เท่าที่ทราบกันดีว่า ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างทำเรื่องให้โขนของไทยเรา ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
แต่ว่าตอนนี้ เขมรจอมโกง ก็ได้ไปขึ้นทะเบียนโขนเขมรเหมือนกัน โดยยื่นพร้อมๆกับไทย แต่ใช้ชื่อว่า Lkhon Khol ตรงนี้ถึงเขมรจะขึ้นก็เรื่องของเขมรเราไม่ว่าอะไรเพราะคนละชื่อ แต่เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดเงื่อนไขที่เขมรอ้างต่อยูเนสโก้
และคำร้องขอให้ยูเนสโก้ช่วยเขมรคือ อัปยศมาก รับไม่ได้
สามารถ download คำร้องของเขมรได้โดยเข้าเวปตามลิ้ง เลือกกัมพูชา จะเจอ ตรงที่เขียนว่า Nomination from สีน้ำเงิน กด download มาอ่านฉบับเต็ม
https://ich.unesco.org/en/files-2018-under-process-00913?select_country=00039&select_type=all#table_cand
เนื้อความบางส่วน ที่เป็นเงื่อนไขความจำเป็นที่เขมรต้องการจากยูเนสโก้ เป็นภาษาอังกฤษ ผมคัดมาบางส่วนที่สำคัญ
Master teachers: all male villagers. Today there are five surviving master teachers, who are mostly in their 70s and 80s. They all lived through the Khmer Rouge era, and are generally poor and in poor health due to illness and aging.
ครูอาจารย์: ชาวบ้านชายทั้งหมด วันนี้มีครูที่ยังหลงเหลืออยู่อีก 5 คนซึ่งส่วนใหญ่มีอายุ 70 ปีและ 80 ปี พวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่ในยุคเขมรแดงและมักเป็นคนยากจนและมีสุขภาพที่ไม่ดีอันเนื่องมาจากความเจ็บป่วยและความชรา
...........สรุปว่าคือ ครูส่วนใหญ่จะลงโลงแล้ว ไม่มีคนสอน......
Vulnerable situation of the Master Artists: The surviving masters are actively involved in training young people according to their respective knowledge of the roles of Demon, Monkey, and Reciter/stage director. However, the troupe needs immediate training for the roles of Neang and Neang Rong (female and male roles for instance the roles of Neang Sita, Preah Ream and Preah Lak), whose Khmer Rouge surviving master is severely sick and is not able to train others. Although there are artists who have been performing these roles they don’t have enough knowledge to train others.
สถานการณ์ที่ด้อยโอกาสของศิลปินต้นแบบ: โทที่ยังหลงเหลืออยู่มีส่วนร่วมในการฝึกอบรมเยาวชนตามความรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับบทบาทของปีศาจลิงและผู้บรรยาย / ผู้กำกับเวที อย่างไรก็ตามคณะละครจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมในทันทีสำหรับบทบาทของ Neang และ Neang Rong (บทบาทหญิงและชายเช่นบทบาทของ Neang Sita, Preah Ream และ Preah Lak) ซึ่งเป็นต้นเหตุของ Khmer Rouge ที่ยังหลงเหลืออยู่และป่วยหนักและไม่สามารถฝึกคนอื่นได้ . แม้ว่าจะมีศิลปินที่ปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้อยู่ แต่ก็ไม่มีความรู้เพียงพอในการฝึกฝนคนอื่น
...........
สำคัญมากตรงนี้ ไม่มีครูเขมรที่จะสอนบทของพระราม พระลักษณ์ นางสีดา โดยชี้ให้ยูเนสโก้สงสารเพราะครูตายไปในยุคเขมรแดง..
พวกเราชาวไทยก็รู้กันดีว่า บทของพระราม พระลักษ์ นางสีดา ตรงนี้ โขนเขมรไม่มี ในคำร้องนี้ เขมรมาใช้ข้ออ้างกลายๆว่า หากยูเนสโก้รับเป็นมรดกโลกแล้ว อาจจะบีบให้เราต้องสอนบทของตัวละครเอกในเรื่อง รามเกียรติ ให้กับเขมร ยูเนสโก้ไม่ใช่โรงเรียนสอนโขน ยูเนสโก้ไม่มีโขนจะมอบให้คับ ก็ต้องไปขอกับประเทศภาคีว่าใครมีการแสดงแบบนี้บ้าง ลาว พม่า มาเล อินโด มีให้มั๊ย มันก็เหลือแต่ไทยนี่แหละ แล้วไหนที่ตัวเองบอกว่าเป็นต้นฉบับ แต่ดันไม่มีบทพระราม พระลักษ์ นางสีดา ต้นฉบับประสาอะไร .......
และนี่คือบทสรุปของการร้องขอของเขมรที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะมีผลบังคับให้เราต้องไปถ่ายทอดให้เขมร
Ad hoc workshops or performances for special guests, e.g. cultural exchanges with other countries or visits from cultural delegations.
การประชุมเชิงปฏิบัติการหรือการแสดงพิเศษสำหรับแขกพิเศษเช่น การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับประเทศอื่น ๆ หรือการเยี่ยมชมจากคณะผู้แทนด้านวัฒนธรรม
ต่อไปอาจได้เห็นเขมร แห่มาเรียนโขนในไทย พอกลับไป ก็ไปลวงชาวโลกว่าโขนเป็นของเขมร ทั้งๆที่มาเรียนจากเราแท้ๆ
นี่ยังไม่รวมถึงว่าที่เขมรขอให้ยูเนสโก้ช่วยเหลือเรื่องชุด อุปกรณ์ประกอบการแสดง หน้ากากตัวละคร
สรุปโดยรวมคำขอของเขมรคือ
1. ตอนนี้ขาดแคลนครูโขน ขอให้ยูเนสโก้ช่วย
2. โขนเขมรตอนนี้บทเรื่องรามเกียรติ์ยังไม่สมบูรณ์ ขาดบทพระราม พระลักษ์ นางสีดา หัวใจของเรื่องรามเกียรติ์ ขอให้ยูเนสโก้ช่วย
3. ขอให้ยูเนสโก้จัดแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยการให้ยูเนสโก้ให้ครูเขมรมีโอกาศได้ไปเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน
4. ขอให้ยูเนสโก้ช่วยเรื่องหน้ากาก ชุดโขน ฉากประกอบ เครื่องดนตรี
คำขอเหล่านี้ จะเป็นใครที่ต้องให้ความช่วยเหลือ ก็คงไม่แคล้วไทยครับ
มาถึงตอนนี้ ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า การที่เราเอาโขนเข้าไปผูกกับ UNESCO แล้ว จะเกิดผลดี หรือผลร้ายอะไรตามมารึเปล่าว กลัวว่าสุดท้ายแล้ว เราจะได้แต่ชื่อว่าได้เป็นมรดกโลก แต่ต้องแลกมากับการที่ต้องเสียเรื่องราวและหัวใจของโขนไทย มรดกที่บรรพบุรุษคิดค้นขึ้นมา ไปให้กับเขมรจอมโกง มันจะคุ้มรึเปล่าว
ขอให้กระทรวงวัฒนธรรมตรวจสอบด่วน ไม่งั้นอนาคต สมบัติของชาติคงไม่เหลือคุณค่าแน่ๆ เราเสียเขาพระวิหารไปแล้ว อย่าให้ต้องเสียโขนให้เขมรอีกเลย
เขมรวางแผนแสบ !!! โขนไทยน่าจะได้เป็นมรดกโลก แต่เรา(อาจ)ต้องไปสอนโขนให้เขมรจอมโกงด้วย เพราะเป็นภาคี UNESCO
แต่ว่าตอนนี้ เขมรจอมโกง ก็ได้ไปขึ้นทะเบียนโขนเขมรเหมือนกัน โดยยื่นพร้อมๆกับไทย แต่ใช้ชื่อว่า Lkhon Khol ตรงนี้ถึงเขมรจะขึ้นก็เรื่องของเขมรเราไม่ว่าอะไรเพราะคนละชื่อ แต่เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดเงื่อนไขที่เขมรอ้างต่อยูเนสโก้ และคำร้องขอให้ยูเนสโก้ช่วยเขมรคือ อัปยศมาก รับไม่ได้
สามารถ download คำร้องของเขมรได้โดยเข้าเวปตามลิ้ง เลือกกัมพูชา จะเจอ ตรงที่เขียนว่า Nomination from สีน้ำเงิน กด download มาอ่านฉบับเต็ม
https://ich.unesco.org/en/files-2018-under-process-00913?select_country=00039&select_type=all#table_cand
เนื้อความบางส่วน ที่เป็นเงื่อนไขความจำเป็นที่เขมรต้องการจากยูเนสโก้ เป็นภาษาอังกฤษ ผมคัดมาบางส่วนที่สำคัญ
Master teachers: all male villagers. Today there are five surviving master teachers, who are mostly in their 70s and 80s. They all lived through the Khmer Rouge era, and are generally poor and in poor health due to illness and aging.
ครูอาจารย์: ชาวบ้านชายทั้งหมด วันนี้มีครูที่ยังหลงเหลืออยู่อีก 5 คนซึ่งส่วนใหญ่มีอายุ 70 ปีและ 80 ปี พวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่ในยุคเขมรแดงและมักเป็นคนยากจนและมีสุขภาพที่ไม่ดีอันเนื่องมาจากความเจ็บป่วยและความชรา
...........สรุปว่าคือ ครูส่วนใหญ่จะลงโลงแล้ว ไม่มีคนสอน......
Vulnerable situation of the Master Artists: The surviving masters are actively involved in training young people according to their respective knowledge of the roles of Demon, Monkey, and Reciter/stage director. However, the troupe needs immediate training for the roles of Neang and Neang Rong (female and male roles for instance the roles of Neang Sita, Preah Ream and Preah Lak), whose Khmer Rouge surviving master is severely sick and is not able to train others. Although there are artists who have been performing these roles they don’t have enough knowledge to train others.
สถานการณ์ที่ด้อยโอกาสของศิลปินต้นแบบ: โทที่ยังหลงเหลืออยู่มีส่วนร่วมในการฝึกอบรมเยาวชนตามความรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับบทบาทของปีศาจลิงและผู้บรรยาย / ผู้กำกับเวที อย่างไรก็ตามคณะละครจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมในทันทีสำหรับบทบาทของ Neang และ Neang Rong (บทบาทหญิงและชายเช่นบทบาทของ Neang Sita, Preah Ream และ Preah Lak) ซึ่งเป็นต้นเหตุของ Khmer Rouge ที่ยังหลงเหลืออยู่และป่วยหนักและไม่สามารถฝึกคนอื่นได้ . แม้ว่าจะมีศิลปินที่ปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้อยู่ แต่ก็ไม่มีความรู้เพียงพอในการฝึกฝนคนอื่น
...........สำคัญมากตรงนี้ ไม่มีครูเขมรที่จะสอนบทของพระราม พระลักษณ์ นางสีดา โดยชี้ให้ยูเนสโก้สงสารเพราะครูตายไปในยุคเขมรแดง..
พวกเราชาวไทยก็รู้กันดีว่า บทของพระราม พระลักษ์ นางสีดา ตรงนี้ โขนเขมรไม่มี ในคำร้องนี้ เขมรมาใช้ข้ออ้างกลายๆว่า หากยูเนสโก้รับเป็นมรดกโลกแล้ว อาจจะบีบให้เราต้องสอนบทของตัวละครเอกในเรื่อง รามเกียรติ ให้กับเขมร ยูเนสโก้ไม่ใช่โรงเรียนสอนโขน ยูเนสโก้ไม่มีโขนจะมอบให้คับ ก็ต้องไปขอกับประเทศภาคีว่าใครมีการแสดงแบบนี้บ้าง ลาว พม่า มาเล อินโด มีให้มั๊ย มันก็เหลือแต่ไทยนี่แหละ แล้วไหนที่ตัวเองบอกว่าเป็นต้นฉบับ แต่ดันไม่มีบทพระราม พระลักษ์ นางสีดา ต้นฉบับประสาอะไร .......
และนี่คือบทสรุปของการร้องขอของเขมรที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะมีผลบังคับให้เราต้องไปถ่ายทอดให้เขมร
Ad hoc workshops or performances for special guests, e.g. cultural exchanges with other countries or visits from cultural delegations.
การประชุมเชิงปฏิบัติการหรือการแสดงพิเศษสำหรับแขกพิเศษเช่น การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับประเทศอื่น ๆ หรือการเยี่ยมชมจากคณะผู้แทนด้านวัฒนธรรม
ต่อไปอาจได้เห็นเขมร แห่มาเรียนโขนในไทย พอกลับไป ก็ไปลวงชาวโลกว่าโขนเป็นของเขมร ทั้งๆที่มาเรียนจากเราแท้ๆ
นี่ยังไม่รวมถึงว่าที่เขมรขอให้ยูเนสโก้ช่วยเหลือเรื่องชุด อุปกรณ์ประกอบการแสดง หน้ากากตัวละคร
สรุปโดยรวมคำขอของเขมรคือ
1. ตอนนี้ขาดแคลนครูโขน ขอให้ยูเนสโก้ช่วย
2. โขนเขมรตอนนี้บทเรื่องรามเกียรติ์ยังไม่สมบูรณ์ ขาดบทพระราม พระลักษ์ นางสีดา หัวใจของเรื่องรามเกียรติ์ ขอให้ยูเนสโก้ช่วย
3. ขอให้ยูเนสโก้จัดแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยการให้ยูเนสโก้ให้ครูเขมรมีโอกาศได้ไปเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน
4. ขอให้ยูเนสโก้ช่วยเรื่องหน้ากาก ชุดโขน ฉากประกอบ เครื่องดนตรี
คำขอเหล่านี้ จะเป็นใครที่ต้องให้ความช่วยเหลือ ก็คงไม่แคล้วไทยครับ
มาถึงตอนนี้ ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า การที่เราเอาโขนเข้าไปผูกกับ UNESCO แล้ว จะเกิดผลดี หรือผลร้ายอะไรตามมารึเปล่าว กลัวว่าสุดท้ายแล้ว เราจะได้แต่ชื่อว่าได้เป็นมรดกโลก แต่ต้องแลกมากับการที่ต้องเสียเรื่องราวและหัวใจของโขนไทย มรดกที่บรรพบุรุษคิดค้นขึ้นมา ไปให้กับเขมรจอมโกง มันจะคุ้มรึเปล่าว
ขอให้กระทรวงวัฒนธรรมตรวจสอบด่วน ไม่งั้นอนาคต สมบัติของชาติคงไม่เหลือคุณค่าแน่ๆ เราเสียเขาพระวิหารไปแล้ว อย่าให้ต้องเสียโขนให้เขมรอีกเลย