ในการทำบางสิ่งบางอย่าง นอกจากแรงบันดาลใจ ในการให้เรากระทำบางอย่างแล้ว
ยังสิ่งหนึ่งที่จะคอยเป็นพลังขับดันให้เราพยายาม ฮึด ไม่ยอมแพ้ เพื่อให้บรรลุถึงจุดหมาย
นั่นคือ Motivation หรือ แรงจูงใจ นั่นเอง
แรงจูงใจอาจเกิดจากภายในและภายนอกของคน คนนั้น
ภายในก็คือ ความรู้สึกต้องการอยากได้ ไคร่มี จึงกระตุ้นให้เราทำอะไรบางอย่าง
เพื่อให้ได้มา ถึงสิ่งที่เราต้องการ
ภายนอกก็คือ สิ่งของ บุคคล ที่เรานำมาเป็นตัวกระตุ้น มาเร่งเร้า มาเป็นแบบอย่าง
เพื่อเพิ่มความปราถนา หรือเหมือนเติมเชื้อไฟ ในการที่เราจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ให้บรรลุ
ยกตัวอย่างเช่น…
วัตถุประสงค์ซึ่งเป็นแรงจูงใจ ในการออกกำลังกายของผม…
…เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายแล้ว ยังอยากมี six pack น้อยๆกับเขาบ้าง…
ทุกวันเลยตั้งเป้าออกกำลังกายอย่างน้อยวันล่ะ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
ถ้าอยู่ที่ เชียงใหม่ ก็จะวิ่ง ปั่นจักรยาน และ เล่นเวท สลับกันไปในแต่ล่ะวัน
ถ้ามาอยู่ กรุงเทพ ก็ วิ่ง บวกเข้าฟิตเนสของสโมสรหมู่บ้าน
ทุกวันเวลาไปเข้า ฟิตเนสของสโมสร…
จะเจอคุณป้าท่านหนึ่ง อายุน่าจะ 70กว่าๆ แล้วเห็นจะได้
จะเห็นท่านเดิน สลับวิ่ง บนสายพานลู่วิ่ง เป็นประจำ ท่านอึดมาก
บางทีเราไปทีหลัง เล่นเวทเสร็จ ขึ้นลู่วิ่ง ผ่านไปชั่วโมง
ยังเห็นป้า ท่านวิ่งไม่หยุด เรามิเคยรู้ว่าป้าวิ่งนานเท่าไหร่ในแต่ล่ะวัน
เพราะเราพอครบชั่วโมง ก็กลับ และจะกลับก่อนป้าทุกที
เช้าวันหนึ่ง เราเข้าฟิตเนสของสโมสร ตามปกติ
ตามคาด คุณป้าท่านนั่น ที่เดิม กับสายพานลู่วิ่งตัวเดิม
…วันนั้นเราตั้งเป้าว่า จะไม่ยอมลงจากลู่วิ่ง ตราบใดที่ป้ายังวิ่งไม่หยุด…
เราเข้าประจำลู่วิ่ง ข้างๆป้า ป้าหันมายิ้มและยักคิ้วให้ นิดนึง เรายิ้มตอบเบาๆ
พร้อมนึกในใจ วันนี้เป็นไงเป็นกัน อยากรู้ว่า ป้ากับเรา ใครจะลงจากลู่วิ่งก่อน
…วันนี้เราจะเอาป้าท่านนี้ เป็น แรงจูงใจ…
ขึ้นลู่วิ่งได้ ค่อยๆปรับระดับความชันและความเร็ว จนไต่ระดับไปถึง ระดับ 8
จากนั้น วิ่งคงที่ ที่ระดับนี้ไปเรื่อยๆ…
ปกติพอเราวิ่งต่อเนื่องผ่านไป 10 นาที ร่างกายจะเริ่มร้อน
เหงื่อมันจะเริ่มพากันวิ่งออกมาจากผิวหนัง
และจะค่อยๆทยอยพากันออกมาเรื่อยๆจนชุ่มไปทั้งเสื้อ
หลังจากวิ่งผ่านไป 1 ชม. ซึ่งเป็นเวลาปกติที่เราออกกำลังกายถึงแล้วจะหยุด
เสื้อก็จะชุ่มเหงื่อไปทั้งตัว หันไปมองป้าข้างๆ ป้ายังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด…
นึกในใจ ป้ามาก่อนเรา ยังไงไม่น่าจะเกิน อีกครึ่ง ชั่วโมงแหละว๊า…
คนสูงวัยหรือจะมาสู้เราได้ เอาว่ะ…วิ่งต่อไป อีกครึ่งชั่วโมง
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เหงื่อที่ปกติจะชุ่มเสื้อ เริ่มฉ่ำ เหงื่อ เริ่มหยด เปาะแปะลงลู่วิ่ง
และเริ่มไหลซึมซาบลงสู่กางเกง พลอยทำให้กางเกงเริ่มเปียกเหงื่อมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงตอนนี้ ถ้าใครใส่กางเกงสีอ่อนจะเห็นคราบเปียกชัดเจนและหากใครไม่รู้
อาจจะเข้าใจผิดคิดว่ามันเปียกอย่างอื่น มิใช่เหงื่อ…
ครึ่งชั่วโมงหลังผ่าน ระหว่างนั้นเราเห็นป้า หันมองเรามาเป็นระยะๆ
คงสงสัยว่า ทำไมวันนี้ ไอ้หมอนี่ มันฮึดจัง ปกติชั่วโมงเดียวก็จอด
วันนี้ ชั่วโมงครึ่ง ยังวิ่งไม่หยุด…
ไอ้เราก็นึก อารัยฟร้ะ...ป้า จะวิ่งเอาโล่ห์ รึไง วิ่งทน วิ่งนาน อะไรจะอึดขนาดนั้น
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ป้ายังไม่หยุด เราจะหยุดได้ยังไง ตั้งเป้าเอาป้าเป็นไอดอลแล้วนิครับ
วันนี้ สู้ตายยยยย…ว้อยยยย… ยังไงก็ไม่น่าเกิน สองชั่วโมงแหละว๊า…
เราแอบสงสัยว่าป้า คงจะไม่ยอมแพ้เราเหมือนกัน
ย้อนนึกไปถึง ไอ้ยักคิ้วของป้า ที่ทักทายเราตอนแรกคิดว่าป้าคงนึกกระหยิ่มว่า
…สูงวัยใช่ไก่อ่อน อึดนาจ้าาาาาา… พลางคงเยาะนิดๆ …อ่อนน่ะเรา…
เอาฟร่ะ!!!…ตัดไม้ข่มนาม จะหมดแรงต้องแสร้งว่ายังแข็งแกร่ง…
ว่าแล้ว…ปรับระดับความเร็วเป็น 10 ลดความชันลงเป็น 6
ป้าที่เราเห็นเริ่มชลอ หันมามองเรา เราสบตายิ้มอ่อนๆ พร้อมยักคิ้ว ป้ายิ้มเจื่อนๆ
ป้าไม่ยอมแพ้ แฮะ… เห็นป้าเอาผ้าขนหนู มาเช็ดเหงื่อบนใบหน้า
พลางได้ยินเสียง ติ๊ด ๆ ๆ
อ้ายหย่า!!! …ป้าแกสู้ไม่ถอย แกปรับความเร็วขึ้นวิ่งด้วย…ฮ่วยยยยยย…
ไอ้ชั่วโมงครึ่งแรก สำหรับเรายังพอไหว…
แต่ไอ้อีกครึ่งชั่วโมงหลัง เพื่อจะไปสมทบเป็นสองชั่วโมงผ่าน
มันช่างเป็นอะไรที่อึดอัด ทรมาน เวลาที่ผ่านแต่ละนาที ไหง…มันช่างล่าช้า ซ่ะจริงๆ
จะหยุดก็กลัวจะแพ้ป้า นึกถึงเป้าหมายวันนี้ที่ตั้ง ป้าไม่ลงเราไม่หยุด
ใครลงจากลู่วิ่งก่อนแพ้…(นึกในใจไม่น่าตั้งเป้าสู้กะป้าเลยตรู)
ตอนนี้ในใจเริ่มสู้กับตัวเอง…ต้องใช้มโนเข้าเป็นตัวช่วย เป็นพลังผลักดันจากภายใน
มโนว่า…วิ่งอยู่กลางธรรมชาติสวยงามแสนร่มรื่นสองข้างทางบ้าง
มโนว่า…วิ่งบนชายหาดสวยงาม ผ่านแหม่ม โนบิกินี่ นอนตากแดดบ้าง
มโนว่า…วิ่งเคียงคู่น้องแป้ง น้องเฟีย น้องเฟิร์น สารพัดน้องที่คุณ มู่ยู่ เคยเอามาแปะในทู้บ้าง
งานนี้จะแพ้ให้มันรู้ไป ใช้ป้าเป็นแรงผลักดันภายนอก ใช้มโนเป็นแรงผลักดันภายใน
สองแรงแข็งขัน ป้าก็ป้าเถอะว่ะ งานนี้ป้าคิดผิดแล้ว ขอบอก…
กำลังหลับตามโนเพลินๆ พลันได้ยินเสียง ตึกๆๆๆๆ โครม…เราหันไปยังที่มาของเสียง
เฮ้ย…ป้า !?!?! ป้า…เป็นอะไร ไหง!!!ไหลไปกองอยู่ข้างล่าง
ได้สติ เรารีบดึงแผ่นแม่เหล็ก หยุดเครื่องทันที
วิ่งเข้าไปประคองป้าแก เห็นหน้า และปากป้าซีดมาก เนื้อตัวป้าก็เย็นเฉียบ
เราประคองป้าแกไปนั่ง ถามว่าป้าเป็นไรมากรึเปล่า
ป้าตอบเบาๆ เสียงแหบพร่าว่า ไม่เป็นไร หน้ามืดนิดหน่อย เลยพลาดไหลตกจากลู่วิ่ง…
แกบอกเราให้ช่วยไปปิดลู่วิ่งเครื่องของแกหน่อย…เราเดินไปปิด แล้วเดินมาหาแก
พร้อมพูดว่า ป้าอึดมากเลยน่ะครับ วิ่งตั้งสองชั่วโมง
แกบอกว่า ปกติแกจะวิ่ง 90 นาที
วันนี้เห็นเราวิ่งไม่หยุด แกเลยวิ่งเป็นเพื่อนไปเรื่อยๆ…
(โถ!!ป้า ไม่ถามเราเลยสักคำว่าต้องการเพื่อนวิ่งไหม)
:
:
เฮ้อ…กำลังเพลินๆกับน้องเฟิร์น ป้าไม่น่ารีบลงจากเครื่องไปก่อนเล้ยยยยย…
…สรุป วันนั้นได้สถิติใหม่ 1ชั่วโมง 53 นาที กับระยะทาง 12กิโลกว่า
ผลาญแคลลอรี่ไป 1370 กว่าแคลรอรี่ … อะจ๊าคคคค… ถึงว่าป้าหน้ามืด
นึกในใจถ้าป้าไม่หน้ามืดเสียก่อน คงเป็นเราแหละว้า …ที่หน้ามืด…
ก็แหม!!!น้องเฟิร์นวิ่งข้างซ่ะขนาดนั้น จะเหลือเรอะ…
:
:
:
ปล.เราถามอายุป้าว่าป้าอายุเท่าไหร่ครับ ป้าตอบ 72 ปี โห...ป้าแกดูยังแข็งแรงมากเลย
แกบอกแกเล่นแบบนี้มา 10 กว่าปีแล้ว เห็นแบบนี้ แกบอก หลานๆพาไปน้ำตก ทีลอซู มาแล้วน่ะครับ จะบอกให้…
:
:
:
—-ผลึกหิน—-
@@@แรงจูงใจ ป้าก็ป้าเถอะ@@@ —-ผลึกหิน—-
ยังสิ่งหนึ่งที่จะคอยเป็นพลังขับดันให้เราพยายาม ฮึด ไม่ยอมแพ้ เพื่อให้บรรลุถึงจุดหมาย
นั่นคือ Motivation หรือ แรงจูงใจ นั่นเอง
แรงจูงใจอาจเกิดจากภายในและภายนอกของคน คนนั้น
ภายในก็คือ ความรู้สึกต้องการอยากได้ ไคร่มี จึงกระตุ้นให้เราทำอะไรบางอย่าง
เพื่อให้ได้มา ถึงสิ่งที่เราต้องการ
ภายนอกก็คือ สิ่งของ บุคคล ที่เรานำมาเป็นตัวกระตุ้น มาเร่งเร้า มาเป็นแบบอย่าง
เพื่อเพิ่มความปราถนา หรือเหมือนเติมเชื้อไฟ ในการที่เราจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ให้บรรลุ
ยกตัวอย่างเช่น…
วัตถุประสงค์ซึ่งเป็นแรงจูงใจ ในการออกกำลังกายของผม…
…เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายแล้ว ยังอยากมี six pack น้อยๆกับเขาบ้าง…
ทุกวันเลยตั้งเป้าออกกำลังกายอย่างน้อยวันล่ะ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
ถ้าอยู่ที่ เชียงใหม่ ก็จะวิ่ง ปั่นจักรยาน และ เล่นเวท สลับกันไปในแต่ล่ะวัน
ถ้ามาอยู่ กรุงเทพ ก็ วิ่ง บวกเข้าฟิตเนสของสโมสรหมู่บ้าน
ทุกวันเวลาไปเข้า ฟิตเนสของสโมสร…
จะเจอคุณป้าท่านหนึ่ง อายุน่าจะ 70กว่าๆ แล้วเห็นจะได้
จะเห็นท่านเดิน สลับวิ่ง บนสายพานลู่วิ่ง เป็นประจำ ท่านอึดมาก
บางทีเราไปทีหลัง เล่นเวทเสร็จ ขึ้นลู่วิ่ง ผ่านไปชั่วโมง
ยังเห็นป้า ท่านวิ่งไม่หยุด เรามิเคยรู้ว่าป้าวิ่งนานเท่าไหร่ในแต่ล่ะวัน
เพราะเราพอครบชั่วโมง ก็กลับ และจะกลับก่อนป้าทุกที
เช้าวันหนึ่ง เราเข้าฟิตเนสของสโมสร ตามปกติ
ตามคาด คุณป้าท่านนั่น ที่เดิม กับสายพานลู่วิ่งตัวเดิม
…วันนั้นเราตั้งเป้าว่า จะไม่ยอมลงจากลู่วิ่ง ตราบใดที่ป้ายังวิ่งไม่หยุด…
เราเข้าประจำลู่วิ่ง ข้างๆป้า ป้าหันมายิ้มและยักคิ้วให้ นิดนึง เรายิ้มตอบเบาๆ
พร้อมนึกในใจ วันนี้เป็นไงเป็นกัน อยากรู้ว่า ป้ากับเรา ใครจะลงจากลู่วิ่งก่อน
…วันนี้เราจะเอาป้าท่านนี้ เป็น แรงจูงใจ…
ขึ้นลู่วิ่งได้ ค่อยๆปรับระดับความชันและความเร็ว จนไต่ระดับไปถึง ระดับ 8
จากนั้น วิ่งคงที่ ที่ระดับนี้ไปเรื่อยๆ…
ปกติพอเราวิ่งต่อเนื่องผ่านไป 10 นาที ร่างกายจะเริ่มร้อน
เหงื่อมันจะเริ่มพากันวิ่งออกมาจากผิวหนัง
และจะค่อยๆทยอยพากันออกมาเรื่อยๆจนชุ่มไปทั้งเสื้อ
หลังจากวิ่งผ่านไป 1 ชม. ซึ่งเป็นเวลาปกติที่เราออกกำลังกายถึงแล้วจะหยุด
เสื้อก็จะชุ่มเหงื่อไปทั้งตัว หันไปมองป้าข้างๆ ป้ายังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด…
นึกในใจ ป้ามาก่อนเรา ยังไงไม่น่าจะเกิน อีกครึ่ง ชั่วโมงแหละว๊า…
คนสูงวัยหรือจะมาสู้เราได้ เอาว่ะ…วิ่งต่อไป อีกครึ่งชั่วโมง
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เหงื่อที่ปกติจะชุ่มเสื้อ เริ่มฉ่ำ เหงื่อ เริ่มหยด เปาะแปะลงลู่วิ่ง
และเริ่มไหลซึมซาบลงสู่กางเกง พลอยทำให้กางเกงเริ่มเปียกเหงื่อมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงตอนนี้ ถ้าใครใส่กางเกงสีอ่อนจะเห็นคราบเปียกชัดเจนและหากใครไม่รู้
อาจจะเข้าใจผิดคิดว่ามันเปียกอย่างอื่น มิใช่เหงื่อ…
ครึ่งชั่วโมงหลังผ่าน ระหว่างนั้นเราเห็นป้า หันมองเรามาเป็นระยะๆ
คงสงสัยว่า ทำไมวันนี้ ไอ้หมอนี่ มันฮึดจัง ปกติชั่วโมงเดียวก็จอด
วันนี้ ชั่วโมงครึ่ง ยังวิ่งไม่หยุด…
ไอ้เราก็นึก อารัยฟร้ะ...ป้า จะวิ่งเอาโล่ห์ รึไง วิ่งทน วิ่งนาน อะไรจะอึดขนาดนั้น
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ป้ายังไม่หยุด เราจะหยุดได้ยังไง ตั้งเป้าเอาป้าเป็นไอดอลแล้วนิครับ
วันนี้ สู้ตายยยยย…ว้อยยยย… ยังไงก็ไม่น่าเกิน สองชั่วโมงแหละว๊า…
เราแอบสงสัยว่าป้า คงจะไม่ยอมแพ้เราเหมือนกัน
ย้อนนึกไปถึง ไอ้ยักคิ้วของป้า ที่ทักทายเราตอนแรกคิดว่าป้าคงนึกกระหยิ่มว่า
…สูงวัยใช่ไก่อ่อน อึดนาจ้าาาาาา… พลางคงเยาะนิดๆ …อ่อนน่ะเรา…
เอาฟร่ะ!!!…ตัดไม้ข่มนาม จะหมดแรงต้องแสร้งว่ายังแข็งแกร่ง…
ว่าแล้ว…ปรับระดับความเร็วเป็น 10 ลดความชันลงเป็น 6
ป้าที่เราเห็นเริ่มชลอ หันมามองเรา เราสบตายิ้มอ่อนๆ พร้อมยักคิ้ว ป้ายิ้มเจื่อนๆ
ป้าไม่ยอมแพ้ แฮะ… เห็นป้าเอาผ้าขนหนู มาเช็ดเหงื่อบนใบหน้า
พลางได้ยินเสียง ติ๊ด ๆ ๆ
อ้ายหย่า!!! …ป้าแกสู้ไม่ถอย แกปรับความเร็วขึ้นวิ่งด้วย…ฮ่วยยยยยย…
ไอ้ชั่วโมงครึ่งแรก สำหรับเรายังพอไหว…
แต่ไอ้อีกครึ่งชั่วโมงหลัง เพื่อจะไปสมทบเป็นสองชั่วโมงผ่าน
มันช่างเป็นอะไรที่อึดอัด ทรมาน เวลาที่ผ่านแต่ละนาที ไหง…มันช่างล่าช้า ซ่ะจริงๆ
จะหยุดก็กลัวจะแพ้ป้า นึกถึงเป้าหมายวันนี้ที่ตั้ง ป้าไม่ลงเราไม่หยุด
ใครลงจากลู่วิ่งก่อนแพ้…(นึกในใจไม่น่าตั้งเป้าสู้กะป้าเลยตรู)
ตอนนี้ในใจเริ่มสู้กับตัวเอง…ต้องใช้มโนเข้าเป็นตัวช่วย เป็นพลังผลักดันจากภายใน
มโนว่า…วิ่งอยู่กลางธรรมชาติสวยงามแสนร่มรื่นสองข้างทางบ้าง
มโนว่า…วิ่งบนชายหาดสวยงาม ผ่านแหม่ม โนบิกินี่ นอนตากแดดบ้าง
มโนว่า…วิ่งเคียงคู่น้องแป้ง น้องเฟีย น้องเฟิร์น สารพัดน้องที่คุณ มู่ยู่ เคยเอามาแปะในทู้บ้าง
งานนี้จะแพ้ให้มันรู้ไป ใช้ป้าเป็นแรงผลักดันภายนอก ใช้มโนเป็นแรงผลักดันภายใน
สองแรงแข็งขัน ป้าก็ป้าเถอะว่ะ งานนี้ป้าคิดผิดแล้ว ขอบอก…
กำลังหลับตามโนเพลินๆ พลันได้ยินเสียง ตึกๆๆๆๆ โครม…เราหันไปยังที่มาของเสียง
เฮ้ย…ป้า !?!?! ป้า…เป็นอะไร ไหง!!!ไหลไปกองอยู่ข้างล่าง
ได้สติ เรารีบดึงแผ่นแม่เหล็ก หยุดเครื่องทันที
วิ่งเข้าไปประคองป้าแก เห็นหน้า และปากป้าซีดมาก เนื้อตัวป้าก็เย็นเฉียบ
เราประคองป้าแกไปนั่ง ถามว่าป้าเป็นไรมากรึเปล่า
ป้าตอบเบาๆ เสียงแหบพร่าว่า ไม่เป็นไร หน้ามืดนิดหน่อย เลยพลาดไหลตกจากลู่วิ่ง…
แกบอกเราให้ช่วยไปปิดลู่วิ่งเครื่องของแกหน่อย…เราเดินไปปิด แล้วเดินมาหาแก
พร้อมพูดว่า ป้าอึดมากเลยน่ะครับ วิ่งตั้งสองชั่วโมง
แกบอกว่า ปกติแกจะวิ่ง 90 นาที
วันนี้เห็นเราวิ่งไม่หยุด แกเลยวิ่งเป็นเพื่อนไปเรื่อยๆ…
(โถ!!ป้า ไม่ถามเราเลยสักคำว่าต้องการเพื่อนวิ่งไหม)
:
:
เฮ้อ…กำลังเพลินๆกับน้องเฟิร์น ป้าไม่น่ารีบลงจากเครื่องไปก่อนเล้ยยยยย…
…สรุป วันนั้นได้สถิติใหม่ 1ชั่วโมง 53 นาที กับระยะทาง 12กิโลกว่า
ผลาญแคลลอรี่ไป 1370 กว่าแคลรอรี่ … อะจ๊าคคคค… ถึงว่าป้าหน้ามืด
นึกในใจถ้าป้าไม่หน้ามืดเสียก่อน คงเป็นเราแหละว้า …ที่หน้ามืด…
ก็แหม!!!น้องเฟิร์นวิ่งข้างซ่ะขนาดนั้น จะเหลือเรอะ…
:
:
:
ปล.เราถามอายุป้าว่าป้าอายุเท่าไหร่ครับ ป้าตอบ 72 ปี โห...ป้าแกดูยังแข็งแรงมากเลย
แกบอกแกเล่นแบบนี้มา 10 กว่าปีแล้ว เห็นแบบนี้ แกบอก หลานๆพาไปน้ำตก ทีลอซู มาแล้วน่ะครับ จะบอกให้…
:
:
:
—-ผลึกหิน—-