. ราคาก็จะอยู่ประมาณ 45 – 55 บาท
แถมหาซื้อได้ง่ายทั่วพื้นปฐพี ตามร้านขายยาทั่วไปก็มี แถมเราควรมีไว้ในตู้ยาสามัญประจำบ้านกันด้วย
MAYBELLINE
Eye+Lip Make Up Remover
ปริมาณ 70 ml. ราคา 129 บาท
เป็นรีมูฟเวอร์ที่เห็นจนชินตาอย่างแน่นอน
ลักษณะเป็นน้ำกึ่งน้ำมัน ก็ที่เราเห็นแยกเป็น 2 ชั้นนั่นแหละ
ออกแบบมาเพื่อล้างเครื่องสำอางกันน้ำโดยเฉพาะ
คือตัวไหนเอาไม่ออก ตัวนี้เอาออกหมดจดเลย
โดยเฉพาะตรงตากะปาก เครื่องสำอางสมัยนี้ก็จะวิวัฒนาการไปไกล
จูบไม่หลุด ลงน้ำไม่ลอก ติดแน่นทนนานมากๆๆๆ
เวลาจะใช้ก็ต้องเขย่าก่อนค่ะ เพื่อให้ทั้ง 2 ชั้นที่แยกตัวอยู่เข้ากัน
ก็จะเป็นน้ำสีฟ้าๆ ที่มีความมัน สำหรับใครที่แพ้ออย ให้หลีกเลี่ยง
แต่อย่าที่กวางบอกไว้ค่ะ สำหรับสาวหน้ามัน ไม่จำเป็นต้องหลีกหนีออยนะคะ
เราสามารถใช้ได้ เพราะหัวใจสำคัญคือการรักษาสมดุลของผิว
ตัวนี้ใช้เช็ดตาแล้วกวางชอบตรงที่ไม่แสบตาเลย
ออกง่ายมาก ไม่ต้องออกแรงขยี้ดวงตาให้บอบช้ำ
กวางจะใช้ตัวนี้ แล้วตามด้วย BIODERMA หรือ BIORE หรือน้ำเกลืออีกครั้งค่ะ
เพื่อเอาคราบความมันออก ก่อนที่จะไปขั้นตอนล้างหน้า
สำหรับราคานั้นก็น่ารัก เอื้อมถึงค่ะ และสถานที่หาซื้อก็หาซื้อได้ง่าย(รึเปล่า) 5555+
ก็เทสโก้ โลตัส/ บิ๊กซี/ วัตสัน ได้หมดค่ะ
**สำหรับไอเท็มที่เหลือ ขอโพสต์ต่อในคอมเม้นท์นะคะ เนื่องจากข้อความที่ตั้งกระทู้จะเต็มแล้ววว**
[CR] รวมไอเท็มเด็ดประจำตัว สาววัยเลข 3 ให้ผิวหน้าใสอย่างกับก้นเด็ก!!!
และก็กำลังจะเข้าใกล้วันเกิดของกวาง ที่กวางอาศัยชีวิตบนเลข 3 มา 2 ปีแล้ววว
กวางเลยอยากมาอัพเดทสกินแคร์ของตัวเองที่ใช้ในช่วงวัยเลข 3
ต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่เฉพาะคนเลข 3 ถึงจะใช้ได้นะ
แต่ที่อยากจะบอกก็คือ สิ่งเหล่านี้เอาชนะความท้าทายของปัญหาผิวหน้าต่างๆที่จะเกิดขึ้น
ยิ่งดูแลเร็ว ก็ยิ่งมีชัยไปกว่าครึ่งนะจ้ะ
ผู้หญิงยุคใหม่จะต้องอยู่เหนือกาลเวลา และทำตัวให้มีค่า
ไม่ว่าจะเป็น ค่าครีม ค่าเครื่องสำอาง ค่าเสื้อผ้า แฮร่!!
หลักๆ ก็จะเป็นคลีนซิ่ง กับบำรุงนะคะ จริงๆ ที่สำคัญอีกอย่างคือกันแดด
แต่วันนี้กวางมีแปะกันแดดมาแค่ 1 ยี่ห้อถ้วน เอาเป็นว่ากันแดดใครชอบอะไร ก็ใช้เลย
เน้นว่า กันแดดยังไงก็ต้องใช้นะคะ ย้ำๆๆๆ จะไม่ทาอะไร ก็ต้องทากันแดดเด้อ
ถ้าใครติดตามกวาง ก็จะรู้เลยว่า กวางเป็นคนผิวผสม ที่ค่อนข้างแพ้ง่ายมาก ถึงมากที่สุด ผิวบอบบางมากเว่อ แถมแห้งขุยง่ายขาดน้ำ แต่หน้ามัน 555+ มีความย้อนแย้งในผิวตัวเองสูง
แถมต้องบอกก่อนว่า ตอนอายุ 20 กลางๆ ผิวหน้าแก่กว่าตอนนี้หลายขุม 555+
นี่คือสภาพผิวหน้าตอนที่อยู่ในช่วงเบญจเพส ที่เธอควรสวยสะพรั่ง แต่กลับเป็นช่วงที่พังมากกที่สุด
เอาเป็นว่ารอดมาได้ก็เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ที่กวางใช้มาอย่างต่อเนื่องค่ะ
บางทีก็นอกใจ เพราะชอบลองของ แล้วเราก็แพ้ แล้วหน้าก็แย่ ก็กลับมาใช้ใหม่ไง วนเวียนตายรัง
เอาเป็นว่าอันดับแรกที่กวางอยากจะบอกเพื่อนๆ ก่อนเลยก็คือ เราต้องรู้สภาพผิวหน้าตัวเองก่อน
แล้วยิ่งสภาพอากาศตอนนี้ ทั้งร้อนมากกกก ทั้งฝนชุกกกก มันก็จะมีความเหนอะๆ มันๆ หน่อย
กวางก็จะยิ่งหยิบไอเท็มเหล่านี้ มาใช้บ่อยๆ ในช่วงนี้ ซึ่งเหมาะกับผิวผสมถึงผิวมัน และดีกับผิวที่เป็นสิวง่ายด้วย
และที่ต้องเข้าใจอีกอย่างของสาวเลข 3 คือริ้วรอย
อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน เพราะหลายคนยังเข้าใจผิด ว่าตัวเองหน้ามัน ต้องใช้อะไรที่คุมมัน
เอะอะ อะไรๆ ก็ Oil Control แม้เวลาแต่งหน้า หรือระหว่างวันก็ซับมันตลอดเว
แต่ก่อนกวางก็เป็นแบบนี้เลย ยิ่งช่วงตอนที่สิวเห่อเยอะ ยิ่งใช่เลย
ใช้จนหน้าแห้งเป็นขุย ลอกเป็นแผล บอบบาง ริ้วรอยมาเพราะผิวแห้ง แต่หน้ายังมัน
ซึ่งเป็นเพราะขาดความรู้ และมีความเชื่อผิดๆ ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยจ้า
จนได้คุยกับหมอผิวหนัง ก็ถึงบางอ้อทันที ต้องเปลี่ยนวิธีดูแลผิวหน้าใหม่หมดเลยทีเดียว
เพราะจริงๆ แล้ว ผิวมัน คือผิวที่ขับน้ำมันออกมามากเกินไป เพราะเกิดจากผิวของเราไม่สมดุล
ถ้ายิ่งเราไปควบคุมให้หน้าแห้ง หน้าก็จะยิ่งผลิตน้ำมัน เพราะคิดว่าตัวเองผิวแห้งเลยต้องสร้างความมัน
กลายเป็นว่า หน้ามัน แต่ขาดน้ำอย่างที่กวางเป็นนั่นเอง
ทางออกของกวาง คือ การทำให้หน้าเกิดความสมดุล และผิวอิ่มน้ำมากที่สุด
ทั้งขั้นตอนคลีนซิ่ง บำรุง และกันแดด ต้องควบคุมความมันแต่ทำให้ผิวชุ่มชื่น
เพราะพื้นฐานผิวที่ดี คือผิวที่สมดุล ชุ่มชื่น อิ่มน้ำ
BIODERMA Sensibio H2O
Make-up removing micelle solution
ปริมาณ 500 ml. ราคา 850 บาท
เริ่มที่ตัวแรกก็เจอกับตัวยอดฮิตของ Bioderma Cleaning Water
ฝาชมพู สูตรยอดนิยม ฮิตติดลมบนและเคลมกันว่าอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย
ผิวแห้ง-ธรรมดา และผิวที่มีรอยแดงหรือการอักเสบด้วย ตรงกับผิวกวางมากกก
เหตุผลที่เหมาะ เพราะเขามีสาร Laminiaria และ Enoxolone ที่ช่วยต้านและยับยั้งการอักเสบ และลดอาการแดงของผิว
เป็นสูตร Non-rinse, ไม่มีพาราเบน และ Hypoallergenic ด้วย
ขวดที่กวางใช้จะเป็นแบบฝาปั๊ม สะดวกไม่ต้องยกขวดเท เอาสำลีแปะและกดๆ เอาเลย
แต่ขวดนี้กวางไม่พกไปไหนมาไหนนะคะ เคยฝากเพื่อนซื้อจากฝรั่งเศส เพื่อนถึงกับด่าทอ
ส่วน Texture ก็จะเป็นน้ำใสๆ อย่างที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไม่ได้กลิ่นอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
ใช้แล้วไม่แสบผิว คือรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนมากกกก
ที่จริงแล้วเขาเขียนไว้ว่าไม่ต้องใช้น้ำล้างออก แต่เพื่อความสะอาดกวางก็จะล้างหน้าอยู่ดี
ตัวนี้สามารถใช้กะตา (ไม่ใช่ แฟนยาย แฮ่!!) หมายถึงรอบดวงตาเรา
แต่กวางจะรู้สึกว่าอ่อนโยนเกินจะรีมูฟ อายไลเนอร์ได้
ใช้ตัวนี้แล้วหน้าไม่แห้งเลย ชุ่มชื้นดีมาก รู้สึกผิวหน้าสะอาดมากด้วย ใสมากด้วย
ใช้ซ้ำมาตลอด ถึงแม้ราคาอาจจะสะเทือนกระเป๋งตังค์อยู่บ้าง
ที่เจ็บใจหนักกว่าคือ วันนั้นซื้อในวัตสันมาแล้วที่ราคา 850 บาท แล้วมาเดินเจอร้านข้างนอกขายอยู่ 650 บาท ฮือออ~
Perfect Cleansing Water Acne Care
ปริมาณ 90 ml. ราคา 129 บาท
สำหรับเจ้าตัวนี้ ออกมาเมื่อประมาณปีที่แล้ว ได้เอามาใช้เป็นผู้ช่วยแก้ขัดแทน BIODERMA เวลากระเป๋าตังค์เบาๆ
แล้วก็ไว้ใช้เวลาเดินทางด้วย จริงๆ มี 2 ขนาด แต่เนื่องด้วยเอาไว้เดินทางก็จะใช้ขนาดเล็ก
ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งน้ำเกลือชิโซะมินท์ ก็เห็นใครๆ ใช้น้ำเกลือล้างแผลเช็ดหน้ากัน ตัวนี้ก็คงมาในคอนเซปนั้น
แต่เจ้าตัวนี้ก็จะมี Micelles (ไมเซล่า) ช่วยดูดจับคราบเมคอัพ และสิ่งสกปรกอุดตันตามร่องรูขุมขนได้
ผสมน้ำเกลือธรรมชาติอ่อนโยนต่อผิว พร้อมสารสกัดจากใบชิโซะมินท์ ช่วยลดแบคทีเรีย สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวด้วยยย
วิธีการใช้ก็เปิดฝา หยดๆ ใส่สำลีกันไป
เช่นเดียวกับ BIODERMA Cleaning Water ตัวด้านบนก็คือ Texture จะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีกลิ่น
เช็ดง่ายมาก ออกง่าย ไม่ต้องออกแรงถูให้ตาช้ำ ปากฉีก
รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยน ไม่แสบหน้าเลย และที่สำคัญไม่แพ้ รู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา
เพราะด้วยขนาดที่เล็ก ราคาก็จะแค่หลักร้อยต้นๆ จ่ายไหวในช่วงสิ้นเดือน
(แต่อย่าเทียบราคา/ml. แทบไม่ต่างจาก BIODERMA เท่าไหร่)
ปริมาณ 200 ml. ราคา 30 - 40 บาท
น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไอเท็มเด็ดชิ้นนี้ ก็คือ น้ำเกลือล้างแผลธรรมดา
ที่แสนจะสารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นล้างคอนแทคเลนส์ เช็ดแผลล้างแผล และสุดท้ายยังเช็ดหน้าได้ด้วย
ต้องบอกก่อนว่าน้ำเกลือล้างแผลนี้ ไม่ได้ผสมสารฆ่าเชื้อโรคแต่อย่างใดนะคะ
แต่เป็นน้ำกลั่นบริสุทธิ์ เป็นน้ำเกลือปราศจากเชื้อเข้มข้น 0.9% ไม่ใส่วัตถุกันเสีย
และแน่นอนที่สุดว่า ไม่น่าจะมีใครแพ้เจ้าตัวนี้ ไม่อย่างงั้นจะล้างแผลกันได้เยี่ยงใด
แถมมีความเข้มข้นที่ระดับเดียวกับน้ำในเซลล์ผิวด้วย ก็จะไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ
สำหรับน้ำเกลือตัวนี้คือตัวก่อนการที่พัฒนาไปเป็น BIORE Cleansing Water Acne Care
แต่ว่าก็ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะจะใช้เป็นโทนเนอร์ไปเลย เช็ดได้ทั้งก่อนและหลังล้างหน้า
ใครอยากสดชื่นๆ ก็ลองเอาไปแช่ในตู้เย็นกันได้นะคะ จะรู้สึกดีมากกกเว่อออออ
แล้วตัวนี้ไม่แพ้ ไม่น่าจะมีใครแพ้นะ หรือมีก็ไม่รู้แต่ไม่เคยเจอ แล้วรักษาสมดุลน้ำของผิวได้ดี
แถมตอนที่เปนสิว บีบสิว สิวเป็นแผล รู้สึกว่าแผลจะแห้งเร็วขึ้นด้วย
บอกได้เลยว่า เวลาใช้น้ำเกลือล้างแผลนี้ เทไม่เคยเบามือเลย
เพราะว่ามันถูกมากกกก อย่างขวด 500 ml. ราคาก็จะอยู่ประมาณ 45 – 55 บาท
แถมหาซื้อได้ง่ายทั่วพื้นปฐพี ตามร้านขายยาทั่วไปก็มี แถมเราควรมีไว้ในตู้ยาสามัญประจำบ้านกันด้วย
Eye+Lip Make Up Remover
ปริมาณ 70 ml. ราคา 129 บาท
เป็นรีมูฟเวอร์ที่เห็นจนชินตาอย่างแน่นอน
ลักษณะเป็นน้ำกึ่งน้ำมัน ก็ที่เราเห็นแยกเป็น 2 ชั้นนั่นแหละ
ออกแบบมาเพื่อล้างเครื่องสำอางกันน้ำโดยเฉพาะ
คือตัวไหนเอาไม่ออก ตัวนี้เอาออกหมดจดเลย
โดยเฉพาะตรงตากะปาก เครื่องสำอางสมัยนี้ก็จะวิวัฒนาการไปไกล
จูบไม่หลุด ลงน้ำไม่ลอก ติดแน่นทนนานมากๆๆๆ
เวลาจะใช้ก็ต้องเขย่าก่อนค่ะ เพื่อให้ทั้ง 2 ชั้นที่แยกตัวอยู่เข้ากัน
ก็จะเป็นน้ำสีฟ้าๆ ที่มีความมัน สำหรับใครที่แพ้ออย ให้หลีกเลี่ยง
แต่อย่าที่กวางบอกไว้ค่ะ สำหรับสาวหน้ามัน ไม่จำเป็นต้องหลีกหนีออยนะคะ
เราสามารถใช้ได้ เพราะหัวใจสำคัญคือการรักษาสมดุลของผิว
ตัวนี้ใช้เช็ดตาแล้วกวางชอบตรงที่ไม่แสบตาเลย
ออกง่ายมาก ไม่ต้องออกแรงขยี้ดวงตาให้บอบช้ำ
กวางจะใช้ตัวนี้ แล้วตามด้วย BIODERMA หรือ BIORE หรือน้ำเกลืออีกครั้งค่ะ
เพื่อเอาคราบความมันออก ก่อนที่จะไปขั้นตอนล้างหน้า
สำหรับราคานั้นก็น่ารัก เอื้อมถึงค่ะ และสถานที่หาซื้อก็หาซื้อได้ง่าย(รึเปล่า) 5555+
ก็เทสโก้ โลตัส/ บิ๊กซี/ วัตสัน ได้หมดค่ะ
**สำหรับไอเท็มที่เหลือ ขอโพสต์ต่อในคอมเม้นท์นะคะ เนื่องจากข้อความที่ตั้งกระทู้จะเต็มแล้ววว**
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้