เราทราบผล MRI จากคลีนิคที่ทำ MRI แล้วละทางคลีนิคได้แนะนำ โรงพยาบาลที่ใช้ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดน้อย ในกรณีที่เบิกประกันสังคม or เบิกประกันกลุ่ม แต่ที่เรายังลางานไปพบแพทย์ที่ศิริราช เพราะเราคาดหวังเล็ก ๆ ว่าจะขอใบส่งตัวจากแพทย์ที่ โรงพยาบาลศิริราชไปยังโรงพยาบาลที่เราสามารถใช้ประกันสังคมได้
แต่คำตอบที่ได้คือ คนไข้ไปดำเนินเรื่องเองเลยครับ ไปยื่นเรื่องเองเลย
ซึ่งเราก็ต้องไปนับ 1 ใหม่กับ โรงพยาบาลนั่น ซึ่งหมายความว่า การไปพบแพทย์ศิริราชนั่นไม่ได้อะไรเลย แต่เสียเงินไปฟรี ฟรี
พอเราถามหมอว่าค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลเท่าไหร่ หมอก็เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม ท่าที่เปลี่ยนไป
เฮ้อ ความรู้สึกที่ว่า คนเป็นแพทย์มีความอุทิศตัว เสียสละเพื่อส่วนรวม เริ่มตะหงิดตะหงิด เหมือนแพทย์สนใจน้ำเงิน มากกว่าสุขภาพคนไข้
เราเลยสงสัยว่าการเขียนใบส่งตัวเพื่อให้คนไข้ได้รับการรักษาที่รวดเร็วปกติแพทย์เค้าไม่ทำให้กันหรอคะ??
เพราะถ้าคนไข้ไปเองไม่รู้ว่าจะได้รับการรักษาเมื่อไหร่!!!!
หลังจากพบแพทย์มาความรู้สึกนี้ก็วนอยู่ในหัวตลอดเวลา เสียใจ เสียศรัทธามาก เพราะเราเชื่อเสมอว่า โรงพยาบาลศิริราชคือ โรงพยาบาลของพ่อ แพทย์และพยาบาลที่นั่นก็คือลูกของพ่อ แต่สิ่งที่ได้รับหลังจากที่รู้ว่าเราไม่มีเงินจ่าย คือการเมินเฉย และไม่นัดอีก ...
คือต่อไปแกจะไปตายที่ไหนก็แล้วแต่แก อารมณ์ประมาณนั่น ....
แพทย์ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแพทย์เฉพาะทาง
แต่ในทางกลับกันแพทย์ที่ส่งมาให้แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัย มีความอยากจะให้เราผ่าตัด โดยเร็วที่สุด แต่นั่นละ แพทย์ท่านนั่นไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางที่จะทำการผ่าตัดเราได้ ...
ขออธิบายเพิ่มเติมค่ะ
สิทธิ์การรักษาแรกเลยเราอยู่ โรงพยาบาลลาดพร้าว แต่เรารักษาที่โรงพยาบาลลาดพร้าวมาหลายปี อาการไม่ดีขึ้นมีแต่ทุเลาและแย่ลง เราเลยลองไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และแพทย์โรงพยาบาลศิริราชให้ทำ MRI แต่เราไม่ได้ทำ MRI ที่ศิริราชเนื่องจาก ค่าทำ MRI เราเบิกไม่ได้เราต้องจ่ายเองและค่าทำ MRI ของโรงพยาบาลศิริราช อยู่ที่จุดละ 12,000 - 15,000 บาท
ในตอนแรกเราไม่อยากทำ แต่แพทย์ที่ดูแลอยู่ก็บอกว่าต้องทำ ยังไงก็ต้องทำ เราเลยไปหาข้อมูลและทำ MRI ที่อื่น ราคาจุดละ 4,800 บาท 2 จุด อยู่ที่ 9,600 บาท คือทำที่คลีนิค นี้ 2 จุด ยังถูกกว่า
พอผล MRI ออกมาแพทย์ประจำคลีนิคที่เราไปทำ MRI แจ้งว่าเราหมอนกระดูกแตกกดทับเส้นประสาทต้องผ่าตัด แต่ในการผ่าตัดมันเป็นการผ่าตัดใหญ่ เพราะจุดที่เราเป็นนั้นเป็นใกล้กับก้นกบ กระดูกสันหลังข้อที่ 4 แพทย์คลีนิคเลยแนะนำ โรงพยาบาลรัฐบาลมาให้เราไปย้ายสิทธิ์ประกันสังคม และให้แพทย์โรงพยาบาลศิริราชที่เคยวินิจฉัยโรคให้เราทำเรื่องส่งตัวไป รักษาที่โรงพยาบาลของรัฐบาลดังกล่าว
ขอแบ่งปันข้อมูลในอีกด้านมุมหนึ่ง
แต่คำตอบที่ได้คือ คนไข้ไปดำเนินเรื่องเองเลยครับ ไปยื่นเรื่องเองเลย
ซึ่งเราก็ต้องไปนับ 1 ใหม่กับ โรงพยาบาลนั่น ซึ่งหมายความว่า การไปพบแพทย์ศิริราชนั่นไม่ได้อะไรเลย แต่เสียเงินไปฟรี ฟรี
พอเราถามหมอว่าค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลเท่าไหร่ หมอก็เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม ท่าที่เปลี่ยนไป
เฮ้อ ความรู้สึกที่ว่า คนเป็นแพทย์มีความอุทิศตัว เสียสละเพื่อส่วนรวม เริ่มตะหงิดตะหงิด เหมือนแพทย์สนใจน้ำเงิน มากกว่าสุขภาพคนไข้
เราเลยสงสัยว่าการเขียนใบส่งตัวเพื่อให้คนไข้ได้รับการรักษาที่รวดเร็วปกติแพทย์เค้าไม่ทำให้กันหรอคะ??
เพราะถ้าคนไข้ไปเองไม่รู้ว่าจะได้รับการรักษาเมื่อไหร่!!!!
หลังจากพบแพทย์มาความรู้สึกนี้ก็วนอยู่ในหัวตลอดเวลา เสียใจ เสียศรัทธามาก เพราะเราเชื่อเสมอว่า โรงพยาบาลศิริราชคือ โรงพยาบาลของพ่อ แพทย์และพยาบาลที่นั่นก็คือลูกของพ่อ แต่สิ่งที่ได้รับหลังจากที่รู้ว่าเราไม่มีเงินจ่าย คือการเมินเฉย และไม่นัดอีก ...
คือต่อไปแกจะไปตายที่ไหนก็แล้วแต่แก อารมณ์ประมาณนั่น ....
แพทย์ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแพทย์เฉพาะทาง
แต่ในทางกลับกันแพทย์ที่ส่งมาให้แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัย มีความอยากจะให้เราผ่าตัด โดยเร็วที่สุด แต่นั่นละ แพทย์ท่านนั่นไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางที่จะทำการผ่าตัดเราได้ ...
ขออธิบายเพิ่มเติมค่ะ
สิทธิ์การรักษาแรกเลยเราอยู่ โรงพยาบาลลาดพร้าว แต่เรารักษาที่โรงพยาบาลลาดพร้าวมาหลายปี อาการไม่ดีขึ้นมีแต่ทุเลาและแย่ลง เราเลยลองไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และแพทย์โรงพยาบาลศิริราชให้ทำ MRI แต่เราไม่ได้ทำ MRI ที่ศิริราชเนื่องจาก ค่าทำ MRI เราเบิกไม่ได้เราต้องจ่ายเองและค่าทำ MRI ของโรงพยาบาลศิริราช อยู่ที่จุดละ 12,000 - 15,000 บาท
ในตอนแรกเราไม่อยากทำ แต่แพทย์ที่ดูแลอยู่ก็บอกว่าต้องทำ ยังไงก็ต้องทำ เราเลยไปหาข้อมูลและทำ MRI ที่อื่น ราคาจุดละ 4,800 บาท 2 จุด อยู่ที่ 9,600 บาท คือทำที่คลีนิค นี้ 2 จุด ยังถูกกว่า
พอผล MRI ออกมาแพทย์ประจำคลีนิคที่เราไปทำ MRI แจ้งว่าเราหมอนกระดูกแตกกดทับเส้นประสาทต้องผ่าตัด แต่ในการผ่าตัดมันเป็นการผ่าตัดใหญ่ เพราะจุดที่เราเป็นนั้นเป็นใกล้กับก้นกบ กระดูกสันหลังข้อที่ 4 แพทย์คลีนิคเลยแนะนำ โรงพยาบาลรัฐบาลมาให้เราไปย้ายสิทธิ์ประกันสังคม และให้แพทย์โรงพยาบาลศิริราชที่เคยวินิจฉัยโรคให้เราทำเรื่องส่งตัวไป รักษาที่โรงพยาบาลของรัฐบาลดังกล่าว